HP ได้เปิดเผยเนื้อหาในสัญญาจ้างซีอีโอคนใหม่ Meg Whitman โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้

ข้อมูลน่าสนใจของฝั่ง HP ครับ

ในเอกสารที่ HP ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ ระบุว่า Meg Whitman ซีอีโอหญิงคนใหม่ของบริษัท จะรับค่าเหนื่อยเพียง 1 ดอลลาร์ต่อปีเท่านั้น (เหมือนกับสตีฟ จ็อบส์ในอดีต)

แอปเปิลได้รับผลสำรวจความพึงพอใจต่อสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของผู้บริโภคชาวอเมริกัน (American Customer Satisfaction Index - ACSI) สูงสุดที่ 87% เพิ่มจากปีก่อน 1% เหนือกว่าคู่แข่งอื่น ๆ และทิ้งห่างผู้ที่มีคะแนนตามมาใกล้สุดอยู่ 9%

ตลอด 8 ปีที่แอปเปิลได้รับความพึงพอใจสูงสุดในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 2,300% คุณ Claes Fornell ผู้ก่อตั้ง ACSI และผู้เขียนหนังสือชื่อ "The Satisfied Customer: Winners and Losers in the Battle for Buyer Preference" ให้ความเห็นว่า การที่แอปเปิลเอาชนะทั้งทางด้านนวัตกรรม ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการริเริ่มบุกเบิกเทคโนโลยีในแนวทางใหม่ ๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดได้ตลอดมา

Cisco เคยเปิดเผยศูนย์ข้อมูลเคลื่อนที่ไปแล้ว [ข่าวเก่า] ในสัปดาห์นี้ ถึงคราว HP ประกาศส่งมอบศูนย์ข้อมูลเคลื่อนที่ของ HP ให้กับบริษัทแอร์บัส และ HP ยังกล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลนี้เป็นศูนย์ข้อมูลเพื่อการประมวลผลสมรรถนะสูงเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และให้พลังประมวลผลรวดเร็วอันดับที่ 29 ของโลกที่จัดโดย TOP500 ครั้งล่าสุดอีกด้วย

HP ประกาศวันนี้ว่าได้แต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ Meg Whitman เป็นที่เรียบร้อย หลังจากลือกันเมื่อวานนี้ว่าจะมีการไล่ Leo Apotheker ซีอีโอคนก่อนหน้าออก ทั้งที่

ปีที่ผ่านมานับว่าเป็นปีที่แย่ของเอชพี จากการล้มเหลวในตลาดแท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือ แถมการประกาศถอนตัวจากตลาดพีซีก็ทำให้ลูกค้าลังเล เรียกได้ว่าไม่ต่างจากโนเกียเท่าใหร่นัก จนถึงตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวลือมาแล้วว่าบอร์ดของเอชพีจะประชุมว่าจะไล่ออก Leo Apotheker ซีอีโอที่ดึงตัวมาจาก SAP หรือไม่

หุ้นเอชพีนั้นร่วงลงอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา โดยปีที่แล้วราคาหุ้นสูงสุดเกือบ 60 ดอลลาร์ และเมื่อ Mark Hurd ลาออกไปราคาหุ้นก็ตกต่ำลงมาเรื่อยๆ โดยมีขึ้นอยู่ช่วงเดียวคือช่วงเดือนมีนาคม จนถึงวันนี้ราคาหุ้นนั้นอยู่ที่ 24.59 ดอลลาร์เท่านั้น

หลังจาก HP ประกาศปิดแผนกฮาร์ดแวร์ webOS สิ่งที่ตามมาก็คือพนักงานในฝ่ายนี้ต้องตกงานตามระเบียบ ซึ่งโฆษกของ HP ยืนยันข่าวการปลดพนักงานบางส่วนแล้ว

จำนวนพนักงานที่ถูกปลดยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่เว็บไซต์ AllThingsD ก็ไปหาข้อมูลมาได้ว่าระลอกนี้ 525 คน

