มีผู้ใช้ iPhone X บางส่วน ได้เริ่มรายงานปัญหาไปที่เว็บ Apple Support โดยบอกว่า iPhone X แสดงหน้าจอให้รับสายโทรศัพท์ดีเลย์ไป 6-10 วินาที หลังจากสายเข้า (ทราบเนื่องจากมีเสียงริงโทนดัง) ทำให้หลายครั้งไม่สามารถรับสายได้ทัน

ปัญหานี้ถูกรายงานว่าพบทั้งใน iOS 11.2.5 เวอร์ชันล่าสุด และเวอร์ชันก่อนหน้านี้ ผู้ใช้บางรายบอกว่าเมื่อรีสตาร์ทเครื่อง ปัญหานี้ก็จะหายไปชั่วคราว แล้วกลับมาอีกครั้งเมื่อรับสายโทรศัพท์ไป 15-20 สาย อย่างไรก็ตามไม่ใช่ผู้ใช้ iPhone X ทุกคนที่พบปัญหานี้

ตัวแทนของแอปเปิลชี้แจงว่ารับทราบปัญหานี้แล้วและกำลังตรวจสอบอยู่

มีรายงานจากผู้ใช้ iPhone จำนวนหนึ่งที่เป็น iOS 11.1.2 โดยพบว่าเครื่องจะรีสตาร์ทตัวเองตลอดทุกราว 1 นาที (เป็นรีบูทแบบ springboard ที่ขึ้นวงกลม ไม่ใช่โลโก้แอปเปิล) ซึ่งต่อให้ Restart เครื่องทั้งหมดก็ไม่ทำให้ปัญหาหายไป

เบื้องต้นสาเหตุนั้นมาจากผู้ใช้มีการแจ้งเตือนผ่านแอพที่ใช้ Local Notification แบบแจ้งเตือนซ้ำทุกวัน โดยบั๊กนี้จะเริ่มทำงานในเวลา 00:15น. ของวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการปิด Notification ของแอพเหล่านั้นไปก่อน หรืออาจปิด Notification ทั้งหมดเลยก็ได้หากไม่แน่ใจว่าแอพไหนที่ใช้ Local Notification

หากยังไม่หาย ทางแก้หนึ่งคือเปลี่ยนวันที่ในโทรศัพท์เป็น 1 ธันวาคมไปก่อน

เรื่องมีอยู่ว่าสายการบิน American Airlines มีระบบยื่นคำร้องขอลาหยุดงานของนักบินอัตโนมัติ โดยใช้ปัจจัยหลายอย่างในการอนุมัติคำขอ อาทิ อายุงาน หรือความต้องการนักบินในตอนนั้น แต่ระบบเกิดข้อผิดพลาด ส่งผลให้คำร้องขอลาหยุดของนักบินในช่วงเดือนธันวาคม ที่เป็นเทศกาลวันหยุดยาว ได้รับการอนุมัติเป็นจำนวนมาก จนเกิดผลกระทบกับสายการบินทำให้ไม่สามารถหานักบินมาทำงานได้ในช่วงดังกล่าว

ก่อนหน้านี้มีบั๊กแก้คำผิดเมื่อพิมพ์ i กลายเป็น A บน iOS 11.1 ที่ต่อมาได้รับการแก้ไขใน iOS 11.1.1 แต่ล่าสุดมีผู้ใช้ iOS บางส่วนบอกว่ายังพบปัญหาการแก้ไขคำผิด ซึ่งคราวนี้แก้ไขคำว่า it เป็น I.T ให้เสียอย่างนั้น

โดยพบว่าเมื่อพิมพ์คำว่า it ซึ่งเป็นคำสรรพนามพื้นฐานในการสนทนาภาษาอังกฤษ แล้วเคาะเว้นวรรคเพื่อพิมพ์คำถัดไป ตัวแก้คำอัตโนมัติจะปรับเป็น I.T ให้ทุกครั้ง นอกจากนี้ผู้ใช้บางรายยังพบปัญหาคล้ายกันเมื่อพิมพ์คำว่า is ก็แก้ไขเป็น I.S ด้วย

