สำหรับผู้ใช้ Windows 95 คงจะรู้จักเกมรถบั๊มเก็บธงในตำนานอย่าง Hover เป็นอย่างดี ซึ่งตอนนี้อายุของมันก็เข้าใกล้ 20 ปีเต็มแก่แล้ว ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้นำเกมนี้มาคืนชีพในรูปแบบ HTML5 ที่ผสานกับ WebGL และ JavaScript API ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมได้โดยไม่ต้องใส่ plug-in ใด ๆ เลย

แน่นอนว่าถ้าหากไมโครซอฟท์ทำเกมในลักษณะนี้ ย่อมทำมาเพื่อโปรโมต Internet Explorer เป็นธรรมดา และเกมนี้ก็เช่นกัน เกม Hover ในเวอร์ชั่น HTML5 นี้ทำมาเพื่อโปรโมต Internet Explorer 11 ครับ

สำหรับคนที่อยากย้อนความหลังของเกมนี้ สามารถเล่นได้ที่ hover.ie ได้เลยครับ

หลังจาก Windows XP เป็นต้นมา เราแทบไม่เห็นอาการ "จอฟ้า" หรือ Blue Screen of the Dead อันเลื่องชื่อของวินโดวส์สักเท่าไรนัก (ส่วนใหญ่ที่เจอเกิดจากฮาร์ดแวร์มีปัญหาเสียมาก) เว็บไซต์ ZDNet มีบทความเล่าว่าไมโครซอฟท์แก้ปัญหานี้ได้อย่างไรครับ

Byron Cook หัวหน้านักวิจัยของ Microsoft Research ในเคมบริดจ์ อธิบายวิธีแก้ปัญหาของไมโครซอฟท์ว่าเริ่มจากการวิเคราะห์สถิติการแครชของระบบ ซึ่งไมโครซอฟท์พบว่า 85% มาจากปัญหาไดรเวอร์ที่ไม่ได้เขียนโดยไมโครซอฟท์ แต่พัฒนาโดยผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จำนวนมาก (และไม่เปิดเผยโค้ด) โจทย์วิจัยของไมโครซอฟท์จึงกลายเป็นการสร้างระบบปฏิบัติการที่ทนทานต่อปัญหาไดรเวอร์

ไมโครซอฟท์วิเคราะห๋ต่อแล้วพบว่าปัญหาไดรเวอร์แยกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ

น่าจะถือว่าเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่ของไมโครซอฟท์แน่ๆ หลังจากมีนักลงทุนสามคนพยายามล็อบบี้บอร์ดบริษัทเพื่อกดดันให้บิล เกตส์ลงจากตำแหน่งประธานบอร์ด (Chairman) โดยทั้งสามคนเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ยี่สิบคนของไมโครซอฟท์

ผู้ถือหุ้นกลุ่มดังกล่าวให้เหตุผลหลักว่า ถึงบิล เกตส์จะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอและวางมือจากการทำงานที่ไมโครซอฟท์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ด้วยการที่เป็นทั้งผู้ก่อตั้ง ผู้ถือหุ้นใหญ่ของไมโครซอฟท์ และยังเป็นหนึ่งในระดับผู้นำในวงการไอที ทำให้คำวิจารณ์และความเห็นของบิล เกตส์ยังมีผลต่อการตัดสินใจและการทำงานของไมโครซอฟท์อยู่มากจนอาจทำให้การเปลี่ยนแผนธุรกิจใหม่ๆ ของไมโครซอฟท์มีปัญหา และจะทำให้ผู้บริหารคนใหม่เปลี่ยนแปลงไมโครซอฟท์ให้ต่างจากที่เป็นอยู่ได้ยาก

จากข่าวลือ Alan Mulally ซีอีโอของ Ford เป็นตัวเต็งซีอีโอไมโครซอฟท์ ล่าสุด Mulally ออกมาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ USA Today สั้นๆ ว่าเขายังมีความสุขดีกับ Ford และไม่มีแผนการอื่นใดนอกจากการเป็นซีอีโอของ Ford ต่อไปจนถึงปี 2014

เขาพูดถึงไมโครซอฟท์ว่าเป็นคู่ค้าที่ดีเยี่ยมในการพัฒนาระบบ Ford Sync ร่วมกัน เขาบอกว่า Ford เป็นบริษัทที่สนใจเทคโนโลยีด้านไอที เพราะมันเป็นประโยชน์แก่ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ของ Ford และผลก็ออกมาแล้วว่าลูกค้าชอบฟีเจอร์เหล่านี้

