สำหรับหลาย ๆ คนที่สงสัย CEO ของกูเกิล Eric Schmidt ที่เพิ่งลาออกจากการนั่งเก้าอี้บอร์ดของแอปเปิลแล้วได้รับค่าตอบแทนหรือรายได้จากแอปเปิลปีละเท่าไหร่กัน

สรุปแล้วแอปเปิลให้ผลตอบแทนกับ Schmidt ต่อปีเป็นสินค้าแอปเปิลต่าง ๆ มูลค่า 8,700 ดอลลาร์สหรัฐ และของขวัญอีก 7,500 ดอลลาร์ และสินค้าสุดลับจากแอปเปิลที่เขาอาจจะเอากลับไปให้กูเกิลดูได้อีกด้วย

หรือนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เขาลาออก? (ฮา)

ที่มา - Gizmodo

สืบเนื่องมากจาก iPhone OS 3.1 beta ที่ทางแอปเปิลส่งให้กับนักพัฒนาเมื่อสัปดาห์ก่อน มีรายชื่อของอุปกรณ์ลึกลับที่ชื่อว่า "iProd0,1" และ "iProd1,1" อยู่ต่อท้ายจากอุปกรณ์อื่นๆ ของแอปเปิลอย่างไอโฟนและไอพ็อด (รูป) โดยแอปเปิลใส่รายละเอียดของอุปกรณ์ตัวนี้ไว้ว่าเป็น standardMuxPTPEthernet ซึ่งเป็นคำเดียวกับที่ใช้บนไอโฟน อีกทั้งยังระบุชื่อผู้ผลิตเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นของแอปเปิล

นับแต่กูเกิลเปิดตัว Chrome OS คำถามที่ตามมาคือ Eric Schimdt จะทำอย่างไรต่อไป เพราะเขาเองเป็นผู้บริหารของกูเกิลและแอปเปิลอยู่พร้อมกัน ซึ่งแต่เดิมด้วยความที่สินค้าต่างกันก็ทำให้ไม่มีปัญหาอะไร แต่นับวันทั้งสองบริษัทนับจะมีสินค้าทับซ้อนกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรื่องคาใจนี้เริ่มถูกตรวจสอบจากคณะกรรมการทางการค้า วันนี้เอง Schmidt ก็ออกมาประกาศแล้วว่าเขาเลือกที่จะลาออกจากแอปเปิล

Schmidt ร่วมงานกับแอปเปิลนับแต่ปี 2006 ที่ผ่านมา ขณะที่เขาร่วมงานกับกูเกิลมาตั้งแต่ปี 2001

ผลกระทบจากเรื่องนี้คือหุ้นขึ้นกันไปทั้งสองบริษัทเพราะนักลงทุนต่างโล่งใจกันไป

ที่มา - CNN Money

จาก แอปเปิลปฏิเสธโปรแกรม Google Voice ไม่ให้เข้า App Store และ AT&T: เราไม่ได้แบน Google Voice เป็นหน้าที่ของแอปเปิลต่างหาก ความคืบหน้าล่าสุดคือ FCC ซึ่งเทียบได้กับ กทช. ของสหรัฐออกโรงมายุ่งกับเรื่องนี้แล้ว เริ่มจากการส่งจดหมายไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งสาม ขอคำตอบแบบเคลียร์ๆ จากกรณีการแบน Google Voice ที่เกิดขึ้น

คำถามที่ FCC ส่งถึงตัวแทนฝ่ายกิจการรัฐบาลของแอปเปิลมี 6 ข้อ สรุปสั้นๆ ดังนี้

หลังจากที่บั๊กที่ทำให้เครื่องไอโฟนถูกควบคุมได้จาก SMS ได้ถูกนำมาเปิดเผยแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ล่าสุดทางแอปเปิลได้ทำการปล่อยอัพเดทเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 3.0.1 สำหรับไอโฟนทุกรุ่นออกมา หลังจากที่ไม่ได้ทำการตอบสนองกับปัญหานี้ก่อนจะถูกนำมาเผยมานาน

