หลายคนคงคุ้นเคยกับเกมคอมพิวเตอร์อย่างเช่นเกมที่มีชื่อว่า เตตริส (Tetris)กันมาบ้างแล้ว จากผลการวิจัยของจิตแพทย์ มหาวิทยาลัย ออกฟอร์ด (Oxford University) แนะนำว่าการเล่นเกม Tetris ช่วยลดปัญหาทางสุขภาพจิตที่เรียกว่า โรควิตกกังวล ชนิดหนึ่ง คือ post-traumatic stress disorder (PTSD) ได้ ซึ่งเป็นภาวะหวาดกลัว หวาดผวา หลังจากที่ได้ประสบกับเหตุการณ์รุนแรงในชีวิต เช่น รถชน จมน้ำ หรือภัยพิบัติต่างๆ
การวิจัยครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Royal Society ของอังกฤษซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่ไม่แสวงหากำไรผ่านทางทุน Dorothy Hodgkin Fellowship
เกมเตตริส เป็นเกมแก้ปัญหาจัดเรียงตัวบล็อกที่หล่นลงมา จัดเรียงให้เป็นแถว เป็นเกมที่ได้รับความนิยมมากเกมหนึ่ง
การฝังไมโครชิพเพื่อติดตามสัตว์ไม่ใช่เรื่องใหม่ อย่างกทม.เองก็เคยมีแผนจะฝังไมโครชิพในสุนัข แต่ตอนนี้อินโดนีเซียมาแปลกจะฝังชิพในคน และที่สำคัญเป็นคนไข้โรคเอดส์ด้วยครับ
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า จังหวัดปาปัวของอินโดนีเซีย กำลังจะพิจารณากฎหมายการฝังชิพในคนไข้โรคเอดส์ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงที่จะไปติดคนอื่นสูง เพื่อที่จะดูกิจกรรมของผู้ป่วย
"มันเป็นเทคโนโลยีง่ายๆ ที่ทางการจะใช้สอดส่องผู้ป่วยโรคเอดส์" John Managsang ผู้เสนอกฎหมายกล่าว นอกจากนี้ เขายังให้สัมภาษณ์ว่าหากผู้ป่วยไปมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ได้เป็นโรค จะยังต้องถูกทำโทษอีกด้วย
เคยรู้สึกบ้างไหมครับว่าบางวันทำไมนอนตั้งนานแต่พอถึงเวลานาฬิกาปลุกตื่นขึ้นมากลับรู้สึกยังง่วงอยู่ตลอด ปัญหานี้ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการถูกปลุกผิดเวลา และอาจแก้ไขได้โดยโปรแกรม HappyWakeUp
โปรแกรมดังกล่าวพัฒนาโดยนักวิจัยจาก Tampere University of Technology และ University of Helsinki ประเทศฟินแลนด์ โดยอาศัยหลักการที่ว่า ปกติการหลับของคนเราจะเป็นรอบๆ โดยส่วนหนึ่งของรอบจะเป็นการหลับลึก ซึ่งหากตื่นเวลานี้จะทำให้รู้สึกเพลียมาก หากเราสามารถปลุกตอนที่ไม่ได้หลับลึก ก็จะทำให้เพลียน้อยกว่า
Sergey Brin หนึ่งในผู้ก่อตั้งกูเกิล ได้เปิดเผยลงในบล็อกส่วนตัวของเขาว่า เขามีสิทธิ์ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน โดยมีความเสี่ยงระหว่าง 20-80%
ภรรยาของ Sergey นั้นก่อตั้งบริษัทด้านวิจัย DNA ชื่อ 23andMe และนำเอา DNA ของ Sergey ไปทดสอบ พบว่ายีนของเขามีการกลายพันธุ์ชนิดหนึ่งที่หาได้ยาก แต่มีโอกาสทำให้เกิดโรคพาร์กินสัน Sergey ยังเล่าว่าในเครือญาติของเขาก็มีคนที่ป่วยเป็นโรคนี้มาก่อนแล้ว
กล้องจุลทรรศน์เป็นสิ่งสำคัญในวงการชีววิทยารวมไปถึงวงการแพทย์ กล้องจุลทรรศน์ในปัจจุบันยังคงมีขนาดที่ใหญ่ซึ่งทำให้เกิดความลำบากในการพกพา และยังมีราคาที่สูงด้วย
