วงการ WordPress มีประเด็นใหญ่ให้ถกเถียงกันอีกครั้ง เมื่อ Matt Mullenweg ผู้สร้าง WordPress แสดงความเห็นผ่านวิดีโอว่า ธีมของ WordPress ควรใช้สัญญาอนุญาต GPL แบบเดียวกับตัว WordPress เอง (โดยเขาอ้างอิงความเห็นจาก Software Freedom Law Center ทีมกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านโอเพนซอร์สมากเป็นอันดับต้นๆ) และกล่าวว่านักพัฒนาธีมที่ไม่ยอมปล่อยโค้ดออกมาเป็น GPL นั้น "ชั่วร้าย" (evil)
ซันเคยทำให้คนจำนวนมากได้ตื่นเต้นกับการประกาศโอเพนซอร์ส OpenSolaris ไปเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่วันนี้ภายใต้การเข้าครอบครองทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดของ OpenSolaris โดยออราเคิล ทาง OpenSolaris Governing Board (OGB) กลับไม่สามารถติดต่อออราเคิลเพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ OpenSolaris ได้ จนมีการผ่านมติยื่นคำขาดสุดท้ายว่าให้ออราเคิลส่งตัวแทนเข้ามาทำงานร่วมกับ OpenSolaris ไม่เช่นนั้น OGB จะยุบตัวเองแล้วส่งทุกอย่างกลับสู่ออราเคิล
หลายคนคงรู้จักโปรแกรมลักษณะนี้อย่าง Find My Phone ของแอปเปิลมาแล้ว ตอนนี้บนคอมพิวเตอร์มีโปรแกรม Prey สำหรับทำงานแบบเดียวกัน
Prey เป็นโปรแกรมโอเพนซอร์ส ทำงานได้บน 3 แพลตฟอร์มหลัก มันสามารถส่งข้อมูลของคอมพิวเตอร์เครื่องใดๆ เช่น ตำแหน่ง ภาพหน้าจอ รายชื่อโปรแกรม ฯลฯ กลับมายังเจ้าของได้ ไม่ว่าจะผ่าน Wi-Fi หรือ Ethernet (ค้นหาตำแหน่งด้วย Google Location API) และถ้าคอมเครื่องนั้นมีเว็บแคม ก็สามารถถ่ายภาพซึ่งอาจจะติดหน้าของขโมยได้ด้วย
ที่มา - OMG Ubuntu
นักพัฒนาของโครงการ FFmpeg ซึ่งเป็นโครงการซอฟต์แวร์ถอดรหัสวิดีโอแบบโอเพนซอร์ส ประกาศว่าตอนนี้ FFmpeg เริ่มทำงานกับ VP8 ได้แล้ว
VP8 เป็น codec ของบริษัท On2 ซึ่งถูกกูเกิลซื้อกิจการเมื่อปี 2009 ก่อนที่กูเกิลจะเปิดสเปกและซอฟต์แวร์ของ VP8 ให้เป็นโอเพนซอร์สใต้ชื่อโครงการ WebM
VLC media player โปรแกรมดูหนังของค่าย VideoLAN ได้ปล่อยเวอร์ชันใหม่ 1.1.0 หลังจาก การเดินทางอันยาวนาน VLC 1.0.0
ฟีเจอร์ใหม่คือรองรับการถอดรหัสภาพด้วย GPU บนระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux โดยบน Windows นั้นจะใช้งานผ่าน DxVA2 และบน Linux จะใช้ VAAPI สำหรับมาตรฐาน H.264, VC-1 และ MPEG-2
ตัว VLC เวอร์ชันใหม่จะใช้งาน OpenMax IL และมีการรองรับ Blu-ray ซับไตเติล, MPEG-4, VP8 และ WebM มากขึ้น ส่วนด้านเสียงก็มีการพัฒนาให้รองรับไฟล์แบบ AMR-NB, MPEG-4 ALS, Vorbis 6.1/7.1, FLAC 6.1/7.1 และ WMAS ด้วย
ที่มา - Techspot
ตอนนี้ Facebook กลายเป็นเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก มีผู้ชมเดือนละ 570 ล้านครั้ง มีคนมาดูภาพบน Facebook วินาทีละ 1.2 ล้านครั้ง แต่อัตราการล่มของ Facebook กลับน้อยมาก (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Twitter)
