บริษัท Avian Research L.L.C เปิดเผยผลสำรวจเครื่องโทรศัพท์มือถือยอดนิยมสูงสุด 10 ลำดับในสหรัฐอเมริกาเมื่อสิ้นกันยายน 2551 ซึ่งทำการสำรวจผ่านทาง “แบบสำรวจร้านค้าปลีกประจำเดือน” (Monthly Retail Store Survey) ของบริษัท โดยการสุ่มตัวอย่างจากตัวแทนขายและบริการของร้านค้าปลีก 100 แห่งเพื่อวัดความสนใจของลูกค้าที่มีต่อการซื้อเครื่องโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการรายใหญ่ 4 ราย ปรากฏว่า เครื่อง BlackBerry ของ RIM นำลิ่วด้วยส่วนแบ่งตลาด 26.1% ทิ้งคู่แข่งอย่างไอโฟนไว้ที่ส่วนแบ่งตลาดเพียง 9.2% รายละเอียดเป็นดังนี้

(1) RIM BlackBerry Curve 26.1%

(2) Apple iPhone 9.2%

(3) LG Dare 7.9%

(4) RIM Blackberry Pear 6.6%

(5) LG Voyager 6.5%

รายงานจากบริษัท NPD Group ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาด รายงานว่า ในไตรมาส 3 ของปี 2551 พบว่า วัยรุ่นอเมริกันนิยมใช้เครื่องโทรศัพท์มือถือ “ไอโฟน” (iPhone) แซงหน้า RAZR ของโมโตโรลาที่เคยเป็นเครื่องมือถือยอดนิยมมาตลอด 12 ไตรมาส

สาเหตุที่คนอเมริกันเลือกซื้อเครื่องไอโฟนมากกว่า เนื่องจากนิยมในเรื่องรูปร่างตัวเครื่อง และฟังก์ชั่นในการใช้งานที่ตอบสนองความต้องการของวัยรุ่นยุคใหม่ได้มากกว่า

สำหรับ เครื่อง Blackberry Curve ของ Research In Motion (RIM) ได้รับความนิยมตามมาเป็นอันดับ 3 ในการจัดอันดับของ NPD

อย่างไรก็ตาม รายงานจากบริษัทวิจัยอื่นๆ เช่น Canalys ระบุว่า เครื่องไอโฟนได้รับความนิยมแซงหน้า RIM และ โมโตโรลา โดยครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องสมาร์ทโฟนราว 17.3%

บริษัท ไชนา โมบายล์ อยู่ระหว่างการเจรจากับกูเกิลเพื่อนำเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ รุ่น G1 เข้าไปจำหน่ายและใช้งานในจีน แต่คงจะไม่ทันสิ้นปีนี้ ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยจาก ซีอีโอ ของบริษัท กูเกิล ไชนา (Google China)

การเจรจาดังกล่าวเป็นความร่วมมืออย่างใกล้ชิด 3 ฝ่าย ประกอบด้วย กูเกิล, ไชนา โมบายล์ และผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อเตรียมนำเครื่อง G1 ออกสู่ตลาด

การเปิดตัวของ G1 ทำให้ ไชนา โมบายล์ มีทางเลือกอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการเจรจากับ Apple เมื่อปีที่แล้วที่จะนำเครื่องไอโฟน (iPhone) เข้ามาจำหน่ายในจีน

บริษัท ฮิทส์ เทเลคอม (Hits Telecom) ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 30% มูลค่า 60 ล้านเหรียญของบริษัท ซิโนเทล (Cinotel) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ทำให้ ฮิสท์ เทเลคอม เป็นบริษัทอาหรับรายแรกที่เข้าไปในตลาดจีน

ทั้งนี้บริษัทยังเตรียมแผนซื้อหุ้นจาก ซิโนเทล เพิ่มขึ้นอีก 25% ภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทถือครองหุ้นทั้งหมด 55%

ซิโนเทล เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายหลักด้วยเคเบิลใยแก้วนำแสง (fiber optic network) แก่บริษัทโทรคมนาคมต่างๆในจีน โดยมีความยาวประมาณ 32,000 กิโลเมตร

ที่มา - cn-c114.net

โทรศัพท์รุ่นหนึ่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากของโนเกียคือ E71 แต่การวางเป้าหมายไว้ที่กลุ่มนักธุรกิจเป็นหลักทำให้ได้เครื่องที่ดูเรียบ แข็งแรง แต่ออกจะน่าเบื่อและราคาแพงเกินไปสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน

งานนี้โนเกียเลยปล่อย E63 ซึ่งน่าจะตรงใจกับผู้ใช้อย่างเราๆ ท่านๆ มากกว่า สเปคนั้นยังไม่แน่นอน ที่เห็นคงมีเพียง Wi-Fi และจอ 320x240 เท่านั้น ที่แน่ๆ คือสีแดงกับสีน้ำเงินนั้นน่าพกกว่าสีขาวกับสีดำของ E71 อยู่หลายเท่า

ราคาตั้ง 199 ปอนด์หรือหมื่นต้นๆ

ที่มา - Nokia

เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2551 สายการบินมาเลเซีย (Malaysia Airlines) หรือ MAS ได้เปิดให้บริการใหม่อีกบริการหนึ่ง คือการอนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถโทร.ออกและรับการเรียก(รับสาย)จากเครื่องโทรศัพท์ เคลื่อนที่ของผู้โดยสารเองได้แล้วขณะโดยสารเครื่องบินบางเส้นทาง นอกจากนี้ผู้โดยสารยังสามารถส่งและรับข้อความ (text message) และใช้เครื่องแบลคเบอรี (Blackberry-type devices) ในการรับ-ส่งอีเมล์ ได้อีกด้วย

MAS กล่าวว่า สายการบินกำลังร่วมมือกับบริษัท แอโรโมบายล์ (AeroMobile) ซึ่งเป็นบริษัทแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร เพื่อพัฒนาระบบสื่อสารซึ่งจะทำให้ MAS เป็นสายการบินแห่งแรกในภูมิภาคเอเซียที่สามารถให้บริการโทรศัพท์และสื่อสารข้อมูลผ่านดาวเทียมบนเครื่องบินแก่ผู้โดยสารโดยใช้เครื่องมือสื่อสารไร้สายของตนเองได้

ในขณะที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่และรายเล็กทั่วโลกเป็นจำนวนไม่น้อย มีรายได้หดตัวลงอย่างน่าตกใจ ทว่าสำหรับบริษัท ไชนา โมบายล์ (China Mobile) – CHL ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายมีฐานอยู่ในฮ่องกงกลับมีรายได้เพิ่มขึ้นจนน่าอิจฉา

รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆปีนานกว่า 8 ปีแล้ว และบรรดานักวิเคราะห์ได้ลงความเห็นว่าในปี 2551 และปี 2552 ก็คงเช่นเดียวกันอีก

CHL มีส่วนแบ่งตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่ประมาณ 70% มีเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงานแข็งมาก ขณะที่มีหนี้สินต่ำ และ pre-tax margin 37% ซึ่งดีที่สุดในรอบ 5 ปี

ที่มา - cellular-news

แอปเปิลขาย iPod แล้วหันมาทำ iPhone แล้วทำไม iriver จะทำแบบเดียวกันไม่ได้

iriver บริษัทผู้ผลิตเครื่องเล่นเพลงพกพาจากเกาหลี ได้เปิดตัว iriver wave (ต้นฉบับสะกดด้วยตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด) โทรศัพท์มือถือจอสัมผัสตัวแรกจากค่ายนี้ ซึ่งทางบริษัทใช้สโลแกนในการทำตลาดว่าเป็น Internet Phone สเปกมีดังนี้

ถ้าใครคิดว่าเทคโนโลยี Virtualization นั้นมีไว้สำหรับเซิร์ฟเวอร์เพื่อแบ่งเครื่องแรงๆ ใช้กัน หรือใช้กับเดสก์ทอปเพื่อรันหลายๆ ระบบปฏิบัติการพร้อมๆ กันเท่านั้น ความเชื่อนี้กำลังกลายเป็นความเชื่อที่ไม่จริงอีกต่อไปเมื่อ VMWare แสดงท่าที่อย่างชัดเจนว่าสนใจในเทคโนโลยี Virtualization บนโทรศัพท์

มีรายงานข่าวจาก EA Mobile ว่า บริษัทได้พัฒนาเกมตัวใหม่อีก 2 ตัวสำหรับเครื่อง T-Mobile G1 โดยเกมชื่อ Tetris นั้นวางจำหน่ายแล้ว ส่วนเกม Bejeweled และ MONOPOLY Here & Now Edition คาดว่าจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนนี้

