ช่วงที่ทีวีความละเอียด 4K ถูกเปิดตัวใหม่ๆ หลายคนคงรู้สึกว่าจะซื้อไปทำไมเพราะไม่มีคอนเทนท์ดู ซึ่งปรากฎการณ์นี้ก็สะท้อนออกมาในแง่ยอดขายที่ว่าช่วงปีแรกที่ทีวี 4K เปิดตัว อัตราการเติบโตของยอดขายของซัมซุงจะมีเพียง 3% แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาที่คอนเทนท์ 4K แพร่หลาย อัตราการเติบโตของยอดขายทีวี 4K ก็เพิ่มขึ้นที่ 40-50% ต่อปี

ตอนนี้เราอาจกำลังเจอกับคำถามเดียวกันอีกครั้ง เมื่อผู้ผลิตทีวีหลายๆ เจ้าเริ่มเปิดตัวทีวีความละเอียดระดับ 8K กันแล้ว ทว่าซัมซุงค่อนข้างเตรียมพร้อมในเรื่องนี้ เพราะทีวี QLED 8K ของซัมซุงมาพร้อมกับฟีเจอร์ AI Upscaling ที่ให้ AI ในเครื่องช่วยปรับความละเอียดของภาพให้เหมาะสมกับทีวี 8K ซึ่งรองรับตั้งแต่ไฟล์ระดับ SD ด้วยซ้ำไป ซึ่งวันจันทร์ที่ผ่านมาซัมซุงจัดงาน Samsung Forum 2019 และมีพูดถึงเรื่องนี้ เลยขอนำมาเขียนถึงหน่อยครับ

ซัมซุงออกประกาศชี้แจงนักลงทุนล่วงหน้าเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของปี 2019 ซึ่งถึงตอนนี้ยังไม่สิ้นสุดไตรมาส โดยบอกว่าธุรกิจชิปหน่วยความจำได้รับผลกระทบจากราคาที่ปรับลดลงสูงกว่าที่บริษัทเคยคาดไว้

นอกจากธุรกิจชิปหน่วยความจำ ซัมซุงบอกว่าธุรกิจชิ้นส่วนหน้าจอก็มีความต้องการในตลาดต่ำกว่าที่ประเมินไว้เช่นกัน โดยให้เหตุผลจากภาพรวมเศรษฐกิจโลก ตลอดจนลูกค้าหลายรายชะลอคำสั่งซื้อ

ในช่วงปีที่ผ่านมาธุรกิจของซัมซุงมีกำไรสูงจากธุรกิจชิปหน่วยความจำ แต่เริ่มเห็นแนวโน้มชะลอตัวในไตรมาส 4/2018 นักวิเคราะห์ประเมินว่ายอดขาย iPhone ที่ลดลงในไตรมาสที่ผ่านมา ย่อมส่งผลกระทบต่อซัมซุงที่มีแอปเปิลเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่เช่นกัน

Galaxy Note FE ร่างใหม่ของ Galaxy Note 7 ที่วางขายในประเทศไทยด้วย ได้รับอัพเดตเป็น Android Pie แล้ว

ผู้ใช้กลุ่มแรกที่รายงานการอัพเดต Galaxy Note FE อยู่ในซาอุดีอาระเบีย เลขเวอร์ชันของเฟิร์มแวร์คือ N935FXXU4CSC4 โดยเฟิร์มแวร์นี้มีทั้งการอัพเกรดเวอร์ชันของ Android เป็น Pie, อัพเดตหน้าตาเป็น One UI และอัพเดตแพตช์รอบเดือนมีนาคม 2019

เว็บไซต์ซัมซุงอินโดนีเซีย เผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Samsung Galaxy A90 ที่จะเปิดตัวในวันที่ 10 เมษายนนี้ ว่ามาพร้อมกับจอ Infinity Screen และไร้ติ่งหยดน้ำ โดยก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า A90 จะมีกล้องป๊อบอัพด้วย

หน้าเว็บไซต์ซัมซุงเป็นภาพ Samsung Galaxy รุ่น A30 หรือ A50 ซึ่งเป็นรุนที่มีติ่งหยดน้ำตรงหน้าจอตามปกติ แต่ข้อมูลด้านซ้ายล่างของภาพมีระบุข้อมูลว่า Notchless Infinity Screen จะมีเฉพาะรุ่น Samsung Galaxy A90