นักวิจัยจาก California Institute of Technology ได้คิดค้นกล้องจุลทรรศน์ขนาดจิ๋ว ที่มีขนาดเล็กพอๆกับเหรียญดอลลาร์เท่านั้น โดยกล้องนี้การจัดเรียงตัวของของเหลวแทนเลนส์ และสามารถจับภาพได้โดยอาศัยเพียงแสงที่ส่องจากดวงอาทิตย์เป็นแหล่งกำเนิดแสงด้วย
เป็นที่ทราบกันก่อนหน้านี้แล้ว ว่าการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดบางชนิด เช่น rhinovirus, influenza virus และ respiratory syncytial virus ทำให้อาการถุงลมโป่งพอง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD) กำเริบมากขึ้น โดยมีความรุนแรง และระยะเวลาที่ยาวนานกว่าสาเหตุที่ทำให้กำเริบชนิดอื่น ๆ และก็ยังทำให้อาการของไข้หวัดในคนสูบบุหรี่ที่ยังแข็งแรงดี มีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป แต่ก็ยังไม่มีคำอธิบายของสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จนกระทั่งทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Yale ได้ค้นพบสาเหตุของปรากฏการณ์ดังกล่าว
สารานุกรมเสรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวันนี้คงไม่มีใครเกินวิกิพีเดียไปได้ ตอนนี้แนวคิดของวิกิพีเดียนั้นกำลังขยายตัวไปยังสาขาต่างๆ อย่างกว้างขวาง ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะหลายบทความที่ดีๆ ในวิกิพีเดียเองนั้นกลับไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชนข้างในเท่าใหร่ด้วยเหตุผลที่ว่าวิกิพีเดียเป็นสารานุกรม อีกทั้งกระบวนการทำงานในวิกิพีเดียเองก็ยังเป็นคำถามให้กับหลายๆ คนว่าการใช้ผู้เขียนนิรนามจำนวนมากเช่นนี้จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบทความเฉพาะทางได้หรือไม่
ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาควบคุมความดันโลหิตของตนไม่ได้ ได้มีการศึกษาที่จะประยุกต์เอา Web Service มาช่วยควบคุมความดันโลหิต
การทดลองนี้ทำโดยแบ่งกลุ่มผู้ป่วยเป็นสามกลุ่ม คือกลุ่มที่รักษาตามปกติ, กลุ่มที่วัดความดันโลหิตแล้วส่งผลให้แพทย์ผ่านทางเว็บ, กลุ่มที่ส่งผลร่วมกับการให้คำปรึกษาจากเภสัชกรทางเว็บ จากการเปรียบเทียบผลที่ผ่านไปเป็นเวลา 1 ปี พบว่า อัตราส่วนผู้ป่วยที่ควบคุมความดันโลหิตได้ในกลุ่มที่ส่งผลและได้รับคำปรึกษาทางเว็บมากกว่า กลุ่มที่รักษาตามปกติอย่างชัดเจน (56% กับ 31% p<0.01)
จากการสำรวจโดย Baker Heart Institute ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในออสเตรเลียเมื่อปี 2005 พบว่า 70% ของผู้ชาย และ 60% ของผู้หญิงที่มีอายุในช่วง 45-65 ปี มีดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 25 (>25 = น้ำหนักเกิน, >30 = โรคอ้วน) ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าในอนาคตจะมีจำนวนผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากความอ้วน ทั้งโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเข่าเสื่อม นี้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
จากรายงานนี้ทำให้มีการรณรงค์ให้มีการลดน้ำหนักในระดับชาติ และให้งบประมาณสนับสนุนสำหรับสถานที่ออกกำลังกายอีกด้วย
