เราเพิ่งเห็นข่าว Groupon ถอนตัวใน 7 ประเทศ (รวมไทย) และปลดพนักงาน 1,100 คน ไปเมื่อเดือนกันยายน และสถานการณ์ของบริษัทยังไม่ดีขึ้น แถมเพิ่งเปลี่ยนตัวซีอีโอไปเมื่อต้นเดือนนี้

ล่าสุด Groupon ประกาศปิดสำนักงานในยุโรปตอนเหนืออีก 4 ประเทศ ได้แก่ สวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ เดนมาร์ก ซึ่งสำนักงานบางส่วนมาจากการซื้อกิจการ CityDeals ของกลุ่ม Rocket Internet เมื่อปี 2010 ด้วย

โฆษกของบริษัทระบุว่าเลือกปิดบางสาขาที่ไม่ทำเงิน แต่บริษัทยังให้ความสำคัญกับตลาดนอกสหรัฐเช่นเดิม

Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ขายหรือเจ้าของกิจการมาเปิดร้านของตนเองได้ โดยผู้ขายจะมีหน้าร้านออนไลน์เป็นของตนเองอยู่บน Shopify เลย แต่ขณะนี้ Shopify ได้ก้าวไปอีกขั้นโดยการเปิดตัวแอพใหม่ชื่อ Sello ทำให้การขายง่ายมาก ผู้ใช้เพียงแค่ถ่ายรูปสินค้าที่จะขาย, กำหนดราคา และวิธีจัดส่ง จากนั้นแอพจะแชร์ไป social media ต่างๆ ให้เอง

จากที่เมื่อวาน Alibaba เริ่มโปรโมชันลดราคาวันคนโสดจีนได้เพียง 8 นาที ก็ทำยอดขายไปได้เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้ครบ 24 ชั่วโมงและหมดโปรโมชันแล้ว สามารถทำยอดขายเกินปีที่แล้วไปได้เกือบสองเท่า

Alibaba เปิดเผยว่าเพียง 24 ชั่วโมง ทำยอดขายได้ถึง 91,200 ล้านหยวน หรือ 14,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือแปลงเป็นเงินบาทได้ราว 512,000 ล้านบาทเลยทีเดียว โดยในวันเดียวกันนี้ของปีที่แล้วทำยอดได้เพียง 9,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งสินค้าที่ขายดีได้แก่ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็กทารก, อาหารเสริมต่างๆ, รองเท้า Nike และกางเกงยีนส์ Levi's

วันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปีในจีนแผ่นดินใหญ่จะเรียกวันนี้ว่าวันคนโสด(单身节/光棍节）ซึ่งหนุ่มสาวโสดจะออกไปฉลองวันนี้ด้วยการออกไปปาร์ตี้ ร้องคาราโอเกะและซื้อของเพื่อเป็นของขวัญให้แก่ตัวเอง ในวันนี้จึงเป็นวันที่ร้านค้าออนไลน์มักจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าออกมารองรับกำลังซื้อจำนวนมหาศาลนี้

ธุรกิจขายดีลอยู่ในช่วงขาลงมานาน ล่าสุดเจ้าพ่อค้าปลีกออนไลน์อย่าง Amazon ก็จะเลิกขายดีลบ้างแล้ว

บริการขายดีลของ Amazon ใช้ชื่อว่า Amazon Local เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2011 ในสหรัฐอเมริกา และขยายไปสหราชอาณาจักรในปี 2012 ซึ่งช่วงนั้นธุรกิจขายดีลกำลังเป็นที่นิยม แต่ช่วงหลังก็เงียบๆ ลงไป

ล่าสุด Amazon ได้ประกาศเลิกขายดีลทั้งหมดในวันที่ 18 ธันวาคมนี้แล้ว โดยผู้ที่ซื้อดีลไปก่อนหน้านี้ยังสามารถใช้สิทธิ์ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามปกติ และแอพ Amazon Local ก็จะถูกถอดออกจาก Apple App Store, Google Play Store และ Amazon Appstore ในวันเดียวกัน

ปีที่แล้ว Amazon เปิดตัว Local Register เครื่องรับจ่ายเงินสำหรับธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเป็นคู่แข่งในตลาดเดียวกับ Square และ PayPal

อย่างไรก็ตาม หลังเวลาผ่านมาแค่ 1 ปี Amazon ประกาศปิดบริการตัวนี้แล้ว โดยลูกค้าเก่าจะสามารถใช้งานได้จนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2016 ส่วนเงินที่ค้างในระบบจะโอนให้ลูกค้าภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016 และลูกค้าสามารถดาวน์โหลดประวัติการรับเงินทั้งหมดมาเก็บไว้ได้

บริษัทไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมจึงปิดบริการ แต่บริษัทยังมีธุรกิจการจ่ายเงินออนไลน์ Pay with Amazon อยู่เช่นเดิม

ดูเหมือน Amazon จะใบ้มาล่วงหน้าแล้วว่ากำลังจะขยายธุรกิจอะไรเพิ่มเติม หลังจากในงานสัมมนาสินค้าแฟชัน และขายปลีก WWD Apparel and Retail CEO Summit มีผู้บริหารจาก Amazon อย่าง Jeff Yurcisin ขึ้นไปพูดถึงทิศทางการขายปลีกของ Amazon ในอนาคตว่าอาจทำไลน์สินค้าแฟชันของตัวเองมาขาย

เหตุผลที่ Amazon จะทำสินค้าแฟชันมาขายในแพลตฟอร์มของตัวเองนั้น Yurcisin บอกว่าเพื่อมากลบช่องโหว่ที่ไม่สามารถดึงบางแบรนด์เข้ามาขายใน Amazon ได้เนื่องจากส่วนแบ่งการขายที่น้อยเกินไป แต่ก็ยังมีความต้องการจากผู้ซื้อในสินค้ากลุ่มนั้นอยู่เรื่อยๆ

การทำไลน์สินค้าแฟชันขึ้นมาขายเอง นอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับ Amazon ได้แล้ว ยังสามารถช่วยเรื่องการต่อรองกับบรรดาแบรนด์ต่างๆ ที่ยังไม่ได้ขายกับ Amazon ได้ดีขึ้นอีกด้วย

Amazon มีบริการส่งของสดถึงบ้านโดยตรงชื่อ AmazonFresh อยู่ด้วย ให้บริการเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ เช่น เมืองซีแอตเทิล, ฟิลาเดลเฟีย และนครนิวยอร์ก ลูกค้าสามารถสั่งของสด เช่น ผักผลไม้, เนื้อสัตว์, เบเกอรีต่างๆ ฯลฯ แล้วให้มาส่งที่บ้านได้ภายในวันที่สั่งหรือวันถัดไป โดยมีกำหนดขั้นต่ำในการสั่งซื้อถึงจะส่งฟรี

ล่าสุด Amazon เริ่มเก็บค่าสมาชิกในการใช้บริการนี้แล้ว อยู่ที่ 299 เหรียญต่อปี เงินจำนวน 299 เหรียญนี้เป็นแค่ค่าสมาชิกเพื่อให้มีสิทธิ์ใช้บริการนี้เท่านั้น ลูกค้าต้องสั่งของขั้นต่ำ 50 เหรียญต่อครั้งถึงจะส่งฟรี และค่าบริการนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ Amazon Prime ปีละ 99 เหรียญแต่อย่างใด

หลังจากปล่อยให้ Etsy นำหน้าเรื่องตลาดขายสินค้าทำมือมาพักใหญ่ ยักษ์แห่งอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon ก็เปิดตัว Handmade at Amazon เป็นตลาดขายสินค้าแฮนด์เมดล้วนๆ เช่นกัน

Kaidee.com (ขายดีดอทคอม) ผู้ให้บริการตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์รายใหญ่ของประเทศไทยที่เพิ่งควบรวมกับบริษัทซื้อขายของออนไลน์รายใหญ่อีกเจ้าอย่าง OLX ไปเมื่อปลายปีก่อน วันนี้ชวนสื่อมวลชนเข้าไปเยี่ยมชมสำนักงานแห่งใหม่ พร้อมกับเปิดเผยข้อมูลการให้บริการตลอด 4 ปีให้ชมกันด้วย

สำนักงานใหม่ของขายดีดอทคอมจะตั้งอยู่ที่อาคาร AIA Capital Center ถนนรัชดาภิเษก ภายในออกแบบเป็นสามโซนตามแนวคิด Eat Play Work มีห้องอาหาร พื้นที่พักผ่อน และสำนักงานแบบเปิดเรียงติดกัน ซึ่งทั้งหมดตกแต่งด้วยของมือสองที่ซื้อมาจากตลาดขายดีดอทคอมทั้งสิ้น (ภาพประกอบดูท้ายข่าว) โดยมีบริการ และสวัสดิการให้พนักงานเพื่อเป็นแบบอย่างแก่บริษัทดิจิทัลในประเทศไทย