อย่างไรก็ดี สมัยเปิดตัว Samsung Galaxy S8 และ S9 ซัมซุงก็เคยเรียกจอว่า Infinity Display แต่อาศัยว่าจอภาพมีขอบบนและล่างทำให้สามารถวางกล้องหน้าไว้ในขอบได้ ซึ่งซัมซุงเผยรูปแปบบหน้าจอของซัมซุงมาก่อนหน้านี้ว่ามี 4 แบบ คือ Infinity-V, Infinity-U, Infinity-O และ New Infinity ซึ่งอย่างหลังสุดคือเป็นหน้าจอที่ไม่มีรอยแหว่งใดๆ ตอนที่เปิดตัวยังคงเป็นแค่คอนเซปต์ แต่ตอนนี้ใกล้ความเป็นจริงขึ้นมาแล้ว

Chainfire นักพัฒนาชื่อดังสร้างแอพ Hidey Hole รวมเอาวอลเปเปอร์โทรศัพท์มีรูสำหรับเอามาใช้กับ Samsung Galaxy S10,S10+ และ S10e สามารถปรับแต่งรูปภาพ ความสว่าง คอนทราสต์ พิมพ์ข้อความเพิ่มเติมได้จากในแอพเลย โหลดฟรี ไม่มีการซื้อในแอพ

ผู้ใช้สามารถพิมพ์ค้นหาวอลเปเปอร์ได้ โดยใช้คีย์เวิร์ดชื่อรุ่นที่ใช้อยู่ ถือเป็นความสะดวกเพราะจะได้หารูปที่ตรงกับรุ่นที่ตัวเองมี ไม่ต้องไปเลื่อนหาตาม Reddit และ Twitter โดยรูปวอลเปเปอร์นั้นมาจากชุมชน Reddit และอัพเดตรูปใหม่ๆ ทุก 6 ชั่วโมงจากเว็บไซต์ GalaxyS10wallpapers.com

ในรอบไม่กี่เดือนมานี้ ซัมซุงดูจะเน้นตลาด Galaxy A มากขึ้นมาก ถัดจาก Galaxy A30 และ Galaxy A50 ที่เพิ่งเปิดตัวในงาน MWC ซัมซุงก็ประกาศจัดงานแถลงข่าว Galaxy A ตัวใหม่ในวันที่ 10 เมษายนนี้ โดยจัดงานใน 3 เมืองพร้อมกันคือ กรุงเทพ, มิลาน, เซาเปาโล

ในบัตรเชิญของซัมซุงเขียนบอกแค่ว่า A Galaxy Event โดยมีรูปภาพเป็นหน้าจอมือถือ 3 จอ (เปิดตัว 3 รุ่น?) และรูปผู้ชายเล่นสเกตบอร์ด (ฟีเจอร์แนว Slow-motion?) เท่านั้น

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือของ Galaxy A70 และ A90 ซึ่งก็น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่จะเปิดตัวในงานวันที่ 10 เมษายนนี้

ถึงแม้ในตลาดมือถือเป็นคู่แข่งกัน แต่ซัมซุงก็ป้อนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และจอภาพให้กับคู่แข่งด้วย ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าว iPhone X ใช้จอ OLED จาก Samsung Display กันไปแล้ว ล่าสุดมีข่าวว่า Huawei P30 ที่กำลังจะเปิดตัว ก็ใช้จอภาพ AMOLED/OLED จาก Samsung Display เช่นกัน

ข้อมูลนี้มาจากเว็บไซต์ MyDrivers ของประเทศจีน ที่บอกว่า Huawei เปลี่ยนผู้ผลิตจอภาพของซีรีส์ P จากเดิม LG มาเป็น Samsung Display และมีโอกาสสูงที่มือถือรุ่นอื่นๆ เช่น Mate จะเปลี่ยนมาใช้จอของซัมซุงด้วย

หลายคนอาจเพิ่งเริ่มซื้อทีวี 4K กันไป แต่ตอนนี้ซัมซุงเริ่มวางขายทีวี QLED ความละเอียด 8K ในประเทศไทยแล้ว

