aCommerce บริษัทด้านเทคโนโลยีและโซลูชันด้านอีคอมเมิร์ซ เปิดตัว BrandIQ แพลตฟอร์มในรูปแบบ SaaS (Software as a Service) วิเคราะห์ข้อมูลนักช้อปออนไลน์ เพื่อช่วยให้แบรนด์สินค้าแต่ละรายเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก นำไปต่อยอดสำหรับสร้างกลยุทธ์การขายสินค้าออนไลน์ได้อย่างตรงใจลูกค้า และช่วยเพิ่มยอดขายให้มากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์สำคัญของ BrandIQ ได้แก่ การตรวจสอบสินค้าในสต็อกและยอดขายย้อนหลังได้อย่างน้อย 5-10 ปี, สามารถติดตามสินค้านั้นๆ ได้ว่ามีการจัดส่งรวดเร็วเพียงใด, ลูกค้ามีการพูดถึงสินค้าว่าอย่างไร, มีลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าเดิมซ้ำหรือไม่ รวมไปถึงสามารถวิเคราะห์ยอดขายและ Market Share ของคู่แข่ง เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับแบรนด์สินค้าของเราเองได้ เป็นต้น
JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ประกาศเพิ่มบริการตัวใหม่ ซึ่งต่อยอดจากโครงสร้างพื้นฐานที่บริษัทมีการลงทุนเองมานาน นั่นคือบริการรับขนส่งพัสดุสินค้าทั่วประเทศจีน โดยในเบื้องต้นให้บริการรับพัสดุเฉพาะใน ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว แต่สามารถจัดส่งไปยังปลายทางในจีนได้ทั้งหมด
สิ่งที่ JD.com แตกต่างจากคู่แข่ง คือการลงทุนในซัพพลายเชนของอีคอมเมิร์ซเองทั้งหมด ตั้งแต่คลังสินค้า รถบรรทุก และรถเล็กจัดส่งสินค้า ซึ่ง Zhenhui Wang ซีอีโอ JD.com กล่าวว่าบริษัทจึงสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาต่อยอดเป็นบริการขนส่งสินค้าทั่วไปได้ด้วย ตามกลยุทธ์พัฒนาให้ JD.com เป็นแพลตฟอร์ม Retail-as-a-Service ที่คนทั่วไปสามารถร่วมใช้โครงสร้างพื้นฐานได้
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่เบอร์สองของจีน เตรียมเปิดตัวร้านจำหน่ายสินค้าออนไลน์แฟล็กชิปบนแพลตฟอร์ม Google Shopping ภายในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการบุกตลาดออนไลน์ในอเมริกาเต็มรูปแบบ แถมได้พาร์ทเนอร์ระดับกูเกิลด้วย
ทั้งนี้กูเกิลได้ประกาศลงทุนใน JD.com เป็นเงิน 550 ล้านดอลลาร์ ไปก่อนหน้านี้ โดย JD จะยังคงใช้กลยุทธ์แบบเดียวกับในจีน คือบริหารจัดการคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าเองทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ JD ได้สร้างคลังสินค้าไว้แล้วในอเมริกาหลายแห่ง ทำให้การจำหน่ายสินค้าผ่าน Google Shopping นี้ เป็นการนำสินค้าที่อยู่ในอเมริกามาขายให้คนอเมริกาโดยตรง ไม่เหมือนกับ Alibaba
Facebook เพิ่มฟีเจอร์พลัง AI ใน Marketplace เช่น ถ้าผู้ใช้โพสต์ขายเก้าอี้สำนักงาน ระบบจะแสดงราคาที่เหมาะสมสำหรับเก้าอี้ให้ และจะจัดหมวดเก้าอี้ให้ไปอยู่ในหมวดเฟอร์นิเจอร์อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังทดลองการใช้ภาพหาสินค้า โดยผู้ใช้จะสามารถโพสต์รูปสินค้าที่อยากได้เพื่อให้ Marketplace ช่วยหาสินค้าในบริเวณใกล้เคียงให้ได้ด้วย