มีรายงานว่าผู้ใช้ iPhone และ iPad บางส่วนที่อัพเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด iOS 11.1 พบปัญหาเมื่อพิมพ์ข้อความด้วยอักษร i ตัวเล็ก แล้วระบบแก้ไขคำผิดอัตโนมัติจะเปลี่ยนเป็นอักษร A ตามด้วยสัญลักษณ์เครื่องหมายคำถาม ซึ่งสร้างปัญหาให้ผู้ใช้ไม่น้อยเพราะ i เป็นอักษรเปิดประโยคยอดนิยม

โดย Apple Support ได้เพิ่มเนื้อหาในเว็บ ยอมรับปัญหาดังกล่าวและแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาชั่วคราว โดยไปที่ Settings > General > Keyboard > Text Replacement แล้วเพิ่มการแทนที่ข้อความ โดยใส่ค่า Phrase เป็น I ตัวใหญ่ และ Shortcut เป็น i ตัวเล็ก

เรื่องมีอยู่ว่าในวันนี้ (5 พฤศจิกายน 2017) มีคนโพสต์ใน reddit ว่า Apple Watch ของตนเกิดอาการเครื่องรีสตาร์ทเองหลังจากใช้ Siri เพื่อสอบถามสภาพอากาศหรืออุณหภูมิปัจจุบัน ซึ่งก็มีผู้ทดลองทำตามและยืนยันว่าเจอปัญหาเดียวกัน

ปัญหานี้พบบน Apple Watch Series 3 รุ่นล่าสุดทั้งแบบ LTE และ GPS ตลอดจนรุ่นเก่ากว่านี้ที่อัพเดตเป็น watchOS 4.1 ล่าสุด ก็เจอปัญหาเช่นเดียวกัน

ปกติเวลากดเครื่องคิดเลข เมื่อลำดับการกดคือ 1 + 2 + 3 = ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต้องเป็น 6 แต่มีผู้รายงานใน Reddit ว่าสำหรับแอพเครื่องคิดเลข (Calculator) บน iOS 11 ถ้าเราป้อนค่าข้างต้นแบบต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่ 6 แต่เป็น 23 หรือ 24

สาเหตุเนื่องจากเมื่อเรากด 1 + 2 แล้วกด + ครั้งที่สองนั้น ปุ่ม + ในแอพจะไม่ตอบสนองในทันที ผลจึงเป็นการข้าม + ไป กลายเป็นกด 2 3 ต่อเนื่อง ได้ค่า 23 เข้าไปแทน ฉะนั้นปัญหานี้จะไม่เกิดหากเราค่อยๆ กด หน่วง และเว้นจังหวะให้โปรแกรมสักหน่อย

ปัญหานี้น่าจะถูกแก้ไขใน iOS 11.1

การเปลี่ยนเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ประธานาธิบดีสหรัฐ @POTUS มาเป็นของโดนัลด์ ทรัมป์ มีประเด็นถกเถียงเกิดขึ้น เพราะทวิตเตอร์ย้ายข้อมูลในยุคโอบามาไว้อยู่ในบัญชีใหม่ @POTUS44 และผู้ที่กดติดตาม @POTUS ตั้งแต่ยุคโอบามา จะติดตามทั้งสองบัญชีโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนหนึ่งโวยว่าไม่ได้ติดตาม @POTUS มาตั้งแต่ช่วงโอบามา แต่พอย้ายเป็นของทรัมป์แล้ว กลับกลายเป็นว่าติดตาม @POTUS ไปซะอย่างนั้น (คนจำนวนมากไม่ชอบทรัมป์อยู่แล้ว พอมาเจอแบบนี้เลยรู้สึกว่าถูกยัดเยียด)