เว็บไซต์ Royal Pingdom จึงได้นำเสนอซอฟต์แวร์ที่ Facebook ใช้ทำเซิร์ฟเวอร์ว่ามีอะไรบ้าง? Facebook ทำอย่างไรจึงรองรับผู้ชมจำนวนมหาศาลนี้ได้
โดยภาพรวมแล้ว Facebook ยังใช้เทคโนโลยี LAMP เช่นเดียวกับเว็บไซต์ทั่วไป แต่ในรายละเอียด Facebook กลับพัฒนาซอฟต์แวร์ของตัวเองขึ้นมาอีกมากมาย
ซอฟต์แวร์ที่ Facebook ใช้ มีดังนี้
NetBeans โปรแกรม IDE แบบโอเพนซอร์ส ออกรุ่นใหม่ล่าสุด 6.9 แล้ว ของใหม่มีดังนี้
อย่างอื่นๆ อ่านได้จาก NetBeans IDE 6.9 Release Notes และ NetBeans Wiki
Transmission โปรแกรม BitTorrent แบบโอเพนซอร์สชื่อดัง ออกรุ่น 2.0 แล้ว มีของใหม่ดังนี้
มีให้ดาวน์โหลดทั้งเวอร์ชันแมคและลินุกซ์ สำหรับคนใช้ Ubuntu Lucid ต้องพึ่ง PPA กันก่อน คงเจอกันใน Maverick
ดูหัวข่าวแล้วน่าจะเดากันได้ ต่อไปนี้เราสามารถใช้คำสั่งเหล่านี้ได้แล้ว!
$ google picasa create --title "My album" ~/Photos/vacation/*.jpg $ google blogger post --blog "My blog" --tags "python, googlecl, development" my_post.html $ google calendar add "Lunch with Jason tomorrow at noon" $ google docs edit --title "Shopping list" --editor vim
Google Command Line หรือ GoogleCL เป็นโปรแกรมอำนวยความสะดวกที่เขียนด้วย Python และต่อเชื่อมกับ Gdata library ภาคภาษา Python
มีแบบ .deb ให้ดาวน์โหลดสำหรับคนใช้ Debian/Ubuntu และถ้าใช้ลินุกซ์ค่ายอื่นก็โหลดเป็น tar.gz มาตามปกติ
Safari 5 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน มีฟีเจอร์ Safari Reader ที่ช่วยให้ประสบการณ์ "การอ่านข้อความบนเว็บ" นั้นดีขึ้น ตัดโฆษณาออกไปและต่อบทความแบบหลายๆ หน้าให้เลย
แต่แท้จริงแล้ว Safari Reader เอาโค้ดมาจากโครงการโอเพนซอร์สชื่อ Readability ของบริษัท Arc90 ซึ่งเป็น Javascript Bookmarklet สำหรับงานแบบเดียวกัน
Readability นั้นใช้สัญญาอนุญาตแบบ Apache ซึ่งไม่บังคับให้ผู้นำโค้ดไปใช้ ต้องเปิดโค้ดกลับคืนสู่ชุมชนแบบ GPL และแอปเปิลได้ให้เครดิตกับ Arc90 เป็นตัวเล็กๆ ในหน้า Help > Acknowledgments ของ Safari ซึ่งถูกต้องตามสัญญาอนุญาตทุกอย่าง
โปรแกรมจัดการเพลงแบบโอเพนซอร์ส Songbird ออกรุ่นใหม่ 1.7 แล้ว ของใหม่มีดังนี้
โครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งในประวัติศาสตร์โอเพนซอร์สนั่นคือ GCC ที่เปิดให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ได้โดยไม่ต้องการคอมไพลเลอร์แบบเสียเงิน GCC แม้จะย่อมาจาก Gnu Compiler Collection ที่ใช้คอมไพล์ภาษาได้จำนวนมาก แต่ตัว GCC ทั้งหมดยังคงพัฒนาด้วยภาษา C จนกระทั่งวันนี้ที่ GCC Steering Committee ได้ประกาศจะยอมรับโค้ดภาษา C++ เข้ามาร่วมด้วย
