Apple, Inc.
ในงานเปิดตัว iPod nano รุ่นติดกล้องเมื่อสัปดาห์ก่อน สตีฟ จ็อบส์ได้เปรียบเทียบ iPod nano แบบติดกล้องกับกล้องวิดีโอพกพายี่ห้อ Flip (ตอนนี้ถูก Cisco ซื้อบริษัทไปแล้ว) ว่าเป็นแรงบันดาลใจให้กับแอปเปิลในการยัดกล้องลงไปใน nano
เวลาผ่านมาไม่ถึงสัปดาห์ก็มีคนเอา iPod nano กับ Flip รุ่น Ultra SD มาทดสอบคุณภาพของวิดีโอเปรียบเทียบกันตรงๆ โดยใช้วิธีถืออุปกรณ์ทั้งสองอย่างถ่ายในสถานที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน และเอามาเปิดเปรียบเทียบกัน
ผลสรุปคือวิดีโอจาก Flip คุณภาพดีกว่า (อันนี้เป็นไปตามคาดอยู่แล้ว) แต่ภาพจาก iPod nano ให้มุมกว้างกว่าของ Flip
ที่มา - NewTeeVee
ความสามารถที่หลายๆ คนไม่ค่อยพูดถึงกันของ OS X 10.6 (Snow Leopard) คือ Grand Central Dispatch (GCD) โดยที่ตัวมันเองนั้นคือเฟรมเวิร์คสำหรับการเขียนโปรแกรมเพื่อรองรับซีพียูมัลติคอร์ เช่นเดียวกับ Intel TBB, OpenMP และเฟรมเวิร์คแบบอื่นๆ อีกมาก แต่การควบคุมทั้งฮาร์ดแวร์, ระบบปฎิบัติการ, และซอฟต์แวร์พัฒนา ก็ทำให้ GCD น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์บน OS X พอสมควร
ข่าวดีคือ GCD โอเพนซอร์สภายใต้สัญญาอนุญาตแบบ Apache 2.0 ทำให้ระบบปฎิบัติการอื่นนำเฟรมเวิร์คนี้ไปใช้งานได้
หลังจากที่แอปเปิลทำเซอร์ไพรส์ด้วยการไม่มีกล้องใน iPod touch ไปแล้ว โดยจ็อบส์ได้ให้เหตุผลว่าอยากทำให้เครื่องมีราคาถูกที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ (ดูข่าวเก่า) ล่าสุดได้มีการค้นพบพื้นที่ว่างในตัวเครื่องที่คาดว่าจะเว้นไว้สำหรับใส่กล้อง
จากการเปิดเผยของ iFixit ที่ได้ลองแยกชิ้นส่วน iPod touch รุ่นใหม่ พบว่าที่บริเวณกลางเครื่อง มีพื้นที่ว่างขนาด 6 x 6 x 3 มิลลิเมตร โดยมีตำแหน่งที่ตรงกับข่าวลือต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าพื้นที่ตรงนี้จะไม่ลึกพอสำหรับกล้องโฟกัสอัตโนมัติแบบ iPhone แต่ก็สามารถรองรับกล้องวีดีโอ VGA แบบใน iPod nano รุ่นล่าสุดได้
เทคโนโลยี Grand Central Dispatch ใน Mac OS X 10.6 Snow Leopard ซึ่งช่วยให้แอพพลิเคชันสามารถใช้ประโยชน์จากซีพียูแบบหลายคอร์ได้ดีขึ้น ตอนนี้ประกาศเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สแล้ว
ซอฟต์แวร์รุ่นโอเพนซอร์สจะใช้ชื่อว่า libDispatch ใช้สัญญาอนุญาตแบบ Apache ตัว libDispatch มีเฉพาะไลบรารี ส่วนเคอร์เนลของระบบปฏิบัติการที่สนับสนุน Grand Central Dispatch จะไปอยู่ในโครงการ XNU ซึ่งเป็นเคอร์เนลของ Mac OS X ที่แอปเปิลเปิดซอร์สมานานแล้ว