ในโอกาสนี้เราก็คงต้องแสดงการอำลาและขอบคุณ webOS กันอีกครั้ง

ที่มา - AllThingsD

หนังสือพิมพ์ Economic Observer of China สัมภาษณ์ Cher Wang ประธานบอร์ดหญิงของ HTC ซึ่งเธอบอกว่า มีการถกเถียงกันภายในบริษัทว่าควรจะซื้อระบบปฏิบัติการสำหรับมือถือมาเป็นของตัวเองดีหรือไม่ โดยบอกว่าการที่มี Sense UI จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีจุดเด่นที่ผู้บริโภคแยกแยะได้ ไม่ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการอะไร

Wang บอกว่า HTC สามารถใช้ระบบปฏิบัติการอะไรก็ได้ เพราะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งโดยเพิ่มเลเยอร์เข้าไปบนระบบปฏิบัติการ ความเข้มแข็งของบริษัทอยู่ที่ความเข้าใจในตัวระบบปฏิบัติการ แต่ไม่จำเป็นว่าเราต้องทำระบบปฏิบัติการเอง

ในบทสัมภาษณ์ไม่ได้ระบุระบบปฏิบัติการที่ HTC สนใจซื้อ แต่รายงานของหนังสือพิมพ์ Focus Taiwan ระบุว่า HTC มีการเจรจากับ HP บ้างแล้ว

ล่าสุดทาง HP ก็ได้เปิดตัวปริ๊นเตอร์สำหรับ iOS โดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีไม่กี่รุ่นมาให้เลือกซื้อ
และทาง HP ได้ใส่ความสามารถให้คอนโทรลได้ในระยะที่ไกล
โดยเจ้าปริ๊นเตอร์นี้สามารถใช้ง่ายได้ใน iOS 4.2 ขึ้นไป ได้ทั้ง iPhone iPod และ iPad

คุณสมบัติ

คำถามที่พบบ่อยหลังข่าว HP จะแยกธุรกิจพีซีออกไป ก็คือ "แล้ว HP จะทำอะไรต่อ" คำตอบแบบยาวๆ หน่อยก็คือธุรกิจพีซีเป็นเพียงแค่ 1/3 หรือ 1/4 ของ HP เท่านั้น ยังมีธุรกิจอื่นอีกเยอะ เช่น เครื่องพิมพ์ เซิร์ฟเวอร์ โซลูชัน

คำตอบแบบสั้นกว่าก็ยกตัวอย่างได้ด้วยข่าวนี้ นั่นคือ HP Cloud Services ที่จะออกมาแข่งกับ AWS โดยตรง

ถ้าหากว่าเราอยากจะซื้อสินค้าใดๆ สักอย่าง แต่ผู้ผลิตออกมาบอกว่า "กำลังตัดสินใจว่าจะทำต่อดีไหม" เป็นเรา เราก็คงไม่มั่นใจ (และหันไปซื้อสินค้าเดียวกันยี่ห้ออื่นดีกว่า)

สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นกับ HP หลังบริษัทออกมาประกาศว่า "อาจจะแยกธุรกิจพีซีออกไป" แต่ยังไม่ยอมเผยแผนชัดเจนว่าจะทำอย่างไรกันแน่

Wall Street Journal รายงานข่าวว่า CIO ขององค์กรต่างๆ ที่เคยเป็นลูกค้าของ HP เริ่มลังเล และเปลี่ยนไปซื้อคอมพิวเตอร์ (ล็อตใหญ่) จากบริษัทอื่นแทน

นี่อาจเป็นข่าวดีของคนที่ซื้อและฝากซื้อ TouchPad ไม่ทัน หลังจากมีข่าวก่อนหน้าว่าล็อตสุดท้ายกำลังผลิตเพิ่มอยู่ ล่าสุด DigiTimes รายงานว่า HP ตัดสินใจสั่งผลิต TouchPad เพิ่มอีกราว 1-2 แสนเครื่อง ด้วยเหตุผลในการรักษาความสัมพันธ์กับโรงงานผู้ผลิต และช่วยเคลียร์ชิ้นส่วนที่คงค้างในสต็อก โดย TouchPad ที่ผลิตเพิ่มรอบนี้จะนำมาทำโปรโมชั่นขายอีกครั้งในเดือนตุลาคม

