การเปลี่ยนแปลงของแอปเปิลใน iOS 17.4 สำหรับผู้ใช้ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล DMA ดูจะเป็นประเด็นกันต่อไป โดยล่าสุดไมโครซอฟท์และ Meta ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป ว่านโยบายใหม่ส่วนของ App Store นั้น ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ EU ต้องการในกฎหมาย DMA

ประเด็นที่เป็นปัญหานั้น มีหลายบริษัทเทคโนโลยีที่ออกมาแสดงความเห็นกันก่อนแล้ว เช่น การคิดค่า Core Technology Fee หากแอปมีจำนวนดาวน์โหลดสูง หรือการบีบให้จ่ายส่วนแบ่ง 17% หากมีช่องทางจ่ายเงินอื่นเพิ่มเติม จึงมองว่าแนวทางนี้ไม่ได้สร้างทางเลือกอย่างที่ DMA ต้องการ

ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้ Copilot in Windows ชุดใหญ่ โดยยังมีผลเฉพาะ Windows Insiders Canary Channel เท่านั้น

ฟีเจอร์ใหม่มีทั้งฝั่งที่เป็นดูสถานะของระบบ เช่น ขอดูหมายเลขไอพี, สถานะแบตเตอรี่, สถานะเครือข่าย Wi-Fi, สั่งให้เทถังขยะ recycle bin รวมถึงการเปิดฟีเจอร์ด้าน accessibility เช่น เปิดตัวอ่านหน้าจอ เปิดแว่นขยาย ปรับขนาดของข้อความ

ไมโครซอฟท์เปิดตัวแอพ Sticky Notes เวอร์ชันใหม่ สามารถจับภาพหน้าจอได้แล้ว

Sticky Notes เวอร์ชันใหม่มาเป็นแอพหน้าต่างเดียว แสดงรายการโน้ตทั้งหมด โดยสามารถแยกเฉพาะบางโน้ตออกมา pop-out นอกหน้าต่างหลักได้ ตัวหน้าต่างหลักสามารถสั่ง dock วางคู่กับหน้าต่างอื่นๆ ได้ด้วย

ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือการจับภาพหน้าจอ โดยเน้นจับภาพรวดเร็วด้วยการกดปุ่มครั้งเดียว ได้ภาพหน้าจอแอพที่เปิดอยู่ตอนนั้น (ไม่ใช่ภาพทั้งหน้าจอเดสก์ท็อป) หากภาพหน้าจอนั้นเป็นภาพเว็บไซต์ จะเซฟ URL ผูกกับภาพให้อัตโนมัติ เมื่อกลับมาคลิกภาพในโน้ตก็จะเข้าเว็บให้ทันที

ชาว .NET ยุคแรกๆ คงคุ้นเคยกับ Windows Presentation Foundation (WPF) ชุดเขียน UI สำหรับแอพบนเดสก์ท็อปที่เริ่มใช้ใน .NET 3.0 (โค้ดเนมของ WPF คือ Avalon)

ไมโครซอฟท์ยังมีทางเลือกในการสร้าง UI บนเดสก์ท็อปอย่างอื่นคือ WinForms ที่เริ่มมาก่อน WPF และภายหลังก็ออก UWP ในยุค Windows 8 ที่พัฒนาต่อจนมาเป็น WinUI

WPF นั้นไม่ถูกอัพเกรดมานานแล้ว แม้แอพเก่าๆ ที่เขียน WPF ยังสามารถรันได้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศแผนอัพเกรด WPF ครั้งใหญ่โดยเราจะเห็นผลลัพธ์บางส่วนใน .NET 9 ที่จะออกตัวจริงช่วงปลายปีนี้

ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 26058 รุ่นทดสอบ Canary/Dev Channels มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจด้าน UI หลายอย่าง