Kaidee แพลตฟอร์มซื้อขายของที่มีสินค้าครอบคลุมหลายหมวด ที่มีสินค้ายอดนิยมบนเว็บคือ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ อสังหาริมทรัพย์ ชิ้นส่วนรถยนต์ พระเครื่อง หรือแม้แต่สินค้สเกษตร ปุ๋ย มูลสัตว์ ล่าสุด Kaidee เปิดตัว FarmKaidee เป็นเมนูแยกที่รวมเอาสินค้าเกษตรมาขายโดยเฉพาะ
Tiwa York ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Kaidee บอกว่า บน Kaidee เองก็มีเกษตรกรเข้ามาใช้งานกันอยู่แล้ว เช่น ปีที่ผ่านมา คำค้นหายอดนิยมอันดับที่ 11 คือคำว่ารถไถและก็มีการขายสินค้าเกษตรอยู่แล้ว คนซื้อก็เข้ามา ซื้อของบนแพลตฟอร์มอยู่แล้ว จึงเกิดเป็นความตั้งใจที่จะสร้างตลาดออนไลน์ FarmKaidee ขึ้นมาเพื่อพี่น้อง เกษตรกรไทยโดยเฉพาะ เพื่อให้เกษตรกรไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่อยู่บนออนไลน์ได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาทำการตลาดออนไลน์ที่ยุ่งยาก เพราะ FarmKaidee สามารถตอบโจทย์สิ่งที่ง่ายที่สุดในการซื้อ-ขายได้ นั่นคือ เป็นตลาดกลางที่ให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกัน
Instagram มีความพยายาม(ผลักดันให้แพลตฟอร์มสามารถซื้อขายสินค้ามาระยะหนึ่งแล้ว ล่าสุดก็เป็นไปตามข่าวลือโดย Instagram ประกาศเพิ่มหัวข้อ Shopping ในหน้า Explore แล้ว โดยเริ่มที่อเมริกาก่อน จากนั้นจะทยอยเปิดใช้งานทั่วโลกในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
Instagram บอกว่าเมื่อเข้าไปในหน้า Explore ผู้ใช้งานจะพบกับโพสต์ขายของจากบรรดาแบรนด์ต่าง ๆ รวมทั้งแนะนำแบรนด์ที่น่าสนใจให้ติดตามเพิ่มเติม
ข้อมูลที่น่าสนใจจาก Instagram คือมีบัญชีบนแพลตฟอร์มมากกว่า 90 ล้านบัญชี ที่มีการโพสต์ภาพพร้อมใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวกับการขายสินค้า สะท้อนว่า Instagram เป็นพื้นที่ซึ่งคนนิยมมาเสาะหาและช้อปปิ้งซื้อสินค้ากัน
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ Jet.com น้องใหม่ในวงการที่หวังท้าทาย Amazon โดยดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2015 และเป็นดาวเด่นจนถูก Walmart ซื้อกิจการไปอย่างรวดเร็วในปี 2016 ที่มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
มาวันนี้ Jet.com ได้เปิดตัวหน้าเว็บที่ออกแบบใหม่หมด โดยโฟกัสที่การโชว์สินค้า, ข้อความ หรือรูปภาพต่างๆ ตามเมืองที่ลูกค้าคนนั้นอาศัยอยู่ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนหน้าเว็บตามเวลากลางวัน-กลางคืนด้วย โดยเริ่มที่นครนิวยอร์กก่อน และจะขยายไปเมืองอื่นเรื่อยๆ
มีรายงานข่าวว่า Instagram กำลังพัฒนาแอปแยกออกมาอีกตัว เพื่อเน้นไปที่การช้อปปิ้งซื้อสินค้าใน IG โดยเฉพาะ อาจใช้ชื่อเรียกแอปนี้ว่า IG Shopping โดยสามารถเลือกดูและสั่งซื้อสินค้าได้สะดวกมากขึ้นกว่าบนแอป Instagram แบบเดิม