เกมทั้ง 3 ชุดนี้จะจำหน่ายในสหรัฐก่อน โดยผู้สนใจสามารถสั่งซื้อและดาวน์โหลดได้โดยตรงผ่านทางเว็บไซต์ www.eamobile.com

รายละเอียดของเกมเป็นดังนี้

"Tetris" เป็นเกมต่อบล็อกรูปต่างๆที่หล่นลงมาให้ครบแถว ที่เชื่อว่าหลายท่านคงคุ้นเคยกันดีแล้ว

"Bejeweled" เป็นเกมเรียงอัญมณีต่างๆให้ตรงตามแนวตรงหรือขวาง โดยในรุ่นแอนดรอยด์นั้น อัญมณีดูจะสดใสกว่า

ฮอบ-ออน (Hop-on) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหนึ่งในสหรัฐกล่าวว่า บริษัทมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่า CEO ของบริษัท สปริ้นท์ (Sprint) ยักษ์โทรคมนาคมรายหนึ่งกำลังบอกลา แพลทฟอร์มแอนดรอยด์ของ กูเกิล ทั้งๆที่เป็นผู้ก่อตั้ง OHA (Open Handset Alliance) นั้นมิใช่ยังไม่ดีพอกับการจะใช้ชื่อสปริ้นท์ หากแต่เป็นเพราะสปริ้นท์กลัวสูญส่วนแบ่งตลาดมากกว่า

รายงานระบุว่า สปริ้นท์ได้ลงทุนในโครงข่ายของตนไปนับพันล้านเหรียญ จึงไม่ต้องการสูญเสียฐานลูกค้าไปให้กับ open platform

บริษัท โคแกน เทคโนโลยีส์ เป็นผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายหนึ่งในเมลเบอร์น ออสเตรเลีย ซึ่งเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าที่คล้ายคลึงกันเพื่อตัดราคากับสินค้าประเภทแบรนด์เนมต่างๆ ประกาศที่จะนำเครื่องโทรศัพท์มือถือใช้แอนดรอยด์ (Android-powered handset) ออกจำหน่ายในออสเตรเลีย

นาย Ruslan Kogan กล่าวว่าจะนำเครื่องมือถือดังกล่าวออกจำหน่ายในออสเตรเลียวันที่ 5 ธันวาคม นี้ในราคาประมาณ 199 เหรียญ ในขณะที่ชาวออสซีกำลังสั่งซื้อเครื่อง G1 บนอีเบย์ในราคาสูงถึง 1,000 เหรียญ

จากข่าวสมาคม GSM ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลเอเชีย โมบายล์ แล้ว บริษัทจากไทยมีชื่อเข้าชิง AMA 2008 นี้ในหัวข้อ Best Mobile Money Service ดังนี้

โทรศัพท์ในอาคาร (indoor telephony) ซึ่งเป็นโทรศัพท์ติดตั้งใช้งานที่บ้าน หรือภายในอาคาร สำนักงาน หรือที่เรียกกันว่า โทรศัพท์ประจำที่ (fixed-line phones) กำลังถูกรุกหนัก หลังจากที่เคยวางใจว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่จะไม่สามารถเข้าไปใช้ในบ้าน อาคาร และสำนักงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าอันเนื่องจากมีโครงสร้างที่ปิดกั้นสัญญาณจากสถานีฐานและ/หรือทำให้การรับสัญญาณไม่ดีเท่าที่ควร

การเร่งพัฒนาโซลูชั่นที่สามารถเพิ่มพื้นที่บริการ (หรือพื้นที่ครอบคลุม) ของการสื่อสารไร้สายให้มากขึ้น ดังเช่น เฟมโตเซ็ล (femtocells) กำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่แทรกซึมเข้าไปในตลาดบริการโทรศัพท์ประจำที่ซึ่งกำลังมีรายได้ต่อเลขหมายถดถอย

รายงานวิจัยของบริษัท แคมพ์เบล (Campbell) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย ไอที แห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ระบุว่า เมื่อสิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ยอดขายของเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว-ฟายแบบ ดูอัล โหมด เพิ่มขึ้นถึงกว่า 7.6 พันล้านเหรียญ และสิ้นปีนี้คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 16%

