อาจจะเป็นการประกาศสงครามกันอีกครั้ง เมื่อออราเคิลเปิดตัวโครงการ Unbreakable Linux โดยเตรียมการให้การซัพพอร์ตกับ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) แทนเรดแฮท หรืออาจจะพูดอีกอย่างว่า ออราเคิลเอา RHEL มาขายเอง

ออราเคิลระบุว่าโครงการนี้มีผลดีต่อลูกค้า เนื่องจากทางเรดแฮทนั้นให้การซัพพอร์ตเพียงเวอร์ชั่นล่าสุดเท่านั้น ทำให้กลายเป็นการบีบลูกค้าให้ต้องอัพเกรดโดยไม่จำเป็น ทางออราเคิลจึงให้การซัพพอร์ตโดยรับประกันว่าการซัพพอร์ตนั้นจะต่อเนื่องกว่าทางเรดแฮท โดยทั้งนั้นผู้ใช้ Unbreakable Linux นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของเรดแฮทแต่อย่างใด

ออราเคิลระบุว่าซอร์สที่ทางออราเคิลใช้นั้นจะได้รับอัพเดตตามซอร์สของเรดแฮทเป็นระยะ พร้อมกับการเพิ่มโค้ดของทางออราเคิลเอง

RHEL4 ออกมานานพอสมควร ถึงเวลาของ RHEL5 เสียที ของใหม่สำคัญในเวอร์ชันนี้คือการสนับสนุน Xen (เฉพาะสถาปัตยกรรม i386 กับ x86-64 เท่านั้น ส่วน IA-64 เป็นรุ่นพรีวิว)

RHEL5 จะแบ่งเป็นสองรุ่นคือ

• Client - จะสนับสนุนเฉพาะ i386 กับ x86-64
• Server - เพิ่ม IA-64 (Itanium2), PPC64 และ s390x (IBM zSeries) ส่วนของฟีเจอร์จะมีด้านคลัสเตอร์เพิ่มมาด้วย

ถ้าสนใจทดสอบ เค้าบอกว่าต้องเป็นสมาชิก Red Hat Network ครับ

ที่มา - Linux Lookup

สัปดาห์ก่อนบริษัท Quanta ผู้ผลิตแล็ปท็อปร้อยเหรียญระบุว่า บริษัทจะเดินสายการผลิตแล็ปท็อปร้อยเหริยญเมื่อมียอดสั่งประมาณห้าล้านเครื่องขึ้นไป ในวันนี้ทางโครงการ OPLC ก็มีการแถลงออกมาว่าจนถึงเวลานี้มีการยืนยันการสั่งซื้อออกมาแล้วถึงสี่ล้านชุดด้วยกัน โดยสี่ประเทศที่สั่งคือ ไนจีเรีย, บราซิล, อาร์เจนตินา และไทย

อย่างไรก็ตามกระการสั่งซื้อจากทางรัฐบาลไนจีเรียนั้นยังไม่เสร็จสิ้นแต่อย่างใด แต่รายงานก็ระบุว่ากระบวนการดังกล่าวกำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

มีใครยืนยันได้ไหมครับ ว่าไทยตกลงสั่งซื้อแล้วจริงรึเปล่า....

พร้อมกับการมาของ Fedora Core 6 Test 2 ในวันที่ 26 เดือนกรกฏาคมนี้ Fedora จะหยุดการสนับสนุน Fedora และ Red Hat Linux เวอร์ชั่นเก่าอันประกอบไปด้วย Fedora Core 1, Fedora Core 2, Red Hat 7.3 และ Red Hat 9 พร้อมกับหยุดรับบั๊กใหม่ๆ ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และจะแก้เท่าที่แก้ได้ภายใน 31 ธันวาคมนี้ครับ

Red Hat เปิดเว็บ Social Network ตามสมัยนิยมชื่อ Mugshot โดยจับตลาดผู้ใช้ทั่วไป ไม่ใช่คนเทคนิค

