Apple, Inc.
ที่งาน Where 2.0 โดย O'Reilly แฮกเกอร์สองคนคือ Alasdair Allan และ Pete Warden ได้เปิดเผยว่ามีไฟล์ฐานข้อมูล "พิกัด" ของทุกอุปกรณ์ที่ใช้ iOS ซ่อนอยู่ในเครื่องโดยที่แอปเปิลตั้งใจจะเก็บข้อมูลนี้เอาไว้
ทั้งคู่พบว่าข้อมูลนั้นไม่เคยถูกล้างออกเลยตั้งแต่มีการออก iOS 4 มานั่นคือหากคุณใช้ iPhone รุ่นใดๆ ที่ใช้ iOS 4 อยู่แสดงว่าภายในอุปกรณ์ของคุณมีพิกัดของคุณตลอดมา ที่สำคัญคือตัวไฟล์ไม่ได้ถูกเข้ารหัสไว้ และเก็บเอาไว้ภายในไฟล์ RootDomain::Library/Caches/locationd/consolidated.db
เว็บ ThisIsMyNext พบว่าในจดหมายฟ้องซัมซุงของแอปเปิล มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขยอดขายสินค้าของแอปเปิลที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อนอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขาย iPod touch ซึ่งก่อนหน้านี้แอปเปิลเลือกที่จะเผยแต่ยอดขาย iPod โดยรวมมากกว่าการรายงานเฉพาะรุ่น
จนถึงตอนนี้ แอปเปิลได้ขายไอโฟนไปแล้วกว่า 108 ล้านเครื่อง, iPod touch กว่า 60 ล้านเครื่องและไอแพ็ดกว่า 19 ล้านเครื่อง และหากรวมกับยอดขาย Apple TV แล้วแอปเปิลขายสินค้าที่มี iOS ไปแล้วรวมทั้งสิ้นเกือบ 200 ล้านเครื่อง
Tinhte เว็บไซต์ในเวียดนามที่มักได้ข่าวล่วงหน้าของแอปเปิลอ้างว่าพวกเขาได้ iPhone 4 สีขาวไว้ในมือแล้ว และไม่เพียงแค่นั้นพวกเขายังได้ "เวอร์ชันทดสอบ" ของ iOS ใหม่ที่ยังไม่เคยเผยโฉมที่ไหนมาก่อน ซึ่งตัว iOS ใหม่นี้จะเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลในหน้าต่าง multitasking ใหม่ทั้งหมด โดยจะมีการแสดงผลเต็มหน้าจอและจะแสดงภาพหน้าต่างของแอพพลิเคชันนั้นๆ แทนที่จะเป็นรูปไอคอนของแอพพลิเคชันเหมือนในเวอร์ชันเก่า นอกจากนี้ในส่วนของ Spotlight search จะถูกรวมเข้ามาอยู่ในส่วนนี้ด้วย (ดูวิดีโอประกอบหลังเบรค)
ทั้งนี้เวอร์ชันทดสอบนี้อาจเป็นเพียงแค่ของปลอมที่ได้จากการ jailbreak เท่านั้น ดังนั้นจงอย่าเชื่อเต็ม 100%
ในที่สุดวันนี้ที่หลายๆ คนคาดไว้ก็มาถึง
แอปเปิลได้ฟ้องซัมซุงข้อหาเลียนแบบหน้าตา (look and feel) ของไอโฟนและไอแพด
จากแหล่งข่าว สมาร์ทโฟนตัวที่คาดว่าเป็นเป้าหมายในการฟ้องร้องครั้งนี้คือ Samsung Galaxy S 4G ที่รูปร่างหน้าตาไปคล้ายคลึงกับ iPhone 3G/3GS และแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab ที่หน้าตาไปคล้ายกับไอแพด
โดยข้อกล่าวหามีดังนี้
"แทนที่จะคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีและเอกลักษณ์เพื่อใช้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของตัวเอง แต่ซัมซุงกลับเลือกที่จะเลียนแบบทั้งเทคโนโลยี, ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ และรูปลักษณ์อันมีความสร้างสรรค์ของสินค้าจากแอปเปิล"
ต้นฉบับข้อกล่าวหา
Ming-Chi Kuo นักวิจัยตลาดจาก Concord Securities ได้ออกมารายงานว่า iPhone 5 จะไม่เริ่มเดินสายการผลิตจนกว่าช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ โดยจากในรายงานนี้ Kuo อ้างว่า iPhone รุ่นต่อไปจะมีรูปร่างหน้าตาภายนอกที่ใกล้เคียงกับ iPhone 4 มาก แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายในมากมาย
เราหลาย ๆ คนทราบดีว่าเครื่องอ่าน eBook อย่าง Kindle กำลังเป็นที่นิยมกันในกลุ่มคนรักการอ่าน อาจจะเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้ใช้ eBook เหล่านี้ตัดสินใจที่จะไม่ซื้อหนังสือเป็นเล่ม ๆ มาอ่านอีกต่อไปแล้ว .. แต่สำหรับ ส.ส. จากรัฐ Illinois นาย Jesse Jackson Jr คนนี้ iPad เป็นต้นเหตุเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ชาวอเมริกันที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์นั้นต้องตกงาน โดยไม่ได้พูดถึง Kindle และยอดขายหลักล้านของ Kindle แต่อย่างใด
ถ้าหากหยิบยกคำพูดของ ส.ส. คนนี้มาตรง ๆ เขากล่าวว่าการที่ iPad เป็นที่ยอดนิยมนั้น ทำให้ยอดประชากรที่ตกงานในอเมริกานั้นสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน iPad กลับไปสร้างอาชีพในประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตของ iPad นั่นเอง
เมื่อสักครู่นี้แอปเปิลได้ทำการส่งอีเมลเพื่อแจ้งนักพัฒนาให้ทำอัพเดต Mac OS X Lion Developer Preview 2 โดยการอัพเดตในครั้งนี้จะต่างกับก่อน ๆ โดยนักพัฒนาสามารถที่จะอัพเดตได้ผ่านทาง Software Update จากใน OS ได้โดยตรง แทนที่นักพัฒนาจะต้องทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบ Apple Developer แล้วนำโค้ดที่เขียนไว้ในระบบไป Redeem ผ่านทาง App Store เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว
ตัวอัพเดตมีขนาดเล็กกว่า 1GB เพียงเล็กน้อย ส่วน Build หลังทำการอัพเดตแล้วคือรุ่น Build 11A430e
ที่มา - 9to5Mac
ประธานของกูเกิลฝั่งเอเชียแปซิฟิค นาย Daniel Alegre ได้ออกมาพูดว่า "เมื่อไอโฟนประสบความสำเร็จ กูเกิลก็จะประสบความสำเร็จไปด้วย" แม้ว่าทั้งสองบริษัทนี้จะมีความสัมพันธ์กันที่ไม่ค่อยดีนักในระยะหลัง ๆ
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 4.3.2 แล้วซึ่งห่างจากอัพเดทก่อนหน้าไม่ถึงหนึ่งเดือน โดยมีรายการแก้ไขหลักคือปัญหาหน้าจอค้างขณะ Facetime และปัญหาการเชื่อมต่อ 3G สำหรับ iPad Wifi + 3G นอกจากนั้นก็เป็นรายการแก้ไขด้านความปลอดภัยอื่นๆ
ผู้ใช้งาน iPhone 4 (เฉพาะ GSM), iPhone 3GS, iPad ทั้ง 1 และ 2 และ iPod Touch 3rd กับ 4th Gen สามารถอัพเดทได้ผ่าน iTunes
ที่มา: MobileCrunch
หลังจากปล่อยให้ IE และ Firefox นำหน้าในเรื่อง Do Not Track หรือการกำหนดไม่ให้เว็บไซต์ "ตามรอย" เก็บข้อมูลของผู้ชมเว็บ ก็มีข่าวว่า Safari จะมีฟีเจอร์แบบเดียวกันตามมา
หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานว่าแอปเปิลได้เพิ่มฟีเจอร์ Do Not Track ให้กับ Safari รุ่นทดสอบที่มากับ Mac OS X 10.7 Lion แล้ว และผู้ที่ได้ทดสอบ Lion ก็เริ่มพูดถึงฟีเจอร์นี้กันแล้วตามกระดานสนทนาต่างๆ
ข่าวการเพิ่มฟีเจอร์ Do Not Track ของ Safari ทำให้ทุกคนจับตาไปยัง Chrome ซึ่งเป้นเบราว์เซอร์รายใหญ่รายเดียวที่ยังไม่มีฟีเจอร์นี้ และกูเกิลก็มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โดยตรงอย่างโฆษณาหรือ Google Analytics
ถ้าจะพูดถึงสินค้าไฮเทคที่มีอุปกรณ์เสริมมากที่สุด อันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นสินค้าของแอปเปิลอย่างแน่นอน และความพยายามที่จะให้ iPad แสดงผลออกมาเป็นสามมิติก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง แต่ในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ คือเป็นการแสดงผลออกมาเป็นสามมิติอย่างแท้จริง เราสามารถมองเห็นความลึกของภาพ ระยะหน้า กลาง หลัง ดีใช่ไหมล่ะ