ในประกาศอย่างเป็นทางการของ HP เรื่อง webOS ระบุว่าจะหยุดพัฒนาฮาร์ดแวร์ ส่วนซอฟต์แวร์อาจจะขายสิทธิการใช้งานให้กับบริษัทอื่น (ซึ่ง

จากที่มีข่าวกลับไป กลับมา

หลังจากแสดงท่าทีชัดเจนว่าเอชพีจะออกจากธุรกิจพิซีอย่างแน่นอน เอชพีก็เริ่มปล่อยโฆษณาการแยกบริษัทโดยแสดงถึงความสำคัญของบริษัทใหม่ว่ายังเป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง มีมูลค่าถึง 40,000 ล้านดอลลาร์ แต่จะมีความคล่องตัวมากขึ้นทำให้สามารถปรับตัวกับตลาดพีซีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ โดยใช้คำขวัญว่า "The spirit of a start-up. The security of HP."

พร้อมๆ กับการปล่อยโฆษณา เอชพีก็สร้างเว็บขึ้นมาประชาสัมพันธ์ที่ http://www.hp.com/pcmatters/ เพื่อตอกย้ำกว่าการแยกกิจการพีซีออกไปจะทำให้การดำเนินงานดียิ่งขึ้น

หลังจากเอชพีลดกระหน่ำ TouchPad เหลือเพียง 99 ดอลลาร์ TouchPad ก็กลายเป็นสินค้าขาดตลาดอย่างรวดเร็ว และทุกคนคงคิดว่าเอชพีคงเลิกผลิตแท็บเล็ตตัวนี้โดยถาวรแล้ว แต่วันนี้ก็มีบล็อกของเอชพีประกาศว่า TouchPad ชุดสุดท้ายกำลังอยู่ในกระบวนการผลิต และจะส่งมาถึงสหรัฐฯ ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ประกาศนี้ชวนให้งงมาก พอๆ กับข้อสงสัยที่ว่าถ้าเอชพีจะเลิกทำตลาดแล้วจะผลิตเพิ่มทำไม? โดยทางเอชพีระบุว่าไม่มีข้อมูลว่าจะได้สินค้าเมื่อใหร่ หรือได้จำนวนเท่าใหร่ (ไม่รู้บริหาร supply chain กันยังไง?) ข้อมูลที่บอกได้ในตอนนี้คือจะมีสินชุดใหม่และจำกัดจำนวนการซื้อต่อคน

ระยะเวลาเพียงสิบวันหลัง HP ประกาศถล่มราคา TouchPad เหลือ 99 ดอลลาร์ นอกจากจะขายเกลี้ยงแล้ว ยังมีรายงานจากบริษัทโฆษณาว่ายอดผู้ชมโฆษณาจาก TouchPad พุ่งขึ้นมาใกล้เคียงกับแท็บเล็ต Android แล้ว

ข่าวเรื่องการแยกธุรกิจพีซีของ HP เริ่มมีความคืบหน้า โดยคราวก่อนบริษัทบอกว่าทางเลือกมีได้ 3 แบบคือ แยกธุรกิจพีซีออกเป็นอีกบริษัท, ขายให้บริษัทอื่น และเก็บไว้อย่างเดิม

หลังจาก HP TouchPad ลดราคากระหน่ำเหลือ 99 ดอลลาร์ คนจำนวนมากที่แย่งกันซื้อมาก็หวังว่าจะมีใครสามารถแฮกให้มันติดตั้งแอนดรอยด์ได้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าทีมแรกที่ทำสำเร็จคือทีม CyanogenMod

ทีม CyanogenMod ระบุว่าเป้าหมายของทีมไม่ใช่เพียงการติดตั้งแอนดรอยด์ลง TouchPad เท่านั้นแต่ต้องการแก้ไขให้ TouchPad บูตหลายระบบปฎิบัติการได้ นั่นคือหากใครยังอยากใช้ webOS ต่อไปก็น่าจะใช้งานได้ด้วย