ไม่รู้ว่าต่อไป จะมีประเทศในทวีปเอเชียเข้าแข่งกับเขาด้วยหรือเปล่า
ที่มา Physorg
วารสารทางการแพทย์ Journal of Trauma เดือนมิถุนายน ได้ตีพิมพ์เกี่ยวกับผลการใช้สารทดแทนเลือด ในระยะที่ 3 (Phase III) เป็นครั้งแรก
การทดลองนี้ นำโดย UCLA ทำการเปรียบเทียบการใช้สารทดแทนเลือด กับเลือดปกติที่ได้จากการบริจาค ในประเทศสหรัฐอเมริกา อัฟริกาใต้ และทวีปยุโรป เป็นเวลา 6 สัปดาห์ โดยมีผู้ป่วยเข้าร่วมในการวิจัยนี้เป็นจำนวน 688 คน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedic surgery) และจำเป็นต้องได้รับเลือด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับเลือดตามปกติ 358 คน และกลุ่มที่ได้รับสารทดแทนเลือดนี้ 350 คน
นักวิทยาศาสตร์จาก University of California ได้รายงานถึงการค้นพบ ความแตกต่างของระบบภูมิคุ้มกันที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ ในช่วงแรกเกิด โดยทำการตรวจตัวอย่างเลือดที่ได้จากสายสะดือเด็กแรกเกิดโดยวิธีผ่าท้องคลอด (Cesarean section) จำนวน 50 คน และเด็กที่ตลอดโดยวิธีธรรมชาติ 68 คน โดยเด็กทั้งหมด มีพ่อ หรือแม่คนใดคนหนึ่งมีประวัติของโรคภูมิแพ้ หรือหอบหืด พบว่า เด็กที่คลอดโดยวิธีผ่าท้องคลอด มีจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิด regulatory T-cells น้อยกว่า และมีระดับของสารในระบบภูมิคุ้มกันอย่าง Interleukin-4 และ Interleukin-13 มากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่คลอดโดยวิธีธรรมชาติ
เด็กที่อาศัยอยู่ในฟาร์ม มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหอบหืดน้อยกว่า เด็กที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบอื่น ๆ เช่น แถบที่อยู่อาศัย ในเมือง หรือแม้แต่ เมืองชนบท
จากการสำรวจเด็กที่ไม่เป็นโรคหอบหืด ที่อายุน้อยกว่า 12 ปี จำนวน 13,524 คน ของ Canadian National Longitudinal Survey of Children and Youth (NLSCY) ที่ตีพิมพ์ลงใน Journal Respirology พบว่า อุบัติการณ์สะสมของการเกิดโรคหอบหืดของเด็กที่อยู่ในฟาร์ม มีเพียง 2.3% เมื่อเทียบกับ 5.3% ในกลุ่มที่อาศัยอยู่ชานเมือง และ 5.7% ในกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเมือง
จากการค้นพบนี้ ทำให้ผู้วิจัยตั้งสมมติฐานว่า สิ่งแวดล้อมแบบฟาร์มส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายบางอย่างที่ส่งผลลดกลไลการอักเสบที่ทำให้เกิดโรคหอบหืดลงได้
Dr. Zuo-Feng Zhang นักวิจัยจาก University of California ตีพิมพ์ผลการวิจัย เกี่ยวกับ ผลของการบริโภค ผัก ผลไม้ ชา สามารถลดอุบัติการณ์ของการเกิดโรคมะเร็งปอดได้ ลงในวารสารวิชาการ Cancer
เป็นที่ทราบกันดีว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของมะเร็งปอด ถึง 90% ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทำการคัดเลือก ผู้ป่วยมะเร็งปอด 558 คน และผู้ที่ไม่เป็นมะเร็งปอด 837 คน แล้วทำการตรวจสอบประวัติการกินอาหาร ของกลุ่มทดลองทั้งสองกลุ่ม