หลังจากมีคลิปหลุดของโฆษณา Windows 7 ตัวใหม่ลง Youtube ก่อนออกอากาศทางทีวี ทางไมโครซอฟท์ได้ทำโฆษณาตัวใหม่ ที่ชื่อชุด "Good news" มาออกอากาศแทน ได้ออกอากาศที่อเมริกาไปเมือคืนก่อนแล้ว โดยใช้นักแสดงสาวน้อยน่ารักคนเดิมจากโฆษณา I'm PC ที่ชื่อ Kylie โฆษณานี้น้อง Kylie ได้นำเสนอการใช้ Windows Live Photo บน Windows 7 ว่าสามารถใช้ง่ายดายอะไรเช่นนี้ ก่อนจบน้อง Kylie พูดจาอย่างฉะฉาน ฟังชัดว่า "I'm PC. And more happy is coming." (หนูเป็นชาว PC ค่ะ ความสุขที่ยิ่งกว่านี้กำลังจะมาเร็วนี้ค่ะ) แถมท้ายโฆษณายังบอกวันวางตลาดของ Windows 7 ที่เป็นกล่องอีกต่างหากซึ่งก็คือ วันที 22 ตุลาคม 2552 นั่นเอง
จากข่าว Snow Leopard แถม Flash Player รุ่นที่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ตอนนี้แอปเปิลได้ออก Mac OS X 10.6.1 มาแก้ปัญหานี้แล้ว
นอกจากแก้ปัญหาเรื่อง Flash รุ่นเก่า Mac OS X 10.6.1 ยังแก้ปัญหาย่อยๆ อีกหลายจุด เช่น ปัญหาที่บางคนเล่นดีวีดีไม่ได้, ปัญหาของ Mail.app กับการส่งเมลผ่าน SMTP รวมถึงอุดรูรั่วด้านความปลอดภัยอื่นๆ ด้วยครับ
ผู้ใช้ Snow Leopard สามารถติดตั้งได้ผ่าน Software Update ตามปกติ
ที่มา - Ars Technica
จ็อบส์ได้ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times หลังจากการเปิดตัว iPod ชุดใหม่เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้ครับ
หลังจากที่แอปเปิล ปิดการ sync กับ iTunes ไปแล้วครั้งหนึ่ง และ Palm ก็สามารถเปิดใช้ได้อีกครั้งหนึ่ง ในคราวนี้ด้วยฤกษ์งามยามดีเมื่อ iTunes 9 ออกวันที่ 9/9/09 แอปเปิลก็ปิดการ Sync อีกครั้งหนึ่งครับตามที่ลือกันไว้
สำหรับสถานการณ์ด้าน Palm นั้นกะจะออก Firmware 1.2 ตัดหน้า Firmware 3.1 ของ iPhone ครับ แต่ว่าก็ได้เลื่อนออกไป ซึ่งคาดการณ์ว่าจะแก้ไขปัญหานี้ก่อนครับ
ที่มา: PreCentral
งาน It's Only Rock and Roll จบลงไปแล้ว โดยสรุปได้ดังนี้
iPhone
Firmware โหลดฟรี สำหรับ iPhone และ iPod Touch ที่เป็น 3.0, $4.95 สำหรับ iPod Touch เวอร์ชั่นเก่า
iTunes
iTune 9.0 ปรับปรุงใหม่ พร้อม Genius เช่นกัน
ไม่มีใครรู้จริงๆ ว่างานแถลงข่าวเกี่ยวกับไอพ็อดชุดใหม่นั้นจะเกี่ยวข้องกับไอพ็อดรุ่นไหนบ้าง ที่จะมีก็เพียงการคาดเดาจากข่าวลือ แต่แอปเปิลก็เริ่มส่งสัญญาณบางอย่างด้วยการลดราคาไอพ็อดบางรุ่นลง ได้แก่
ถ้าโดนกระทบกันหมดก็คงเป็นการเปิดตัวชุดใหญ่จริงๆ
John Gruber เจ้าของบล็อก Daring Fireball ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการพยากรณ์ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล เขียนบล็อกคาดเดาว่าคืนนี้ (9 ก.ย.) แอปเปิลจะเปิดตัวอะไรในงานแถลงข่าว iPod
สิ่งที่ Gruber บอกว่า "มาแน่" คือ
สิ่งที่ Gruber ยังไม่ชัวร์แต่คิดว่าเป็นข่าวที่น่าสนใจ