หลายคนคงทราบอยู่แล้วว่าบน Instagram นั้นเป็นพื้นที่ซื้อขายสินค้าที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง ข้อมูลที่ Facebook บริษัทแม่ของ Instagram เคยเปิดเผยคือมีบัญชีธุรกิจอยู่ 25 ล้านบัญชี, ผู้ใช้งาน Instagram อย่างน้อย 80% มีการกดติดตามบัญชีธุรกิจเหล่านี้ จึงเป็นโอกาสที่ Instagram มาด้านอีคอมเมิร์ซ
Pinduoduo เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มาแรงในจีน ได้ไอพีโอเข้าตลาดหุ้น Nasdaq ไปแล้วเมื่อคืนนี้ หลังจากยื่นไฟลิ่งไปก่อนหน้า โดยได้เงินเพิ่มทุนไป 1,600 ล้านดอลลาร์ ราคาหุ้นในวันแรกปรับเพิ่มขึ้นถึง 36% ทำให้มีมูลค่ากิจการราว 24,000 ล้านดอลลาร์
ที่น่าสนใจคือ Pinduoduo ก่อตั้งเมื่อปี 2015 เท่ากับมีอายุกิจการเพียง 3 ปีเท่านั้น สื่อต่างประเทศใช้คำอธิบาย Pinduoduo ว่าเป็น Groupon ของจีน และถือเป็นคู่แข่งที่มาแย่งตลาดจาก Alibaba ไปได้พอสมควร ล่าสุดมีส่วนแบ่งในอีคอมเมิร์ซจีน 5.2% มีผู้ใช้งาน 343.6 ล้านคน และมีผู้เข้ามาซื้อสินค้าประจำทุกวันถึง 56 ล้านคน
Amazon รายงานยอดการซื้อสินค้าในช่วง Prime Day ว่าสถิติของปีนี้มีผู้สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทั้งหมดกว่า 100 ล้านชิ้นทั่วโลก แม้ว่าจะมีปัญหาเข้าใช้งานไม่ได้เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเนื่องจากทราฟฟิกผู้เข้าใช้ที่มีจำนวนมหาศาล โดยเทศกาลลดราคาสินค้าของ Amazon นี้เริ่มในวันที่ 16 กรกฎาคม และมีระยะเวลาทั้งสิ้น 36 ชั่วโมง
ในรายงานของ Amazon เผยว่าทางบริษัทมียอดขายสินค้าตระกูล Echo ต่อวันได้สูงที่สุดหลังมีการลดกระหน่ำให้ลูกค้าในช่วง Prime Day ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของ Amazon นั้นมี Fire TV Stick พร้อม Alexa Voice Remote และ Echo Dot
Walnut Street Group บริษัทเจ้าของ Pinduoduo ผู้ให้บริการออนไลน์จากจีนเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ระดมทุน 1,630 ล้านดอลลาร์ โดยการขาย ADS (American Depositary Share) ทั้งหมด 85.6 ล้านหน่วย โดยคิดราคาหน่วยละ 16-19 ดอลลาร์
สำนักข่าว Bloomberg รายงานพิเศษ เกี่ยวกับเทคโนโลยีการขนส่งสินค้าด้วยโดรน ซึ่งตอนนี้ประเทศจีนมีความล้ำหน้ากว่าประเทศอื่นมาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการทดสอบ
โดย JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่เบอร์สองของจีน ซึ่งที่ผ่านมาโฟกัสการพัฒนาเทคโนโลยีขนส่งสินค้าด้วยโดรนมาตลอด เผยว่าปัญหาใหญ่ในการขนส่งสินค้าของจีน คือการมีพื้นที่กว้างมาก และมีพื้นที่ห่างไกลหลายจุด ประเมินว่ามีประชากรจีนอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลแบบนี้กว่า 570 ล้านคน
DHL eCommerce เปิดบริการ DHL Parcel Metro รับส่งพัสดุได้ภายในวันเดียว เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล 3 จังหวัดคือ นนทบุรี, สมุทรปราการ, ปทุมธานี ตรวจสอบสถานะการส่งของแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชั่น โดยจะแสดงหน้าจอเป็นแผนที่คล้ายเวลาเรียกรถ Uber
