ปัญหาเรื้อรังอันหนึ่งของ Android คือ Market ที่ไม่สมบูรณ์มากนัก เมื่อครั้งเปิดตัว Android 2.2 Froyo ในเดือนพฤษภาคม กูเกิลเคยเดโมหน้าเว็บของ Android Market ที่ซื้อโปรแกรมได้จากบนเว็บเลย แต่มันก็เงียบหายไปเลย (แม้ที่ผ่านมากูเกิลได้เพิ่มฟีเจอร์ใน Market หลายอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหญ่สักเท่าไร)

แต่ล่าสุดกูเกิลออกมาประกาศแล้วว่า ให้นักพัฒนาโปรแกรมบน Android กลับไปอัพเดตโปรแกรมของตัวเองใน Market ให้ระบุ metadata มิฉะนั้นผู้ใช้มือถือบางรุ่นในอนาคตอาจมองไม่เห็นโปรแกรมตัวนี้

ชาวออสเตรเลียรายหนึ่งได้ค้นพบวิธีการรัน native code บน Windows Phone 7 ซึ่งไอเดียการรัน native code ได้มาจากการที่มีผู้โพสต์บนเว็บ XDA-Developers ระบุว่าแอพฯ Network Profile ของซัมซุงบน Windows Phone Marketplace ใช้ native code

เป็นที่รู้กันว่านักพัฒนา Android ทำเงินจากการขายโปรแกรมได้ไม่เท่ากับ iOS (ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ระบบการจ่ายเงินหรือการละเมิดลิขสิทธิ์) จนทำให้นักพัฒนาบางกลุ่มเลี่ยง Android ด้วยเหตุนี้

แต่มีนักพัฒนาคนหนึ่งเปิดเผยว่า เขาได้เขียนโปรแกรมแจกฟรีบน Android ทั้งหมด 6 ตัว และหารายได้จากการโฆษณาทั้งหมด (นับตามคลิก) โปรแกรมของเขาไม่ใช่โปรแกรมยอดนิยมบน Android Market แต่เขาพบว่ารายได้ของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 4.92 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ มาเป็น 1,059.31 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม (สูงสุดอยู่ที่ 1,545.45 ดอลลาร์ในเดือนกันยายน)

เขาบอกว่ารายได้ยังไม่เยอะขนาดเลี้ยงตัวเองได้จากการเขียนแอพอย่างเดียว แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราที่น่าสนใจ ตัวเลขอย่างละเอียดดูกันตามลิงก์นะครับ

กูเกิลประกาศเปิดตัวแอพฯ Google Search สำหรับ Windows Phone 7 โดยมาพร้อมกับการแนะนำคำสืบค้น (suggestion) อัตโนมัติ รวมถึงการคัดกรองผลลัพธ์การค้นหาตามข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของโทรศัพท์ด้วย

ตอนนี้คงต้องมาลุ้นกันต่อว่าเมื่อไรแอพฯ Maps, Voice, Latitude จะโผล่ขึ้น Windows Phone 7 สินะ :D

ที่มา: Google Mobile Blog ผ่าน Windows Phone Central

เมื่อวานนี้ไมโครซอฟท์ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายบนเว็บไซต์ App Hub โดยเปิดรับแอพฯ และเกมจากทุกคนที่เสียเงินสมัครสมาชิก (หรือจากนักเรียนที่อยู่ในโครงการ DreamSpark) แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ App Hub จะเปิดรับแอพฯ ที่จะขายบน Windows Phone Marketplace และเกมที่จะขายใน Xbox Live Marketplace เฉพาะสมาชิกผู้ที่ได้รับสิทธิ์ early access เท่านั้น