สมาคมโรคหัวใจสหรัฐฯ (American Heart Association หรือ AHA) ได้ออกแนวทางปฏิบัติให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงทุกคน (ประมาณ 72 ล้านรายในสหรัฐฯเอง) ควรจะมีเครื่องวัดความดันโลหิตสูงเองที่บ้าน และใช้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นส่วนช่วยแพทย์ในการพิจารณาปรับยา
ก่อนหน้านี้ยังไม่มีแนวทางใดแนะนำให้ผู้ป่วยซื้อเครื่องวัดมาใช้เอง แต่ก็เป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มีอันจะกิน และมีหลายบริษัทผลิตเครื่องวัดดังกล่าวออกมาเป็นล่ำเป็นสัน โดยปัจจุบันเครื่องวัดส่วนใหญ่ใช้งานง่ายเพียงพันรอบแขนและกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ก็สามารถทราบค่าได้ทันที และราคาของเครื่องได้ลดลงเหลือประมาณ 50-100 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับในเมืองไทยผมเห็นมีขายในราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท)
ตามความรู้เดิมที่มีอยู่คือ เชื้อ dengue virus ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดไข้เลือดออกนั้นมี 4 สายพันธุ์ด้วยกัน และไข้เลือดออกนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อเข้าไปเป็นครั้งที่ 2 (secondary infection) ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่าเกิดจากการกระตุ้นสาร cytokines ที่อยู่ในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมากเกินไป
ทีมนักวิจัยจากไต้หวัน จาก National Yang-Ming University ค้นพบกลไกที่เชื่อว่ามีส่วนทำให้เชื้อ dengue virus ทำให้ผู้ติดเชื้อเกิดอาการของไข้เลือดออก (dengue hemorrhagic fever) และช็อค (dengue shock syndrome) ขึ้นผ่านทางปฏิกิริยาระหว่างตัวเชื้อไวรัสเอง กับโมเลกุลที่มีชื่อว่า CLEC5A ที่อยู่บนเซลล์เม็ดเลือดขาว
หลังจากกูเกิลได้เปิดตัวบริการใหม่ Google Health บริการช่วยเก็บบันทึกข้อมูลสุขภาพของตัวคุณ ไปเมื่อวานนี้ ผมได้ลองใช้แล้วคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่คิดจะเก็บข้อมูลสุขภาพไว้กับตัวเอง ผมเลยลองเขียนแนะนำการใช้งานเบื้องต้นพร้อมภาพประกอบ ให้ดูว่าการใช้งานเบื้องต้น และข้อมูลที่ต้องกรอกเบื้องต้นมีอะไรบ้างครับ
การใช้งานเริ่มจากเข้าไปที่ Google Health โดยผู้ที่มีบัญชีผู้ใช้ของกูเกิลอยู่แล้ว สามารถล็อกอินเพื่อเข้าใช้ได้เลย โดยหน้าแรกที่เข้าไปจะเป็นแบบนี้
กูเกิลเปิดตัวบริการใหม่ Google Health ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพกับคุณ ผมแนะนำว่าลองเล่นเองง่ายกว่าอ่านครับ Google Health
เมื่อเข้าไปใน Google Health แล้ว สิ่งแรกที่เราต้องทำคือใส่ประวัติด้านสุขภาพของเรา ไม่ว่าจะเป็นโรคที่เคยเป็นหรือเป็นอยู่ ประวัติการใช้ยา การฉีดวัคซีน การผ่าตัด ผลการทดสอบต่างๆ เช่น เจาะเลือด ฯลฯ ถ้าขี้เกียจนั่งกรอกข้อมูลเอง สามารถอิมพอร์ตจากบริการเว็บสุขภาพบางแห่งได้เช่นกัน (รายชื่อ)