บริการ DHL Parcel Metro จำกัดน้ำหนักพัสดุไม่เกิน 20 กิโลกรัม และสามารถเรียกเก็บเงินค่าสินค้าปลายทางได้ โดยราคาค่าจัดส่งเริ่มต้นที่ 100 บาท และจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ตามน้ำหนัก และระยะทางในการจัดส่ง
Alibaba ประกาศว่าบริษัทได้เข้าถือหุ้นใน Trendyol หนึ่งในอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของตุรกี ด้วยมูลค่าที่ไม่เปิดเผย ซึ่งดีลนี้เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ซึ่ง Alibaba จะเข้ามาช่วยเรื่องเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
Trendyol เป็นอีคอมเมิร์ซที่ก่อตั้งในปี 2010 มีผู้ใช้งานราว 16 ล้านคน ข้อมูลที่น่าสนใจคือตลาดอีคอมเมิร์ซในตุรกีนั้นมีมูลค่าราว 9.19 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเพียง 3.5% ของตลาดค้าปลีกรวมในประเทศ Alibaba จึงมองว่ามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
ในดีลนี้ Trendyol ยังมองว่าเป็นโอกาสของผู้ผลิตสินค้าในประเทศ ที่จะได้ส่งออกสินค้าเมดอินตุรกีออกสู่ตลาดโลกด้วย
ที่มา: Alizila
PayPal เผยโฉม PayPal Checkout โซลูชันหน้าชำระเงิน Smart Payment Button ใหม่ที่เพิ่มตัวเลือกให้ร้านค้าหรือเว็บอีคอมเมิร์ซ สามารถเพิ่มช่องทางชำระเงินสำหรับลูกค้าให้แตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ (country-specific option) คู่ไปกับปุ่มชำระเงินของ PayPal
โซลูชันใหม่มาพร้อมกับระบบ One Touch ลูกค้าแค่ล็อกอินช่องทางชำระเงินครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น โดยตอนนี้ PayPal เริ่มดีลกับผู้ให้บริการเพย์เมนท์เกตเวย์หลายๆ เจ้าในยุโรปก่อน
ที่มา - PayPal via TechCrunch
K PLUS ออกฟีเจอร์ใหม่ Pay with K PLUS จ่ายเงินซื้อของผ่านแชท Facebook ได้ไม่ต้องสลับหน้าจอ ไม่ต้องขอเลขบัญชี ทำให้การซื้อทุกขั้นตอนจบในหน้าจอเดียว
หนึ่งใน pain point ของลูกค้าเวลาซื้อของออนไลน์คือ ต้องขอเบอร์บัญชีแล้วสลับหน้าจอไปที่แอปโมบายแบงกิ้งเวลาจะจ่ายเงิน และร้านค้าเองก็ต้องคอยส่งเลขบัญชีของตัวเองเพื่อบอกลูกค้าทุกครั้ง ล่าสุด K PLUS ทำให้การซื้อของง่ายและไร้รอยต่อมากขึ้นโดยออกฟีเจอร์ Pay with K PLUS เมื่อลูกค้าตกลงจะซื้อของใน Facebook Messenger ที่แชทคุยกับแม่ค้า จะเห็นปุ่ม Pay with K PLUS ปรากฏขึ้นมาพร้อมๆ กับทางเลือกการจ่ายในรูปแบบอื่น ช่วยให้สามารถจ่ายได้ในขั้นตอนนั้นเลย โดยไม่ต้องสลับหน้าจอไปมา และไม่ต้องคอยถามเบอร์บัญชีร้านค้า
Mercari แอพซื้อขายสินค้ามือสองแบบ C2C ของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นรายแรกในประเทศ (มูลค่ากิจการเกิน 1 พันล้านดอลลาร์) ได้นำบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหุ้นโตเกียววันนี้เป็นวันแรก และประสบความสำเร็จอย่างดี ราคาหุ้นวันแรกปิดโดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 77% มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นถึง 7,400 ล้านดอลลาร์
