Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัท 2015 (มีนาคม-พฤษภาคม) โดยมีรายได้ 1,162 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติสูงสุดของบริษัทภายในไตรมาสเดียว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 147.5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จำนวนผู้สมัครใช้ Creative Cloud ก็มีสูงถึง 4.61 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 639,000 คน

ซีอีโอ Shantanu Narayen กล่าวว่ากลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ Creative Cloud สะท้อนผลสำเร็จออกมาได้ชัดเจน รวมถึงธุรกิจอื่นที่สนับสนุนกันอย่าง Document Cloud, Marketing Cloud และล่าสุด Adobe Stock ที่เพิ่งเปิดตัวไป

Adobe ยังคงเป้าหมายมีผู้สมัครใช้ Creative Cloud จำนวน 6 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้

HTC ออกประกาศเตือนนักลงทุนว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2015 จะออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ จากเดิมบริษัทเคยคาดว่าไตรมาสนี้จะมีรายได้ราว 46-51 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ก็ปรับลดลงมาเหลือที่ 33-36 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันแทน (หายไปราวหนึ่งในสาม) และหักค่าใช้จ่ายแล้ว ไตรมาสนี้จะขาดทุนแทนกำไร

HTC ให้เหตุผลของผลประกอบการที่แย่ว่าเป็นเพราะตลาดมีความต้องการ Android ระดับสูงน้อยลง และยอดขายในจีนก็ออกมาไม่ดีอย่างที่ประเมินไว้

บริษัทบอกว่าจะใช้มาตรการ 4 อย่างคือควบคุมค่าใช้จ่าย ปรับปรุงกระบวนการภายใน พัฒนาสมาร์ทโฟนให้น่าสนใจ และหาตลาดใหม่ๆ นอกเหนือจากสมาร์ทโฟนอย่างจริงจัง

HP รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัท 2015 (กุมภาพันธ์-เมษายน) มีรายได้รวม 25,453 ล้านดอลลาร์ ลดลง 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ 1,596 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6% ซึ่งเหมือนกับบริษัทที่รายงานมาก่อนหน้านี้ทุกราย โดย HP บอกว่าถ้าไม่คิดความผันผวนของค่าเงิน HP จะมีรายได้ลดลงเพียง 2% เท่านั้น

อย่างไรก็ตามเมื่อดูผลการดำเนินงานตามกลุ่มธุรกิจจะพบว่า กลุ่มสินค้าส่วนบุคคลรายได้ลดลง 5% กลุ่มเครื่องพิมพ์ลดลง 7% กลุ่มลูกค้าองค์กรลดลง 1%

HP ระบุว่ากระบวนการแยกออกเป็นสองบริษัทจะเสร็จสิ้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

เลอโนโวรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัทสิ้นสุดเดือนมีนาคม มีรายได้รวม 11,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเหมือนกับหลายบริษัทที่รายงานมาก่อนหน้านี้ เลอโนโวบอกว่าถ้าไม่คิดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 28% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์ ลดลง 37%

พีซียังเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้เลอโนโว โดยส่งมอบพีซีไป 13.3 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 2.7% มีส่วนแบ่งการตลาด 19.5% ส่วนธุรกิจสมาร์ทโฟน (รวมโมโตโรลา) มียอดส่งมอบ 18.7 ล้านเครื่อง

ค่ายเกมใหญ่ Ubisoft เผยผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2015 (คาบเกี่ยวปี 2014 เกือบทั้งปี) มีประเด็นน่าสนใจดังนี้

Square Enix ประกาศผลประกอบการปี 2014 สิ้นสุดที่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมาก แม้ว่าจะออกเกมบนเครื่องคอนโซลมาเพียงไม่กี่เกม

กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2558 มีรายได้รวม 28,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงานที่เป็นเงินสด (EBITDA) 5,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.1% กำไรจากการดำเนินงานปกติ 603 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุนส่วนนี้ และสุทธิแล้วมีกำไร 1,629 ล้านบาท ลดลง 57.7% เนื่องจากในปี 2557 มีกำไรพิเศษจากกองทุน TRUEIF