ดูเหมือนว่าวิธีการทำบั๊กมาเปิดเผยให้สาธารณะชนดูเหมือนจะได้ผลเหมือนกัน

ที่มา - MacRumors

แอปเปิลอัพเดตความจุของ Time Capsule จากเดิมที่มีอยู่ 2 รุ่นคือ 500GB และ 1TB มาเป็น 1TB และ 2TB โดยที่ราคาเท่าเดิมคือ 10,990 บาทและ 17,990 บาทตามลำดับ ส่วนความสามารถอื่นๆ นั้นยังคงเป็นเช่นเดิมตามปกติ ซึ่งการอัพเดตครั้งนี้ก็เป็นไปตามภาพหลุดกล่อง Time Capsule รุ่น 2TB ที่เคยออกมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

Time Capsule เป็นอุปกรณ์สำรองข้อมูลไร้สาย ที่เป็นการรวมกันระหว่าง wireless router กับฮาร์ดดิสก์เข้าด้วยกัน ใช้ได้ทั้งแมคและพีซี

ที่มา - Macrumors

ถ้าหากเจ้าของไอโฟนคนไหนได้รับ SMS ที่มีข้อความเพียงตัวเดียวเป็นตัวอักษรสี่เหลี่ยมหลังจากวันพฤหัสบดีตอนเที่ยง (เวลาสหรัฐ) นักวิจัยแนะนำให้ทำการปิดเครื่องไอโฟนโดยทันที เนื่องจากพวกเขาจะเปิดเผยวิธีการแฮกเครื่องไอโฟนเครื่องไหนก็ได้ผ่านทาง SMS ทำให้สามารถควบคุมฟังก์ชั่นทุกอย่างได้เกือบหมด

"...สิ่งเดียวที่คุณทำได้คือการปิดเครื่องของคุณเสีย" Charlie Miller กล่าวกับนิตยสาร Forbes และยังได้กล่าวอีกว่าเขาได้ทำการเตือนแอปเปิลแล้วประมาณเดือนที่แล้ว แต่ทางแอปเปิลยังไม่ได้ทำการแก้ไขปัญหานี้แต่อย่างใด

ข่าวต่อเนื่องจาก

• Steve Jobs กลับมาทำงานแล้ว
• Steve Jobs กลับมาทำงานแล้ว (อย่างเป็นทางการ)
• สตีฟ จ็อบส์ ไปดูคอนเสิร์ต Coldplay

ล่าสุดเว็บไซต์ข่าวบันเทิงชื่อดัง TMZ (เป็นเว็บเดียวกับที่ลงข่าวไมเคิล แจ็คสันเสียชีวิตเป็นที่แรก) ได้ตีพิมพ์ภาพสตีฟ จ็อบส์ กำลังเดินข้ามถนนอยู่หน้าสำนักงานใหญ่ของแอปเปิลที่ Cupertino ช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมง คาดว่าคนถ่ายขับรถไปติดไฟแดง และเจอสตีฟ จ็อบส์กับลูกน้องเดินข้ามถนนอยู่พอดี เลยควัก iPhone ขึ้นมาถ่ายเก็บไว้

ต่อเนื่องจากข่าว แอปเปิลปฏิเสธโปรแกรม Google Voice ไม่ให้เข้า App Store หลังจากเสียงโวยส่วนใหญ่ถล่มเข้าไปที่ AT&T ว่าเป็นผู้สั่งไม่ให้เอา Google Voice ขึ้น iPhone App Store แต่ตอนนี้ AT&T ออกมาปฏิเสธแล้ว

Glenn Lurie ผู้บริหารระดับสูงของ AT&T ตอบเว็บไซต์ TechCrunch มาทางอีเมลว่า AT&T ไม่มีสิทธิ์ดูแล App Store แต่อย่างใด อำนาจทั้งหมดในการ "อนุมัติโปรแกรม" เป็นของแอปเปิลแต่เพียงผู้เดียว