หลัง Consumer Reports นิตยสารรีวิวผลิตภัณฑ์ชื่อดัง ออกผลการทดสอบ MacBook Pro รุ่นว่าไม่แนะนำ เนื่องจากปัญหาแบตเตอรี่ ล่าสุดแอปเปิลเปิดเผยแล้วว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากบั๊กของ Safari ในโหมดนักพัฒนา อย่างเช่นการปิดการเก็บแคชของเบราเซอร์

แอปเปิลระบุว่าวิธีการทดสอบของ Consumer Reports ไม่ได้เป็นวิธีการปกติของการใช้งานทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบจะไม่มีทางเจอบั๊กในลักษณะ โดยหลังเจอปัญหาแล้ว แอปเปิลได้ติดต่อให้ทาง Consumer Reports รันการทดสอบอีกรอบ ก่อนจะพบว่าการใช้งานแบตเตอรีกลับมาเป็นปกติเหมือนที่แอปเปิลอ้าง

ด้าน Consumer Reports ระบุว่าจะทดสอบแบตเตอรีอีกครั้งและพร้อมจะแก้ไขคำแนะนำให้หลังอัพเดตแพทช์

ดูเหมือนว่า iOS จะเกิดปัญหาใหม่ๆ มากขึ้น ล่าสุดพบบั๊กที่ให้เครื่องค้างได้แค่เปิดวีดีโอเท่านั้น

การเล่นวีดีโอ MP4 จากลิงก์ผ่าน Safari เมื่อผู้ใช้กดเล่นจะยังไม่เกิดปัญหาอะไร แต่เมื่อเล่นวีดีโอจนจบทำให้เครื่องช้าลงอย่างชัดเจน (เปิดดูวีดีโอยูทูบที่แนบมาด้านล่างถ้าหากนึกภาพไม่ออก) และจะค้างจนทำให้ไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะกด hard reset เพื่อให้ใช้ได้ตามปกติ

มี Youtuber แชนแนลที่ชื่อว่า EverythingApplePro ได้โพสต์วีดีโอ แสดงวิธีการเกิดปัญหาดังกล่าว

เมื่อเวลาประมาณ 4 นาฬิกาของคืนที่ผ่านมา มีรายงานจากผู้ใช้ Facebook จำนวนมาก พบว่ามีข้อความแสดงการระลึกถึงในหน้า Profile ของแต่ละคน ว่าพวกเขาได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยจากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้มีการแสดงข้อความนี้ในหน้า Profile ทุกคน

ตัวแทนของ Facebook ได้ชี้แจงใน 1 ชั่วโมงต่อมาว่า เกิดความผิดพลาดในการแสดงข้อความระลึกถึงผู้จากไปในหน้าบัญชีผู้ใช้งานหลายคน ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่เลวร้าย และ Facebook ก็ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว โดย Facebook แสดงความเสียใจและขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นแม้แต่ในหน้า Profile ของ Mark Zuckerberg

ที่มา: Business Insider

มีผู้ใช้งานแอพ Spotify บนคอมพิวเตอร์หลายราย รายงานปัญหาว่าแอพเขียนข้อมูลลงดิสก์เป็นจำนวนมากหลายร้อย GB หรือบางครั้งอาจแตะหลัก TB โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด จนอาจเป็นผลให้ดิสก์ประเภท SSD สิ้นอายุใช้งานเร็วกว่ากำหนดได้

จากการทดสอบของ Ars Technica พบว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจริง และเกิดขึ้นแม้แต่ช่วงนั้นแอพ Spotify ไม่ถูกใช้งานหรือเล่นเพลงใดๆ สิ่งที่พบคือแอพเขียนข้อมูลขนาด 5-10GB ในเวลาทดสอบไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และถ้าปล่อยแอพรันทิ้งไว้หนึ่งวันก็จะมีข้อมูลถูกเขียนมากถึง 700GB