ที่มา: Neowin.net

อันเนื่องจากไมโครซอฟท์จำกัดไม่ให้ผู้ผลิตมือถือปรับแต่งหน้าตา Windows Phone 7 ได้มาก ทำให้เราอาจไม่ได้เห็นส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ที่มาครอบระบบปฏิบัติการอีกทีอย่าง HTC Sense อีกต่อไป แต่ทาง HTC นั้นก็พยายามพอร์ตหลายฟีเจอร์ออกมามาเป็นโปรแกรมแยก อาทิ HTC Hub ที่ปรากฏเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด HTC ได้ปล่อยโปรแกรม HTC Attentive Phone หรือฟีเจอร์ Turn-to-mute ของ HTC Sense ที่เมื่อพลิกหน้าจอเครื่องคว่ำลงแล้วจะปิดเสียงเรียกเข้าเมื่อมีคนโทรเข้ามานั่นเอง

นอกจากนั้น HTC Attentive Phone ยังฟีเจอร์อื่นเพิ่มเติม ได้แก่

ดังที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ที่แอลจีบอกจะพัฒนาแอพฯ แจกให้กับผู้ซื้อสมาร์ทโฟนรัน Windows Phone 7 ฟรี แอลจีก็ได้โชว์แอพฯ ตัวแรก ชื่อ "Look n Type" สำหรับ Optimus 7 แอพฯ ที่จะทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องพะวงว่าจะมองเห็นทางระหว่างยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ เมื่อผู้ใช้พิมพ์ข้อความเสร็จแล้วก็สามารถส่งเป็นอีเมล หรือ SMS หรือโพสต์ลงทวิตเตอร์ได้ทันที (สำหรับสองทางเลือกแรก คือส่งเป็นอีเมล หรือ SMS นั้น ข้อความที่พิมพ์จาก Look n Type จะถูกโยนกลับไปยังอินเตอร์เฟสส่งข้อความปกติ เพื่อให้ผู้ส่งพิมพ์อีเมลหรือเบอร์ผู้รับ)

คุณ Michael Dell ได้กล่าวในอีเวนต์แห่งหนึ่งที่ฮ่องกงว่า เดลล์ได้รับเสียงตอบรับจากเหล่านักพัฒนา [ของบริษัท] ว่าพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับสมาร์ทโฟนบนแพลตฟอร์ม Windows นั้นง่ายกว่าบนแพลตฟอร์ม Android

นอกจากนั้น เขายังเผยว่าจะเปิดตัวแท็บเล็ตหลากรุ่นในปีหน้า และยังมีแผนจะซื้อบริษัทที่ทำด้านโซลูชันการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ (cloud computing) อีกด้วย แต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างไร

ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์ ผ่าน Engadget

หมายเหตุ: ข้อความใน [] เสริมโดยผู้เขียนข่าวลง Blognone

หลังจากใช้เงินไปถึง 20 ล้านดอลลาร์ และใช้เวลาถึง 3 ปี ในที่สุดบริษัท Kiha Software ก็ได้เผยซอฟต์แวร์ Aro บน Android แล้ว

Aro เป็นอะไรที่มากกว่าหน้ากากครอบแพลตฟอร์ม Android อีกที เพราะมันได้ประสานการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการและได้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) เพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้ใช้ทำกับโทรศัพท์มือถือ โดย Aro จะผูกสัมพันธ์ระหว่างสมุดรายชื่อผู้ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ปฏิทิน และเบราว์เซอร์ เพื่อให้สิ่งเหล่านั้นเกิดประโยชน์กับผู้ใช้มากขึ้น

วันนี้กูเกิลได้ปล่อย Latitude เวอร์ชันใหม่บน Android โดยเพิ่มฟีเจอร์ที่อยู่ขั้นทดลอง คือ ฟีเจอร์ติดตามผู้อื่นได้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถใช้ได้บน Android 1.6 เป็นต้นไป แต่หากต้องการบรอดแคสต์ตำแหน่งที่ตั้งของตนให้ผู้อื่นต้องใช้ Android 2.2 เป็นต้นไป

ปัญหาอย่างหนึ่งของฟีเจอร์ดังกล่าวคือ ถึงแม้ Latitude จำเป็นจะต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนที่ผู้ใช้จะเริ่มถูกติดตามตำแหน่งที่ตั้ง แต่ Latitude กลับไม่แจ้งผู้ใช้ว่ากำลังถูกติดตามอยู่ในขณะนั้น