บริษัท BitTorrent Inc. ของ Bram Cohen ผู้คิดค้น BitTorrent ได้ประกาศโอเพนซอร์สโพรโตคอล P2P ตัวใหม่ชื่อ uTP (Micro Transfer Protocol)
uTP เป็นโพรโตคอลที่พัฒนาขึ้นมาจาก BitTorrent ต้นฉบับ โดยมันเพิ่มฟีเจอร์ด้านเครือข่ายมากขึ้น เช่น การลดอัตราการส่งข้อมูลโดยอัตโนมัติ เมื่อพบว่าปริมาณข้อมูลในเครือข่ายคับคั่ง ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณข้อมูลที่ต้องแลกเปลี่ยนน้อยลง ดาวน์โหลดเร็วขึ้น และเป็นมิตรกับ ISP มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีเสียงบ่นจากผู้ใช้ว่าการใช้ uTP ทำให้อัตราการส่งข้อมูลช้าลงในบางกรณี และการออกแบบ uTP ที่มี overhead ในการส่งข้อมูลมากขึ้น ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันมาก
ยาฮูประกาศแจกเครื่องมือ TCP Traffic Analyzer (หรือ yconalyzer) ซึ่งยาฮูใช้สำหรับวิเคราะห์การเดินทางของแพกเกจเป็นการภายใน ตอนนี้เป็นโครงการโอเพนซอร์สบน SourceForge เรียบร้อยแล้ว
yconalyzer เป็นเครื่องมือแบบคอมมานด์ไลน์ เขียนด้วยภาษา C++ และใช้สัญญาอนุญาตแบบ BSD ครับ
ที่มา - Yahoo! Developer Network
ไมโครซอฟท์ร่วมมือกับโครงการ Joomla! เซ็นสัญญา Joomla! Contributor Agreement ซึ่งหมายถึงว่านักพัฒนาของไมโครซอฟท์สามารถใช้เวลางาน เขียนโค้ดที่เป็น GPL ส่งเข้า Joomla! ได้
ทาง Joomla! เองก็บอกว่าตอนนี้ใน Joomla! 1.6 มีโค้ดที่ส่งเข้ามาจากไมโครซอฟท์รวมอยู่ด้วยแล้ว คือส่วนของ WinCache หรือการทำแคชบนวินโดวส์
ไมโครซอฟท์ยังพัฒนา CMS แบบโอเพนซอร์สของตัวเองอีกตัว ใช้ชื่อว่า "Orchard"
เมื่อเวลาประมาณ เที่ยงคืนที่ผ่านมา Ubuntu 10.04 ก็ได้ปล่อยไฟล์ ISO ตัวจริงออกมาแล้ว (พรีวิวเก่า) สำหรับชาว Ubuntu ในเมืองไทยผมยังคงแนะนำ mirror1 จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครับ
สำหรับฟีเจอร์เราคงเห็นๆ กันมาในเวอร์ชั่นทดลองกันทุกคนแล้ว ยังไงใครใช้ตัวจริงแล้วมีปัญหาหรือประทับใจอะไรมาเล่ากันฟังได้ครับ
ที่มา - Ubuntu.com
แม้ว่าสงครามแผ่นดิสก์จะสิ้นสุดด้วยชัยชนะของ Blu-ray แต่ Blu-ray ก็ยังมีราคาแพง หายาก และยังไม่มีเครื่องมือเขียนแผ่น Blu-ray ในราคาถูกออกมาให้ใช้งาน ดังนั้นผู้ที่มี Blu-ray ไว้ในครอบครองก็จะลำบากหน่อยถ้าต้องการทำสำเนาเก็บไว้ (ยกเว้นจะแปลงเป็นไฟล์แทน)
โครงการ x264 ซึ่งทำเกี่ยวกับวิดีโอแบบโอเพนซอร์ส ได้แก้ปัญหานี้โดยการแปลงแผ่น Blu-ray ไปเป็นแผ่น DVD แทน ซึ่งสามารถนำไปใส่เครื่องเล่น Blu-ray และมองเห็นเป็นแผ่น Blu-ray เสียด้วย ใช้ได้กับทั้ง DVD-5 และ DVD-9 โดยแก้ปัญหาเรื่องความจุที่ต่างกันด้วยการแปลง codec ของ x264 เอง