อัพเดท 0.37 ของโปเกมอนโก (เลขเวอร์ชันของแอพบนแอนดรอยด์) อาจเป็นสิ่งที่เทรนเนอร์ทุกคนตั้งตารอคอยมานาน เพราะเป็นการเพิ่มระบบโปเกมอนบัดดี้ ให้เทรนเนอร์สามารถเลือกโปเกมอนคู่ใจ แล้วเดินไปด้วยกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มบารมีการช่วยเก็บลูกอม (แคนดี้) สำหรับโปเกมอนชนิดนั้นๆ

หลังจากที่ผมได้พยายามเดินมากว่า 20 กิโลเมตร ได้สังเกตุเห็นว่าระยะทางที่ปรากฎในหน้าบัดดี้ กับระยะทางที่ผมเดินได้จริงๆ กลับไม่สัมพันธ์กัน ผมจึงพยายามหาข้อมูล และพบคนที่มีปัญหาแบบเดียวกันบน Reddit

Jani (นามสมมติ) เด็กชายวัย 10 ขวบชาวฟินแลนด์ กลายเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล Bug Bounty จากเฟสบุ๊คจากการค้นพบช่องโหว่ที่ทำให้เขาสามารถลบคอมเม้นท์ไหนก็ได้บน Instagram แม้จะไม่ใช่ของตัวเองก็ตาม

Jani มีความสนใจเรื่องการเขียนโปรแกรมอยู่ก่อนแล้ว และการค้นพบช่องโหว่นี้ ทำให้เขาสามารถเข้าไปลบคอมเม้นท์ Instagram ได้จากเซิร์ฟเวอร์ และหลังจากแจ้งไปยังเฟซบุ๊คแล้ว เด็กน้อยคนนี้ได้ยืนยันการค้นพบ ด้วยการลบคอมเม้นท์ที่ทาง Instagram โพสต์จากแอคเคาท์ทดสอบ ซึ่งนั่นทำให้ Jani ได้เงินรางวัลสูงถึง 1 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ

ช่องโหว่นี้ถูกค้นพบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และทาง Instagram ก็ได้อัพเดตแพทช์แก้ช่องโหว่นี้ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ Jani จะได้เงินรางวัลในเดือนถัดมา

วันนี้ไมโครซอฟท์ปล่อย Windows 10 รุ่นทดสอบ 14316 แต่กลับไม่ปล่อย Windows 10 Mobile รุ่นทดสอบเดียวกัน เหมือนที่เคยทำมาในช่วงหลัง เพราะมีบั๊กเกี่ยวข้องกับ cellular data

คงต้องรอกันต่อไปว่าเมื่อไรจะมีรุ่นทดสอบตัวใหม่ของ Windows 10 Mobile ถูกปล่อยออกมาครับ

ที่มา: @windowsinsider

หลังจากไมโครซอฟท์ปล่อย Windows 10 Mobile Insider Preview Build 14267 ให้ Lumia 950, 950 XL, 650, 550 และ Xiaomi Mi4 ก็มีผู้ใช้ Lumia 550 รายงานว่าไม่สามารถชาร์จไฟมือถือหรือเชื่อมกับพีซีผ่านพอร์ต USB ได้หลังจากอัพเกรด

ล่าสุด ไมโครซอฟท์ได้แจ้งเตือนปัญหาข้างต้นอย่างเป็นทางการ พร้อมแนะนำว่าให้ใช้ Windows Device Recovery Tool กู้คืน (ดูคำแนะนำได้จาก Windows Experience Blog) สำหรับมือถือที่แบตเตอรี่หมดนั้น เว็บไซต์ MSPoweruser แนะนำวิธีแฟลชรอมแบบ command line สามารถศึกษาได้จากที่มาของข่าว

บริษัทแบ็คอัพ Backblaze รายงานบั๊กของ Adobe Creative Cloud อัพเดตล่าสุด 3.5.0.206 บนแมค หลังจากผู้ใช้ล็อกอินเข้าระบบแล้ว สคริปต์ของ Adobe จะลบไดเรคทอรีแรก (เรียงตามตัวอักษร) ในไดเรคทอรี root ของระบบทิ้ง