อารยธรรมโซนี่อย่าง Walkman นั้นถูกบดบังจาก iPod มาเป็นเวลาถึงสี่ปีเต็ม แต่การลดราคาลงอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของโซนี่กลับมาอยู่ที่ร้อยละ 43 และ iPod ตกลงไปอยู่ที่ร้อยละ 42.1 ได้สำเร็จ
ข่าวร้ายสำหรับโซนี่คือตลาดเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลนี้กำลังหดตัวลงเรื่อยๆ ซ้ำร้ายส่วนแบ่งที่โซนี่ทำได้นี้ถ้านับในแง่มูลค่าแล้วยังห่างไกลกันหลายช่วงตัว โดยที่หนึ่งของญี่ปุ่นในตอนนี้ยังเป็น iPod nano 8GB ที่ราคาถึง 17,400 เยน แพงกว่าเครื่องเล่นของโซนี่แทบทุกรุ่น แต่ก็ยังขายดีกว่าที่สอง อย่าง NW-E042 กว่าสามเท่าตัว
การนับยอดนี้ไม่นับโทรศัพท์มือถือเช่น iPhone และ Sony Ericcson Walkman ทั้งหลาย แต่เราคงเดาได้ไม่ยากว่าโซนี่ก็กำลังลำบากในตลาดโทรศัพท์สำหรับฟังเพลงอยู่ไม่น้อย
ในงานของแอปเปิลวันที่ 9 กันยายน (วันพุธนี้) สำนักข่าวหลายแห่งคาดการณ์กันว่าสิ่งที่เราจะได้เห็นแน่ๆ คือ iPod touch รุ่นใหม่ติดกล้อง รวมถึงอาจจะมี iPod nano ติดกล้องด้วยเช่นกัน
คำพยากรณ์หนึ่งที่น่าสนใจมาจาก Marco Arment ผู้พัฒนาโปรแกรม Instapaper บน iPhone เขาคาดว่า
ผมได้ไปเจอบทความซีรีส์นึงในเว็บ AppleInsider ซึ่งพูดถึงรายละเอียดต่างๆ ของ Snow Leopard ซึ่งในเวลาที่ผมพิมพ์นี้ได้ออกมาแล้ว 3 ตอนคือ Quicktime X, 64-bit และ GPU Optimization
CrunchGear รายงานว่าแอปเปิลได้ทำการส่งคำเชิญชวญแก่สื่อต่าง ๆ แล้วสำหรับงาน Media Event พิเศษที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 กันยายนนี้แล้ว โดยแอปเปิลได้เลือกใช้สโลแกน "It's only rock and roll, but we like it." ในปีนี้ ซึ่งอาจจะกล่าวถึงเพลงของ The Rolling Stones "It's Only Rock 'n' Roll (Bit I Like It) ก็ได้
สำหรับงานในครั้งนี้จะจัดขึ้นในเวลา 10 โมงเช้า (แคลิฟอร์เนีย) ที่ศูนย์ประชุม Yerba Buena Center for the Arts ในเมืองซานฟรานซิสโก
งานนี้คาดว่าแอปเปิลจะทำการเปิดตัวไอพ็อดรุ่นต่าง ๆ ใหม่ โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาแอปเปิลได้เพิ่มงาน Media Event พิเศษนี้ขึ้นมาเพื่อเปิดตัวไอพ็อดใหม่โดยเฉพาะมาหลายปีแล้ว คาดว่าเราจะได้เห็น iTunes เวอร์ชั่นใหม่ในเวลาเดียวกันด้วยเช่นกัน
หลายๆ คนอาจเคยคิดว่าฟีเจอร์ Find My iPhone ใน iPhone 3GS น่าจะช่วยจับผู้ร้ายที่ขโมย iPhone ได้ ตอนนี้มันเป็นจริงแล้วครับ
เหตุเกิดที่เมือง Shadyside ในสหรัฐ เรื่องมีอยู่ว่าชายคนหนึ่งโดนจี้ และผู้ร้ายได้กระเป๋าสตางค์กับ iPhone ไปโดยที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปเขาจึงแจ้งตำรวจและธนาคารเพื่ออายัดบัตรต่างๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า iPhone 3GS มีฟีเจอร์นี้อยู่ เลยกลับบ้านเพื่อตรวจสอบว่ามันอยู่ที่ไหน สุดท้ายเขาพบว่ามันอยู่ที่ร้าน Walmart ในบริเวณใกล้เคียง เขาจึงแจ้งตำรวจและจับผู้ต้องสงสัยได้ในที่สุด