ทีมงานของโอบามานั้นมีจุดเด่นมากในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างโดดเด่น โดยเมื่อรัฐบาลนี้เข้าทำงานใหม่ๆ ก็มีการยกเครื่องเว็บเดิม และเพิ่มเว็บสารสนเทศใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เข่น Data.gov หรือการปรับปรุงเว็บเดิมๆ อย่าง Whitehouse.gov ที่ใช้ Drupal และมีการปรับปรุงภายในเพิ่มเติมหลายอย่าง และในวันนี้โครงการ Whitehouse.gov ก็ปล่อยส่วนปรับปรุงเพิ่มเติมออกมาเป็นโมดูล 4 โมดูล ได้แก่
บริษัท EditShare เจ้าของโปรแกรมด้านวิดีโอและการเก็บข้อมูลหลายตัว ได้ประกาศโอเพนซอร์สโปรแกรมตัดต่อภาพยนตร์ระดับสูง Lightworks เรียบร้อยแล้ว
จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของ EditShare ระบุว่า Lightworks ใช้ตัดต่อภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง เช่น The Departed, Braveheart, 28 Days Later และ Notting Hill
Lightworks รุ่นโอเพนซอร์สจะเปิดให้ดาวน์โหลดภายในไตรมาสที่สามของปีนี้ เท่าที่เช็คข้อมูลจาก Wikipedia มันทำงานได้บนสามแพลตฟอร์มหลักครับ
การนำไปใช้งาน
บล็อก
การจัดการงานเอกสาร
E-Commerce
Forum
ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการดูแลรักษาระบบ
Caching - สำหรับเก็บหน้าเว็บที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาก
ทำหน้าเว็บแบบคงตัว - ไว้สำหรับหน้าที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น about
Permission
การจัดทำเว็บไซต์ทั่วไป
การติดตั้ง
การเรียนรู้ในการใช้งาน
หลังจากตกลงราคากับผู้ถือหุ้นของ On2 เมื่อกลางเดือนที่กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้สำเร็จ ก็เริ่มมีข่าวออกมาว่ากูเกิลจะเปิด VP8 ที่เป็น codec ตัวที่ดีที่สุดของ On2 ให้เป็นโอเพนซอร์สโดยสมบูรณ์ในงาน Google I/O เดือนหน้า
การเข้าซื้อ On2 เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยนับแต่เริ่มต้นก็มีผู้คาดการณ์กันมาว่ากูเกิลน่าจะตั้งใจจะปล่อย VP8 เป็นโอเพนซอร์ส เมื่อเดือนที่แล้วทาง Free Software Foundation เองก็ส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังกูเกิลอีกครั้งว่ากูเกิลจะช่วยให้โลกนี้ดีขึ้นได้มากแค่ไหนหากมีการเปิด VP8 เป็นโอเพนซอร์ส
เวลาผ่านไป โลกของ CMS ก็เปลี่ยนตาม หลังจากเขียนเกี่ยวกับหัวข้อนี้ครั้งแรกในปี 2007 ซึ่งตอนนั้นยังเป็นโลกของ Mambo และ Joomla! กาลเวลาผ่านไป 3 ปี Mambo ตายไปและปัจจุบันกลายเป็นโลกของ Joomla!, Drupal และ Wordpress ซึ่งทั้ง 3 ต่างได้รับรางวัล Best CMS Award ของสำนักพิมพ์ Packt แต่แน่ล่ะเมื่อมีตัวเลือกมากขึ้น สำหรับมือใหม่ก็คงยากในการตัดสินใจเลือกใช้ (มือเก่าคงไม่เปลี่ยนง่าย ๆ ด้วยหลายเหตุผล เช่น เคยมือ ง่ายในการดูแลรักษา)
และตัวเลือกที่นำมาเปรียบเทียบในบทความนี้ แน่นอน ต้องตามใจผู้เขียน ดังนั้นผมจึงขอนำเฉพาะ CMS ยอดนิยมมาเปรียบเทียบ Joomla!, Drupal, Wordpress และขอเพิ่ม TYPO3 อีก 1 ตัวเช่นเดิม ส่วน CMS อื่นที่พอเป็นที่นิยมในไทยก็ขอกล่าวคร่าว ๆ คือ