Instagram ออกแอพตัวใหม่ชื่อ Hyperlapse เพื่อช่วยให้กล้องมือถือสามารถถ่ายวิดีโอแบบบีบเวลา (time lapse) ได้ง่ายๆ

Instagram บอกว่าออกแบบ Hyperlapse ให้ใช้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ เปิดแอพมาถ่ายได้เลย กระบวนการคือถ่ายวิดีโอตามปกติก่อน แล้วค่อยเลือกความเร็วของวิดีโอผลลัพธ์ (ตั้งค่าได้เร็วสุด 12 เท่าจากปกติ) จากนั้นจึงบันทึกวิดีโอและแชร์ผ่าน Instagram ในภายหลัง

Hyperlapse มีตัวช่วยกันสั่น (stabilizer) ในตัว ช่วยให้ภาพที่ถ่ายคนละช็อตกัน สามารถต่อกันได้สวยงามขึ้น ซึ่งเป็นฟีเจอร์ระดับเดียวกับกล้องราคาแพงที่ออกแบบมาสำหรับงานแบบนี้

ไม่เพียงแต่ฝั่ง Disney ที่มีผลงานวิจัยด้านซอฟต์แวร์ช่วยตัดต่อคลิปวิดีโอให้ง่ายยิ่งขึ้น ทีม Microsoft Research เองก็มีผลงานซอฟต์แวร์ที่จะช่วยแก้ไขคลิปวิดีโอให้ดูดีขึ้นด้วยเช่นกัน โดยผลงานของ Microsoft นี้มีชื่อว่า Hyperlapse ซึ่งถูกพัฒนามาเพื่อปรับปรุงคลิปวิดีโอที่ได้จากกล้องประเภท action camera โดยเฉพาะ

Disney Research ได้เผยแพร่ผลงานการวิจัยใหม่ ว่าด้วยเรื่องของซอฟต์แวร์ที่ช่วยตัดต่อคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายจากกล้องหลายตัวเข้าเป็นคลิปเดียวกัน

ซอฟต์แวร์ที่ Disney Research พัฒนาขึ้นมานี้ สามารถนำคลิปจากกล้องหลายตัวที่บันทึกภาพเหตุการณ์เดียวกันจากหลายมุมมองเข้าเป็นคลิปเดียวกัน โดยมันจะเลือกเอาภาพที่ดีจากกล้องแต่ละตัวในแต่ละขณะมาประกอบกัน ทั้งยังสามารถตัดภาพแบบซูมเจาะเฉพาะส่วนที่สำคัญในแต่ละขณะได้ด้วย

ไมโครซอฟท์ โมบาย (เดิมคือโนเกียฝั่งธุรกิจมือถือและบริการ) ปล่อยแอพตัดต่อวิดีโอ Video Tuner สำหรับ Windows Phone 8.1 แล้ว

แอพนี้ใช้ SDK ที่ไมโครซอฟท์ โมบายแจกให้ทุกคนใช้ฟรี Imaging SDK 1.2 รองรับการตัดต่อ ปรับแสงสีอย่างค่าการเปิดรับแสงของกล้องและความอิ่มตัวของสี ใส่ฟิลเตอร์และเอฟเฟคต์ ปรับเสียงของวิดีโอและเพิ่มไฟล์เสียงประกอบ และแบ่งปันคลิปที่เสร็จแล้วไปยัง OneDrive หรือเว็บไซต์สังคมออนไลน์ได้ทันที หรือบันทึกเป็นไฟล์สำหรับอัพโหลดขึ้น Instagram หรือ Vine ได้ (แอพไม่รองรับการโพสต์ขึ้นสองเว็บไซต์ดังกล่าวโดยตรง) เป็นต้น ข้อดีคือผู้ใช้สามารถปรับแต่งขณะรับชมวิดีโอและเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที

Adobe เปิดตัวแอพ Adobe Voice ไว้ใช้งานบน iPad เพื่อสร้างวิดีโอเล่าเรื่องราวแบบง่ายๆ

ตัวแอพมีเครื่องมือสำเร็จรูปให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปวิดีโอได้โดยง่าย ผู้ใช้เพียงเลือกโครงแม่แบบสำเร็จรูปที่ Adobe Voice มีเตรียมไว้ให้หลายรูปแบบ เพื่อใช้เป็นแกนหลักในการสร้างวิดีโอ จากนั้นก็สามารถเลือกรูปภาพที่มีอยู่ในแอพมากกว่า 25,000 ภาพ หรือเลือกดาวน์โหลดภาพจากอินเทอร์เน็ตมาใส่ในวิดีโอได้ ส่วนเรื่องของเสียง ผู้ใช้สามารถเลือกดึงไฟล์เพลงใน iPad มาใส่ได้ทันที หรือจะเลือกอัดเสียงตนเองลงไปประกอบคลิปแทนก็ได้

พร้อมๆ กับการเปิดตัว Mac Pro อันลือลั่นก็มีข่าวเงียบๆ ว่าแอปเปิลเตรียมออก Final Cut Pro X โปรแกรมตัดต่อวิดีโอมืออาชีพเวอร์ชันใหม่มาพร้อมๆ กันด้วย