ทีวี 8K ของซัมซุงคือรุ่น Q900R ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน IFA 2018 ปีที่แล้ว แน่นอนว่าจุดเด่นคือความละเอียดสูงถึง 8K (7680x4320) พร้อมฟีเจอร์ AI Upscaling ช่วยแปลงคอนเทนต์เดิมเป็น 8K

ฟีเจอร์อ่ยางอื่นคือรองรับ HDR 10+, Quantum HDR 32x, หน่วยประมวลผล Quantum Processor 8K, ผู้ช่วยส่วนตัว Bixby และทำงานร่วมกับ Google Assistant ได้

รุ่นที่นำมาขายมี 3 ขนาดหน้าจอคือ

ซัมซุงเพิ่งเปิดตัว Galaxy A30 และ A50 ไปที่งาน MWC ปลายเดือนที่แล้ว วันนี้ก็ตามมาเปิดขายในไทยอย่างรวดเร็ว (สเปกอ่านได้จากข่าวเก่า)

• Galaxy A50 ราคา 11,490 บาท มีให้เลือก 3 สีคือ ดำ ขาว น้ำเงิน
• Galaxy A30 ราคา 7,290 บาท มีให้เลือก 3 สีคือ ดำ ขาว น้ำเงิน

ซัมซุงระบุว่าการออกซีรีส์ Galaxy A ของปี 2019 ถือเป็นการปรับตำแหน่งการตลาดของสมาร์ทโฟนในตลาดกลางใหม่ ที่เดิมทีใช้แบรนด์ Galaxy J ทำตลาด ตอนนี้จะเปลี่ยนมาเป็น Galaxy A แทนแล้ว ซึ่งตรงกับข่าวลือเมื่อปีที่แล้ว

วันนี้ Samsung Electronics หน่วยธุรกิจด้านอิเล็กทรอนิกส์และชิปของ Samsung ประกาศเปิดตัว DRAM รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 12 GB ภายใต้แพ็กเกจชิปเดียว นับว่าเป็นการเปิดตัวชิปหน่วยความจำที่มีขนาดสูงสุดในโลก ณ เวลานี้

DRAM ดังกล่าวผลิตตามมาตรฐาน LPDDR4X ทำให้สมาร์ทโฟนสามารถรองรับกล้องได้มากถึง 5 ตัวในเวลาเดียวกัน, เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลของ AI บนอุปกรณ์ และคุณสมบัติ 5G ในอนาคต

กระบวนการผลิตเกิดจากการรวมชิป LPDDR4X ขนาด 16 Gb (Gigabit ไม่ใช่ Gigabytes) ที่กระบวนการผลิต 10 นาโนเมตรเข้าด้วยกันอยู่ในแพ็กเกจเดียว สามารถทำความเร็วการส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 34.1 GB ต่อวินาที ในขณะที่ยังรักษาอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไว้ให้อยู่ในระดับต่ำ

Spotify ประกาศขยายความร่วมมือในการเป็นพาร์ทเนอร์กับซัมซุงต่ออีกครั้ง โดยแอป Spotify จะติดตั้งมาให้ในสมาร์ทโฟนใหม่ของซัมซุงทั้งหมด มีผลกับลูกค้าทั่วโลก

นอกจากนี้เฉพาะลูกค้าในอเมริกาที่ซื้อ Galaxy รุ่นใหม่ รวมทั้ง Galaxy S10 จะได้สิทธิใช้งานแบบพรีเมี่ยมฟรี 6 เดือน แต่ต้องเป็นการเปิดบัญชีผู้ใช้งานใหม่เท่านั้น

ทิศทางดังกล่าวทำให้ Spotify กลายเป็นตัวเลือกเบอร์หนึ่งสำหรับแอปฟังเพลงในสมาร์ทโฟนของซัมซุง ซึ่งก่อนหน้านี้ Spotify ก็ประกาศรองรับการทำงานร่วมกับ Bixby ของซัมซุงด้วย