เมื่อต้นปี Amazon เปิดตัว Dash Button ที่เป็นปุ่มเอาไว้ติดในที่ต่างๆ ของบ้าน เพื่อเอาไว้กดสั่งของใช้ในบ้านเมื่อใกล้จะหมด ตอนนี้มันได้ก้าวไปอีกขั้นแล้ว นั่นคือการให้อุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านสั่งของได้ด้วยตนเอง

วันนี้หลังจากมีประกาศ Groupon ถอนตัวออกจากประเทศไทย ทาง Groupon ก็ยื่นรายงานไปยังคณะกรรมการควบคุมตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ระบุว่ากรรมการบริษัทอนุมัติการปรับโครงสร้าง ลดพนักงานลง 1,100 คน รวมเป็นค่าใช้จ่ายชดเชยทั้งหมด 35 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,260 ล้านบาท

พนักงาน 1,100 คนนั้นส่วนมากเป็นพนักงานนอกสหรัฐฯ สาขาที่ปิดกิจการไปได้แก่ โมรอคโค, ปานามา, ฟิลิปปินส์, เปอร์โตริโก, ไต้หวัน, ไทย, และอุรุกวัย

Groupon รายงานผลประกอบการปีที่แล้วยังมีรายได้รวมสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีค่าใช้จ่ายก็สูงตามจนกระทั่งบริษัทขาดทุนต่อเนื่อง

ลองนึกภาพ จู่ๆ คุณก็อยากทำอาหาร อยากแสดงฝีมือเอาใจเจ้ากวางน้อยกับไม้แขวนเสื้อในมือ ทว่าขี้เกียจออกไปหาวัตถุดิบตามตลาดสด

ตอนนี้โลกเรามีอีคอมเมิร์ซแบบใหม่อย่าง Instacart เป็นระบบรับฝากซื้อของชำ (grocery) ไปส่งถึงบ้านภายในหนึ่งชั่วโมง แถมไม่สดมีคืนเงิน ที่บอกว่าเป็นระบบฝากซื้อเพราะโมเดลนี้ไม่มีสต๊อกของ แล้วเขาบริหารจัดการอย่างไร วันนี้ Blognone มีเรื่องราวของสตาร์ตอัพรายนี้มาฝากกัน

AIS แถลงข่าวประกาศต่อยอดบริการ mPay เดิม โดยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัล ลูกค้าเพียงแค่โหลดแอพ mPay แล้วตั้ง PIN ก็พร้อมใช้งานเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ทันที

จากเดิมที่การใช้บริการ mPay จะถูกจำกัดอยู่เฉพาะลูกค้า AIS แต่ตอนนี้ได้เปิดให้กับทุกคน ผู้ใช้มือถือเครือข่ายใดๆ ก็สามารถใช้งานได้ แค่โหลดแอพก็ใช้ได้ทันที รองรับการผูกกับบัญชีธนาคารได้ 6 ธนาคาร อีกทั้งยังไม่เกี่ยงว่าต้องเป็นคนไทย เพราะลูกค้าชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยก็ใช้ได้ด้วย ส่วนแอพ mPay ถูกอัพเดตให้รองรับ 4 ภาษา ไทย อังกฤษ พม่า และจีน

จากความนิยมของการเลือกซื้อสินค้าในยุคอีคอมเมิร์ซทำให้เริ่มมีผู้ขายสินค้าผ่านช่องทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้แต่โซเชียลเน็ตเวิร์คก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ถูกใช้ในการซื้อขายสินค้าจำนวนมาก แต่ด้วยความที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อด้านนี้โดยเฉพาะ การใช้งานจึงยังติดขัดอยู่ โดยเฉพาะการชำระเงินที่ส่วนมากยังเลือกใช้ระบบโอนเงินซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมาก

เพื่อมาแก้ปัญหานี้ บริษัท เพย์ โซลูชั่น ในเครือของอีฟราสทรัคเจอร์ (กลุ่มบริษัทตลาดดอทคอม) ออกมาเปิดตัวบริการใหม่สำหรับตอบโจทย์อีคอมเมิร์ซยุคปัจจุบันในชื่อ เพย์ โซเชียล (Pay Social) ให้คนขายสามารถสร้างบริการรับชำระเงินออนไลน์ เพื่อไปใช้กับลูกค้าได้ผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค

เมื่อวานนี้ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) จัดงานสัมมนาประจำปี Creative Unfold 2015 โดยหนึ่งในวิทยากรที่เชิญมาคือ Porter Erisman อดีตผู้บริหารของ Alibaba ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีคอมเมิร์ซจีน ที่มาเล่าประวัติศาสตร์เชิงลึกของ Alibaba ในฐานะอดีตพนักงาน