16 ก.พ.2567 ที่การประชุมความมั่นคงมิวนิค (Munich Security Conference - MSC) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ 20 ราย ประกาศข้อตกลงว่าจะร่วมมือป้องกันเนื้อหา AI ที่แทรกแซงการเลือกตั้งทั่วโลกในปีนี้ ที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าสี่พันล้านคนในกว่า 40 ประเทศ

บริษัทเทคโนโลยีที่ร่วมข้อตกลงได้แก่: Adobe, Amazon, Anthropic, Arm, ElevenLabs, Google, IBM, Inflection AI, LinkedIn, McAfee, Meta, Microsoft, Nota, OpenAI, Snap Inc., Stability AI, TikTok, Trend Micro, Truepic, และ X

ข้อตกลงนี้เป็นขั้นตอนสำคัญหนึ่งในการปกป้องชุมชนออนไลน์จากเนื้อหา AI ที่เป็นอันตราย จากการทำงานของบริษัทแต่ละแห่ง

ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดซัพพอร์ต Microsoft Publisher โปรแกรมจัดหน้าสิ่งพิมพ์ในชุด Microsoft 365 โดยจะมีผลในเดือนตุลาคม 2026 ตามระยะซัพพอร์ตของ Office 2021 LTSC

ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่างานที่ทำด้วย Publisher เช่น การออกแบบสิ่งพิมพ์ ซองจดหมาย นามบัตร ฯลฯ สามารถทดแทนด้วยฟีเจอร์ของ Word และ PowerPoint ซึ่งไมโครซอฟท์มีเทมเพลตแจกฟรีจำนวนมากให้บน Microsoft Create และในอนาคตจะพัฒนาฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Publisher เพิ่มให้ Word, PowerPoint, Designer ด้วย

Sarah Bond ประธานของ Xbox ให้ข้อมูลในรายการ Official Xbox Podcast เกี่ยวกับแผนการด้านฮาร์ดแวร์ของบริษัทว่า จะมีอัพเดตเรื่องฮาร์ดแวร์ในช่วงเทศกาลปลายปี 2024 (น่าจะหมายถึง Xbox Series X Refresh ทรงกระบอกที่เคยมีเอกสารหลุด) และบริษัทเริ่มทำฮาร์ดแวร์เจ็นถัดไปแล้ว เป้าหมายคือต้องการเพิ่มสมรรถนะของฮาร์ดแวร์ให้แตกต่างจากเจ็นก่อนหน้า ชนิดที่เราไม่เคยเห็นกันมาก่อน (there is delivering the largest technical leap you will have ever seen in a hardware generation)

ไมโครซอฟท์ประกาศนำ Diablo IV ลง Game Pass ทั้งบนพีซีและคอนโซล Xbox ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ถือเป็นเกมแรกจาก Activision Blizzard หลังการซื้อกิจการ

ไมโครซอฟท์ยังประกาศตัวเลขสมาชิก Game Pass อัพเดตล่าสุดที่ 34 ล้านคน

ที่มา - Xbox

เป็นไปตามคาด Xbox ประกาศนำเกมลงคอนโซลค่ายอื่น โดยระบุคร่าวๆ ว่ากำลังเตรียมนำ 4 เกมลงแพลตฟอร์มอื่น แต่ยังไม่ระบุชื่อและแพลตฟอร์มว่ามีอะไรบ้างในตอนนี้

จากการประชุมภายในของ Xbox เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์งานเดียวกับที่ Phil Spencer บอกพนักงานว่าไม่มีแผนเลิกทำ Xbox ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมจากนักข่าว Shannon Liao ว่า Sarah Bond ประธานของ Xbox เผยกลยุทธ์ใหม่ที่จะขยายเกมของตนไปยังทุกแพลตฟอร์มโดยใช้คำโปรยว่า ทุกหน้าจอคือ Xbox

ไมโครซอฟท์ออก .NET 9 Preview 1 ตามรอบการออกปีละรุ่น โดย .NET 9 ตัวจริงจะออกช่วงปลายปี เป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะปกติ 18 เดือน ต่างจาก .NET 8 ที่เป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะยาว LTS