ที่มา - USA Today

Panos Panay หัวหน้าทีม Surface ของไมโครซอฟท์ไปสาธิตการทำงานของ Surface 2 ที่ร้าน Microsoft Store ในซีแอทเทิล

เขาตอบคำถามผู้สื่อข่าวเรื่อง Surface Mini อย่างระมัดระวัง โดยบอกว่าไมโครซอฟท์มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกหลายๆ อย่าง แต่สิ่งที่เขาบอกได้มากที่สุดในขณะนี้คือจะมี Surface รุ่นที่ขนาดและสัดส่วนของหน้าจอที่ต่างออกไปอีกหลายแบบ "there are multiple aspect ratios and sizes and awesome things to come from Surface"

Panay ยังยืนยันข้อมูลเดิมที่ไมโครซอฟท์เคยบอกไปแล้วว่าจะมี Surface 2 รุ่น LTE ด้วย ซึ่งจะวางขายช่วงต้นปีหน้า ส่วนแบตเตอรี่ของ Surface Pro 2 เขาบอกว่าอยู่ได้ 7-10 ชั่วโมง ขึ้นกับพฤติกรรมการใช้งาน

ข่าวสั้นของ Kinect ครับ ผู้บริหารไมโครซอฟท์ Phil Harrison ไปพูดที่งาน Eurogamer Expo และให้ข้อมูลว่าเซ็นเซอร์ Kinect รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Xbox One จะเพิ่มความสามารถด้านการแยกแยะเสียงพูดจากรุ่นเดิม โดยของใหม่นี้สามารถแยกแยะเสียงจากผู้เล่น 2 คนที่พูดพร้อมๆ กันได้

นอกจากนี้ Kinect ยังแยกแยะการขยับของ "ปาก" ของผู้เล่นได้, ตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้เล่นได้ 6 คนพร้อมกัน (นับเป็นความเคลื่อนไหวของข้อต่อได้สูงสุด 25 จุด), ประเมินอัตราการเต้นของหัวใจ และตรวจสอบรูปร่างของใบหน้าได้สูงสุด 1,400 จุด

ที่มา - Polygon

เมื่อครั้งเปิดตัว Surface 2 และ Surface Pro 2 ไมโครซอฟต์ได้ประกาศรายชื่อประเทศที่จะวางขาย Surface 2 และ Surface Pro 2 ล็อตแรก 22 ประเทศ (ตอนนั้นไม่มีไทย) ตอนนี้ไมโครซอฟต์ได้ประกาศรายชื่อประเทศที่จะวางขายล็อตแรกเพิ่มอีก 7 ประเทศคราวนี้มีไทยด้วย

7 ประเทศที่ว่าได้แก่ ฮ่องกง, เกาหลี, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, สิงคโปร์, ไต้หวัน และประเทศไทย โดยจะเริ่มจำหน่ายวันที่ 1 ตุลาคม พรุ่งนี้เลย!

ไมโครซอฟท์ประกาศบนบล็อกของ Surface ว่าไมโครซอฟท์จะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย Surface ในอีก 7 ประเทศ (จากเดิมมีเพียงแค่ 22 ประเทศ) ในวันพรุ่งนี้ ได้แก่ ฮ่องกง, เกาหลี, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, สิงคโปร์, ไต้หวัน และประเทศไทย

แน่นอนว่า การที่ไมโครซอฟท์ได้ขยายช่องทางนี้ จะทำให้ลูกค้าองค์กรมั่นใจถึงการซ่อมบำรุงและบริการหลังการขายที่ดีกว่าในประเทศทั้ง 29 ประเทศได้ดีขึ้น เช่น บริการ on-site service, การติดตามเครื่อง และจะทำให้ลูกค้าองค์กรมั่นใจในคุณภาพหลังจากที่สั่งซื้อ Surface มาแล้วนั่นเอง

ยังไม่แน่ใจว่า การขยายประเทศทั้งหมดนี้ จะรวมไปถึงการวางจำหน่าย Surface 2 ด้วยหรือไม่

ไมโครซอฟท์ปล่อยคลิปโฆษณาตัวแรกของ Surface 2 (และ Surface Pro 2) แล้ว โดยโฆษณาชิ้นนี้เน้น

• ความสามารถในการเป็นทั้งแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์
• การใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ด
• พอร์ต USB ขนาดปกติ เสียบ thumb drive ได้ทันที
• Microsoft Office ตัวเต็ม และสามารถรันแอพจากวินโดวส์ได้