ผมฟังแล้วได้ประโยชน์มาก เลยเก็บเนื้อหา + ถ่ายสไลด์มาเผยแพร่ต่อครับ (รูปเยอะหน่อยนะครับ)

ปีที่แล้ว Amazon เปิดตัวบริการ Prime Now ซึ่งเป็นบริการส่งสินค้าด่วนพิเศษภายใน 1 หรือ 2 ชั่วโมงสำหรับลูกค้า Amazon Prime ที่จ่ายค่าสมาชิกปีละ 99 ดอลลาร์ ล่าสุด Amazon ได้ขยายบริการนี้สู่วงการอาหารโดยการร่วมมือกับร้านอาหารทั่วเมือง Seattle และส่งอาหารถึงบ้านลูกค้าโดยตรง

ร้านอาหารที่เข้าร่วมในตอนนี้จะอยู่ในเมือง Seattle ก่อน เช่น Cactus, Wild Ginger, Skillet และอื่นๆ อีกมาก ผู้ใช้จะต้องใส่รหัสไปรษณีย์ในแอพของ Prime Now เพื่อดูว่าอยู่ในเขตบริการหรือไม่ ถ้าอยู่ก็จะสามารถดูรายชื่อร้านอาหารรวมถึงเมนู และกดสั่งได้ทันที จากนั้น Amazon จะมารับอาหารที่ร้านและส่งให้ถึงบ้านลูกค้าภายใน 1 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถติดตามการส่งได้ด้วย

ดูเหมือน Amazon ยังคงมีแผนปรับปรุงการส่งสินค้าให้รวดเร็วขึ้นด้วยวิธีการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หลังจากเคยมีข่าวว่าจะเปิดบริการใหม่ Prime Now ให้สมาชิก Amazon Prime มีตัวเลือกส่งด่วนหนึ่งชั่วโมงเพิ่มเข้ามา ตอนนี้บริการดังกล่าวกำลังจะกลายเป็นบริการใหม่ที่เรียกว่า Amazon Flex เสียแล้ว

Amezon Flex ตามภาพ และรายละเอียดที่ทาง GeekWire ไปได้มาระบุว่าตั้งอยู่ในอาคารแถบเคิร์กแลนด์ ที่ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ภายในมีป้ายบอกให้รับตั๋วคิวเพื่อรอรับสินค้าที่สั่งเมื่อถึงคิวที่ขึ้นบนหน้าจอ

ยังคงเดินหน้าลุยเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ซื้อง่ายขายคล่องกันมากขึ้นไปอีก โดยคราวนี้อาจจะทำให้ eBay มีหนาวๆ ร้อนๆ บ้างก็ได้ เมื่อ Facebook เปิดให้ทดสอบระบบ Marketplace แล้ว แต่ใช้ได้เฉพาะที่ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และ โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เท่านั้น

เราอาจจะเคยชินกับการค้าขายผ่าน Group กันโดยเมื่อต้นปี Facebook เองก็พึ่งจะเพิ่มฟีเจอร์ให้สามารถใส่ราคาและสถานที่ในโพสต์ที่เราเลือกจะขายสินค้า ซึ่งเจ้าระบบ Marketplace (ที่หน้าตาคล้ายๆ Pinterest) นี้จะมีปุ่ม “Buy & Sell” ที่เมนูด้านซ้ายเพิ่มขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน มีการเพิ่มแบ่งหมวดหมู่ของสินค้า และสามารถค้นหา ของที่ขายอยู่จาก location ของเราได้อีกด้วย

Facebook ยังคงออกเครื่องมือสนับสนุนการค้าขายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Pages Messaging ให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับเจ้าของธุรกิจ (หรือเจ้าของ Facebook Page) ได้รวดเร็วขึ้นผ่านโฆษณาแล้ว

Pages Messaging จะเป็นเมนูใหม่บนโฆษณาโดย Facebook Page ที่นอกจากจะแสดงโฆษณาแล้ว ยังเพิ่มเมนูใหม่เรียกว่า Send Message สำหรับให้ผู้ใช้ติดต่อกับเจ้าของ Facebook Page โดยตรงผ่าน Messenger เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกันอย่างส่วนตัวกว่าการคุยกันในโพสต์โฆษณา เช่นเดียวกัน ฝั่ง admin ของ Facebook Page ก็จะมีปุ่มใหม่สำหรับส่งข้อความหาลูกค้าได้โดยตรงจากหน้าความเห็นแล้ว