ธีมหลักของ .NET 9 จะเน้นสองเรื่อง อย่างแรกคือการทำงานแบบ Cloud-Native ร่วมกับคอนเทนเนอร์และ Kubernetes ตามแนวทางที่เริ่มมาตั้งแต่ .NET 8 (.NET Aspire) ส่วนธีมที่สองคืองานด้าน AI โดยไมโครซอฟท์จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ทั้ง Open AI และโมเดลโอเพนซอร์สอื่นๆ เพื่อให้ทำงานกับแอพพลิเคชันสาย .NET ให้ดีขึ้น

OpenAI และ Microsoft Threat Intelligence หน่วยงานความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ เปิดเผยผลการศึกษา พบว่ามีหน่วยงานที่มุ่งหวังโจมตีทางไซเบอร์ ได้ประยุกต์ใช้เครื่องมือ AI เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการโจมตีให้มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น

ทั้งนี้ OpenAI และไมโครซอฟท์บอกว่าการเผยแพร่รายงานนี้ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสของข้อมูล และรายงานความก้าวหน้าของการปรับปรุงบริการ เพื่อไม่ให้เกิดการนำมาใช้งานประเภทนี้ในอนาคต

เว็บไซต์ The Verge อ้างแหล่งข้อมูลในไมโครซอฟท์เรื่องทิศทางใหม่ของ Xbox ชี้เป้าว่าสองเกมแรกที่จะลงคอนโซลค่ายอื่นคือ Hi-Fi Rush และ Pentiment โดยจะลงทั้ง PS5 และ Nintendo Switch ส่วนเกมที่สามมีชื่อของ Sea of Thieves ที่บอกว่าอาจตามมาภายในปีนี้

Jamin Ball นักวิเคราะห์จากบริษัท Altimeter Capital ประเมินว่าการลงทุนด้าน AI ของไมโครซอฟท์ ทำให้บริการ Microsoft Azure เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% ในไตรมาสล่าสุด และไล่กวดผู้นำตลาดอย่าง AWS มาอย่างรวดเร็ว (AWS เติบโตเพียง 13% ในไตรมาสเดียวกัน)

Ball ประเมินว่าเมื่อ 5 ปีก่อน ขนาดรายได้จากบริการโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) ของ Azure มีเพียงครึ่งหนึ่งของ AWS แต่ตอนนี้คิดเป็น 3/4 ของ AWS แล้ว

Satya Nadella เปิดเผยในงานแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดว่า Azure มีลูกค้า 53,000 องค์กรที่ใช้บริการด้าน AI

มีรายงานจากนักข่าว Shannon Liao โดยอ้างข้อมูลการประชุมในฝ่ายเกมมิ่งของไมโครซอฟท์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่ง Phil Spencer ซีอีโอส่วนเกมมิ่ง ยืนยันกับพนักงานว่าบริษัทไม่มีแผนหยุดทำคอนโซล และเครื่อง Xbox ยังคงมีอยู่ในแผนงานบริษัท ที่ต้องการให้เกมมีลงในทุกแพลตฟอร์ม

ก่อนหน้านี้มีความกังวล ว่ายุทธศาสตร์ใหม่ของไมโครซอฟท์ ที่ต้องการนำเกมลงทุกแพลตฟอร์มให้มากที่สุด จะส่งผลกระทบต่อตัว Xbox เอง (ล่าสุดคือรีแบรนด์ Microsoft Game Pass) ทำให้ลือไปถึงว่าไมโครซอฟท์จะเลิกทำคอนโซล Xbox ซึ่ง Spencer ก็ออกมาสยบข่าวลือนี้แล้ว

ไมโครซอฟท์ประกาศจัดรายการ Official Xbox Podcast ตอนพิเศษ เพื่อแถลงทิศทางธุรกิจใหม่ (ใช้คำว่า business update) หลังมีข่าวลือหนาหูว่าไมโครซอฟท์จะทำเกมลง PS5