เว็บไซต์ Gizmodo คัดเลือกสุดยอดโปรแกรมจดโน้ตบนมือถือ iPhone และ Android

เริ่มจาก iPhone เรียงตามลำดับ

1. Simplenote
2. Evernote
3. AudioNote

อื่นๆ ที่ไม่ติดอันดับ ได้แก่ ColorNote, Soundnote, Springpad, JotAgent, iDiary, Default notes app

ของ Android

1. Note Everything Pro
2. AK Notepad
3. Evernote

อื่นๆ ได้แก่ ColorNote, SpringPad, Catch Notes, GooMemo, GDocs, OI Notepad

ส่วนตัวผมใช้ AK Notepad สำหรับจดโน้ตยาวๆ หน่อย และใช้ GTasks สำหรับเตือนความจำ ใครมีโปรแกรมแนะนำก็มาแชร์กันได้ครับ

ที่มา - Gizmodo

ไม่ใช่แค่ DLNA และ Augmented Reality ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะมีเฉพาะในสมาร์ทโฟนจากแอลจีเท่านั้น แต่บริษัทยังปล่อยยูทิลิตี้เพิ่มเติมสำหรับ Windows Phone 7 (ยูทิลิตี้บางส่วนคล้ายกับที่พบใน HTC Hub) ในชื่อ LG Toolbox ดังนี้

เว็บบล็อกแอลจีสหราชอาณาจักรได้เปิดเผยคลิปวีดีโอเดโม ScanSearch Augmented Reality (แอพฯ ในลักษณะเดียวกับ Layar) บน Optimus 7 ซึ่งจะมีให้เฉพาะเครื่องที่ขายผ่าน Vodafone UK เท่านั้น

แอพฯ ยังมีฟีเจอร์พิเศษ ที่สามารถบอกข้อมูลพยากรณ์อากาศได้เมื่อเอาเครื่องแหงนขึ้นท้องฟ้า ลองดูคลิปวีดีโอได้ที่ท้ายข่าว - เว็บบล็อกแอลจีสหราชอาณาจักร ผ่าน WMPoweruer

ขอแสดงความยินดีกับทีมงาน Android Market ด้วยนะครับ

แอพลิเคชั่นใน Android Market ก็ทะลุ 1 แสนแอพฯ อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งสามารถทะลุจาก 30,000 แอพฯ เมื่อ 7 เดือนก่อน ซึ่งถือว่าดีแล้วสำหรับระบบปฏิบัติการหน้าใหม่แบบนี้

แต่ในขณะที่ Android Market เพื่งทะลุ 1 แสนแอพฯ แต่ iPhone มีแอพฯ เป็น 3 เท่าของ Android Market แล้ว

ที่มา - @AndroidDev ผ่าน Engadget

ถึงแม้ Windows Phone 7 จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีโดยเฉพาะเรื่องส่วนติดต่อผู้ใช้ ถึงแม้หลายฟีเจอร์จะยังไม่สมบูรณ์ ต้องปล่อยอัพเดทออกมาอีกเรื่อยๆ รวมถึงยังมีบั๊ก และแอพฯ ใน marketplace จะยังไม่เยอะมาก แต่ดูเหมือน Windows Phone 8 จะเริ่มเข้าสู่เฟสเตรียมการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะล่าสุดในเว็บไซต์รับสมัครงานของบริษัทมีการประกาศรับสมัครตำแหน่ง "Software Engineering: Development" มาทำงานในการพัฒนา Office Mobile "15" บน Windows Phone 8 ที่อินเดียแล้ว

หนังสือพิมพ์ The New York Times มีสกู๊ปเกี่ยวกับนักพัฒนาโปรแกรมบนมือถือ โดยรวมคือนักพัฒนาสนใจ Android กันมากขึ้นมาก ปัจจุบันมีโปรแกรมเกือบ 1 แสนตัว นักพัฒนา 270,000 คน แต่ก็ยังมีปัญหาที่สำคัญ 2 ประการ