เว็บไซต์ iFixit เผยแพร่บทความลองแกะสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากซัมซุงคือ Galaxy S10, S10+ และ S10e ปรากฎว่าทั้งสามรุ่นได้คะแนนซ่อมง่ายเท่ากันที่ 3/10 คะแนน ด้วยเหตุผลหลักคือจอซ่อมยากมาก แบตเตอรี่ถอดยาก และกระจกทั้งหน้าและหลังถูกเชื่อมกันด้วยกาว ที่ทำให้การซ่อมนั้นยากตั้งแต่ขั้นแรก

iFixit บอกว่าการวางตัวสแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอ ทำให้การซ่อมจอ (ซึ่งพบได้บ่อยมากเป็นอันดับต้นๆ) เปรียบเป็นฝันร้าย แถมราคาแพงเพราะว่าถ้าจอแตก ต้องเปลี่ยนสแกนลายนิ้วมือด้วยทั้งชุด

ส่วนการเพิ่มระบบชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่น (Power Share) ทำให้ S10 ต้องออกแบบเรื่องการระบายความร้อน และอาจมีผลต่ออายุของแบตเตอรี่ ซึ่งก็เชื่อมติดกับฝาหลังด้วยกาว

ในไลน์สินค้าสมาร์ทโฟนพับได้ที่กำลังพัฒนาของซัมซุงดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่ Galaxy Fold รุ่นเดียว เมื่อ Bloomberg รายงานว่าซัมซุงกำลังพัฒนาสมาร์ทโฟนพับได้อีก 2 รุ่นเพื่อรีบจับตลาดเกิดใหม่

Bloomberg บอกว่าสมาร์ทโฟนพับได้ 2 รุ่นของซัมซุงนั้น รุ่นนึงจะเป็นแบบพับเข้าเหมือนเดิม ส่วนอีกรุ่นจะเป็นแบบกางออกเหมือน Huawei Mate X รวมถึงอาจฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอด้วย โดยคาดว่าน่าจะเปิดตัวได้ราวสิ้นปีหรือต้นปีหน้า ขณะที่ดีไซน์ต่างๆ อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอด ขึ้นอยู่กับว่ากระแสตอบรับของผู้บริโภคต่อ Galaxy Fold ไปทางไหนเมื่อวางขายจริง

ไม่น่าใช่เรื่องเกินความคาดหมายนักเมื่อ DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบจอภาพ ให้คะแนนรีวิวหน้าจอของ Galaxy S10 ออกมาที่ A+ ได้รับคะแนนยอดเยี่ยมในทุกหมวดการทดสอบ พร้อมทำสถิติใหม่ในการทดสอบหน้าจอสมาร์ทโฟนในหลายหมวด แม้ DisplayMate จะปรับรูปแบบการทดสอบให้เคี่ยวขึ้นกว่าเดิมก็ตาม

จุดที่ DisplayMate ระบุว่า Galaxy S10 ทำสถิติใหม่คือ การแสดงผลสีได้ถูกต้องที่สุดแทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ รวมถึงยังแสดงคอนทราสต์ของภาพได้ถูกต้องสมบูรณ์แบบที่สุด (Visually Indistinguishable From Perfect), หน้าจอสว่างที่สุด (1,215 nits) และการแสดงผลสีและความสว่างแทบไม่เพี้ยนแม้จะเปลี่ยนมุมมอง เป็นต้น

หากพูดถึงหูฟังไร้สาย (true wireless) ของฝั่งแอนดรอยด์ตัวท็อป คำตอบส่วนใหญ่อาจเป็นแบรนด์หูฟังและราคาสูง ที่ความโดดเด่นอาจมีแค่เรื่องเสียงเท่านั้น ขณะที่ฝั่งแอปเปิลมี AirPods ที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์แอปเปิลได้อย่างไร้รอยต่อ (seamless) ราคาไม่แพงเกินและฟีเจอร์ต่างๆ ค่อนข้างครบครันและสมบูรณ์พร้อมสำหรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน

ซัมซุงเองก็ทำหูฟังไร้สายออกมาแล้ว 2 รุ่นในชื่อ Gear IconX ก่อนที่รุ่นล่าสุดจะรีแบรนด์จาก Gear ที่เป็นสายฟิตเนสมาเป็น Galaxy Buds ซึ่งสะท้อนว่าซัมซุงดันเอาหูฟังไร้สายรุ่นนี้มาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักคู่กับสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy แล้ว ขณะที่ดีไซน์และการเชื่อมต่อก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย และเมื่อพิจารณาเทียบเรื่องราคากับรุ่นเก่าแล้ว พอจะทำให้ Galaxy Buds ไปอยู่แถวหน้าของหูฟังไร้สายแอนดรอยด์ได้อย่างไม่เคอะเขินเลยทีเดียว

เก็บตกข่าวมือถือรุ่นรองซัมซุงที่เปิดตัวในงาน MWC 2019 สัปดาห์ที่แล้วคือ Galaxy A30 และ A50 ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นภาคต่อของซีรีส์ Galaxy A คือ Galaxy A7 และ Galaxy A9 เมื่อปลายปีที่แล้ว

มือถือทั้งสองตัวเรียกได้ว่าเป็นคู่แฝดกัน เพราะมีขนาดเท่ากันทุกประการ ใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4" ความละเอียด FHD+ (1080×2340) เท่ากัน, มีติ่งรูปหยดน้ำ (Infinity-U) เหมือนกัน, แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh และระบบชาร์จเร็ว, ฟีเจอร์ทางซอฟต์แวร์อย่าง Samsung Pay และ Bixby

ซัมซุงประกาศว่าเริ่มกระบวนการผลิตชิปหน่วยความจำแบบฝัง eUFS 3.0 แบบแมสแล้ว ทำความเร็วในการอ่านเขียนจาก eUFS 2.1 ขึ้นมา 2 เท่าอยู่ที่ 2,100MB/s สำหรับการอ่านและ 410MB/s สำหรับการเขียน

ส่วนการอ่านเขียนแบบสุ่มก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63,000 IOPS และ 68,000 IOPS ตามลำดับ โดยหน่วยความจำ eUFS 3.0 ที่จะถูกผลิตออกมาก่อนคือความจุ 128GB และ 512GB ส่วนความจุ 256GB และ 1TB จะเริ่มผลิตตามมาในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ที่มา - Samsung

หากมองข้าม Galaxy Fold โทรศัพท์มือถือพับได้ Galaxy S10+ น่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือระดับเรือธงของซัมซุงที่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ที่โดดเด่นที่สุดในตระกูล Galaxy S ที่ผ่านมา ด้วยหน้าจอ Infinity-O ไร้ติ่ง (notch), อัพเกรดกล้องถ่ายภาพ, ใช้สแกนลายนิ้วมือในจอ, เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ PowerShare ชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่นได้ แถมยังไม่ตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรออกไปเหมือนหลายๆ ค่ายด้วย

จากข่าว Galaxy Note 8 จะได้อัพเดท Android Pie พร้อม One UI ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ในวันนี้เครื่องบางโมเดลได้รับการอัพเดทเรียบร้อยแล้ว สำหรับเครื่องของผู้เขียนรหัสโมเดล SM-950F (เครื่องศูนย์) ได้รับการอัพเดทแล้ว แต่รหัสโมเดล SM-N9500 ยังไม่มีอัพเดทมา

จากข่าว ซัมซุงให้ผู้ใช้ตั้งค่าปุ่ม Bixby บน Galaxy S10 ให้เปิดแอปอะไรก็ได้ มีรายละเอียดตามมาว่า การตั้งค่าปุ่ม Bixby ไม่จำกัดแค่ Galaxy S10 เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นก่อนหน้านี้ที่มีปุ่ม Bixby ด้วย ซึ่งก็หมายถึง Galaxy S8, Note 8, S9, Note 9 นั่นเอง

จุดต่างสำคัญของ Galaxy S10 และ S10+ นอกจากขนาดหน้าจอ ก็คือเรื่องของ "กล้องหน้า" ที่เพิ่มจากเป็น 2 กล้อง (กล้องหลังเป็น 3 กล้องเท่ากัน) แต่ในเวทีงานแถลงข่าวของซัมซุงกลับไม่ได้เน้นเรื่องนี้มากนัก