ปุ่มติดต่อคนขายจากโฆษณา

Baidu มีชื่อขึ้นมาจากการทำระบบค้นหาในประเทศจีน แต่ล่าสุดทิศทางของบริษัทมุ่งสู่อีคอมเมิร์ซมากขึ้น โดย Robin Li ผู้ก่อตั้งและซีอีโอให้สัมภาษณ์กับ Re/code ว่าแผนการของเขาคือการเชื่อมต่อโลกออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ (Online to Offline หรือ O2O)

Robin บอกว่าบริษัทเปลี่ยนผ่านจากเดสก์ท็อปสู่โมบายล์ได้สำเร็จในปี 2014 แต่เขาพบว่าโลกของโมบายล์ถูกจำกัดด้วย "แอพ" ที่ระบบค้นหาของ Baidu เข้าไปเก็บข้อมูลได้ไม่เยอะเหมือนยุคของเว็บ เขาจึงต้องหาตลาดใหม่ ซึ่งมาจบด้วยการขายบริการที่มีอยู่ในโลกออฟไลน์ เช่น ซื้อตั๋วหนัง ขายสินค้า รวมถึงลงทุนใน Uber

ขณะนี้ Amazon เป็นผู้เล่นอันดับต้นๆ ของธุรกิจร้านค้าปลีกออนไลน์ และสินค้าหลายๆ อย่างก็ถูกกว่าร้านอื่นพอสมควร แต่เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีบริษัทอีคอมเมิร์ซหน้าใหม่ชื่อ Jet เพิ่งเปิดตัว และประกาศจุดยืนชัดว่า "ถูกกว่า Amazon" บริษัทนี้มีจุดที่น่าสนใจหลายอย่าง ดังนี้

จากคำโฆษณา “ข้อเสนอมากกว่า Black Friday” ของ Amazon Prime Day ทำให้มีลูกค้าคาดหวังและสนใจติดตามการลดราคาสินค้าในครั้งนี้

Amazon ออกมาเปิดเผยว่าได้รับคำสั่งซื้อมากกว่าเทศกาล Black Friday ปี 2014 จากการขายประมาณครึ่งวันมียอดสั่งซื้อ Fire TV Sticks 10,000 ชิ้น, บูลเรย์ Lord of the Rings 35,000 ชุด, Amazon Echo 4,000 เครื่องใน 15 นาที, กระเป๋า Kate Spade หมดในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที และดีลอื่นๆ จำนวนมาก ซึ่งทำให้ส่วนแบ่งยอดขายรายวันของ Amazon ในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นเป็น 80% จากปกติที่ 25% และเพิ่มขึ้นเป็น 40% ในยุโรป นอกจากนี้แอพ Amazon บน Google Play และ App Store กระโดดขึ้นมาอยู่ 1 ใน 10 อันดับยอดนิยมเพียงชั่วข้ามคืนจากความสนใจที่ล้นหลาม

หลังการแยก PayPal ออกมา ฝั่ง eBay เองก็รุดหน้าการปรับโครงสร้างองค์กรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่า eBay หาผู้ซื้อกิจการ eBay Enterprise ได้แล้ว โดยเป็นบริษัทลงทุนนอกตลาด Permira ที่เข้าซื้อไปด้วยมูลค่าราว 925 ล้านเหรียญ จะประกาศอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่จะถึงนี้

eBay Enterprise แต่เดิมเรียกว่า GSI Commerce เป็นบริการพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้กับร้านค้ารายใหญ่ ซึ่งซื้อมาตั้งแต่ปี 2011 ด้วยมูลค่ากว่า 2,400 ล้านเหรียญ ซึ่งแม้ว่าธุรกิจนี้จะยังเติบโต แต่ eBay ต้องการปรับองค์กรให้บริหารได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น และมองหาช่องทางขายธุรกิจดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

กูเกิลประกาศโฆษณารูปแบบใหม่ชุดใหญ่สำหรับการช็อปปิ้งบนอุปกรณ์พกพา ที่สำคัญคือเพิ่มฟีเจอร์ Purchases on Google กดซื้อของได้จากหน้าเว็บ-แอพของกูเกิลโดยตรง ไม่ต้องเข้าเว็บหรือแอพของผู้ขายเลยด้วยซ้ำ

ของใหม่อย่างแรกเริ่มจากโฆษณาแบบใหม่บน Google Search เวอร์ชันอุปกรณ์พกพา ถ้าเราค้นหาด้วยคำที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า กูเกิลจะแสดงข้อมูลเบื้องต้นของสินค้านั้นให้ด้วย เช่น สเปกคร่าวๆ, คะแนนรีวิว, สินค้ายอดนิยมในหมวดนั้นๆ