รายการ Official Xbox Podcast ตอนนี้จะมีผู้นำสูงสุด 3 คนของธุรกิจเกมมิ่ง ได้แก่ Phil Spencer ซีอีโอ, Sarah Bond ประธาน และ Matt Booty หัวหน้าฝั่งสตูดิโอเกมทั้งหมด มาร่วมจัดรายการ

รายการจะเผยแพร่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 12PM PT หรือตรงกับ 03:00 น. ของวันศุกร์ที่ 16 ตามเวลาประเทศไทย

ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @PhantomOfEarth โพสต์ภาพของฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 Insider 24H2 ที่ยังไม่เปิดตัว ชื่อว่า Automatic Super Resolution หรือชื่อย่อ Auto SR โดยเป็นตัวเลือกอยู่ในหน้า Settings > System > Display > Graphics

คำอธิบายฟีเจอร์นี้ระบุว่าเป็นการใช้ AI ช่วยปรับแต่งรายละเอียดของภาพ โดยสามารถใช้ได้ทั้งแอพและเกม และสามารถตั้งค่าเปิดใช้ได้กับแอพเป็นรายตัวด้วย

ในช่วงที่กระแส อย่าเรียกว่า VR Spatial Computing กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งจากการวางขายแว่น Apple Vision Pro

ฝั่งของไมโครซอฟท์ผู้มาก่อน ก็เริ่มถอดฟีเจอร์ด้าน VR ออกจาก Windows 11 ตามที่เคยประกาศไว้ โดย Windows 11 Insider ตัวใหม่ Build 26052 (ขึ้นหลัก 26XXX) ไม่รองรับแว่น Windows Mixed Reality ของผู้ผลิต OEM รายอื่นแล้ว (ไม่นับรวมแว่น HoloLens ของไมโครซอฟท์เอง ที่ยังใช้งานได้)

จากกรณี ไมโครซอฟท์ปลดพนักงานธุรกิจเกม 1,900 คน มีประเด็นที่น่าสนใจตรงที่มีพนักงานฝั่ง Activision Blizzard โดนปลดด้วยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ FTC หน่วยงานด้านการแข่งขันของสหรัฐ (ที่แพ้คดีในศาลชั้นต้น แต่ยังไม่จบกระบวนการทางศาลทั้งหมดซะทีเดียว) ยื่นคำร้องต่อศาลเพิ่มเติม นำเคสการปลดพนักงานนี้ไปเป็นน้ำหนักในการล้มดีลควบกิจการ เพื่อชี้ให้เห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้ส่งผลกระทบในทางลบ มีพนักงานถูกปลดออกจำนวนมาก

ไมโครซอฟท์อัพเดตแอพ Snipping Tools ใน Windows 11 Insider เพิ่มฟีเจอร์ shape หรือการใส่วงกลม สี่เหลี่ยม เส้นตรง ลูกศร ลงยังบนภาพหน้าจอได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้ Windows 11 ไม่จำเป็นต้องนำภาพหน้าจอไปแต่งต่อในแอพอื่นๆ อีกต่อไป

แอพอีกตัวที่ได้อัพเดตพร้อมกันคือ Notepad ได้ฟีเจอร์จาก Copilot ตรงตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ ชื่อว่า Explain with Copilot (Ctrl+E) สามารถให้ Copilot ช่วยอธิบายข้อความที่เลือกได้ ซึ่งมีค่าเท่ากับการคัดลอกข้อความที่ต้องการไปใส่ในแถบ sidebar ของ Copilot โดยตรง