สิ่งที่น่าสนใจคือในทุกกลุ่มธุรกิจของทรูล้วนมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งหมด ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก็เพิ่มขึ้นในอัตราส่วนที่น้อยกว่ารายได้ จึงทำให้ภาพรวมออกมาดีขึ้นนั่นเอง

Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปีการเงินบริษัท 2015 สิ้นสุดเดือนเมษายน มีรายได้เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 12,137 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.9% เป็น 2,795 ล้านดอลลาร์

John Chambers ซีอีโอคนปัจจุบันกล่าวว่าผลการดำเนินงานนี้สะท้อนว่าวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ที่ Cisco วางไว้ ให้ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจแม้การแข่งขันในอุตสาหกรรมจะสูง รวมทั้งกล่าวถึง Chuck Robbins ว่าที่ซีอีโอคนต่อไปว่าเขาจะพา Cisco สู่การเดินทางครั้งใหม่ที่ดีแน่นอน

บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 มีรายได้รวม 2,327 ล้านบาท ลดลง 28.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท ลดลงถึง 48.6%

ส่วนธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่รายได้ส่วนนี้คิดเป็น 88% ของรายได้รวม มีรายได้ลดลง 30.3% โดยขายโทรศัพท์ได้ 8.9 แสนเครื่อง ซึ่งบริษัทบอกว่าเป็นเพราะการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

เอไอเอสรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสแรกของปี 2558 มีรายได้รวม 40,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษอยู่ที่ 9,897 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4%

สิ่งที่ช่วยให้รายได้ของเอไอเอสเพิ่มขึ้นมากคือการขายโทรศัพท์มือถือ ที่รายได้ส่วนนี้เพิ่มถึง 47% แม้บริษัทระบุว่า iPhone 6 จะขายได้น้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปีก่อนเพราะสินค้าเริ่มวางขายไปสักระยะแล้ว แต่กลุ่มโทรศัพท์ AIS Lava สามารถขายไปได้ถึง 1.4 ล้านเครื่อง ขณะที่กำไรการขายภาพรวมอยู่ที่ 3.9% ส่วนรายได้จากการให้บริการยังคงเป็นแนวโน้มเดิมคือ รายได้เสียงลดลง 14% รายได้บริการดาต้าเพิ่มขึ้น 25%

นินเทนโดประกาศผลประกอบการประจำปี 2014 (นับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2014 จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2015) ผลออกมาเป็นกำไรครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 แต่ก็ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้พอสมควร

โดยรายได้ทั้งหมดของนินเทนโดประกาศมาที่ 549,780 ล้านเยน ตกลงจากปีก่อน 3.8% แต่กลับมามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 41,843 ล้านเยน โดยที่ไม่มีอะไรเข้าเป้าแม้แต่อย่างเดียวไม่ว่าจะเป็นยอดขายทั้งฝั่งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ รวมถึงเครื่องเกมพกพาตัวใหม่อย่าง New 3DS ก็ไม่ได้ทำยอดขายดีตามที่คาดไว้

Alibaba บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี (นับถึงวันที่ 31 มีนาคม) ทำรายได้เพิ่มขึ้นอีก 45% YoY ไปอยู่ที่ 2,811 ล้านเหรียญ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายโฆษณา

ในส่วนของกำไร ไตรมาสนี้ตกลงมา 49% อยู่ที่ 463 ล้านเหรียญ แต่ Alibaba ระบุว่าเมื่อคิดกำไรแบบปรับปรุง โดยตัดสินค้าบางรายการออกไป กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นราว 16% ด้วยกัน