ไอพีโอของ Mercari ยังถือเป็นไอพีโอที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นนับตั้งแต่ต้นปีมานี้ โดยมีการขายหุ้นเพิ่มทุนไปราว 1,200 ล้านดอลลาร์ จุดเด่นของแอพในการขายสินค้ามือสองคือการโฟกัสที่แอพบนมือถือ ซึ่งทำได้ดีกว่าคู่แข่งรายอื่นในญี่ปุ่น
JD.com อีคอมเมิร์ซเบอร์สองของจีน และกูเกิล ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ โดยกูเกิลจะลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ JD.com ด้วยเงิน 550 ล้านดอลลาร์ (18,000 ล้านบาท) คิดเป็นจำนวนรวม 27.1 ล้านหุ้น ซึ่งความร่วมมือจากทั้งสองบริษัทนั้น มีทั้งการร่วมกันพัฒนาโซลูชันของธุรกิจค้าปลีกเน้นเจาะตลาดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, อเมริกา และยุโรป ซึ่ง JD.com จะช่วยด้านขนส่งและซัพพลายเชน ส่วนกูเกิลจะเป็นด้านเทคโนโลยี
ในความร่วมมือนี้ JD.com ยังบอกว่าจะคัดเลือกสินค้าคุณภาพสูงหลายรายการ เพื่อจำหน่ายผ่านช่องทาง Google Shopping ในบางประเทศด้วย
Instagram ประกาศเพิ่มคุณสมบัติการใส่ลิงก์เพื่อซื้อสินค้า จากเดิมมีเฉพาะในโพสต์ มาสู่ใน Stories โดยโพสต์ที่มีลิงก์ดังกล่าว จะแสดงภาพถุงช้อปปิ้ง เพื่อให้ผู้ชมกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม
แบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการนี้ในช่วงต้นที่ Instagram ระบุถึงมีทั้ง Adidas, Aritzia และ Louis Vuitton เบื้องต้นการเพิ่มลิงก์ซื้อของทำได้เฉพาะบัญชี Business เท่านั้น และลิงก์ต้องไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นโดยตรง
Instagram บอกว่าผู้ใช้ Stories มีมากกว่า 300 ล้านคน ในแต่ละวัน และผู้ใช้กลุ่มนี้ก็เป็นคนที่ชอบตามเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ จึงเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับแบรนด์ในการนำเสนอสินค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
Alibaba ประกาศเข้าถือหุ้น 10% ใน Babytree แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนที่เน้นสินค้ากลุ่มแม่และเด็ก ทำให้มูลค่ากิจการของ Babytree อยู่ที่ 14,000 ล้านหยวน หรือราว 70,000 ล้านบาท โดยทั้ง Alibaba และ Babytree จะขยายความร่วมมือกัน ทั้งในแง่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ, โฆษณา, ดูแลลูกค้า ตลอดจนองค์ความรู้ต่าง ๆ
Babytree ก่อตั้งเมื่อปี 2007 เน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวคนรุ่นใหม่ โดยมีสินค้าและบริการที่ครบสำหรับครอบครัว ซึ่งรวมถึง บริการด้านสุขภาพและการศึกษา นอกจากนี้ Babytree ยังเป็นพอร์ทัลสำหรับให้พ่อแม่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการเลี้ยงลูกอีกด้วย
ดีลนี้ทำให้เห็นว่ายังมีพื้นที่อีคอมเมิร์ซอีกหลายอย่างในจีนที่ Alibaba สามารถเข้าไปร่วมมือได้อีก
Alibaba เปิดตัวอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าใหม่สองอย่าง คือหุ่นยนต์อัตโนมัติสำหรับส่งสินค้า G Plus และกล่องสำหรับรับสินค้า Cainiao