แอปเปิลได้ทำการแจกจ่าย Build ล่าสุดของ Snow Leopard ผ่านทาง Software Update เฉพาะนักพัฒนาที่กำลังใช้ Snow Leopard Beta อยู่เท่านั้น โดย Build ตัวนี้ได้มีการเพิ่ม Desktop Wallpaper หรือพื้นหลังหน้าจอใหม่ ๆ มา โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่ภาพ Snow Leopard หรือเสือดาวหิมะนั่นเอง (ดูรูปทั้งหมด)

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไมโครซอฟท์ได้ออกมาบ่นเล็กน้อยจากการที่แอปเปิลได้ส่งทีมกฎหมายไปหาไมโครซอฟท์เพื่อแจ้งว่าแอปเปิลได้ทำการ "ลดราคา" แล็ปท็อปของตัวเองแล้ว ทำให้โฆษณาของไมโครซอฟท์นั้นไม่ถูกต้องอีกต่อไป

โดยที่งาน Microsoft Worldwide Partner Conference นั้น นาย Kevin Turner ซึ่งเป็น COO ของไมโครซอฟท์ได้ออกมาบอกว่าหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากทีมกฎหมายของแอปเปิลนั้น เขาบอกได้แค่ว่า "พวกเราจะเปิดโฆษณานี้ไปเรื่อย ๆ ...​ ไปเรื่อย ๆ ...​ และไปเรื่อย ๆ"

AppleInsider รายงานว่าแอปเปิลกำลังไล่เก็บงานคอมพิวเตอร์ Tablet ที่ลือกันมานานแสนนานแล้ว โดยคาดว่าจะเปิดตัวทันช่วงต้นปี 2010

สำหรับ Tablet ตัวนี้มีรายงานว่าจะใช้จอภาพขนาดสิบนิ้ว สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G ได้ รูปร่างลักษณะคล้ายกับ iPod touch ขนาดยักษ์ โดย AppleInsider อ้างอีกว่าพวกเขาได้ทำการติดตามพัฒนาการของอุปกรณ์ตัวนี้มานาน แล้วทราบมาว่าแอปเปิลได้ทำการ "รีเซท" โปรเจคนี้หลายรอบมากในช่วง 24 เดือนที่ผ่านมา โดยในแต่ละครั้งการพัฒนาก็ต้องหยุดนิ้ง แล้วจุดเด่นต่าง ๆ ของอุปกรณ์ตัวนี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

แต่ตอนนี้ แหล่งข่าวยังบอกอีกว่า สตีฟ จ็อบส์พอใจกับอุปกรณ์ตัวนี้มาก และกำลังเตรียมตัวเพื่อที่จะให้การเปิดตัวสินค้าตัวนี้นั้นทันภายในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า

เกมส์แมวไล่จับหนูระหว่างแอปเปิลกับปาล์มได้เริ่มขึ้นอีกแล้ว ความเดิมที่ Palm Pre นั้นสามารถ sync เพลง, หนังและรูปภาพผ่านทาง iTunes ได้ หลังจากนั้่นทางแอปเปิลก็ตอบโต้ด้วยการออกอัพเดต iTunes เพื่อปิดการ sync กับ Palm Pre

ล่าสุดทางปาล์มก็ได้ออกอัพเดต WebOS 1.1 ออกมาพร้อมทั้งความสามารถในการ sync ผ่านทาง iTunes ก็กลับมาด้วย โดยก่อนหน้านี้ทางปาล์มเองก็ได้ว่าจ้างอดีตพนักงานและวิศวกรของแอปเปิลเข้ามาเพื่อกู้สถานการณ์ของบริษัท

รอดูการตอบโต้จากแอปเปิลกันต่อไป

ที่มา - MacRumors

หลังจากที่แอปเปิลได้ประกาศรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสนี้ พบว่ายอดขายไอพ็อดเกือบทุกรุ่น ได้แก่ Shuffle, Nano และ Classic ต่างมียอดขายที่ตกลง โดยจากคำอ้างแอปเปิลได้กล่าวว่าพวกเขาคาดว่ายอดขายเครื่องเล่น MP3 จะต้องลดลงในที่สุด เนื่องจาก iPod touch และ iPhone ได้ทำการกินตลาดนี้ไป

แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าแอปเปิลจะเปิดตัวไอพ็อดรุ่นใหม่ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ คำถามที่น่าสนใจก็คือ iPod classic จะโดนเขี่ยออกหรือไม่ เพราะโดยปกติแล้วแอปเปิลจะต้องทำการสั่งฮาร์ดดิสก์จากซัมซุงเพิ่ม แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการสั่งซื้อแต่อย่างใด นักเขียนของ TechCrunch เองก็ได้บอกว่า "ไอพ็อดแบบที่เรารู้จักกันกำลังจะตายจากไป"

ผลประกอบการแอปเปิลไตรมาสที่สองประจำปี 2009 แสดงยอดขายไอพอดทั่วโลก 10.2 ล้านตัวลดลงจากไตรมาสที่แล้ว 8 แสนตัว นับเป็นครั้งแรกที่ยอดขายไอพอดลดลง อย่างไรก็ดีตัวเลขรายรับและกำไรนั้นน่าประทับใจมาก ด้วยการเติบโตร้อยละ 12 ทั้งรายรับและกำไร ทำให้แอปเปิลมีรายได้รวม 8.34 พันล้านดอลลาร์ และกำไรอีก 1.23 พันล้านดอลลาร์

ในแง่ของรายได้แล้ว ไอพอดทำเงินให้แอปเปิลในไตรมาสนี้เป็นเงิน 1.49 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ไอโฟนนั้นทำเงินได้ถึง 1.69 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นครั้งแรกที่ไอโฟนทำเงินแซงหน้าไอพอดอีกเช่นกัน ทั้งนี้อาจจะเนื่องมาจากการเปิดตัว iPhone 3GS ที่ทำยอดขายได้ดี

รายงานจากประเทศจีนพบว่าพนักงานของบริษัท Foxconn ที่ทำการผลิตไอโฟนให้แก่แอปเปิลนั้นได้กระโดดตึกตายหลังจากที่ทำหนึ่งในเครื่องไอโฟนต้นแบบ 16 เครื่องหายไป

นาย Sun Danyong พนักงานผู้ที่ทำไอโฟนหายได้รายงานให้หัวหน้าทราบ โดยตัวเขาเองคาดว่าได้ลืมเครื่องทิ้งไว้ในโรงงาน แต่ไม่สามารถหามันได้พบ หลังจากนั้นทาง Foxconn ได้ส่งพนักงานจำนวนหนึ่งเข้าตรวจค้นห้องพักของนาย Sun ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของประเทศจีน นอกเหนือจากนี้ยังมีข่าวลือว่านาย Sun นั้นได้ถูกกักตัวและทำร้ายร่างกายในช่วงที่บริษัทกำลังทำการตรวจสอบเรื่องนี้อีกด้วย

และเมื่อเวลา 3 นาฬิกาของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นาย Sun ได้ทำการกระโดดตึกที่พักของตนเอง

Wall Street Journal รายงานว่าจากการวิจัยของ Deutsche Bank พบว่ากำไรกว่า 38% ของทั้งอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดตกอยู่ในมือของสองบริษัท (เมื่อนำตัวเลขของสองบริษัทมารวมกัน) คือแอปเปิลและ RIM แม้ว่าทั้งสองบริษัทนี้จะมีส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมเพียงแค่ 3% เท่านั้น

หากมาดูแต่แอปเปิลอย่างเดียว จะพบว่ากำไร 20% ของทั้งอุตสาหกรรมอยู่กับแอปเปิล ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเพียงแค่ 1%

นอกจากนี้แล้ว ในรายงานเดียวกันคาดว่าภายในปีนี้ส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลและ RIM รวมกันน่าจะสูงถึง 5% ในขณะที่จะคว้า 58% ของกำไรทั้งหมดของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวโปรแกรม Layar ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เรียกว่า "Augmented Reality" หรือซ้อนทับข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ไปบนภาพสถานที่จริง โปรแกรม Layar ถูกพัฒนาขึ้นบนระบบปฏิบัติการ Android