ข่าวนี้อาจดูกลับไปมา เพราะก่อนหน้านี้ซัมซุงบอกชัดว่าไม่ซื้อธุรกิจพีซีจาก HP แน่ๆ แต่เจ้าสำนักข่าวลือ DigiTimes อ้างว่าตอนนี้ซัมซุงได้จ้าง Raymond Wah ซึ่งเป็นอดีตรองประธานฝ่ายธุรกิจสินค้าส่วนบุคคลของ HP ให้มาดูแลส่วนธุรกิจพีซีของซัมซุงแล้ว ซึ่งเป็นไปได้ว่าซัมซุงจะขอซื้อ webOS ต่อจาก HP ในลำดับถัดไป

หลัง HP ประกาศแยกธุรกิจพีซีออกไป ทางเลือกหนึ่งที่เป็นได้ก็คือการขายให้ใครก็ตามที่สนใจเอาไปทำต่อ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซัมซุงเป็นหนึ่งในบริษัทที่คาดกันว่าจะเข้ามาซื้อส่วนธุรกิจนี้ไป แต่ในวันนี้ซัมซุงได้สยบข่าวลืออย่างเป็นทางการผ่านบล็อกของบริษัทว่า

ตามที่มีข่าวลือว่า Samsung Electronics จะเข้าซื้อต่อส่วนธุรกิจพีซีจาก HP นั้นไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เราหวังว่านี่จะทำให้ความสับสนจากข่าวที่ออกมาชัดเจนขึ้น

ตัดไปได้หนึ่ง

ที่มา: Samsung Electronics Blog

หลัง HP ประกาศจะแยกธุรกิจพีซีออกไป บุคคลที่ถูกถามถึงไม่น้อยก็คืออดีตซีอีโอหญิงเหล็ก Carly Fiorina ซึ่งเคยเป็นซีอีโอ HP ช่วงปี 1999 - 2005 ก่อน

ช่วงนี้โลกไอทียังหมุนรอบวิกฤตศรัทธาของ HP ต่อไป โดยมีข่าวลือออกมาว่า Todd Bradley ซึ่งมีตำแหน่งเป็น EVP (Executive Vice President) ของฝ่าย Personal Systems Group ที่ดูแลกิจการพีซีทั้งหมด รวมถึงฝ่ายของ Palm เดิม (ใครที่ดูแถลงข่าว webOS ในช่วงหลังๆ จะเห็นหน้าเขาบ่อยๆ) เตรียมจะลาออกจากบริษัท

นักพัฒนาซอฟต์แวร์บนแพลตฟอร์ม webOS อาจจะไม่ได้ยินข่าวดีมาเป็นเวลานาน (เว้นแต่ว่านับยอดขาย TouchPad หลังจากการลดราคามาเหลือ 99 ดอลลาร์) แต่ล่าสุด ไมโครซอฟท์ก็ออกมาเสนอให้นักพัฒนาเหล่านี้เข้าร่วม Training เพื่อผลิตซอฟต์แวร์ให้กับ Windows Phone 7 พร้อมกับแจกมือถือให้ฟรีอีกด้วย

หากดูจากทวิตเตอร์ของนาย Brandon Watson ผู้บริหารฝ่าย Windows Phone 7 Development ของไมโครซอฟท์แล้วก็พอบอกได้ว่ากระแสตอบรับดีมาก โดยตัว Watson เองอ้างว่าเขาได้รับอีเมลจากนักพัฒนา webOS ที่สนใจเกือบ 600 ฉบับแล้ว

ที่มา - Engadget

Robert Scoble บล็อกเกอร์ชื่อดังของสหรัฐ อ้างว่าคุยกับผู้บริหารระดับ Vice President (VP) คนหนึ่งของ HP และได้ข้อมูลเชิงลึกของสถานการณ์ในบริษัทมาหลายอย่าง

ประเด็นแรกคือเรื่องสิทธิบัตรของ Palm/webOS ผู้บริหารคนนี้บอกว่ามีสิทธิบัตรกว่า 2,000 รายการ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ในรอบไม่กี่ปีหลังทั้งสิ้น ทำให้สถานการณ์ต่างจากสิทธิบัตรของ Motorola ที่ค่อนข้างเก่า และอาจจะใช้ไม่ค่อยได้แล้วถ้าจะนำไปฟ้องคู่แข่ง ข้อมูลนี้ทำให้เราพอคาดการณ์ได้ว่า HP อาจจะเลือกทำเงินจากสิทธิบัตรของ Palm ได้อีกเยอะ