กรณีของ Backblaze มีไดเรคทอรีชื่อ .bzvol เป็นไดเรคทอรีซ่อนสำหรับเก็บข้อมูลแบ็คอัพของผู้ใช้ ซึ่งมักเป็นไดเรคทอรีลำดับแรก และโดนลบข้อมูลไปด้วย ส่วนผู้ที่ไม่ได้ใช้ Backblaze มักมีไดเรคทอรี .DocumentRevisions-V100 ที่เก็บข้อมูล autosave และ version history ของระบบแทน

Adobe รับทราบปัญหานี้และหยุดอัพเดตแพตช์ตัวนี้ไปก่อน ทางแก้แบบชั่วคราวสำหรับคนที่อยากใช้ Creative Cloud ตอนนี้คือสร้างไดเรคทอรีหลอกขึ้นต้นด้วย .a เพื่อให้โดนลบแทนครับ

อินเทลยอมรับปัญหาว่าซีพียู Core Skylake รุ่นล่าสุดมีบั๊กที่ทำให้ซีพียูหยุดทำงานไปชั่วขณะ ถ้ารันงานที่มีความซับซ้อนสูงบางอย่าง

บั๊กนี้ถูกค้นพบโดยกลุ่มนักวิจัย Great Internet Mersenne Prime Search (GIMPS) ที่ค้นหาจำนวนเฉพาะ (prime number) ด้วยคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรม Prime95 คำนวณหาจำนวนเฉพาะใหม่ๆ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

อินเทลยอมรับว่ามีบั๊กนี้จริง และระบุว่ากำลังเร่งแก้ไขผ่านการอัพเดต BIOS ต่อไป

มีคนไปพบบั๊กของ Chrome ที่จะแครชเมื่อพิมพ์ URL ที่มีโค้ดเฉพาะบางตัว เช่น http: //a/%%300 หรือ file: ///%%300 (ต้องลบ space ตรงหลัง colon ด้วยนะครับ จงใจใส่ไว้เพื่อความปลอดภัย)

บั๊กนี้จะเกิดเฉพาะ Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปเท่านั้น ไม่กระทบ Chrome for Android โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือข้อความ %%300 จะถูกแปลงเป็น %00 (%[%30]0 = %[0]0) แต่บั๊กดังกล่าวทำให้มีไบต์ NULL ติดไปด้วย เมื่อส่งค่า %00 ไปประมวลผล Chrome จะเข้าใจว่าเป็นข้อความที่ต้องถอดรหัสอีกรอบ แต่เมื่อเจอ NULL โปรแกรมจะมองว่า URL นี้มีสถานะเป็น invalid ซึ่ง Chrome ไม่ได้เขียนโค้ดรองรับอินพุตลักษณะนี้เอาไว้

หนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษ รายงานว่า FAA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินของสหรัฐ ออกคำเตือน (Airworthiness Directive: AD) หลังจากพบว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมสำหรับเครื่องบินรุ่น Boeing 787 มีข้อผิดพลาดร้ายแรง ที่อาจทำให้สูญเสียความสามารถในการควบคุมเครื่องบินได้ทุกขณะ

สำหรับข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นหากว่าเครื่องปั่นไฟ (generator) บนเครื่องบิน ซึ่งติดตั้งอยู่บนเครื่องจำนวน 4 ตัว ทำงานพร้อมๆ กัน และต่อเนื่องกันยาวนาน 248 วัน เครื่องปั่นไฟทั้งหมดทุกตัวจะเข้าสู่โหมดสำรอง (failsafe) โดยทันที ซึ่งผลที่ตามมาคือการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด โดยสามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะที่ทำการบิน (regardless of flight phase)