ที่มา - TechnoBuffalo

ในงานประชุมภายในประจำปีของไมโครซอฟท์ บริษัทได้ประกาศว่ามีพีซีร้อยละ 27 ที่ยังคงรัน Windows XP อยู่ ซึ่งก็ประมาณได้เป็นจำนวน 405 ล้านเครื่อง

นอกจากนั้น บริษัทประกาศว่า Windows 7 จะไม่ซ้ำรอยแบบเดียวกับ Windows XP ที่บริษัทต้องยืดอายุการสนับสนุนออกไปจนถึง 8 มิถุนายน ปีหน้าอีก เนื่องจาก Windows 8.1 ได้รับการพัฒนาตามเสียงของลูกค้า โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในด้านการใช้งานในองค์การ ดังนั้นบริษัทจะผลักดันให้องค์การอัพเกรดเป็นระบบปฏิบัติการล่าสุด

ช่วงหลังๆ เราเห็นบริการออนไลน์ชื่อดังมากมายรองรับการยืนยันตัวตนสองชั้น (two-step verification หรือบ้างก็เรียก multi-factor authentication) ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัย-แฮ็กบัญชีไปได้มาก

คำถามก็คือผู้สร้างบริการรายเล็กๆ ที่อยากมีระบบ multi-factor authentication บ้างจะต้องทำอย่างไร? ไมโครซอฟท์มีคำตอบให้กับเรื่องนี้ด้วยบริการ Windows Azure Multi-Factor Authentication

Windows Azure Multi-Factor Authentication ทำงานตรงไปตรงมาคือช่วยยืนยันตัวตนของผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์พกพา โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นการกดผ่านแอพ, SMS, หรือการรับสายโทรศัพท์ มันสามารถใช้งานได้กับแอพทุกชนิด ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแอพที่รันบน Azure เพียงอย่างเดียว

ในงานประชุมภายในประจำปีของไมโครซอฟท์ (ที่ Steve Baller ร้องไห้, บอก Windows/Windows Phone รุ่นต่อไปจะใช้กระบวนการพัฒนาแอพแบบเดียวกัน และบอก Lumia 520 คือฮาร์ดแวร์วินโดวส์ที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์) Kirk Koenigsbauer รองประธานบริษัทที่ดูแล Office Product Group ได้เดโมแอพและบริการใหม่ ซึ่งอยู่ในแผนการออกชุด Office ตัวถัดไปที่มีรหัสว่า Gemini ดังนี้

ในงานประชุมภายในประจำปีของไมโครซอฟท์ (ที่สตีฟ บัลเมอร์ร้องไห้) บริษัทก็ประกาศข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่างต่อพนักงาน ซึ่งแน่นอนว่าหลุดมายังสื่อต่างประเทศต่อ

ข่าวที่น่าสนใจคือไมโครซอฟท์ประกาศว่า Lumia 520 มือถือ Windows Phone 8 รุ่นล่างราคาถูก กลายเป็น "ฮาร์ดแวร์ที่รันวินโดวส์" ที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ (Lumia 520 is the best-selling Windows device in the world) แซงหน้าพีซี โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ "วินโดวส์" (นับวินโดวส์ทุกชนิด) ในอดีตแล้ว

ไมโครซอฟท์ไม่ได้ให้ตัวเลขว่าตกลงแล้ว Lumia 520 ขายได้เท่าไรครับ

ไมโครซอฟท์เริ่มฉายวิดีโอโฆษณา Windows 8.1 โดยสื่อประเด็นสำคัญคือปุ่ม Start ที่กลับมาอยู่ตรงมุมซ้ายล่างของทาสก์บาร์, Start Screen ที่ใส่ Live Tile ขนาดเล็กได้แล้ว, ฟีเจอร์การ snap หน้าจอโดยมีได้มากกว่า 2 แอพพร้อมกัน

ถ้ายังไม่ลืมวันที่กัน Windows 8.1 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ตุลาคมนี้

ที่มา - Microsoft News

สมัยของ Windows 8 แอพที่เราซื้อ-โหลดผ่าน Windows Store ในบัญชีเดียวกัน สามารถนำไปติดตั้งในอุปกรณ์ต่างๆ ได้สูงสุด 5 เครื่อง

ไมโครซอฟท์ระบุว่าได้รับความเห็นจากผู้ใช้และนักพัฒนาที่พูดตรงกันว่า 5 เครื่องน้อยเกินไป พอมาถึงยุคของ Windows 8.1 ไมโครซอฟท์จึงจัดให้ 81 เครื่อง! (ใช้ได้กับแอพจาก Windows Store ทั้งบน Windows 8 และ 8.1) โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป

ไมโครซอฟท์อธิบายว่าการติดตั้งแอพบนเครื่องจำนวนเยอะๆ ส่งผลดีต่อนักพัฒนาที่หารายได้จากโฆษณา และถ้านักพัฒนาอยากจำกัดจำนวนแอพที่ผู้ใช้บัญชีเดียวกันสามารถรันได้พร้อมๆ กัน (ติดตั้งได้หลายเครื่องก็จริง แต่รันพร้อมกันไม่ได้) ไมโครซอฟท์ก็มี API ส่วนนี้เตรียมไว้ให้

ไมโครซอฟท์มีธรรมเนียมการจัดประชุมใหญ่ประจำปีของบริษัท ที่เชิญพนักงานเข้าร่วมรับฟังผู้บริหารระดับสูงบอกเล่ายุทธศาสตร์ของบริษัทในอีก 1 ปีข้างหน้า

แต่การประชุมของปีนี้พิเศษหน่อยเพราะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายที่สตีฟ บัลเมอร์ จะขึ้นเวทีในฐานะซีอีโอ (หลังอยู่กับบริษัทมานาน 33 ปี)

ไม่รู้ว่าทำไมสายการบิน Delta ของสหรัฐจึงรักสินค้าฝั่งไมโครซอฟท์มากเป็นพิเศษ (ข่าวก่อนหน้านี้: สายการบิน Delta สั่ง Lumia 820 ล็อตใหญ่ให้แอร์โฮสเตสใช้บริการบนเครื่อง) แต่ล่าสุดมีข่าวว่า Delta เตรียมซื้อแท็บเล็ต Surface 2 ให้นักบินใช้งาน

Delta ระบุว่าการซื้อ Surface 2 เป็นส่วนหนึ่งของแผนการให้ห้องนักบินเลิกใช้เอกสารกระดาษ โดยกระบวนการเปลี่ยนมาใช้แท็บเล็ตจะค่อยๆ เริ่มจากเครื่องบินทีละรุ่น และใช้เวลาทั้งหมด 2 ปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้ Delta เคยอนุญาตให้นักบินนำ iPad ส่วนตัวมาใช้งานได้ แต่ก็ตัดสินใจเปลี่ยนเป็นแท็บเล็ตมาตรฐานของบริษัทอย่าง Surface 2 แทน

ไมโครซอฟท์ออกเครื่องมือตัวใหม่ที่ช่วยให้นักพัฒนาเว็บทดสอบเฟรมเวิร์ค JavaScript ที่เขียนเองได้ง่ายขึ้น

BrowserSwarm เป็นเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่รันไฟล์ JavaScript ของเรากับ unit test จำนวนมากชุด (ตัวเลขตามภาพคือ 639 ชุด) บนเว็บเบราว์เซอร์หลายค่ายหลายรุ่นให้อัตโนมัติ เพื่อให้นักพัฒนาเว็บสามารถดูผลว่า JavaScript ของตัวเองทำงานได้ดีแค่ไหนบนสภาพแวดล้อมต่างๆ

ฝั่งโซนี่มีอาวุธเด็ดอย่าง Gaikai ที่รอเปิดตัวในปี 2014 ล่าสุดมีข่าววงในออกมาว่าฝั่งไมโครซอฟท์ก็ซุ่มทำบริการเกมสตรีมมิ่งด้วยเหมือนกัน

แหล่งข่าวของ The Verge ระบุว่าไมโครซอฟท์สามารถโชว์เดโมการเล่น Halo 4 บนพีซีและ Windows Phone เป็นการภายในแล้ว บริการรุ่นทดสอบทำงานได้ดีเยี่ยม และอุปกรณ์ที่ใช้สาธิตเป็นมือถือรุ่นล่างอย่าง Lumia 520 ซึ่งมี latency เพียง 45ms เท่านั้น

ที่มา - The Verge

เว็บไซต์ AllThingsD อ้างแหล่งข่าววงในว่าตอนนี้ "ตัวเต็ง" ว่าที่ซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟท์คือ Alan Mulally ซีอีโอคนปัจจุบันของบริษัทรถยนต์ Ford โดยน้ำหนักเริ่มเทมาทาง Mulally มากกว่า Stephen Elop แล้ว