ของกลางที่พบคือปืน, บัตรประชาชนที่ถูกขโมย, บัตรเครดิตและเงินสดจำนวนหนึ่ง ข่าวไม่ได้รายงานว่าเจ้าของได้ iPhone คืนหรือไม่ครับ
ZFS ระบบไฟล์สุดล้ำจากซันที่ใช้บน OpenSolaris แต่ใช้บนลินุกซ์ไม่ได้เพราะติดปัญหาเรื่องสัญญาอนุญาตคนละแบบ เคยเป็นข่าวหลายครั้งว่าแอปเปิลจะใช้มันใน Mac OS X มาตั้งแต่ 10.5 Leopard ยังไม่ออก (ปี 2006 นู่น)
ตอนนี้ 10.6 Snow Leopard วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว และไม่มี ZFS แต่อย่างใด
คำถามที่ตามมาจึงเป็นว่า เกิดอะไรกับ ZFS ในค่ายแอปเปิลกันแน่ แน่นอนว่าเราต้องคิดคำตอบกันเอง คำตอบที่เป็นไปได้คือแอปเปิลยังทดสอบ ZFS ไม่เสร็จ หรือไม่ก็ แอปเปิลมองว่า ZFS อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้ Mac OS X อีกต่อไป คนที่ได้ใช้ฟีเจอร์ของ ZFS มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น?
ที่มา - ZDNet
ช่วงนี้มีข่าว iPhone ระเบิดออกมาบ่อยมาก สองครั้งในฝรั่งเศส และล่าสุดในเบลเยียมครับ
รายละเอียดมีสั้นๆ คราวนี้เป็นเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี กำลังยก iPhone ขึ้นมาเพื่อกดโทร ทันใดนั้น iPhone ก็ระเบิดภายในตัวเครื่อง จอดับสนิทใช้การไม่ได้ มือของเขาไม่เป็นไรแต่ปวดหัวไปหลายวัน แอปเปิลบอกว่ายินดีมอบ iPhone เครื่องใหม่ให้ถ้าเขาส่งซากของเครื่องเดิมคืน
ในยุโรปตอนนี้มีข่าว iPhone ระเบิดรวม 11 ครั้งแล้ว แม้ว่า แอปเปิลปฏิเสธว่าการระเบิดของไอโฟนเกิดจากแบตเตอรี่ร้อน ตอนนี้รัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมคุยกับแอปเปิลแล้วว่าจะแก้ปัญหานี้กันอย่างไร
หลังจากเกิดเหตุไอโฟนระเบิดในประเทศฝรั่งเศส (ดูข่าวเก่า โดยคุณ mk) ก็ได้มีผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งออกมาเรียกร้องให้แอปเปิลทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่อาจทำให้เครื่องร้อนเกินไป แต่บริษัทก็ได้ออกมาปฏิเสธ โดยกล่าวว่าไม่มีการยืนยันอย่างแน่ชัดว่าแบตเตอรี่เป็นสาเหตุทำให้เครื่องร้อนจนเกินไป และจำนวนปัญหาที่ได้รับรายงานเข้ามาก็น้อยมากเพียงเลขหลักเดียว นอกจากนั้นปัญหาหน้าจอแตกนั้น จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เกิดจากแรงกระแทกภายนอก
ตอนนี้ European Commission (EC) ได้เริ่มทำการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว
พอดีว่าวันนี้ ผมได้รับ Snow Leopard ที่สั่งมาจาก Apple Online Store แล้ว เลยคิดว่าจะมานำเสนอประสบการณ์ที่ได้รับจากการอัปเกรดเสียหน่อย ซึ่งจริงๆ แล้วผมเห็นว่าก็คงมีรีวิวจากหลายๆ สำนักในเมืองนอกเมืองนารีวิวกันเต็มไปหมดแล้ว ตรงนี้ผมจะขอเน้นเฉพาะประสบการณ์หรือปัญหาที่พบจากการ "อัปเกรด" และอะไรที่เฉพาะเจาะจงใน "ประเทศไทย" เป็นหลักแล้วกันนะครับ