ตอนนี้มีโปรแกรมลักษณะเดียวกันบน iPhone แล้ว นั่นคือ New York Nearest Subway ซึ่งทำหน้าที่ตามชื่อ หาสถานีรถไฟใต้ดินในนครนิวยอร์กที่อยู่ใกล้กับเจ้าของมือถือมากที่สุด หลักการทำงานของมันจะใช้กล้อง, GPS และเข็มทิศของ iPhone ทำงานร่วมกัน (ต้องใช้ iPhone 3GS เท่านั้น) ดูวิดีโอเข้าใจง่ายกว่า

หลังจากที่เพิ่งขายโปรแกรมบน App Store ไปได้ถึง 1.5 พันล้าน และเกมส์ยังเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ใช้ไอพอด และไอโฟน จากความสำเร็จนี้ ทำให้น่าคิดว่าแอปเปิลอาจจะทำเครื่องเกมส์คอนโซล โดยอาจจะนำไปใช้ร่วมกับ Apple TV ก็เป็นได้

โดยนายไมเคิล แพคเทอร์ นักวิเคราะห์ของบริษัท Wedbush Morgan ได้คาดการณ์ว่าแอปเปิลจะเพิ่มความสามารถให้ Apple TV กลายเป็นเครื่องคอนโซลภายในปี 2013 โดยแพคเทอร์ให้ความเห็นว่าการที่แอปเปิลลงไปในตลาดของเกมส์และได้ประสบผลสำเร็จอย่างดี น่าจะเป็นการปูทางไปสู่การทำเครื่องเกมส์คอนโซลได้ และน่าจะดึงดูดให้ค่ายเกมส์ใหญ่ๆ สนใจทำเกมส์มาขายด้วย และก่อนหน้านี้มีข่าวลือที่ว่าแอปเปิลจะซื้อสตูดิโอเพื่อผลิตเกมส์เอง แบบนินเทนโดก็ตาม

ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ มันควรจะชื่ออะไรดีนะ iPlay ?

อาจเรียกได้ว่าเป็นการปรากฎตัวในที่สาธารณะเป็นครั้งแรกของสตีฟ จ็อบส์ หลังพักงานไป 6 เดือน ผ่าตัด และกลับมาทำงาน

ทีมงานของ Coldplay ได้เขียนเล่าบรรยากาศงานคอนเสิร์ตของวงที่ Shoreline Amphitheatre ในซานฟรานซิสโก เขาบอกว่าเห็นจ็อบส์คุยอยู่กับผู้จัดการวง Dave Holmes หน้าห้องแต่งตัว เขาบอกว่าตื่นเต้นมากเหมือนเห็นดารา และต้องกินกาแฟไปสองช็อตเพื่อระงับความตื่นเต้น แต่สุดท้ายแล้วก็ได้คุยกับจ็อบส์แค่คำว่า "Thank you so much"

IDC เปิดตัวเลขยอดขายพีซีประจำไตรมาสที่สองของปี 2009 เอาเฉพาะยอดขายในสหรัฐก่อน

• ยอดขายรวมหดตัว 3.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2008 ขายได้ทั้งหมด 15.9 ล้านเครื่อง
• เบอร์สอง HP มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากเดิม 24.7% ในปีก่อน เป็น 26.0% ในปีนี้
• Dell แชมป์เก่า จากเดิมส่วนแบ่งตลาด 31.4% ยอดหดไปราวๆ 1 ล้านเครื่อง ลงมาเหลือ 26.3% ยังเป็นแชมป์อยู่แต่ใกล้โดน HP แซงแล้ว
• Acer อันดับสามเดิม โตขึ้นจาก 8.1% มาเป็น 12.6% ส่วนอันดับสี่ Toshiba เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
• Apple อันดับห้า เดิมมีส่วนแบ่ง 8.5% มาปีนี้ขายได้น้อยลง 1.7 แสนเครื่อง ลงมาเหลือ 7.6% อันดับตกมาอยู่ที่ห้า

ยอดขายทั่วโลกเป็นดังนี้

โฆษณาชุด Laptop Hunters ของไมโครซอฟท์ใกล้เป็นตำนาน เพราะมีอิทธิพลมากถึงขนาดทำให้แอปเปิลยอมลดราคาได้