Final Cut Pro X ใหม่จะมีประสิทธิภาพสมน้ำสมเนื้อกับ Mac Pro นั่นหมายความว่าจะรองรับการทำงานบนความละเอียด 4K ได้ และอาจจะมีการปรับเพิ่มฟีเจอร์ ส่วนติดต่อการใช้งาน หลังจากมีปัญหาในเวอร์ชันปัจจุบันจนท้ายที่สุดแอปเปิลถึงกับยอมคืนเงิน และเอาเวอร์ชันเก่ากลับมาขายอีกครั้งจนได้

เวลาวางขายเป็นช่วงปลายปีนี้ครับ

YouTube เพิ่มเครื่องมือแก้ไขวิดีโอใหม่ ให้ผู้ใช้ปรับความเร็วของคลิปวิดีโอเป็นแบบ slow motion ได้

โดยทั่วไปแล้ว การบันทึกภาพเคลื่อนไหวเพื่อให้แสดงผลแบบ slow motion นั้น จำเป็นต้องใช้กล้องบันทึกภาพความเร็วสูง ที่มีจำนวนเฟรมต่อวินาทีสูงกว่ากล้องบันทึกภาพทั่วไป แต่เครื่องมือแก้ไขวิดีโอของ YouTube นี้สามารถปรับแก้ไขไฟล์คลิปวิดีโอที่บันทึกด้วยกล้องทั่วไปให้เล่นแบบ slow motion ได้เช่นกัน (แม้คุณภาพจะด้อยกว่าคลิปที่ถ่ายด้วยกล้องความเร็วสูงอยู่บ้างก็ตาม)

สามารถดูคลิปวิดีโอเปรียบเทียบกันระหว่างแบบที่เล่นด้วยความเร็วปกติ และแบบที่ใช้เครื่องมือปรับให้เล่นแบบ slow motion (ด้วยความเร็ว 1/8 ของการเล่นปกติ) ได้ท้ายข่าว

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอสำหรับมืออาชีพ Lightworks ที่เคยประกาศโอเพนซอร์สและทำเวอร์ชันลินุกซ์ตั้งแต่ปี 2010 แล้วเงียบหายไปนาน ออกรุ่น Public Beta เรียบร้อยแล้ว

Lightworks เป็นผลงานของบริษัท Editshare เดิมทีมีเฉพาะบนวินโดวส์เท่านั้น แต่ภายหลังก็แยกเป็นรุ่นโอเพนซอร์สและรุ่นเสียเงินที่มีฟีเจอร์เพิ่มเติม

YouTube อัพเดตฟีเจอร์สำหรับตัดต่อวิดีโอผ่านหน้าเว็บอีกระลอก ครั้งนี้สามารถพรีวิววิดีโอที่ตัดต่อไปได้แบบเรียลไทม์ (แบ่งเป็นสองจอซ้ายขวา) และสามารถแสดงผลฟิลเตอร์ที่ใช้บนวิดีโอได้ทันทีแล้ว นอกจากนี้ยังปรับอินเทอร์เฟซในหน้า Enchancements ใหม่ด้วย

ใครที่อยากเห็นหน้าตาแบบใหม่เข้าไปดูได้ที่ Video Manager > Edit > Enchancements หรือดูจากภาพท้ายข่าวก็ได้ครับ

ที่มา - Official YouTube blog

เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ติดตามเกมจาก Valve คงจะเคยสงสัยว่า Valve ใช้ซอฟท์แวร์อะไรบ้างในการสร้างหนังสั้นหรือเทรลเลอร์ต่าง ๆ ของตนเอง แม้ว่าจะพอคาดเดาได้ว่าทาง Valve คงมีโปรแกรมที่ทำขึ้นมาเองแน่ ๆ แต่ก็ไม่เคยมีใครได้เห็นตัวจริง ในวันนี้เอง Valve ก็ได้เปิดตัว Source Filmmaker โปรแกรมสร้างภาพยนตร์ที่ใช้ Source Engine เป็นฐานให้บุคคลทั่วไปได้ลองใช้สักที

YouTube ยังคงเพิ่มฟีเจอร์สำหรับตัดต่อวิดีโออย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้อัพเดตระบบแต่งเสียงในวิดีโอจากเดิมที่ใช้ชื่อว่า AudioSwap เปลี่ยนเป็น YouTube Audio Editing โดยปรับปรุงอินเทอร์เฟซให้ใช้ง่ายขึ้น และมีฟีเจอร์ดังนี้

• มีดนตรีกว่า 150,000 บทให้เลือกใส่ในวิดีโอแบบฟรีๆ
• เลือกเพลงที่มีความยาวใกล้เคียงกับวิดีโอได้
• สามารถปรับระดับความดังของเพลงได้

การเข้าไปปรับแต่งเสียง สามารถเข้าไปได้ที่ Video Manager > Edit > Enhancements > Audio