จริงๆ แล้วคนของ Red Hat (Havoc Pennington) เขียนไว้ในบล็อกของ Mugshot ว่านี่ไม่ใช่ Social Network ตามนิยามที่เราเข้าใจกัน แต่จะเป็นเว็บที่คอยประสานการทำงานของ Social Network และเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว Red Hat ใช้คำว่า "live social experience" แทน

ยังคงเป็นข่าวกันเรื่อยๆ กับโน้ตบุ๊กร้อยเหรียญที่มีตัวต้นแบบที่ไม่ใช่เพียงบอร์ดออกมาให้เห็นแล้ว หลังจากส่งตัวบอร์ดต้นแบบไปให้ทางเรดแฮดเมื่อวันก่อน เมื่อวานนี้เมื่อมีการประชุมกลุ่ม Task Force ของทั้งเจ็ดประเทศก็มีการเอาตัวจริงมาโชว์กันให้เห็นเต็มๆ ตา

ไม่มีข่าวเกี่ยวกับการประชุม แต่รู้แต่ว่ามันมีเขา....

ที่มา - Flickr

หลังจากซันได้เปลี่ยนไลเซนส์ในการเผยแพร่ JRE และ JDK (เฉพาะรุ่น Java SE นะครับ) ให้สามารถแจกไปกับลินุกซ์ดิสโทรได้ ในชื่อใหม่ว่า Sun's Distro License for Java (DLJ) เพื่อปูทางไปสู่การโอเพนซอร์สจาวาในอนาคต

Brian Stevens CTO ของ Red Hat ให้ความเห็นว่าแค่นี้ยังไม่พอ โดยเฉพาะการนำจาวาไปใช้ในโครงการแล็ปท็อป 100 เหรียญที่ต้องเป็นโอเพนซอร์สทั้งหมด และออกมากระตุ้นในซันเริ่มการโอเพนซอร์สจาวาอย่างจริงจังมากขึ้น

DLJ ได้รับการสนับสนุนจาก Ubuntu, Debian และ Gentoo เป็นอย่างดี Mark Shuttleworth แห่ง Ubuntu บอกว่าเป็นสัญญาณที่ดี และคาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่างในเร็วๆ นี้

ผลสืบเนื่องจากการเข้าซื้อ JBoss ของทางเรดแฮตอาจจะทำให้ สงครามระหว่างโลกโอเพนซอร์สกับออราเคิลบานปลายจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อทางออราเคิลประกาศออกมาแน่ชัดว่า บริษัทมีแผนที่จะสร้างระบบปฏิบัติการของตัวเอง หรืออย่างน้อยก็ซื้อจากบริษัทที่มีอยู่ในท้องตลาด แถมไม่แค่นั้น Larry Ellison ยังระบุด้วยว่าตัวเขามอง Novell ซึ่งเป็นหมายเลขสองของตลาดเอาไว้แล้ว

หลังจากเป็นกังวลกันมานานว่าออราเคิลจะเข้าซื้อ JBoss ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจคู่แข่งออราเคิลในโลกโอเพนซอร์สทุกวันนี้ ทาง Red Hat ก็ประกาศความสำเร็จในการเจรจาขอเข้าซื้อ JBoss อย่างเป็๋นทางการแล้ว ด้วยมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์

งานนี้สร้างความโล่งใจให้โลกโอเพนซอร์สไปอีกเปลาะหนึ่ง เพราะออราเคิลกำลังอยู่ในช่วงซื้อคู่แข่งที่เป็นโอเพนซอร์สไปอย่างดุเดือด จนน่ากลัวว่าบริษัทพวกนี้จะถูกดองไว้ไม่ให้พัฒนาต่อ จนหมดความสามารถในการแข่งขันไปเอง

หลังจากเมื่อปีที่แล้วทาง RedHat แสดงท่าทีที่จะก่อตั้งมูลนิธิ Fedora ขึ้น ในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าความตั้งใจนั้นจะดับลงไปเสียแล้ว เมื่อทาง Max Spevack หัวหน้าโครงการ Fedora ได้ออกมาประกาศท่าทีของ RedHat ในตอนนี้ว่าจะไม่มีการก่อตั้งมูลนิธิอีกต่อไป