ฮอร์โมนที่ชื่อว่า Neuropeptide Y หรือ NPY โดยปกตินั้นถูกสร้างโดยสมอง เป็นที่รู้จักกันว่า เป็นฮอร์โมนที่มีผลต่อความรู้สึกหิว และกระตุ้นให้กินอาหาร ที่ทรงพลังมากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา จากการทดลองในหนูของ University of Western Ontario ประเทศแคนาดา พบว่า NPY ที่คิดว่าถูกสร้างโดยสมองเพียงที่เดียวนั้น ก็ถูกสร้างโดยเซลล์ไขมันที่หน้าท้องเช่นเดียวกัน คนอ้วนซึ่งมีเซลล์ไขมันที่หน้าท้องมากจึงมีการสร้าง NPY ออกมามาก และกระตุ้นให้กินมากขึ้น ดังนั้นจึงมีวงจรของการกิน และความอ้วน เกิดขึ้น ไม่รู้จบ
Phil Edwards และ Ian Roberts นักวิจัยของ London School of Hygiene and Tropical Medicine ได้ชี้ให้เห็นว่าประชากรที่มีภาวะน้ำหนักเกินจนถึงอ้วน อาจมีส่วนทำให้โลกร้อนขึ้น จากการทำให้ความต้องการอาหาร และพลังงานเพิ่มมากขึ้น
นักวิจัยทั้งสองคนนี้ชี้ให้เห็นว่าคนทั่วไปต้องการพลังงานในการดำรงชีวิตประมาณ 2510 แคลอรี่ต่อวัน ในขณะที่คนอ้วนต้องการพลังงานถึง 2960 แคลอรี่ต่อวัน ซึ่งสูงกว่าคนทั่วไปถึง 18 % โดยพลังงานที่ต้องการมากกว่า หมายถึงปริมาณอาหารที่ต้องรับประทานมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการทำการเกษตรมากขึ้น เกิดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มมากขึ้น (20 % ของก๊าซเรือนกระจกมาจากภาคเกษตรกรรม) ส่งผลให้โลกร้อนขึ้น
ตามทฤษฎีเซลล์ไขมัน เดิมที่เชื่อกันว่า จำนวนเซลล์ไขมันในร่างกายของมนุษย์มีปริมาณคงที่เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แต่จะอ้วน หรือผอมนั้นขึ้นอยู่กับขนาดเซลล์ไขมัน ว่ามีการสะสมไขมันเอาไว้มากแค่ไหน (เป็นที่มาของการที่คนที่เคยอ้วนมาก่อน มักจะกลับมาอ้วนได้ง่ายกว่า และเด็กที่อ้วนก็มักจะเป็นผู้ใหญ่อ้วนที่ลดยากกว่า)
ล่าสุดนักวิจัยจากสวีเดนได้เปิดเผยข้อมูลที่ทำการพบเพิ่มเติมว่า เซลล์ไขมันในร่างกายมีการผลัดเปลี่ยนใหม่ในอัตรา 10% ของแต่ละปี โดยจะมีการสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนในจำนวนเท่าเดิม การค้นพบนี้นำไปสู่มุมมองใหม่ในการจัดการกับความอ้วน ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาวิธีระงับการสร้างเซลล์ไขมันขึ้นใหม่ และการหาคำตอบว่าการดูดไขมัน (liposuction) จะทำให้ให้ผอมแบบถาวรได้หรือไม่
มีตัวอย่างตามที่ต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ ในหน้าหนังสือพิมพ์ หนัง ละคร ทำให้เราคิดกันไปว่าการมีเซ็กซ์ทำให้ตายคาอกกันง่าย ๆ
จากการรวบรวมสถิติของภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack) พบว่า ผู้ชายอายุ 50 ปี ที่ไม่มีความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด อยู่ที่ 1 ใน 1,000,000 คน ใน 1 ชั่วโมงอยู่แล้ว ในขณะที่การมีเซ็กซ์เพิ่มความเสี่ยงขึ้นมาเป็น 2 ใน 1,000,000 คน (แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่ก็ยังถือว่าน้อยอยู่ดี)
ที่จริงแล้วการมีเซ็กซ์ การคือการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง ซึ่งเคยมีการทดลองมาแล้วว่า จะเพิ่มการทำงานของหัวใจโดยเฉลี่ยขึ้นเป็น 130 ครั้งต่อนาทีโดยประมาณ ซึ่งก็เท่ากับการเดินขึ้นบันได 2 สองชั้นเท่านั้นเอง