ทางด้านบริษัทวิจัย Infonetics Research เปิดเผยถึงตัวเลขการเติบโตในรายงานเรื่อง “FMC Equipment, Phones, and Subscribers” ว่า บริการหลอมรวมของเซลลูลาร์กับไว-ฟายในตลาดสำนักงาน องค์กร และผู้บริโภค กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

สมาคม GSM ประกาศ 40 รายชื่อบริษัทต่างๆ ที่เข้าชิงรางวัล Asia Mobile Awards 2008 และ 15 รายชื่อที่เข้าชิงรางวัล Top Innovators ในการแข่งขันนวัตกรรมสื่อสารไร้สายทั่วโลกที่จะมีการแข่งขันและนำเสนอในการประชุม Mobile Asia Congress ครั้งต่อไปที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2551 ที่มาเก๊า ประเทศจีน

กรรมการตัดสินประกอบด้วยนักวิเคราะห์อิสระ ผู้สื่อข่าวและผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรม โดยกำหนดประกาศรายชื่อผู้ชนะเลิศรางวัล AMA ของสมาคม GSM ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551

รางวัล AMA 2008 ประกอบด้วย

หลังจากที่บรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เริ่มให้บริการด้วยเทคโนโลยี 3G และบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตแล้ว ส่งผลให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการสื่อสารไร้สายประเภทต่างๆที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง บริการมัลติมีเดียที่สามารถโต้ตอบได้ หรือที่มักหมายถึง บริการเนื้อหา (content service)

โดยบริการดังกล่าวมีตั้งแต่บริการรับ-ส่งข้อความสั้น (SMS) และดาวน์โหลดริงก์โทน ไปจนถึงบริการอื่นๆเช่น การรับ-ส่งข้อมูลมัลติมีเดีย (MMS) การรับ-ส่งข้อความทันที เพลง เกม บริการเข้าถึงข่าวสารข้อมูลต่างๆ (เช่น ข่าว รายงานผลกีฬา และพยากรณ์อากาศ เป็นต้น) ตลอดจนบริการต่างๆเพื่อสังคม และโมบายล์ อินเทอร์เน็ต

ABI Research รายงานว่า เทคโนโลยีพิโคเซ็ลและเฟมโตเซ็ล จะมีบทบาทที่สำคัญในโครงการเพื่อการริเริ่มพัฒนาโครงข่าย LTE หรือ Long Term Evolution

สถานีฐานขนาดจิ๋วของระบบสื่อสารไร้สายเซลลูล่าร์ ซึ่งช่วยขยายพื้นที่ครอบคลุมเข้าไปภายในอาคารได้นี้ กำลังได้รับความสนใจในตลาดสื่อสารไร้สายอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้การใช้งาน LTE จะสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในอนาคตอย่างแน่นอน

ในภูมิภาคต่างๆของโลก มีการใช้งาน LTE โดยใช้แถบคลื่นความถี่สูงๆ ซึ่งมีปัญหาด้านการทะลุทะลวงโครงสร้างต่างๆเมื่อเทียบกับความถี่ต่ำๆ ดังนั้นหากมีการนำเฟมโตเซ็ลและพิโคเซ็ลมาใช้งานจะสามารถชดเชยความแรงของสัญญาณที่มักลดน้อยลงเมื่ออยู่ภายในอาคารได้เป็นอย่างดี

หลายฝ่ายให้ความเห็นตรงกันว่า Long Term Evolution (LTE) จะเป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายยุค ที่ 4 (หรือ 4G) ซึ่งจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของบรรดาผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารไร้สายไม่เกินปี 2553 หรืออาจ ช้ากว่านั้นเล็กน้อย และจากการศึกษาของบริษัท ABI Research รายงานว่า จำนวนผู้ใช้ LTE จะสูงกว่า 32 ล้านรายในปี 2556

บริษัทยักษ์ใหญ่สื่อสารไร้สาย 4 บริษัท ประกอบด้วย เอ็นทีที โดโคโม, เรเนซาส เทคโนโลยี, ฟูจิตสึ และชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ประกาศว่าทางกลุ่มมีแผนร่วมมือกันพัฒนาอุปกรณ์ SH-Mobile G4 single-chip LSI device และแพลทฟอร์มเพื่อสนับสนุนมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ HSUPA/HSDPA/W-CDMA และ GSM/GPRS/EDGE (2G) ทั้งนี้คาดหมายว่าการพัฒนาแพลทฟอร์มดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ของปีภาษี 2552 ของญี่ปุ่น (มกราคม-มีนาคม 2553)