นอกจากประกาศผลประกอบการแล้ว Alibaba ยังประกาศแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่เป็น Daniel Zhang ที่เคยรับตำแหน่งซีโอโอมาก่อน โดย Jonathan Lu ซีอีโอคนเก่าจะดำรงตำแหน่งในบอร์ดเป็นรองประธาน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เป็นต้นไป

โซนี่ประกาศผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2014 (นับถึง 31 มีนาคม 2015) รายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.8% แต่กำไรจากการดำเนินงาน (operating income) เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว (จาก 26.5 พันล้านเยนเป็น 68.5 พันล้านเยน)

อย่างไรก็ตาม ถ้าคิดกำไรสุทธิ (net income) หักลบหนี้สินต่างๆ แล้ว โซนี่ยังขาดทุนมหาศาลถึง 126 พันล้านเยน แต่บริษัทก็บอกว่าการปรับโครงสร้างองค์กรเริ่มเห็นผล และน่าจะกลับมาทำกำไรสุทธิได้ 140 พันล้านเยนในปีงบประมาณ 2015

ธุรกิจหลักที่ยังทำกำไรให้โซนี่คือธุรกิจการเงิน ส่วนธุรกิจเกม กล้องและเซ็นเซอร์ ระบบความบันเทิงในบ้าน ก็มีกำไรกันถ้วนหน้า แต่ที่อาการหนักคือธุรกิจมือถือที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 11% กลับเปลี่ยนมาขาดทุนถึง 220 พันล้านเยน

HTC รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2015 ทำรายได้รวม 41.5 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ตกลงจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2014 ถึง 25%

สำหรับไตรมาสนี้กำไรของ HTC อยู่ที่ 360 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าเช่นกัน แต่ก็เป็นสัญญาณดีว่า HTC กลับมาทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องแล้ว

สำหรับไตรมาสหน้าจะเป็นบทพิสูจน์ของ HTC ด้วยการรวมยอดขายของทั้ง HTC One M9 และ M9+ เข้ามา โดยทาง HTC คาดว่าจะทำรายได้ราว 46-51 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันครับ

ที่มา - HTC

ซัมซุงประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2015 อย่างเป็นทางการ ซึ่งใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้เมื่อต้นเดือนแต่มีรายละเอียดที่เพิ่มขึ้น โดยมีรายได้รวม 47.12 ล้านล้านวอน ลดลง 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรจากการดำเนินงาน 5.98 ล้านล้านวอน ลดลง 29.6% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.63 ล้านล้านวอน ลดลง 38.8%

ธุรกิจ semiconductor เป็นตัวที่มีกำไรเติบโตดีของซัมซุง โดยมีกำไรส่วนนี้ 2.93 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นถึง 50.2% ขณะที่ธุรกิจโทรศัพท์มือถือกำไรลดลงมากถึง 57.4% อยู่ที่ 2.74 ล้านล้านวอน แต่ก็ถือว่ามีกำไรดีที่สุดในรอบสามไตรมาสล่าสุด ซึ่งซัมซุงบอกว่ามาจากการลดค่าใช้จ่ายการตลาด และเพิ่มสินค้าสมาร์ทโฟนระดับกลาง-ล่าง

Twitter รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2015 โดยเกิดปัญหาเมื่อผลประกอบการหลุดออกมาก่อนปิดตลาดหุ้น ทำให้ Twitter ต้องหยุดการซื้อขายหุ้นชั่วคราว โดยหัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ Twitter ระบุว่าเป็นปัญหาของทาง Nasdaq ผู้ดูแลเว็บไซต์ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ที่ทำให้ข้อมูลหลุดออกมาก่อนเวลา

สำหรับตัวเลขต่างๆ นั้น Twitter มีรายได้ 436 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 74% แต่ต่ำกว่าที่บริษัทเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ และมีกำไรสุทธิ 47 ล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทประเมินว่าการเติบโตตลอดปีจากนี้อาจไม่สูงอย่างที่เคยคาดไว้ โดยล่าสุดมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน 302 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดย 80% เป็นผู้ใช้งานผ่านมือถือเป็นประจำทุกเดือน

แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ประจำปีการเงิน 2015 (มกราคม-มีนาคม) มีรายได้รวม 58,010 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 13,569 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% มีอัตรากำไรขั้นต้น 40.8% และรายได้จากนอกอเมริกาคิดเป็น 69% ของรายได้รวม

ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิลขาย iPhone ไปได้ 61.17 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ประจำไตรมาส ส่วน iPad ยอดขายยังคงลดลงโดยขายได้ 12.62 ล้านเครื่อง ขณะที่ Mac ขายได้ 4.56 ล้านเครื่อง

ซีอีโอทิม คุก กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาถือเป็นสถิติสูงสุดประจำไตรมาสอีกครั้ง จากยอดขาย iPhone, Mac และ App Store ที่เป็นปัจจัยหนุน และยังกล่าวว่าแอปเปิลเห็นการเปลี่ยนมาใช้ iPhone ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้

ดีแทครายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 มีรายได้รวม 22,884 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ที่น่าสนใจคือรายได้จากการให้บริการลดลง 3.5% แต่มีรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นถึง 35% ทำให้ภาพรวมรายได้ยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,292 ล้านบาท ลดลงถึง 31% เนื่องจากกำไรขั้นต้นที่ลดลงมาก จากการขายโทรศัพท์มือถือแบบขาดทุน

รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายหรือ ARPU แบบไม่รวมค่า IC กลับมาลดลงอีกครั้งโดยอยู่ที่ 195 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน โดยรายได้จากบริการเสียงลดลง 18% ขณะที่บริการข้อมูลเพิ่มขึ้น 13% ซึ่งรายได้สองส่วนนี้เริ่มใกล้เคียงกันแล้ว ซึ่งถ้ายังอยู่ในแนวโน้มนี้ไตรมาสถัดไปรายได้จากบริการข้อมูลอาจมากกว่ารายได้จากบริการเสียง

กูเกิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2015 มีรายได้รวม 17,258 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,532 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถ้าอ่านข่าวผลประกอบการช่วงไตรมาสนี้ แทบทุกบริษัทจะบอกว่าได้รับผลกระทบจากค่าเงินกัน ซึ่งกูเกิลก็หนีไม่พ้น โดยซีเอฟโอ Patrick Pichette บอกว่าถ้าไม่คิดผลกระทบจากค่าเงิน บริษัทควรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 17%

กูเกิลไม่ได้เปิดเผยตัวเลขรายได้จาก Play Store ระบุเพียงรายได้ส่วนนี้อยู่ในกลุ่มอื่นๆ ซึ่งคิดเป็น 1,750 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นถึง 23%

อเมซอนรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2015 ยอดขายรวม 22.72 พันล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ผลกำไรในปีที่แล้วกลับมาเป็นขาดทุน 57 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

จุดน่าสนใจที่สุดของรายงานปีนี้ คือ อเมซอนแยกรายได้ Amazon Web Service (AWS) ออกมาให้ดูกันพร้อมกับระบุว่ารายได้ของ AWS สูงถึงปีละ 5 พันล้านดอลลาร์ เฉพาะไตรมาสแรกของปีนี้รายได้สูงถึง 1,566 ล้านดอลลาร์ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 1,050 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรถึง 265 ล้านดอลลาร์ นับเป็นธุรกิจส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดของอเมซอน

ธุรกิจส่วนที่ขาดทุนคือธุรกิจค้าปลีกนอกสหรัฐฯ ที่ขาดทุนไป 76 ล้านดอลลาร์แถมยอดขายลดลงเล็กน้อย

eBay รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4 ของปี 2014 มีรายได้รวม 4,448 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 943 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5%

มีรายการจ่ายเงินผ่าน PayPal ช่วงไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 18% อยู่ที่ 61,000 ล้านดอลลาร์ โดยมาจากร้านค้าต่างๆ เพิ่มขึ้น 26% ขณะที่บน eBay เองกลับลดลง 1%