ในที่สุดความฝันของใครหลายคนก็คงเป็นจริงเสียที เมื่อทีมงาน Winamp ได้เปิดแอพฯ เวอร์ชันบน Android แอพฯ ดังกล่าวมาพร้อมกับ playback widget และสามารถฟังวิทยุออนไลน์ผ่านบริการ Last.fm ได้ด้วย แอพฯ ดังกล่าวสามารถติดตั้งได้บน Android 2.1 ขึ้นไป สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ลองตามไปดูได้ที่ Winamp Blog

นอกจากนั้นทีมงานยังได้เปิดตัว Winamp 5.59 เบต้า ที่ผู้ใช้จะสามารถซิงค์และจัดการไลบารีบน Winamp for Android ผ่าน USB หรือ Wi-Fi ได้

หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal มีสกู๊ปเรื่องความยากลำบากของ RIM ในการดึงดูดนักพัฒนาให้มาสร้างแอพฯ ขายบน BlackBerry ส่วนหนึ่งก็เพราะระบบของ RIM เอง

นักพัฒนาหลายเจ้าบอกว่า RIM ให้การสนับสนุนการสร้างแอพฯ ก็จริง แต่การหาเงินจากโปรแกรมทำได้ยากมาก ตัวอย่างของบริษัท Widality บอกว่าถ้าลูกค้าจะซื้อโปรแกรม ต้องลบโปรแกรมเวอร์ชันฟรีก่อน แล้วเข้าเว็บเพื่อซื้อโปรแกรมตัวเต็ม โหลดข้อมูลเข้าไปใหม่ ส่วนการจ่ายเงินก็ต้องใช้ PayPal เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม Widality บอกว่าระบบการจ่ายเงินแบบใหม่ของ BlackBerry AppWorld จะช่วยให้บริษัททำเงินจากการขายโปรแกรมได้มากขึ้น

บริษัท Miyowa ได้เปิดเผยผ่านบล็อกของบริษัทว่าไมโครซอฟท์ได้ให้บริษัทเป็นผู้พัฒนา Windows Live Messenger สำหรับ Windows Phone 7 แอพฯ ดังกล่าว (ดูภาพหน้าจอได้ท้ายข่าว) เป็นของฟรีและมีการโฆษณาในแอพฯ ด้วย Miyowa กล่าวว่าแอพฯ ดังกล่าวจะมีอยู่ Marketplace เมื่อไมโครซอฟท์วางขายสมาร์ทโฟน Windows Phone 7

Miyowa เป็นคู่ค้ากับไมโครซอฟท์มานาน และเป็นผู้ผลิต Windows Live Messenger เวอร์ชันมือถืออันดับหนึ่งอีกด้วย

ชื่อมันคล้ายๆ กัน อย่าสับสนกับ AppUp ของอินเทล นะครับ อันนี้ไมโครซอฟท์ตั้งชื่อล้อกับแนวคิด "Hub" ของ WP7 แต่มันไม่ได้อยู่บน WP7 เพราะว่ามันคือ "เว็บไซต์" สำหรับส่งโปรแกรมไปขายบน WP7

กระบวนการขายโปรแกรมก็คือ นักพัฒนาส่งโปรแกรมไปยังเว็บไซต์ App Hub เมื่อผ่านการตรวจสอบจากไมโครซอฟท์แล้ว มันจะไปปรากฎอยู่บน Marketplace Hub บนตัวเครื่อง WP7 นั่นเอง

App Hub ยังรวมการส่งเกมไปขายบน Xbox Live ด้วย สมัครสมาชิก 99 ดอลลาร์ต่อปี ส่งได้ทั้งสองอย่าง (ถ้าเป็นนักเรียนโครงการ DreamSpark ก็ฟรีหมด) ราคาขายโปรแกรมบน WP7 อยู่ระหว่าง 0.99-499.99 ดอลลาร์ ส่วนแบ่งรายได้คือไมโครซอฟท์หัก 30%