สิ่งที่คุณต้องทำคือ ติดฟิล์มพิเศษบนจอ iPad ของคุณ และติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย เท่านี้ก็จะได้ iPad เวอร์ชันสามมิติสมใจแล้วครับ โดยผลงานชิ้นนี้เป็นของบริษัท NewSight Japan จากประเทศญี่ปุ่น
จากข่าวเก่าโดยคุณ
arjin และคุณ
khajochi ที่มีการกล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ วันนี้มีข้อมูลเพิ่มเติม เป็นไฮไลต์ของหนังสือซึ่งคัดมาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจ็อบส์และกูเกิล บางอย่างก็ได้ทราบกันไปแล้ว แต่ผมเห็นว่ามีข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเข้ามา และบางอย่างก็น่าสนใจ จึงเลือกมานำเสนออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแยกเป็นประเด็นได้ดังนี้ครับ
สำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวภายในว่าแอปเปิลเตรียมวางจำหน่าย iPhone 4 สีขาวเสียที โดยจะไม่เกินสิ้นเดือนเมษายนนี้ หลังจากแก้ไขปัญหาสีหลุดลอกจากความร้อนได้สำเร็จแล้ว
ถ้าข่าวนี้จริง การที่แอปเปิลยังเข็น iPhone 4 สีขาวออกมาขายช้ากว่าสีดำถึง 10 เดือนก็เป็นการส่งสัญญาณกลายๆ อีกครั้งว่า iPhone 5 คงไม่เปิดตัวตามกรอบเวลาเดิมเหมือน iPhone ทุกรุ่นก่อนหน้า
ที่งานแสดงสินค้า National Association of Broadcasters ในลาสเวกัส แอปเปิลได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอรุ่นใหม่ Final Cut Pro X ซึ่งเป็นการเขียนตัวซอฟต์แวร์ Final Cut Pro ขึ้นมาใหม่ด้วยเทคโนโลยี Cocoa ของแอปเปิลเอง
Final Cut Pro เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 ตอนนั้นเทคโนโลยี Cocoa ของ Mac OS X ยังไม่นิ่งนัก (Mac OS X ยังไม่ออกด้วยซ้ำ) การเขียนใหม่ของ Final Cut Pro X จึงเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในรอบ 12 ปี ทำให้ Final Cut Pro X ดึงพลังของเทคโนโลยีใหม่ๆ ของแอปเปิลมาใช้ได้อย่างเต็มที่ เช่น รองรับการทำงานแบบ 64 บิต, การประมวลผลแบบมัลติคอร์ด้วย Grand Central Dispath เพื่อตัดต่อวิดีโอที่ความละเอียด 4K
Gene Munster นักวิจัยตลาดที่เชี่ยวชาญข้อมูลเกี่ยวกับแอปเปิลเป็นพิเศษและ Katy Huberty นักวิจัยตลาดจากอีกค่ายสงสัยถึงความเป็นไปได้ที่แอปเปิลกำลังเตรียมตัวที่จะเปิดตัวสินค้าเกี่ยวกับ "วีดีโอ" ที่มาพร้อมกับ Cloud ภายในปี 2012 หรือ 2013 นี้ หลังจากที่พบว่าแอปเปิลกำลังเตรียมสร้าง Data Center ขนาดมหึมา
บริษัทหลักทรัพย์ Avian ออกจดหมายถึงนักลงทุนว่าบริษัทมีข้อมูลที่รวบรวมจากบรรดาซัพพลายเออร์ พบว่าแอปเปิลยังไม่ได้เริ่มติดต่อรวบรวมชิ้นส่วนต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการผลิต iPhone 5 และคาดว่าสายการผลิต iPhone 5 น่าจะเลื่อนไปเริ่มเอาช่วงเดือนกันยายนปีนี้แทน
Avian ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในสายการผลิตที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นไปได้ว่าจะมี iPhone รุ่นเล็กราคาถูกรวมอยู่ด้วย แต่สายการผลิต iPhone ตัวเล็กนี้คงไปเริ่มเอาประมาณต้นปีหน้า
ที่มา: Apple Insider