เรียกว่า ถ้าเดินขึ้นบันไดไหว ก็เตะปี๊บดัง ว่างั้น
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย McGill ได้ทำการศึกษาว่าการให้นมแม่แก่เด็กทารก มีผลต่อการพัฒนาการของตัวเด็กอย่างไร ซึ่งผลกจากกลุ่มตัวอย่างเป็นจำนวนมาก ก็พบความสัมพันธ์ ระหว่างการพัฒนาการทางด้านสติปัญญา กับระยะเวลาที่ลูกมีโอกาสได้ดูดนมจากแม่
จากผลการศึกษาดังจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 14,000 คน เป็นเวลากว่า 6 ปี ทำให้ ดร. Michael Kramer ได้้ข้อสรุปที่มีหลักฐานสนับสนุนชัดเจน ว่า ยิ่งแม่ให้ลูกดูดนมเป็นเวลานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เด็กฉลาดขึ้นเท่าั้นั้น
จากการรวบรวมงานวิจัยใน สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ สวีเดน ญี่ปุ่น ที่มีการตีพิมพ์ในช่วงปีค.ศ. 2003-2007 ครอบคลุมกลุ่มประชากร 37,000 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 40-80 ปี พบว่า โรคอ้วน (obesity) เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อม (dementia) ขึ้น 42% เทียบกับกลุ่มประชากรที่มีน้ำหนักปกติ ในขณะที่การที่มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป (underweight) ก็เพิ่มความเสี่ยงขึ้น 36%
ภาวะสมองเสื่อมในการศึกษานี้หมายความถึง โรคอัลไซเมอร์ และโรคสมองเสื่อมที่เกิดจากหลอดเลือดสมองเสียหาย (vascular dementia)
เมื่อสาวย้อนกลับไปจะพบว่า 12% ของผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม มีโรคอ้วนเป็นตัวการร่วม และถ้าเจาะจงเฉพาะโรคอัลไซเมอร์ ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 21%
นาย Lee Spievak ชายวัย 69 ผู้สูญเสียนิ้วไปจากอุบัติเหตุกลับมามีนิ้วงอกสมบูรณ์อีกครั้งจากการใช้ผงมหัศจรรย์ pixie dust
หลังจากที่ถูกใบพัดของเครื่องบินจำลองเฉือนนิ้วหายไป 1/2” โดยไม่สามารถหาชิ้นส่วนส่วนที่ถูกตัดเพื่อนำกลับมาต่อใหม่ได้ นาย Lee แทบจะสิ้นหวัง แต่โชคดีที่น้องชายของเขาซึ่งทำงานอยู่ในวงการ regenerative medicine ได้ส่งผงมหัศจรรย์ดังกล่าวมาให้เพื่อใช้โรยที่แผลเพื่อการรักษา สี่สัปดาห์หลังจากนั้นนิ้วของเขาก็กลับมามีสภาพสมบูณ์ดังเดิม
เราทุกคนคงรู้กันดีว่าอาหารการกินของแม่มีผลโดยตรงต่อสุขภาพของลูกที่เกิดมา แต่บทความในวารสาร Journal of Physiology ระบุว่าแม้แต่อาหารที่แม่กินก่อนการตั้งครรภ์ก็มีผลต่อสุขภาพของลูกด้วยเช่นกัน
ทีมงานวิจัยนี้นำโดยนาย Adam Watkins ได้ทดลองเลี้ยงแม่หนูด้วยอาหารที่มีโปรตีนต่ำในช่วงแรกของการตกใข่ หลังจากนั้นจึงเริ่มให้มีการผสมพันธุ์ แล้วจึงตรวจสอบสุขภาพของลูกหนู พบว่าลูกหนูนั้นมีความเครียดสูง, ระบบเลือดผิดปรกติ, และไตรูปร่างผิดปรกติและทำงานไม่สมบูรณ์
งานวิจัยนี้เป็นการทดลองในหนู และยังไม่มีการยืนยันว่าในมนุษย์จะเป็นเช่นเดียวกันหรือไม่ โดยยังต้องรอการทดลองเพิ่มเติมต่อไป
ที่มา - PhysOrg