ในเว็บไซต์ซัมซุง Omnia 7 ได้มีการเปิดเผย NOW Hub ที่เคยมีภาพหลุดไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วยข้อมูลพยากรณ์อากาศจาก AccuWeather.com รายงานข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ และข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์จาก Yahoo! Finance

สำหรับรายละเอียดของ Omnia 7 ติดตามได้จากข่าวก่อนหน้านี้ครับ

ที่มา: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของซัมซุง Omnia 7

PayPal ได้อัพเดท iPhone แอพฯ เวอร์ชันใหม่ เพิ่มฟีเจอร์ Pay In Checks ให้ผู้ใช้นำเช็คขึ้นเงินเข้าบัญชีผู้ใช้ PayPal โดยการใช้กล้องถ่ายภาพเช็คได้แล้ว

ผู้ใช้จะต้องรอประมาณ 6 วันทำการ เงินถึงจะเข้าบัญชีผู้ใช้ PayPal ตั้งแต่เปิดให้ดาวน์โหลดแอพฯ ดังกล่าวเป็นเวลา 36 ชั่วโมง มีผู้ใช้ Pay In Checks ไปแล้วรวมมูลค่า 1 แสนดอลลาร์ (ราว 4.2 ล้านบาท)

ที่มา: CNET - 1, 2

อัพเดท มีคลิปใหม่ความยาว 13 นาที เผย Samsung Hub ด้วย ดูได้ท้ายข่าว

มีคลิปหลุดซัมซุง Omnia 7 ซึ่งได้เผย Samsung Hub (ประกอบด้วยการรายงานสภาพอากาศ ข่าวสาร และข้อมูลอื่นๆ) ที่คล้ายกับของ HTC เป็นครั้งแรกอีกด้วย

หน้าตา Hub ของซัมซุงจะเป็นอย่างไร ดูดีกว่าของ HTC หรือไม่ก็ลองพิจารณาได้จากภาพท้ายข่าว

ที่มา: PocketNow ผ่าน WMPoweruser

แม้โนเกียจะยังเป็นเจ้าแห่งสมาร์ทโฟน แต่ก็ประสบปัญหาเรื่องการดึงดูดนักพัฒนา โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ iPhone หรือ Android ทางโนเกียอเมริกาเหนือจึงจัดโครงการ Calling All Innovators ประกวดโปรแกรมสำหรับ N8

เนื่องจากโครงการนี้รับเฉพาะนักพัฒนาจากอเมริกาเหนือเท่านั้น ผมไม่ลงรายละเอียดนะครับ แต่สรุปคือเงินรางวัลรวม 10 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นหลายหมวด รางวัลสูงที่สุดที่เป็นไปได้คือเงินสด 250,000 ดอลลาร์ และโนเกียจะช่วยประชาสัมพันธ์โปรแกรมให้เรา ด้วยงบ 1.9 ล้านดอลลาร์

ที่มา - ReadWriteWeb

คนส่วนมากอาจรู้จัก Disney ในฐานะผู้ผลิตการ์ตูนและภาพยนตร์ แต่เอาจริงแล้ว Disney เป็นเครือสื่อขนาดยักษ์ของโลก เป็นเจ้าของสถานีทีวีรายใหญ่อย่าง ABC และ ESPN รวมถึงล่าสุดเพิ่งเข้าซื้อบริษัทการ์ตูน Marvel อีกด้วย

ในงานสัมมนา Appnation ผู้บริหารของดิสนีย์ซึ่งดูแลสถานี ABC ได้กล่าวกับผู้ร่วมสัมมนาว่า ดิสนีย์ไม่สนใจพัฒนาแอพพลิเคชันด้วย HTML5 ด้วยเหตุผลสองประการคือ มีพื้นที่แสดงโฆษณาน้อย และ HTML5 ไม่มีมาตรการป้องกันลิขสิทธิ์ของเนื้อหาที่ดีพอ ดังนั้นแนวทางของดิสนีย์บนมือถือจะเน้นการสร้างแอพพลิเคชันเฉพาะของตัวเองแทน เนื่องจากควบคุมได้มากกว่า

ที่มา - Business Insider