กล้องตัวที่สองของ Galaxy S10+ คือกล้อง RGB Depth Camera ความละเอียด 8MP ซึ่งมันก็คือกล้องสำหรับ "วัดระยะลึก" ทำให้ Galaxy S10+ มีความสามารถเทียบได้กับกล้องหน้า TrueDepth ของฝั่ง iPhone X/XS/XR หรือกล้อง IR camera ของ Windows Hello

ด้วยเหตุนี้ทำให้ Galaxy S10+ (เฉพาะรุ่น Plus) สามารถปลดล็อคด้วยใบหน้า (Facial Unlock) ได้ในทุกสภาพแสง ต่างไปจากมือถือตัวอื่นๆ ของซัมซุงที่แล้วๆ มานั่นเองครับ

DJ Koh ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจสมาร์ทโฟนของซัมซุง เปิดเผยว่า Galaxy Fold จะมีรุ่นที่ 5G ด้วย ยืนยันจะเปิดตัวในเกาหลีใต้เดือนพฤษภาคมนี้ และจะมีราคาอยู่ระหว่าง 2.3 - 2.4 ล้านวอนหรือประมาณ 67,000 บาท

ขณะที่ Galaxy Fold รุ่น LTE เขากล่าวว่าจะวางขายในเกาหลีใต้กลางเดือนเมษายนแค่บางร้าน ก่อนจะวางขายตามหน้าร้านเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม

นอกจากนี้เขายังยืนยันว่ามือถือพับได้ออกมาในเวลาที่เหมาะสม ไม่ได้ออกมาเร็วเกินไป และจะมอบประสบการณ์ใหม่ของการใช้มือถือให้กับลูกค้า

The Verge รายงานโดยได้รับการยืนยันว่าปุ่ม Bixby บน Galaxy S10 สามารถปรับแต่งให้ใช้สั่งงานอะไรหรือเปิดแอปอะไรก็ได้ตามแต่ผู้ใช้ต้องการ

ซัมซุงเปิดให้เชื่อมต่อทั้งแอปภายในเครื่องหรือแอปภายนอกอื่นๆ อาทิ Spotify หรือแม้กระทั่ง Google Assistant ก็ได้ รวมถึงสามารถตั้งค่าได้หมดทุกรูปแบบการกด ไม่ว่าจะกดปุ่มครั้งเดียว, กดสองครั้งหรือกดปุ่มค้าง แต่หากตัวเลือกไหนไม่ได้ตั้งค่าไว้ Bixby จะถูกเรียกขึ้นมาเป็นดีฟอลต์

อย่างไรก็ตามการตั้งค่าแบบนี้ยังรองรับเฉพาะบน S10 เท่านั้น รุ่นเก่าอย่าง S9 ณ ตอนนี้ยังทำไม่ได้

ที่มา - The Verge

DxOMark ผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องได้เปิดเผยคะแนนเบนช์มาร์คของกล้องบน Galaxy S10+ ที่ถือเป็นเรือธงตัวท็อปล่าสุดของซัมซุงออกมาแล้ว โดยได้คะแนนรวมไป 109 คะแนน เทียบเท่าและครองที่ 1 ร่วมกับกับ Mate 20 Pro และ P20 Proส่วนคะแนนการเบนช์มาร์คเรื่องเซลฟี่ ก็ได้ที่ 1 เช่นกันที่ 96 คะแนน (แชมป์เก่าคือ Pixe 3, Note 9 ที่ 92 คะแนน)

ในการประกาศเปิดตัวมือถือชุดใหญ่ Samsung Galaxy S10 มีบอกด้วยว่าจะมีโปรแกรม Adobe Premiere Rush CC เวอร์ชั่น optimize สำหรับ Galaxy S10 โดยเฉพาะ โดยจะสามารถใช้งานได้ภายในปี 2019 นี้

Premiere Rush CC คือเครื่องมือตัดต่อใหม่ที่ Adobe เพิ่งเปิดตัวไปในงาน Adobe Max 2018 เป็นโปรแกรมตัดต่อชุดเล้กที่ที่รวมเอาเครื่องมือปรับแต่งจากทั้ง Premiere Pro, After Effect, Audition เข้าไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับงานบล็อกเกอร์ ตัดต่อคลิปเรียบง่ายแชร์ลงโซเชียล