หลังจาก Novell ออก XGL มาให้ชาวลินุกซ์ได้ตื่นเต้นกันว่า อนาคตเดสก์ท็อปเราจะสดใสอยู่พักนึง ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนแล้วครับ

เนื่องจากว่าฝั่ง Red Hat/Fedora ได้ออกมาหนุนโครงการแบบเดียวกันชื่อ AIGLX (ย่อมาจาก Accelerated Indirect GL X) ซึ่งผมแนะนำให้ดูวิดีโอสั้นๆ ตามลิงก์นี้ก่อน จะรู้ว่ามันเหมือน XGL แค่ไหน

เรดแฮทประกาศว่ามีแผนจะสนับสนุนสถาปัตยกรรม Intel Mac ที่เพิ่งวางจำหน่าย คำประกาศนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกแต่อย่างใด เพราะปัจจุบัน Fedora และลินุกซ์อีกหลายค่ายทำงานบน PowerPC ได้ เมื่อแอปเปิลย้ายมาใช้ x86 เหมือนกัน ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ จุดยากอยู่ที่เดียวกับการเอาวินโดวส์ไปรันบน Intel Mac คือไบออสระบบใหม่ที่ชื่อ EFI (Extensible Firmware Interface)

หลังจากราคากระฉูดไม่หยุด หุ้นกูเกิลและ เรดแฮดก็ำได้เข้ากลุ่ม Nasdaq-100 ไปแล้วเมื่อวานนี้ โดยหุ้นของกูเกิลนั้นพุ่งจากราคาเปิดครั้งแรก 80 กว่าๆ ดอลลาร์มาอยู่ที่ 400 ดอลลาร์มาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนเรดแฮดนั้นขึ้นจาก 16 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 25 ดอลลาร์

หุ้นบริษัทผมเข้าตลาดมาหลายปีไม่พุ่งอย่างนี้บ้างแฮะ

ที่มา -  Computer Business Review Online

หลังจากเราดูรูปเครื่องเขียวเหลืองมีมือจับหมุน ตอนนี้มีความคืบหน้าของโครงการแล็ปท็อปร้อยเหรียญ (หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า One Laptop Per Child - OLPC) มาอีกแล้วครับ

ช่วงแรก MIT เผยสเปกของฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว โดยไม่ระบุถึงซอฟต์แวร์แม้แต่น้อย สื่อต่างๆ ก็คาดการณ์กันว่าน่าจะเป็นลินุกซ์ซักยี่ห้อเพื่อตัดค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์ออกไป หลังจากนั้นก็มีข่าวว่าแอปเปิลยินดียก OSX ให้ฟรีๆ แต่ทาง MIT ก็ปฏิเสธ เหตุผลไม่ใช่ด้านราคาแต่ MIT ต้องการระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์สมากกว่า

ตอนที่ Red Hat เข้าซื้อกิจการเซิร์ฟเวอร์ของ Netscape จาก AOL ก็ได้รับเสียงวิจารณ์ค่อนข้างมากว่า ซื้อของเก่าที่ตายแล้ว แต่เมืองนอกเค้าก้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Netscape กันเยอะนะครับ (พวก FastTrack หรือ Enterprise Web Server อาจน้อย แต่พวก Mail/Directory ยังเยอะอยู่) และตอนนี้ Red Hat ก็ประกาศเปิดซอร์สของ Netscape Directory Server เป็น GPL ในวันที่ 1 มิย. นี้ ในงาน Red Hat Summit 2005 และจะเปลี่ยนชื่อเป็น Red Hat Directory Server ด้วย