SH-Mobile G4 ประกอบขึ้นโดยใช้ เทคโนโลยี 45-nm process เพื่อทำให้ส่วนประกอบต่างๆสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและด้วยความเร็วสูงยิ่ง (extra-fast processing) ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานด้านกราฟฟิก HD video และ 3-D

บริษัทวิจัยตลาด ABI Research Asia-Pacific รายงานว่า ปี 2551 นี้บรรดาผู้ผลิตและจัดหาอุปกรณ์โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำของโลก (เช่น โนเกีย, ซีเมนส์ เน็ทเวอร์ค, อีริคสัน และอัลคาเทล-ลูเซนท์) ต้องลงทุนในการพัฒนาเพื่อการผลิตอุปกรณ์โครงข่ายฯเพิ่มขึ้น 3.4% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 53.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ABI Research ระบุด้วยว่า จำนวนสถานีฐานจะเพิ่มขึ้นจาก 3.6 ล้านสถานีในปี 2550 เป็น 5.2 ล้านสถานีในปี 2556

สำหรับตลาดประเทศกำลังพัฒนานั้น บรรดาผู้ให้บริการกำลังหาช่องทางลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆมาให้บริการ เช่น เทคโนโลยี 3.5G (ได้แก่ HSDPA และ CDMA2000 Rev A)

ที่มา - 4g.co.uk

สำนักข่าว มิสซิมา (Mizzima)รายงานเมื่อกรกฎาคม 2551 ระบุว่า กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งประเทศพม่า (MPT)เปิดเผยอย่างเป็นทางการถึงการเปิดให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์ เคลื่อนที่ยุคที่ 3(หรือ 3G)แล้วโดยใช้มาตรฐาน W-CDMA

ทั้งนี้ในระยะแรกจะมีผู้ใช้บริการเพียง 50 ราย (ในกิจการทหารเท่านั้น) เนื่องจากยังขาดแคลนด้านด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ตามแผนการพัฒนาโครงข่าย 3G นั้น MPT รายงานว่า ในระยะต่อไปจะขยายบริการให้ครอบคลุมเมืองย่างกุ้ง รองรับผู้ใช้บริการราว 30,000 ราย และภายหลังการพัฒนาโครงสร้างต่างๆแล้วเสร็จ คาดว่าจะให้บริการแก่ผู้ใช้งานทั่วประเทศราว 200,000 ราย

CDG (CDMA Development Group) ประกาศเมื่อเร็วๆนี้ว่า จำนวนผู้ใช้เทคโนโลยี CDMA2000® และ 1xEV-DO ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 450 ล้านรายและ 100 ล้านราย ตามลำดับ โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 12 ล้านราย

ทั้งนี้เมื่อสิ้นมิถุนายน 2551 จำนวนผู้ใช้ CDMA2000 เพิ่มขึ้นกว่า 19% (เมื่อเทียบกับมิถุนายน 2550) โดยจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามด้วยอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

เรื่องระบบปฏิบัติการของฝั่ง Palm นั้นค่อนข้างซับซ้อน ต้องย้อนนิดนึงว่าตอน Palm แยกเป็น PalmSource (ซอฟต์แวร์) กับ PalmOne (ฮาร์ดแวร์) ทาง PalmSource โดนบริษัท ACCESS ของญี่ปุ่นซื้อกิจการไป ส่วน PalmOne เปลี่ยนชื่อกลับมาเป็น Palm ดังเดิม ทั้งสองบริษัทต่างพัฒนาระบบปฏิบัติการที่ต่อจาก Palm OS 5 Garnet แยกกันเป็นอิสระ (รายละเอียดอ่านใน Blognone Library)

หลังจาก Symbian เปิดซอร์ส ไปเมื่อเดือนมิถุนายน และประกาศตั้ง Symbian Foundation โดยจะเริ่มมีผลงานออกมาให้เห็นปีหน้า ข่าวก็หายเงียบไปพักใหญ่ ตอนนี้ฝั่ง Symbian เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อโต้กลับค่าย Android ที่กำลังมาแรงบ้างแล้ว