แอปเปิลเริ่มเปิดร้านขายสินค้าของตัวเองในชื่อ Apple Store ซึ่งเป็นการลงมาทำร้านเองมาตั้งแต่ปี 2001 ปัจจุบัน Apple Store มีสาขาทั่วโลกแล้วกว่า 320 สาขา (แต่ไม่มีในไทย) รูปแบบการจัดการร้านของแอปเปิลนี้เป็นกรณีศึกษาที่ดีทางธุรกิจ เพราะตัวร้านนั้นเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดลองเล่นกับสินค้าของแอปเปิลจนหนำใจ รวมถึงมีพนักงานคอยให้คำปรึกษาในระดับเชิงลึกที่เรียกว่า Apple Geniuses ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าจนกลายเป็นปัจจัยหนึ่งของความสำเร็จของแอปเปิล
ขออภัยครับ ข่าวซ้ำ สตีฟ จ็อบส์เคยเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษากับสองผู้ก่อตั้งกูเกิล
In The Plex: How Google Thinks, Works, and Shapes Our Lives คือหนังสือเล่มใหม่โดย Steven Levy ซึ่งเปิดเผยแง่มุมใหม่ๆ เชิงลึกของกูเกิลที่เขาศึกษาในช่วงสองปีที่ผ่านมา
หนังสือเปิดเผยว่าในสมัยที่สองผู้ก่อตั้ง Sergey Brin และ Larry Page กำลังหาคนมาเป็นซีอีโอนั้น สตีฟ จ็อบส์ คือตัวเลือกที่พวกเขาต้องการมากที่สุด แน่นอนว่าจ็อบส์ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว แต่เพราะจ็อบส์มองเห็นอนาคตของเสิร์ชที่กูเกิลทำอยู่ เขาจึงตกลงเป็นพี่เลี้ยง (mentor) ให้กับสองผู้ก่อตั้ง ซึ่งที่นั่นเองทำให้พวกเขาได้พบกับ Eric Schmidt ซึ่งเป็นกรรมการบอร์ดของแอปเปิล ผู้กลายมาเป็นซีอีโอของกูเกิลช่วงที่ผ่านมา
Steve Wozniak ตำนานอีกคนของซิลิคอนวัลเลย์ ไปงานประชุมด้านเซิร์ฟเวอร์ที่ประเทศอังกฤษ และให้สัมภาษณ์กับนักข่าวรอยเตอร์ว่า ถ้าเขาได้รับการร้องขอให้กลับไปมีบทบาทมากขึ้นที่แอปเปิล เขาก็จะพิจารณาข้อเสนอนี้
Wozniak ร่วมก่อตั้งแอปเปิลในปี 1976 และหยุดทำงานกับแอปเปิลในปี 1987 แต่เขายังมีสถานะเป็นพนักงานของแอปเปิลและรับเงินเดือนอยู่ (เพียงแต่ไม่ได้มีบทบาทในบริษัทแล้ว) ปัจจุบันงานหลักของเขาคือเป็นหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของบริษัทด้านเซิร์ฟเวอร์และการเก็บข้อมูลชื่อ Fusion-io
Steve Wozniak ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่าเขาสนใจที่จะกลับไปร่วมงานกับแอปเปิลอย่างเต็มตัวอีกครั้งถ้ามีการบอกขอ
Wozniak เป็นหนึ่งในสามของผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลร่วมกับ Steve Jobs และ Ronald Wayne โดยมีผลงานสำคัญคือคอมพิวเตอร์ Apple I และ Apple II เขาได้หยุดทำงานให้กับแอปเปิลตั้งแต่ปี 1987 แต่ยังถือหุ้นและรับเงินเดือนอยู่ ปัจจุบัน Wozniak เป็นประธานฝ่ายวิทยาศาสตร์อยู่ที่ Fusion-io ซึ่งเขาร่วมก่อตั้งด้วย
AppleInsider พบสิทธิบัตรใหม่ของ Apple ที่เพิ่งยื่นขอจดชิ้นหนึ่งแสดงถึงโหมดใหม่ที่ผู้ใช้ iPad สามารถเลือกเป็นโหมด Electronic Paper Display และ Video Display ได้ซึ่งไม่มีโหมดนี้มาก่อนใน iPad
AppleInsider จึงคาดว่าจอสำหรับ iPad รุ่นต่อไปอาจเป็นจอ hybrid เหมือน Pixel Qi ที่สามารถเลือกโหมดขาวดำที่ประหยัดไฟและถนอมสายตา และอ่านกลางแจ้งชัดหรือจะใช้โหมดจอ LCD ก็เป็นได้งานนี้ได้เลิกปวดหัวว่าอยากอ่าน E-Book แบบสบายตาแต่จอ iPad มันไม่สบายตาสักที สนใจภาพเมนูกดที่ที่มาด้านล่างเลยครับ
ที่มา : AppleInsider
ปล.ได้เวลาปล่อย Kindle DX แล้วสินะ...
บริษัทวิเคราะห์ ThinkEquity รายงานว่าแอปเปิลถือเป็นผู้สั่งซื้อชิ้นส่วนจอสัมผัส (Touch Panel) รายใหญ่ที่สุดโดยซื้อไปราว 60% ของจอสัมผัสที่ผลิตออกมาทั้งหมดในตลาด จอสัมผัสถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญในโทรศัพท์และแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ ซึ่งก็มีปัญหาการผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการมาระยะหนึ่งอยู่แล้ว
แอปเปิลนั้นให้ความสำคัญกับปัญหาชิ้นส่วนขาดแคลนในระดับที่สูง โดยก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่ายอมซื้อชิ้นส่วนในราคาที่แพงขึ้น การสั่งซื้อจอสัมผัสล่วงหน้าเป็นจำนวนมหาศาลนี้ยังถูกรายงานโดย DigiTimes ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ PlayBook ออกวางจำหน่ายได้ช้ากว่าที่ RIM เคยวางแผนไว้
สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าอเมริกาได้เปิดเผยสิทธิบัตรล่าสุดของแอปเปิล ซึ่งเป็นภาพของอุปกรณ์หน้าตาอย่าง iPhone แต่เพิ่มจอแสดงผลขนาดเล็กๆ ไว้รอบตัวเครื่อง โดยให้รายละเอียดว่าส่วนรอบๆที่เพิ่มเข้ามาเป็นส่วนแสดงผลแบบแผ่นเรืองแสงอิเล็กทรอนิกส์ที่คอยแนะนำผู้ใช้งานใน input ที่จำเป็น หรืออาจทำตัวเป็นส่วนรับ input เองเลย
ในรายละเอียดของสิทธิบัตรนี้บอกว่าแต่เดิมของอุปกรณ์จะมีแค่หน้าจอเดียว และทำหน้าที่เป็นส่วนแสดงผลและรับ input ในเวลาเดียวกัน บางครั้งส่วนที่คอยแนะนำผู้ใช้งานก็เข้ามากินพื้นที่ในหน้าจอมากเกินไป โดยเฉพาะถ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีพื้นที่จำกัดอย่าง iPhone จึงแก้ปัญหาโดยขยายปุ่มออกไปรอบตัวเครื่อง
จากรายงานของ Digitimes แอปเปิลได้ขาย iPad 2 ไปแล้วประมาณ 2.4 ถึง 2.6 ล้านเครื่องในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ และคาดว่าตัวเลขยอดขายต่อเดือนน่าจะสูงขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงไตรมาสที่สองของปี นั่นหมายความว่ายอดขาย iPad 2 ภายในไตรมาสที่สองน่าจะถึง 12 ล้านเครื่อง
นอกจากนี้ในรายงานเดียวกันยังได้อ้างว่า แอปเปิลไม่ได้รับผลกระทบจากโรงงานที่โดนซึนามิถล่มในประเทศญี่ปุ่นมาก และยังมีชิ้นส่วนที่ต้องใช้ในการประกอบ iPad 2 เพียงพอ
ก่อนหน้านี้แอปเปิลสามารถขาย iPad รุ่นแรกได้ 15 ล้านเครื่องภายในระยะเวลาเก้าเดือน ส่วนตัวเลขของคู่แข่งอย่าง Motorola Xoom นั้น Deutsche Bank คาดว่ายอดขายน่าจะอยู่ที่หลักแสน