อาจจะเป็นการลงทุนส่วนตัวก็ได้ แต่การที่ Michael Dell ่เข้าไปถือหุ้นใน Red Hat มูลค่า $99 ล้านเหรียญ ก็อาจเป็นสัญญาณบอกถึง กระแสของลินุกซ์ในธุรกิจพีซีสำหรับองค์กร (ซึ่ง Dell เป็นเจ้าตลาดอยู่) ได้ไม่มากก็น้อย

OSNews: Dell Invests 99.5 Million USD in Red Hat

Red Hat Enterprise Linux 4.0 ซึ่งเป็น RHEL ตัวแรกที่ใช้เคอร์เนล 2.6 เพิ่งออกมาในช่วงนี้ และได้รับผลการรีวิวค่อนข้างดี ทั้งเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย เพราะมี SELinux เปิดมาอัตโนมัติ (เหมือนกับ Fedora Core 3) เรื่องเดียวที่จะสู้เค้าไม่ได้คงเป็นด้านราคา ซึ่งแพงมากจนซันใช้มาเป็นจุดขายของ Solaris 10 ในการแข่งขันของตลาดบนครับ Red Hat Linux 4.0 offers power, security

Red Hat ผู้ผลิตลินุกซ์อันดับหนึ่งในตอนนี้เริ่มเจอปัญหาแล้ว เมื่อ Dell คู่ค้าสำคัญที่ร่วมกันขายเซิร์ฟเวอร์ที่รัน Red Hat Enterprise Linux ออกมาบ่นว่า RHEL นั้นมีราคาแพงเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ SUN พยายามจะบอกมาตลอดหลังจากหันมาเอาดีกับ Solaris แทน เมื่อรายใหญ่อย่าง Dell ออกมาบ่นเองแบบนี้ ก็เข้าทางคู่แข่งทั้ง Novell และ SUN ทั้งขึ้นทั้งล่อง ถ้าไม่ลดราคาก็เสียลูกค้า ถ้าลดราคาก็เสียกำไร งานนี้ Red Hat หนักใจแน่ CNET: Dell: Red Hat needs to lower prices

จาก Slashdot มีรายงานว่าได้รับอีเมลแจ้งจาก redhat-fedora.com ให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์ tar อุดรูโหว่ของระบบ ซึ่งเว็บข้างต้นนี้ไม่ได้เป็นของ Red Hat แต่อย่างใด ถือเป็น trojan ซึ่งไม่ค่อยได้พบมากนักบนลินุกซ์ ทาง Red Hat ได้ออกมาแถลงว่าเมลของแท้ที่ส่งให้ลูกค้านั้น จะต้องมาจาก secalert@redhat.com เท่านั้น และเข้ารหัสด้วย GPG ของ Red Hat

Red Hat Enterprise Linux 4 ที่เพิ่งออก Beta 1 (Nahant) มา ประกาศจะสนับสนุนภาษาอินเดียถึง 4 แบบ (ไม่รู้มีแบบไหนมั่งนะ) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดอินเดียทุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ซอพต์แวร์ส่วนมากเลือกสนับสนุนภาษาญี่ปุ่นเป็นอย่างแรก และตามมาด้วยภาษาจีน RHEL4 ยังเป็นลินุกซ์ตัวแรกของ Red Hat ที่จะใช้เคอร์เนล 2.6 ข่าวจาก InfoWorld

Red Hat มุ่งหวังจะยึดตลาดโอเพ่นซอร์สเต็มที่ ซื้อแผนก Netscape Enterprise Server จาก AOL และกำลังจะนำมาโอเพ่นซอร์ส

AOL ซื้อ Netscape ไป 4.2 พันล้านเหรียญในปี 1998 ได้ของหลักๆ ไปสามอย่าง คือ Netscape Navigator, Netscape Portal และ Netscape Server โดย Navigator กลายมาเป็นโครงการ Mozilla ส่วน Netscape Portal นั้นยังอยู่ (ปัจจุบันเรียก Netscape Network) Netscape Server นั้น AOL แตกเป็นบริษัทใหม่ร่วมกับซันชื่อ iPlanet