มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งรายงานว่า เมื่อเรียกฟังก์ชัน Reset All Settings บน iOS 8 เพื่อรีเซ็ตการตั้งค่าเครื่องกลับไปเหมือนเครื่องจากโรงงานโดยไม่ส่งผลต่อข้อมูลหรือสื่อมีเดียของผู้ใช้ ไฟล์เอกสาร iWork (อาทิ Pages, Keynote และ Numbers) บน iCloud Drive ของพวกเขาดันถูกลบทิ้งไปด้วย

เว็บไซต์ MacRumors ทดสอบและพบว่าเอกสาร iWork บน iCloud Drive ถูกลบจริง และเมื่อตั้งให้ซิงก์กับเครื่องแมคที่รัน OS X Yosemite ไฟล์เอกสารเหล่านั้นก็หายไปจากเครื่องแมคเช่นกัน

หลายคนที่ข้อมูลหายได้ติดต่อกับแอปเปิลเพื่อให้บริษัทกู้ข้อมูลให้แล้ว ส่วนใครที่ใช้ Time Machine ก็มีโอกาสเรียกไฟล์เอกสารที่หายไปได้เช่นกัน ผู้ใช้รายหนึ่งบอกกับ MacRumors ว่าฝ่ายซัพพอร์ตกำลังรอทีมวิศวกรวินิจฉัยปัญหาอยู่

เป็นธรรมเนียมของแอปเปิลไปเสียแล้วที่มักจะมีปัญหาตามมาหลังการอัพเดตครั้งใหญ่ของ iOS หลังจากเปิดให้อัพเดต iOS 8 ไปได้ราวสัปดาห์ก็เริ่มมีผู้ใช้หลายรายแจ้งปัญหาที่พบมาบ้างแล้ว

จากปัญหาที่พบโดยผู้ใช้ที่ไปโพสต์พูดคุยตามฟอรัมต่างประเทศหลายแห่ง สองประเด็นใหญ่ๆ ที่พบใน iOS 8 ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของแบตเตอรี่ และความเร็ว Wi-Fi โดยกรณีของแบตเตอรี่นั้นมีผู้ใช้แจ้งในฟอรัมของ Apple Support ว่าหลังการอัพเดตแล้วแบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว จาก 100% เหลือ 0% ภายในเวลาเพียง 4 ชั่วโมงแม้ว่าจะใช้งานเพียงเล็กน้อย โดยเป็นกับทั้งรุ่นเก่าอย่าง iPhone 5 และ 5s รวมถึงของใหม่อย่าง iPhone 6 ด้วย

ผู้ใช้จำนวนหนึ่งรายงานว่าในขณะที่ทำการติดตั้ง Ubuntu หากเลือกหัวข้อ Reinstall Ubuntu แทนที่ตัวติดตั้งจะลบเฉพาะข้อมูลในพาร์ทิชันที่เคยติดตั้ง Ubuntu ไว้ก่อนหน้านี้แล้วติดตั้งตัวใหม่ทับลงไป กลับกลายเป็นว่าไปล้างข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ทั้งลูก

ถึงแม้ว่าเมื่อผู้ใช้เลือกคำสั่ง Reinstall Ubuntu แล้วกดปุ่มให้ดำเนินการต่อ จะมีหน้าต่างขึ้นมาถามว่าต้องการลบ Ubuntu ตัวเก่าที่เคยติดตั้งไว้แล้ว รวมถึงลบไฟล์เอกสารหรือรูปภาพต่างๆ ที่ถูกเก็บอยู่ในเครื่องหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้ใช้ที่เห็นข้อความนี้ต่างก็เข้าใจว่านั่นเป็นแค่การลบเฉพาะข้อมูลที่อยู่ในพาร์ทิชันที่ติดตั้ง Ubuntu ไว้ ไม่ใช่การล้างข้อมูลฮาร์ดดิสก์ทั้งลูก

ไมโครซอฟท์ปล่อยอัพเดตด้านความปลอดภัย KB2993651 มาแทน KB2982791 ที่ถูกระบุว่าทำให้เครื่องแครชและขึ้นข้อความแจ้งข้อผิดพลาด 0x50 แล้ว บริษัทแนะนำว่าใครที่ติดตั้ง KB2982791 แล้วไม่เจอปัญหาก็ควรติดตั้ง KB2993651 และแนะนำให้ถอดการติดตั้ง KB2982791 ก่อน ถึงแม้จะไม่จำเป็นก็ตาม