ที่มา - The Official YouTube Partners & Creators Blog

ใครที่อัพวิดีโอลง YouTube บ่อยๆ คงทราบดีว่า YouTube Video Editor นั้นใช้งานได้ดีมาก และล่าสุดก็เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานเข้าไปอีกสองอย่างที่ช่วยลดการสั่นของกล้อง และปรับแสงให้ดีขึ้น

ทั้งสองฟังก์ชันนี้ทำงานแบบอัตโนมัติเมื่ออัพโหลดวิดีโอขึ้นไปบน YouTube โดยจะมีซอฟต์แวร์ประเมินว่าวิดีโอที่อัพขึ้นไปมีจุดให้แก้ไขอะไรได้บ้าง และแสดงหน้าต่างตัวเลือกมาดังนี้

ในส่วนของการแก้การสั่นเวลาถ่ายวิดีโอ YouTube ได้โชว์ตัวอย่างคลิปมาหนึ่งชุด ต้องลองไปชมกันเองว่าแก้ได้ดีแค่ไหน

คลิปปกติ

YouTube เคยเพิ่มฟีเจอร์ "ปรับวิดีโอไม่ให้สั่น" มาตั้งแต่ปีที่แล้ว และก็

ถึงแม้จะไม่ใช่โปรแกรมตัดต่อวิดีโอตัวแรกบน iPad แต่เมื่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการตัดต่อวิดีโออย่าง Avid ขยับ ทุกสายตาก็ต้องหันมาจับตา

แอพตัดต่อวิดีโอตัวนี้มีชื่อว่า Avid Studio ขายในราคา 4.99 ดอลลาร์ จุดเด่นของมัน (ตามที่ Avid กล่าวอ้าง) คืออัดฟีเจอร์ระดับโปรมาอยู่ในแอพที่ผู้ใช้หน้าใหม่ก็ใช้งานได้ง่าย มีฟีเจอร์ระดับสูงทั้ง storyboard, timeline, การตัดต่อแบบ frame-by-frame, รองรับ audio หลายแทร็ค และที่สำคัญคือสามารถ export วิดีโอไปยัง Avid Studio บนพีซีได้

ตามข่าวบอกว่าช่วงนี้แนะนำ Avid เลยตั้งราคาที่ 4.99 ดอลลาร์ แต่ในไม่ช้าจะปรับราคาขึ้นเป็นราคาเต็ม 7.99 ดอลลาร์

YouTube มีซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอแบบง่ายๆ ชื่อ YouTube Video Editor มาสักระยะหนึ่งแล้ว เดิมทีมันมีความสามารถจำกัดจริงๆ แค่นำวิดีโอมาต่อกันแล้วใส่เพลงอื่น, ตัดวิดีโอออกบางส่วน (trim), กลับวิดีโอแนวตั้ง-แนวนอน (rotate) เท่านั้น

แต่ช่วงหลัง YouTube ค่อยๆ เพิ่มฟีเจอร์ให้ Video Editor อย่างการปรับความสว่างของวิดีโอและการใส่เอฟเฟคต์ขาวดำ ฟีเจอร์ล่าสุด "stabilizer" น่าสนใจมากเพราะ Video Editor สามารถแก้ไขวิดีโอที่ถ่ายแล้วสั่นจากการเคลื่อนไหวของผู้ถ่าย ให้ดูนิ่งราวกับถ่ายจากกล้องบนรางของมืออาชีพ (ดูวิดีโอประกอบ)

YouTube เพิ่มฟีเจอร์ตัดต่อวิดีโอบนหน้าเว็บแล้ว (เข้าไปลองได้ที่ YouTube Video Editor) แม้ว่ามันจะไม่มีความสามารถถึงขนาด Final Cut Pro แต่ฟีเจอร์พื้นฐานที่คนใช้กันเยอะๆ อย่างการตัดบางส่วนของวิดีโอออก แล้วนำไปต่อกับวิดีโออื่นๆ ย่อมทำได้สบาย

YouTube Video Editor เปิดให้เราแก้ไขวิดีโอของเราเองเท่านั้น (เพื่อป้องกันปัญหาลิขสิทธิ์) นอกจากนี้ยังสามารถใส่เพลงเข้าไปในวิดีโอได้ โดย YouTube มีเพลงเตรียมไว้รอแล้วเป็นจำนวนไม่น้อย (ยังอัพเพลงเองไม่ได้)

ที่มา - CNET

บริษัท EditShare เจ้าของโปรแกรมด้านวิดีโอและการเก็บข้อมูลหลายตัว ได้ประกาศโอเพนซอร์สโปรแกรมตัดต่อภาพยนตร์ระดับสูง Lightworks เรียบร้อยแล้ว

จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของ EditShare ระบุว่า Lightworks ใช้ตัดต่อภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง เช่น The Departed, Braveheart, 28 Days Later และ Notting Hill

Lightworks รุ่นโอเพนซอร์สจะเปิดให้ดาวน์โหลดภายในไตรมาสที่สามของปีนี้ เท่าที่เช็คข้อมูลจาก Wikipedia มันทำงานได้บนสามแพลตฟอร์มหลักครับ