แอพทั้งสองตัวยังเปิดทดสอบเฉพาะกลุ่ม Windows Insider Dev และ Canary

GameStop ร้านขายเกมชื่อดังของสหรัฐฯ โพสต์โปรโมท Game Pass แคมเปญ Xbox Demo Day บน X ที่ให้ผู้เล่นสามารถทดลองใช้งานบริการ Game Pass ได้ฟรีในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งรูปประกอบมีระบุว่าเป็น Microsoft Game Pass แทนที่เป็น Xbox Game Pass หรือ PC Game Pass

ภายหลัง GameStop ได้ลบโพสต์ออกไป แต่ Game Pass Tracker เว็บไซต์เก็บสถิติของเกมบน Xbox และรายงานข่าวสารของ Xbox กลับเซฟรูปได้ทัน และนำมาโพสต์ตั้งข้อสงสัยว่า Xbox Game Pass อาจเปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft Game Pass

ช่วงนี้มีการลืออย่างหนาหูว่า Microsoft Gaming เตรียมนำเกม 1st Party ของตนไปลงแพลตฟอร์มคู่แข่งอย่าง PS5 มากขึ้น และอาจเปลี่ยนสถานะจากเจ้าของแพลตฟอร์มไปเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมอย่างเดียว

ไมโครซอฟท์ปรับหน้าตาของ Copilot เวอร์ชันเว็บ และมือถือ Android/iOS เล็กน้อย โดยเพิ่ม carousel หรือแถบเลื่อนแสดงภาพด้วย AI เพื่อเป็นไอเดียในการคุยกับบ็อท นอกจากนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์การสั่งปรับแต่งภาพที่สร้างได้จากหน้าแชท Copilot โดยตรง

อัพเดตนี้ถือเป็นโอกาสครบรอบ 1 ปีของ Copilot (นับจากตอนแรกที่ใช้ชื่อ Bing Chat ก่อนรีแบรนด์มาเป็น Copilot เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023) ไมโครซอฟท์เปิดเผยสถิติว่ารอบปีที่ผ่านมา มีการแชทคุยกัน 5 พันล้านครั้ง และการสร้างภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ 5 พันล้านภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ส่วนแบ่งตลาดของ Edge/Bing เพื่อขึ้นอย่างยั่งยืนด้วย

San Francisco Chronicle รายงานรายละเอียดของการปลดพนักงานฝ่ายเกมมิ่งไมโครซอฟท์ 1,900 คน โดยไมโครซอฟท์ยื่นเอกสารต่อหน่วยงานภาครัฐในแคลิฟอร์เนีย

• ปลดพนักงาน 86 คนในเมือง Novato และปิดสำนักงานในเมือง
• ปลดพนักงาน 76 คนในเมือง Foster City

กรณีของเมือง Foster City คือสำนักงานของ Sledgehammer Games หนึ่งในสตูดิโอผู้รับผิดชอบ Call of Duty ภาคหลัก ซึ่งเคยมีข่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่าโดนปลดพนักงาน

ไมโครซอฟท์เปิดตัวโฆษณาที่จะฉายในงาน Super Bowl 2024 สัปดาห์หน้า ปีนี้คงเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก Copilot

โฆษณาชิ้นนี้ใช้ชื่อตรงไปตรงมาว่า Copilot: Your everyday AI companion เป็นเรื่องของกลุ่มคนที่มีความฝันแตกต่างกันไป เช่น อยากทำหนัง อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ที่ผ่านมาติดข้อจำกัดต่างๆ ที่ไม่สามารถทำตามความฝันได้ เมื่อเข้าสู่ยุคแห่ง Copilot กลายเป็นว่าคนเหล่านี้สามารถใช้ AI ช่วยทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำได้ด้วยตัวเองมาก่อน เช่น วาดสตอรี่บอร์ดของหนัง, เขียนโค้ดทำเกม, สร้างโลโก้สำหรับธุรกิจของตัวเอง ก่อนปิดท้ายชวนให้ดาวน์โหลด Copilot เวอร์ชัน iOS และ Android (ไม่มีคำว่า Windows สักคำ 😂)