ข้อมูลทั้งหมด อ้างอิงบน MacBook Pro รุ่นแรกสุด Core Duo 2.16GHz (ซีพียูยังเป็น 32bit) แรม 2GB และฮาร์ดดิสก์อัปเกรดเป็น 500GB
และเนื่องจากคงไม่มีการจัดเรื่องราวอะไรแบบรีวิวปกติ เลยขอนำเสนอเป็นข้อๆ ตามแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วกันนะครับ จะได้อ่านง่ายๆ ด้วย เพราะคงไม่ปะติปะต่อกันเท่าไหร่
การติดตั้งและฮาร์ดแวร์
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แอปเปิลนั้นได้ทำสัญญากับบริษัท China Unicom ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับที่สองของจีน ที่จะนำเข้าและเป็นผู้ขาย iPhone แต่เพียงผู้เดียวในประเทศจีนเป็นเวลาสามปี โดยจะเริ่มเปิดขายจริงในช่วงปลายปีนี้
ปัจจุบัน China Unicom นั้นมีผู้ใช้บริการในปัจจุบันประมาณ 140 ล้านราย (อันดับหนึ่ง China Mobile ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจึนมี 460 ล้านราย) โดยส่วนใหญ่กว่า 70 ล้านรายเป็นลูกค้า post-paid (ใช้ก่อนจ่ายทีหลัง) และนอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะสร้างเครือข่าย 3G ให้ได้ภายในปลายปีอีกด้วย
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Bing SDK สำหรับระบบปฏิบัติการแมคอินทอชและไอโฟนผ่าน CodePlex ภายใต้ MS-PL (Microsoft Public License) โดยนักพัฒนาสามารถ:
หากใครสนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ CodePlex
Gizmodo รายงานว่านอกเหนือจากที่แอปเปิลจะทำ Tablet ขนาด 10 นิ้ว แอปเปิลกำลังพัฒนา Tablet ขนาด 13 นิ้วและ 15 นิ้วอีกด้วย โดยแหล่งที่มาที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ 100% แน่นอนนี้ยังอ้างอีกว่าหนึ่งในเครื่อง Tablet เหล่านี้สามารถรัน Mac OS X ตัวเต็มได้อีกด้วย
ข่าวลือที่ผ่านมาอ้างว่าแอปเปิลจะทำการเปิดตัว Tablet ช่วงปลายปีนี้หรือไม่ก็ต้นปีหน้า แต่รายงานทั้งหมดเห็นตรงว่าอุปกรณ์ตัวนี้จะมีขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว
ที่มา - MacRumors
ในที่สุด Mac OS X เวอร์ชั่นต่อไปก็ได้วางจำหน่ายแล้วครับ โดยเลื่อนจากเดือนกันยายนมาเป็นวันนี้ครับ สามารถอัพเกรดได้ในราคา $29 (ถ้าใช้ Tiger ต้องซื้อแพค OS X, iLife, iWork ครับ และไม่รองรับ PowerPC แล้ว)
สำหรับลุกเล่นต่างๆ ดูได้จากรีวิวครับ
ที่มา: Apple Store
Snow Leopard วางขายวันนี้ (28 สิงหาคม) ก่อนวันวางขายหนึ่งวันก็เป็นโอกาสอันดีที่แอปเปิลจะแจก Snow Leopard ให้คอลัมนิสต์และเว็บไซต์ไอทีเมืองนอกเอาไปรีวิวให้ทันก่อนวางขาย
จริงๆ มีรีวิวหลายที่ แต่ผมเลือกมาแค่ 3 คือ Engadget, Gizmodo และ WSJ ครับ
Engadget