ทั้งนี้กระบวนการแยกกิจการ eBay และ PayPal เป็นสองบริษัท คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 3 ซึ่งก็น่าสนใจว่าอนาคต eBay ที่ไม่มี PayPal ในมือจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ

Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2015 มีรายได้รวม 3,543 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับรายได้ 2,502 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดียวกันของปี 2014 ซึ่ง Facebook ระบุว่าที่จริงรายได้ควรเพิ่มขึ้น 49% แต่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินต่างประเทศ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,189 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28%

สำหรับตัวเลขผู้ใช้งาน Facebook เป็นประจำทุกเดือน (Monthly active users - MAUs) ล่าสุดอยู่ที่ 1,440 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13% โดยคิดเป็นผู้ใช้งานผ่านมือถือ 1,250 ล้านคน ซึ่งสอดคล้องกับที่บริษัทรายงานว่ารายได้จากโฆษณาถึง 73% มาจากบนมือถือ

ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2015 มีรายได้รวม 19,590 ล้านดอลลาร์ ลดลง 11.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 12 แล้ว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,328 ลดลงเล็กน้อย 2.4%

อย่างไรก็ตามการลดลงของรายได้ไม่ใช่เรื่องผิดคาดนัก เนื่องจากไอบีเอ็มประกาศยุทธศาสตร์มุ่งสู่ธุรกิจใหม่ (บริการกลุ่มเมฆ, Big Data Analytics, บริการบนมือถือ และบริการความปลอดภัย) รวมทั้งลดความสำคัญของธุรกิจเก่า เพียงแต่รายได้ยังไม่ชดเชยกัน โดยกลุ่มธุรกิจใหม่ที่เติบโตอย่างมากคือบริการกลุ่มเมฆ ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 75% และ 60% หากรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน ส่วน Data Analytics เติบโต 20%

เอเอ็มดีรายงานผลกระกอบการไตรมาสแรก รายได้เหลือ 1.03 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 26% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และลดลง 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขาดทุน 137 ล้านดอลลาร์น้อยกว่าไตรมาสที่แล้วที่ขาดทุนถึง 330 ล้านดอลลาร์ เงินสดในมือตอนนี้อยู่ที่ 906 ล้านดอลลาร์ ลดลง 134 ล้านดอลลาร์เทียบกับไตรมาสที่แล้ว

งานนี้เอเอ็มดีประกาศถอนตัวออกจากตลาดเซิร์ฟเวอร์แบบหนาแน่นสูง (high density server) ที่ซื้อกิจการ SeaMicro มาด้วยมูลค่า 334 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2012 ทำให้ต้องตัดขาดทุนไป 75 ล้านดอลลาร์ ตลอดช่วงเวลาที่ SeaMicro เป็นบริษัทลูกของเอเอ็มดีสามารถออกเซิร์ฟเวอร์ได้เพียงรุ่นเดียวคือ SM15000

Netflix รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2015 มีรายได้ 1,573 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นรายได้จากสตรีมมิ่ง 1,400 ล้านดอลลาร์ แยกเป็นในอเมริกา 985 ล้านดอลลาร์ (70%) และต่างประเทศ 415 ล้านดอลลาร์ (30%) มีกำไรขั้นต้น 17.7% และกำไรสุทธิ 24 ล้านดอลลาร์

จำนวนสมาชิกที่เพิ่มมาในไตรมาสนี้เพิ่มสูงกว่าที่บริษัทเคยประเมินไว้ โดยเพิ่มมา 4.9 ล้านราย แบ่งเป็นในอเมริกา 2.3 ล้านราย และต่างประเทศ 1.8 ล้านราย รวมมีสมาชิกทั่วโลก 62.27 ล้านราย ซึ่งเป็นสมาชิกที่จ่ายเงินค่าบริการ 59.62 ล้านราย