Mulally แสดงความเห็นทางอีเมลมายัง AllThingsD ว่าในตอนนี้เขาโฟกัสเฉพาะการทำงานที่ Ford เท่านั้น และแหล่งข่าวของ AllThingsD ก็ระบุว่าไมโครซอฟท์ยังไม่ได้เริ่มการทาบทาม Mulally อย่างเป็นทางการ

หลังจากที่มีการเผยแพร่ผลการทดสอบความเร็วในการตอบสนองที่ iPhone ออกมาชนะสมาร์ทโฟนตัวอื่นไปอย่างขาดลอย ทำให้ตัวผมเองอยากจะรู้ขึ้นมาบ้างว่าอุปกรณ์ที่ตัวเองใช้อยู่มีค่านี้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงกำลังขัดใจที่ "รู้สึก" ว่าของใหม่อย่าง Nokia Lumia 920 ตอบสนองได้ช้ากว่า HTC 7 Mozart แล้วไม่อยากจบที่ความรู้สึก อยากจะเห็นผลอย่างเป็นทางการด้วย

การทดสอบนี้ทำแค่คร่าวๆ ด้วยการใช้กล้องวิดีโอความเร็วสูง ถ่ายที่ความเร็ว ๒๔๐ เฟรมต่อวินาที แล้วใช้การนับเฟรมมาหารด้วย ๒๔๐ ให้ออกมาเป็นหน่วยวินาทีแทน

ภาพในวิดีโอ ถูกแปลงจาก ๒๔๐ เฟรมต่อวินาทีลงมาเป็น ๒๔ เฟรมต่อวินาที ทำให้มีความเร็ว ๑ ใน ๑๐ ของภาพจริง

เว็บไซต์ The Verge เปิดเผยว่า Terry Myerson รองผู้บริหารด้านระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ ยืนยันในงานประชุมภายในประจำปีของบริษัทว่าระบบปฏิบัติการตัวถัดไปของ Windows และ Windows Phone จะรวม Windows Store และ Windows Phone Store เข้าด้วยกัน แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายว่าแอพสโตร์ใหม่จะทำงานอย่างไร และแอพบน Windows Phone จะสามารถรันบน Windows ได้หรือไม่

ก่อนหน้านี้ ที่งานประชุมกับนักวิเคราะห์ทางการเงินที่ไมโครซอฟท์จัดขึ้น Myerson กล่าวเป็นนัยว่าอนาคต Windows RT คือ phablet และจะพยายามรวมศูนย์ API เป็นหนึ่งเดียวกันในทุกแพลตฟอร์ม และมีสโตร์ที่เดียวให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอพในทุกประเภทอุปกรณ์

ในระหว่างงานเปิดตัว Surface รุ่นที่สอง ไมโครซอฟท์ยืนยันแค่ว่า Surface RT รุ่น 32 กิกะไบต์ จะยังมีวางขายต่อไป ล่าสุดเว็บไซต์ Neowin ได้รับการยืนยันจากไมโครซอฟท์แล้วว่า Surface Pro จะยังมีวางขายตามร้านค้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการอยู่ แต่หลังจาก 22 ตุลาคมเป็นต้นไป ร้านค้าในเกือบทุกตลาด (retail partners in most markets) ที่มีการวางขาย Surface Pro จะไม่มีของให้ขายแล้ว

หากจะเปิดตัว Surface Pro 2 ในไทยช้า ก็เอา Surface Pro ที่ไม่ขายแล้วมาขายก็ได้นะ

เว็บไซต์ ZDNet รายงานข่าววงในของ Surface Mini ที่มีข่าวลือออกมาเรื่อยๆ ว่ามันมีอยู่จริง แต่เราจะไม่ได้เห็นมันเปิดตัวในปีนี้แน่นอน และไมโครซอฟท์มีแผนจะเปิดตัวช่วงต้นปี 2014

อย่างไรก็ตาม อีกข้อมูลหนึ่งที่ ZDNet ได้รับมาคือ Surface Mini จะใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 รุ่นอัพเดตย่อย "Spring 2014 GDR" (คนที่ติดตามข่าว Windows Phone น่าจะรู้จักว่า GDR ย่อมาจาก General Distribution Release) ซึ่งก็น่าจะแปลว่าออกวางขายจริงช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีหน้า (ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายนเป็นต้นไป)

หลังจากที่มีข่าวลือว่าไมโครซอฟท์จะยกเลิกระบบ Microsoft Points และหันมาใช้ระบบจ่ายด้วยเงินสด และผ่านบัตร Gift Card แทน ล่าสุดเว็บไซ