แคมเปญ Laptop Hunters ท้าให้นักแสดง-ผู้บริโภคในเรื่องไปเดินหาโน้ตบุ๊กรุ่นที่ต้องการภายใต้งบประมาณ 1,000 ดอลลาร์ ถ้าหาได้ไมโครซอฟท์ยินดีจ่ายค่าโน้ตบุ๊กให้ แน่นอนว่าคนซื้อจะต้องลองเดินเข้าไปในร้าน Apple Retail Store และออกมาพร้อมกับบอกว่า "มันแพงกว่า 1,000 ดอลลาร์" โฆษณานี้ดังมากไม่ว่าจะมองในฝ่ายสนับสนุนและต่อต้าน อย่างไรก็ตามการสำรวจพบว่ามันช่วยให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และคะแนนของแอปเปิดลดฮวบ (โฆษณา Laptop Hunters ได้ผล แบรนด์ไมโครซอฟท์ภาพลักษณ์ดีขึ้น)

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าไมโครซอฟท์เตรียมเปิดร้าน Microsoft Store มาได้สักระยะแล้ว ไมโครซอฟท์ถึงกับจ้าง David Porter อดีตผู้บริหารของ Wal-mart มาดูแลกิจการร้านขายปลีกของไมโครซอฟท์โดยเฉพาะ กำหนดเปิดร้านคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้

ล่าสุด Kevin Turner ซึ่งมีตำแหน่งเป็น COO ของไมโครซอฟท์ได้ประกาศเพิ่มเติมในงาน Worldwide Partner Conference ว่าร้าน Microsoft Store ชุดแรกจะอยู่ใกล้ๆ กับร้าน Apple Retail Store และบางร้านจะเปิดติดกันชนิดหายใจรดต้นคอเลย (ดูประกาศของทีมประชาสัมพันธ์ไมโครซอฟท์ใน Twitter)

อาจจะทราบกันดีนะครับ ว่า Palm Pre sync กับ iTunes ได้ และต่อมา Apple ก็ออกมาขู่

วันนี้ iTunes มีอัพเดตใหม่รุ่น 8.2.1 ซึ่งรองรับ iPhone/iPod touch 3.0 แต่ที่น่าแปลกใจคือย่อหน้าสุดท้ายใน release note (สามารถดูได้จาก Apple Software Update) บอกว่า "iTunes 8.2.1 ได้แก้ไขบั๊กสำคัญหลายตัวและแก้ไขปัญหาการยึนยันตัวของอุปกรณ์ Apple"

Palm งานเข้าครับ เพราะตอนนี้เมื่อเสียบ Pre เข้าไป จะเด้ง iTunes ตามปกติ แต่จะไม่มี Pre ให้เลือกแล้วครับ (สำหรับผู้ใช้ Pre ยังสามารถใช้โปรแกรมอื่นๆ sync ได้ เช่น The Missing Sync)

เว็บ InfoTimes จากประเทศไต้หวันรายงานว่าแอปเปิลจะขายเน็ตบุคที่ลือกันมานานแล้วภายในเดือนตุลาคมปีนี้ โดยบริษัทจากประเทศไต้หวันต่าง ๆ เช่น Foxconn, Wintek และ Dynapack ได้รับการสั่งผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ จากแอปเปิลแล้ว

โดยเน็ตบุคของแอปเปิลตัวนี้อาจจะไม่เหมือนเน็ตบุคทั่วไปนัก ด้วยหน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว และความสามารถของจอภาพที่เป็นจอสัมผัส (คาดว่าจะเป็นจอมัลติทัช) อาาจะเรียกได้ว่าเน็ตบุคตัวนี้จะเป็น Tablet ซะมากกว่า ส่วนเรื่องราคานั้น คาดว่าแอปเปิลไม่น่าจะลงเข้าไปสู้กับราคาของตลาดเน็ตบุคทั่วไปอย่างแน่นอน คาดว่าราคาจะอยู่ที่ 800 ดอลลาร์สหรัฐเป็นอย่างต่ำ