ก่อนหน้านี้คนของไมโครซอฟท์เผยว่า จากการเก็บข้อมูลที่เครื่องผู้ใช้ส่งกลับมาให้ไมโครซอฟท์แบบไม่ระบุตัวตน (telemetry data) พบว่ามีเครื่องเพียงร้อยละ 0.01 เท่านั้นที่ประสบกับสามปัญหา ซึ่งรวมถึงเครื่องแครชและขึ้นข้อความแจ้งข้อผิดพลาด 0x50 (ดูรายละเอียดจากข่าวเก่า)

ไมโครซอฟท์แจ้งว่าได้รับทราบปัญหาหลังจากผู้ใช้ติดตั้งอัพเดตรอบ Patch Tuesday เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึง August Update สำหรับ Windows RT 8.1, Windows 8.1 และ Windows Server 2012 R2 ด้วย ดังนี้

Adam Pash อดีตหัวหน้าบรรณาธิการเว็บ LifeHacker เปิดเผยปัญหาหลังเขาเปลี่ยนจาก iPhone ไปใช้สมาร์ทโฟน Android โดยพบว่าเมื่อมีคนส่งข้อความหาเขาผ่าน iPhone เดิมข้อความนั้นจะส่งผ่าน iMessage (กรอบสีฟ้า) ซึ่งเมื่อเขาเปลี่ยนไปใช้ Android ข้อความนั้นก็ควรส่งผ่าน SMS (กรอบสีเขียว) แทน แต่กลายเป็นว่า iOS ของต้นทางยังเลือกส่งผ่าน iMessage ต่อไปแถมขึ้นข้อความ Delivered ด้วย ทำให้เขาไม่ได้รับข้อความ

Pash ได้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของแอปเปิล ซึ่งได้รับคำชี้แจงดังนี้

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานอุปกรณ์แอปเปิลที่เป็นระบบปฏิบัติการ iOS 6 จำนวนหนึ่งบอกว่าพวกเขาไม่สามารถใช้ FaceTime ได้ ขณะที่ผู้ใช้ iOS 7 ไม่พบปัญหาดังกล่าว

ล่าสุดแอปเปิลได้ออกเอกสารสนับสนุนอธิบายปัญหาดังกล่าว โดยบอกว่าปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากบั๊ก certificate หมดอายุในวันดังกล่าว โดยทางแก้ไขคืออัพเดต iOS ให้เป็นเวอร์ชัน 7.0.4 เป็นอย่างน้อย แต่หากอุปกรณ์นั้นไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS 7 ได้ ก็ให้อัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด 6.1.6

ใครที่ยังไม่ยอมอัพเดตเป็น iOS 7 เสียที แล้วต้องการใช้งาน FaceTime ก็ขอแสดงความยินดีที่ท่านจะได้ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดแบบภาคบังคับครับ

David Peck ซึ่งเป็นผู้ใช้ Hotmail รายหนึ่งเจอว่ามีอีเมลถูกส่งถึงตนเองอย่างมากมายผิดปกตินับหมื่นฉบับ ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะบั๊กของระบบค้นหาของ Google

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใช้ค้นหาข้อมูลจาก Google โดยใช้คำค้นหาว่า "gmail" ซึ่งลิงก์ผลการค้นหาแรกที่ปรากฏก็คือลิงก์ของ Google เองที่กล่าวถึงบริการอีเมลฟรีพร้อมพื้นที่ขนาด 10GB พร้อมสรรพคุณโฆษณาว่าเป็นบริการอีเมลที่ปลอดแสปม ซึ่งเมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์ดังกล่าวก็จะมีหน้าต่างสำหรับพิมพ์อีเมลใหม่เด้งขึ้นมา โดยในช่องผู้รับอีเมลนั้นมีที่อยู่อีเมลของ Peck ปรากฏขึ้นมาเป็นค่าปริยาย

ดูเหมือน iOS จะเจอบั๊กที่เกี่ยวข้องกับเวลาอยู่เสมอนะครับ (ข่าวเก่า 1,

ยิ่งใกล้ช่วงที่ไมโครซอฟท์จะปล่อยตัวพรีวิวแรกของ Windows 8.1 ไมโครซอฟท์ก็จัดแคมเปญเรียกขวัญนักพัฒนา แฮคเกอร์ หรือแม้แต่ผู้ดูแลระบบทั่วโลก โดยให้เข้าทดสอบ Windows 8.1 พร้อมกัน และยื่นคำท้าว่า ถ้าหาบั๊กใน Windows 8.1 เจอและส่งรายงานให้ไมโครซอฟท์ตรวจสอบเป็นคนแรก ถ้าไมโครซอฟท์เจอจริง รับเงินรางวัลกลับไปนอนกอดได้เลยครับ

โดยหัวข้อที่ไมโครซอฟท์จะเปิดรับแจ้งเพื่อชิงเงินรางวัล จะมีดังต่อไปนี้

Google ประกาศปรับอัตราเงินรางวัลสำหรับผู้แจ้งช่องโหว่ของเว็บเพิ่มขึ้นหลังจากที่เพิ่งปรับอัตราการจ่ายเงินรางวัลไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

Google ได้ปรับเกณฑ์การให้รางวัลสำหรับผู้ค้นพบช่องโหว่โดยการทำ XSS (cross-site scrpting) ซึ่งเป็นการฝังโค้ดเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ที่มีช่องโหว่นั้นเพื่อดักจับข้อมูลสำคัญในระหว่างที่ผู้ใช้งานเปิดเข้าใช้หน้าเว็บไซต์ดังกล่าว

ข่าวนี้ "ไม่ใช่ควันหลง April Fools Day นะครับ"

มีรายงานจากผู้ใช้งาน YouTube บางส่วนว่า ขณะนี้ YouTube มีบั๊กในการตรวจสอบค่าพารามิเตอร์ของเบราว์เซอร์ ซึ่งมีผลทำให้ Internet Explorer 10 ที่ติดตั้งบน Windows 7 และ Internet Explorer 8 ที่ติดตั้งบน Windows XP กลายเป็นสองเบราว์เซอร์ที่ไม่รองรับการใช้งาน YouTube ครับ

อย่างไรก็ตามบั๊กนี้ไม่ได้ส่งผลถึง Internet Explorer 8, 9 บน Windows 7 และ Internet Explorer 10 บน Windows 8 ทั้งโหมด Desktop และโหมด Metro ด้วย ซึ่งทาง The Next Web ได้ติดต่อทั้งกูเกิล และไมโครซอฟท์ ให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ในเบื้องต้นแล้วครับ

ผู้ใช้งาน Quora คนหนึ่งค้นพบบั๊กของ Google ที่แสดงผลการค้นหาเป็นลิงก์เว็บโป๊จำนวนมาก ทั้งที่ไม่ได้ป้อนคำค้นหาที่เกี่ยวข้องหรือแม้แต่เฉียดเรื่องอย่างว่าแม้แต่น้อย

บั๊กดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใช้งาน Google ในการแก้ปัญหาสมการคณิตศาสตร์บางกรณี ตัวอย่างเช่น การค้นหาโดยป้อนข้อมูลว่า -4^(1/4) จะได้ผลการคำนวณ -1.41421356237 พร้อมลิงก์สู่เว็บโป๊จำนวนมากแถมพ่วงมากับคำตอบดังกล่าว

คำเตือน: ผู้เขียนข่าวต้องการให้ผู้ใช้แมคทราบและระวังการทำให้โปรแกรมเกิดการแครชขึ้นเท่านั้น ไม่มีจุดประสงค์ให้ผู้อ่านข่าวนำไปใช้ก่อกวนหรือสร้างความเสียหายต่อคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของตนเองหรือบุคคลอื่นๆ ทั้งสิ้น

เว็บไซต์ 9to5Mac ค้นพบบั๊กจากเว็บไซต์ Open Radar (ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ใช้พูดคุยกันระหว่างนักพัฒนาแอพพลิเคชันของ iOS) ว่าเมื่อพิมพ์ข้อความที่กล่าวถึง (ดูได้ท้ายเบรค) จะทำให้โปรแกรมต่างๆ บนแมคนั้นเกิดอาการแครชในทันที เช่น TextEdit, Chrome หรือแม้กระทั่ง Safari มีเพียงบางโปรแกรมเท่านั้นที่ไม่เกิดการแครชขึ้น

หนึ่งในบั๊กที่สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ Windows Phone 8 นั่นก็คือบั๊กสุ่ม Reboot ตัวเอง และไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่ากำลังพิจารณาบั๊กตัวนี้อยู่ ล่าสุดก็มีประกาศในเรื่องนี้เพิ่มเติมแล้วครับ

นั่นก็คือไมโครซอฟท์ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อหาที่มาของบั๊กตัวนี้ และก็ได้ประกาศว่ากำลังแก้ไขบั๊กตัวนี้แล้ว และจะพร้อมปล่อยอัพเดตให้ในเดือนธันวาคมนี้ผ่านทาง OTA ครับ ส่วนปัญหาอื่นๆ ยังคงหาที่มากันต่อไปครับ

งานนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ Windows Phone 8 กันถ้วนหน้าครับ

หลังจากที่มีข่าวว่า Windows Phone 8 หลายๆ รุ่นๆ ประสบปัญหาสุ่มรีบูตตัวเครื่องเอง และได้ไประบายเอาไว้อย่างหนักในหน้าเพจศูนย์ให้ความช่วยเหลือของทั้งโนเกีย และไมโครซอฟท์ ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้มองเห็นถึงความสำคัญของบั๊กตัวนี้ และได้ประกาศว่ากำลังหาแนวทางแก้ไขบั๊กตัวนี้แล้วครับ

โดยไมโครซอฟท์ให้รายละเอียดว่า พวกเขากำลังสำรวจปัญหานี้อยู่ (We are currently investigating reports of these incidents.) และยังหาสาเหตุไม่ได้อย่างแน่ชัดว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะนอกจาก Nokia Lumia 820 และ 920 ที่พบปัญหาแล้ว HTC 8X และ HTC 8S ก็พบปัญหานี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงเป็นปัญหาที่ทางไมโครซอฟท์ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนครับ

หลังจากที่ทางไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows Phone 8 ไปแล้วสักระยะ ตอนนี้ปัญหาของตัวระบบก็เริ่มมาแล้ว อย่างล่าสุด มีผู้ใช้ส่วนหนึ่งระบายในหน้าฟอรั่มของ Windows Phone Central, ศูนย์ให้ความช่วยเหลือของโนเกีย และของไมโครซอฟท์ ว่า Windows Phone 8 จะสุ่ม reboot เครื่องใหม่ และเครื่องค้างเป็นระยะ

ใน Android 4.2 Jelly Bean ที่พึ่งปล่อยออกมาได้มีการพบบั๊กของ Date Picker ใน People/Contacts โดยบั๊กดังกล่าวทำให้เดือนธันวาคมใน Date Picker หายไปไม่สามารถเลือกได้

บั๊กนี้ทางกูเกิลได้รับทราบแล้ว คาดว่าเราคงได้เห็น Jelly Bean 4.2.1 เร็วๆ นี้ (ก่อนธันวาคม)

บั๊กวันเวลาก็ยังคงเป็นปัญหาคลาสสิคของโปรแกรมเมอร์ต่อไป

ที่มา Android Police

Instagram บน Android ได้ออกอัพเดต 3.0.5 เพื่อแก้ไขบั๊กที่ทำให้ผู้ใช้งาน สามารถเข้าไปดูรูปของ private user ผ่าน Photo Map ของผู้ใช้งานคนนั้นได้ ซึ่งบั๊กนี้ถูกรายงานครั้งแรกที่ Cult of Mac

ในเบื้องต้นพบว่าผู้ใช้ Android สามารถเข้าไปดูรูปผ่าน Photo Map ของ private user คนไหนก็ตามได้ทันที แต่ต่อมา Instagram ได้ปิดช่องโหว่นี้ชั่วคราวโดยเมื่อเข้าไปดูแผนที่ก็จะขึ้นข้อความว่า ภาพไม่สามารถแสดงผลได้ และในเวอร์ชัน 3.0.5 นี้ก็ได้ตัดปุ่มเข้าดู Photo Map ทิ้งออกไปเลย

จากการที่ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows Phone Dev Center พร้อมกับเข้ารหัสแอพให้อัตโนมัติเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ตอนนี้ก็ต้องเจอกับปัญหาเข้าแล้วเมื่อแอพบางตัวที่ผ่านการทำ digital signature นั้นไม่สามารถที่จะติดตั้งบนโทรศัพท์ Windows Phone บางรุ่นได้ตามปกติ ซึ่งแอพชื่อดังที่ต้องเจอกับปัญหานี้ก็อย่างเช่น WhatsApp และแอพ Translator ของทางไมโครซอฟท์เอง

ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางไมโครซอฟท์กำลังเร่งแก้ไขปัญหานี้อยู่ แต่ก็ได้หยุดปล่อยแอพใหม่เป็นการชั่วคราวเพื่อจำกัดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากปัญหานี้ครับ

Skype ออกมายืนยันแล้วว่าตอนนี้มีบั๊กที่ทำให้ผู้ใช้บางรายประสบปัญหาข้อความส่งผิดคน หลังจากที่มีผู้ใช้คนหนึ่งไปโพสต์ปัญหาดังกล่าวไว้ในฟอรัมของ Skype และมีผู้ใช้อีกจำนวนหนึ่งมาร่วมยืนยันว่าเป็นจริงๆ

ผู้ใช้รายหนึ่งบอกว่าอาการนี้เกิดขึ้นหลังจากอัพเดตในเดือนมิถุนายน โดยระบุว่าข้อความที่เขาเคยส่งให้กับคนหนึ่ง กลับถูกส่งไปหาอีกคนในรายชื่อเพื่อนของเขาด้วย

เบื้องต้น Skype ทราบปัญหาแล้ว และเตรียมแก้ไขด้วยการออกอัพเดตภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้

ที่มา - Engadget

ในงานสัมมนาเกี่ยวกับความปลอดภัย(ทางด้านซอฟต์แวร์) Black Hat Europe ที่กรุงอัมสเตอดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีงานศึกษาชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่ทำจากภาคส่วนต่างๆ ผลปรากฏว่าซอฟต์แวร์ที่ทำโดยรัฐบาลมีอัตราการผ่านมาตรฐานต่ำที่สุด พูดเป็นภาษาชาวบ้านคือบั๊กเยอะที่สุดนั่นเอง

โดยนาย Chris Wysopal หัวหน้าฝ่ายค้นหาบั๊กจากบริษัท Veracode ได้เผยข้อมูลหลังวิจัยซอฟต์แวร์ในช่วงตั้งแต่กลางปี 2010 จนถึงปี 2011 ทั้งสิ้น 9,910 โปรแกรม ผลคือมีซอฟต์แวร์จากรัฐบาลเพียง 16% ผ่านการทดสอบจาก OWASP เมื่อเทียบกับฝั่งซอฟต์แวร์ทางด้านการเงินที่ผ่าน 24% และซอฟต์แวร์เพื่อการค้าที่ 28%

หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่นาฬิกาไม่ยอมปลุกวันที่ 3 มกราคม ล่าสุด ปัญหานี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง กับระบบ iOS ที่ใช้เวอร์ชั่น 4.2.1 หรือต่ำกว่า แน่นอน เหยื่อรายนี้คือคนที่ใช้ iPhone 4 (ที่ไม่ได้อัพเดต) รวมถึง iPhone 3G และ iPhone 2G (ซึ่งสูงสุดอยู่ไม่เกิน

แอปเปิลออกมายอมรับปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ของ iPhone 4S ใช้งานในน้อยกว่าปกติแล้ว โดย Natalie Harrison โฆษกของทางแอปเปิลระบุว่า "มีลูกค้ากลุ่มเล็กๆ รายงานว่าอายุแบตเตอรี่พวกเขานั้นต่ำกว่าที่คาดไว้เมื่อใช้งานอุปกรณ์ที่เป็น iOS 5 ซึ่งเราพบว่ามีบั๊กบางอย่างในซอฟต์แวร์ที่ส่งผลกับอายุของแบตเตอรี่จริง โดยเราจะออกอัพเดทซอฟต์แวร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์จากนี้เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว"

จากประเด็นร้อนที่ iOS4 ทำการเก็บข้อมูลพิกัด รวมถึงล่าสุด มีคนอ้างว่าพบข้อมูลนี้ก่อนจะเป็นข่าวเสียอีก ล่าสุด Alasdair Allan และ Pete Warden นักวิจัยทั้ง 2 คนที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลนี้ได้ออกมาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การที่ iPhone และ iPad เก็บข้อมูลพิกัดของผู้ใช้งานนั้น น่าจะเป็น "ความผิดพลาดทางวิศวกรรม" ที่ Apple กำลังจัดการอยู่ เพราะถ้านี่เป็นการสมรู้ร่วมคิดจริงๆ ไฟล์ที่ว่าน่าจะถูกซ่อนดีกว่านี้ จนพวกเขาไม่น่าจะหามันเจอได้ง่ายๆ