Google ประกาศขยายขอบเขตการให้รางวัลสำหรับผู้แจ้งบั๊กตามโครงการ VRP (Vulnerability Reward Program) โดยได้เพิ่มการให้เงินตอบแทนแก่ผู้ที่แจ้งบั๊กในแอพของ Google ไม่ว่าจะเป็นแอพสำหรับ Android หรือ iOS จากแต่เดิมที่มีการให้เงินตอบแทนแก่ผู้แจ้งบั๊กหรือช่องโหว่ในบริการผ่านเว็บไซต์อยู่ก่อนแล้ว

มูลค่าของรางวัลตอบแทนนั้นมีตั้งแต่ 100 ดอลลาร์ ถึง 20,000 ดอลลาร์ต่อรายการ โดย 4 ปีที่ผ่านมามีการแจกรางวัลให้แก่ผู้แจ้งบั๊กในบริการต่างๆ รวมกันแล้วมากกว่า 4 ล้านดอลลาร์

เมื่อสัปดาห์ก่อน (วันที่ 15 มกราคม 2015) ผู้ใช้ลินุกซ์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า keyvin ได้รายงานใน Github ว่าโปรแกรม Steam มีปัญหาร้ายแรงที่ลบข้อมูลใน Home folder ทั้งหมดเมื่อย้ายโฟลเดอร์เก็บการตั้งค่าของ Steam

วันที่ 30 มิถุนายนปีนี้ โลกของเราจะมี "วินาที" เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งวินาที (leap second หรือ อธิกวินาที) เพื่อชดเชยระบบการนับเวลาที่อาจไม่พอดีกับการหมุนของโลกแบบเป๊ะๆ

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะโลกของเรามีการใส่วินาทีเพิ่มเข้ามาแล้วทั้งหมด 25 ครั้ง (ครั้งล่าสุดในปี 2012 นี้เอง) อย่างไรก็ตาม การใส่วินาทีแปลกปลอมเพิ่มเข้ามากลับสร้างปัญหาให้ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น (ลักษณะเดียวกับปัญหา Y2K)

มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งเริ่มรายงานตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนว่าเมื่ออัพเกรด Lumia 925/1020 เป็น Windows Phone 8.1 (ทั้ง Preview for Developers และเฟิร์มแวร์ที่มากับ WP8.1) แล้วพบอาการเครื่องค้าง แก้ปัญหาได้ด้วยการ soft reset เพียงอย่างเดียว

ล่าสุด Kevin Lee ซึ่งเป็น Partner Director of Program Management ที่ไมโครซอฟท์เผยว่า บริษัทเจอต้นตอของปัญหาแล้ว นั่นคือมีข้อผิดพลาดในลอจิกด้านการจัดการพลังงาน หากเกิดร่วมกับปัจจัยอื่นแล้วจะทำให้มือถือไม่สามารถปลุกซีพียูและอุปกรณ์ต่อพ่วงให้ทำงานได้หลังจากเครื่องเข้าสู่โหมดสลีป (ต้นฉบับเรียกสถานะ deep sleep) แต่ข่าวดีคือกำลังทดสอบแพตช์แก้ปัญหาดังกล่าวอยู่ บริษัทคาดว่าจะปล่อยให้ดาวน์โหลดร่วมกับชุดซอฟต์แวร์อัพเดตถัดไปในอีกไม่นาน (soon)

มีการรายงานจำนวนมากบน Apple Support และฟอรัมของเว็บไซต์ MacRumors ว่าผู้ใช้ iOS 8 และ iOS 8.0.2 บนเครื่องรุ่นเก่าหรือผู้ใช้ iPhone 6/iPhone 6 Plus เจอปัญหาในการเชื่อมต่อมือถือกับอุปกรณ์อื่นผ่านบลูทูธ (อาทิ ระบบเครื่องเสียงในรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยู เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฟอร์ด, หูฟัง, ลำโพง) ตั้งแต่ไม่สามารถจับคู่อุปกรณ์ได้ หรือการเชื่อมต่อถูกตัดเมื่อมีสายโทรเข้า เป็นต้น