สำหรับตัวหุ่นยนต์ G Plus นั้นเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถขนสิ่งของได้หลายชิ้นหลายขนาด เดินทางไปได้ไกลกว่ารุ่นเดิม ตัวกล่องโหลดสินค้าสามารถเปลี่ยนขนาดได้ตามขนาดของกล่องสินค้าที่จะนำไปส่ง และสามารถส่งอาหารสดได้ด้วย
อาลีบาบาเข้าถือหุ้น 10% ใน ZTO Express ผู้ให้บริการส่งสินค้ารายใหญ่ของจีนด้วยมูลค่า 1.38 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นการเพิ่มความสามารถการส่งสินค้าทั่วโลกของอาลีบาบา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการขนส่งสินค้าของจีนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเติบโตของช็อปปิ้งออนไลน์ และตัวผู้บริโภคเองต้องการการจัดส่งที่รวดเร็วและเชื่อถือได้มากขึ้น อาลีบาบาและคู่แข่ง JD.com ต่างก็ต้องเร่งสร้างเครือข่ายการขนส่งสินค้าด้วย
ZTO Express เป็นพันธมิตรกับอาลีบาบามาก่อนแล้ว เข้าตลาดหุ้น IPO ในปี 2016 อย่างไรก็ตาม ทั้งอาลีบาบาและ ZTO Express ยังไม่ได้ระบุโครงการที่จะทำร่วมกัน
อินโดนีเซียเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ท้าทายของวงการอีคอมเมิร์ซอย่างยิ่ง เพราะเป็นประเทศหมู่เกาะ และมีปัญหาการจราจรติดขัด แต่ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคที่เปลี่ยนผันจากการซื้อของออฟไลน์มายังออนไลน์ก็มากขึ้นเช่นกัน เป็นที่ดึงดูดใจของบริษัทอีคอมเมิร์ซทั้งหลาย
Adobe ประกาศซื้อกิจการ Magento Commerce บริษัทผู้พัฒนา CMS ด้านอีคอมเมิร์ซชื่อดัง ด้วยมูลค่า 1.68 พันล้านดอลลาร์
เป้าหมายของ Adobe คือผนวก Magento เข้ามาอยู่ใต้ร่ม Adobe Experience Cloud (ชื่อเดิมคือ Adobe Marketing Cloud) หนึ่งในสามบริการหลักของบริษัท นอกเหนือจาก Creative Cloud และ Document Cloud
Magento เป็น CMS สำหรับสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแบบโอเพนซอร์ส พัฒนาด้วยภาษา PHP และได้รับความนิยมอย่างสูง มีชุมชนนักพัฒนาขนาดใหญ่กว่า 300,000 ราย บริษัทก่อตั้งในปี 2007 และถูก eBay ซื้อกิจการในปี 2011 ก่อนแยกตัวออกมาเป็นบริษัทอิสระในปี 2015 และมาถูก Adobe ซื้ออีกรอบในปีนี้
Walmart เครือข่ายร้านค้าปลีกรายใหญ่ของอเมริกา ประกาศเข้าซื้อหุ้น 77% ใน Flipkart อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของอินเดีย โดยดีลมีมูลค่าราว 16,000 ล้านดอลลาร์ (5.1 แสนล้านบาท) โดยหุ้นส่วนที่เหลือ มีผู้ถือหุ้นรายสำคัญ อาทิ Binny Bansal ผู้ก่อตั้ง, Tencent, Tiger Global Management และไมโครซอฟท์
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Walmart และ Amazon ต่างสนใจเข้าซื้อหุ้นของ Flipkart
Doug McMillon ซีอีโอ Walmart กล่าวว่าอินเดียเป็นตลาดค้าปลีกที่น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งขนาดและอัตราการเติบโต จึงเป็นโอกาสที่น่าลงทุนสำหรับ Walmart โดยจะร่วมมือกับ Flipkart ทั้งในด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี