Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุด สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2018 มีรายได้รวม 12,229 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,038 ล้านดอลลาร์

การเติบโตด้านรายได้ที่สูงมากของ Alibaba นั้นทำให้บริษัทเติบโตสูงสุดในบรรดาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอเมริกาและจีน ที่เรียกย่อว่า FAANG และ BAT (Facebook, Amazon, Apple, Netflix, Google, Baidu, Alibaba และ Tencent)

ซีอีโอ Daniel Zhang กล่าวว่าเป็นอีกไตรมาสที่ยอดเยี่ยมของ Alibaba จากการขยายจำนวนผู้ใช้งาน และกินส่วนแบ่งในธุรกิจค้าปลีกที่มากขึ้น โดยมีการเติบโตในทุกส่วนธุรกิจ ทั้งธุรกิจหัวใจอย่างค้าปลีก, คลาวด์, ดิจิทัลมีเดีย และสื่อบันเทิง โดยกลุ่มค้าปลีกเติบโต 61% ส่วนบริการคลาวด์โตถึง 93%

Sea บริษัทแม่ของ Garena, Shopee และ AirPay รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2018 รายได้รวม 219.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 71% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 250.8 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจความบันเทิงดิจิทัล (Garena) ที่ถือเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของ Sea มีรายได้เพิ่มขึ้น 19% เป็น 139.1 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Garena ได้รับผลกระทบจากผู้เล่นเกมในเวียดนาม เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขบัตรเงินผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์ในประเทศ ทำให้รายได้ลดลงที่นั่นเล็กน้อย ส่วนกำไรเฉพาะส่วนนี้อยู่ที่ 48.6 ล้านดอลลาร์

Xiaomi รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รายงานนับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นไปเมื่อเดือนก่อน มีรายได้รวม 45,235.5 ล้านหยวน (ประมาณ 2.1 แสนล้านบาท หรือ 6.6 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 68.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน รายได้จากตลาดนอกประเทศจีน คิดเป็น 36.3% ของรายได้รวม เติบโตส่วนนี้ถึง 151.7% และ Xiaomi มีกำไรสุทธิ 14,633 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 25.1%

ซีอีโอ Lei Jun กล่าวว่า 8 ที่แล้ว เขาเริ่มต้นบริษัทจากไอเดียในการสร้างสมาร์ทโฟน ที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอินเทอร์เน็ต และต้องการเปลี่ยนภาพใหม่ของคำว่า Made in China ให้เป็นสินค้าที่คนทั่วโลกชื่นชอบ โดยมาพร้อมกับราคาที่เหมาะสม

JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ที่เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการในประเทศไทยด้วย รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 สิ้นสุดเดือนมิถุนายน มีรายได้รวม 18,481 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และกลับไปขาดทุนอีกครั้ง 334 ล้านดอลลาร์ โดยมีจำนวนลูกค้า 313.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 21.5%

ซีอีโอ Richard Liu กล่าวว่า JD.com ยังคงเติบโตในฐานะอีคอมเมิร์ซที่ไว้วางใจได้มากที่สุดในจีน เนื่องจากการเน้นคุณภาพสินค้า และให้ประสบการณ์ช็อปปิ้งด้วยบริการที่เหนือกว่า โดยบริษัทยังคงลงทุนด้านเทคโนโลยีต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพระบบหลังบ้าน ตามกลยุทธ์สร้าง Retail as a Service สำหรับทั้ง JD.com และพาร์ทเนอร์ทั้งหมด

NVIDIA รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 รายได้รวมอยู่ที่ 3,123 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,210 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 90%

ซีอีโอ Jensen Huan บอกว่าปัจจัยเร่งการเติบโตของ NVIDIA คือช่องว่างที่มากขึ้น ระหว่างความต้องการตัวประมวลในทุกอุตสาหกรรม กับความสามารถที่จำกัดของหน่วยประมวลผลแบบเก่า ทำให้นักพัฒนาหันมาเลือกใช้ GPU เป็นตัวประมวลผลหลักมากขึ้น และ NVIDIA ก็อยู่ในจุดที่รองรับความต้องการนี้

Uber รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2/2018 มีรายได้เพิ่มขึ้น 51% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 2.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนตัวเลขยอดจองรถรวม (Gross Booking) อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 41% สุทธิแล้วขาดทุนอีก 659 ล้านดอลลาร์

ถึงแม้ Uber จะยังไม่อยู่ในตลาดหุ้น แต่ก็เลือกรายงานตัวเลขออกมาทุกไตรมาส เพื่ออัพเดตข้อมูลให้นักลงทุนปัจจุบัน และถือเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดเผยข้อมูลก่อนเตรียมไอพีโอนั่นเอง

ซีอีโอ Dara Khosrowshahi เปิดเผยว่า Uber Eats บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่มีการเติบโตที่สูงมาก รายได้โตถึง 200% และ Uber ก็จะเพิ่มการลงทุนส่วนนี้ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เริ่มขยายมาลงทุนธุรกิจแชร์จักรยานไฟฟ้าและสกูตเตอร์ด้วย

Cisco รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม) มีรายได้รวม 12,844 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,803 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Chuck Robbins กล่าวว่าผลการดำเนินงานนี้ มาจากการที่ลูกค้ายังคงเลือกใช้นวัตกรรมล่าสุดของ Cisco และมีการเปลี่ยนมาสมัครใช้ซอฟต์แวร์มากขึ้น ทำให้เห็นการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจและในทุกภูมิภาค นอกจากนี้ Cisco กล่าวว่าบริษัทได้ประโยชน์มากจากการที่องค์กรหันมาปรับโครงสร้างไอที ให้เป็นแบบมัลติคลาวด์ โดยเฉพาะบนความร่วมมือกับกูเกิลและ NetApp

Tencent บริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของจีน รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน อยู่ที่ 11,135 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,700 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% ซึ่งถือเป็นการลดลงของกำไรครั้งแรกในรอบ 13 ปี

เกมออนไลน์ที่ถือเป็นรายได้สำคัญของ Tencent มีรายได้โต 6% ถ้าเทียบกับปีก่อน แต่ลดลง 12% หากเทียบกับไตรมาส 1/2018 โดย Tencent บอกว่าจำนวนผู้เล่นนั้นเพิ่มขึ้นระดับเลขสองหลัก แต่รายได้ต่อผู้เล่นนั้นลดลง จึงส่งผลรายได้ อย่างไรก็ตามธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งนั้นยังเติบโตสูง มีลูกค้าถึง 154 ล้านคน รายได้โต 30%

กลุ่มทรู รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 รายได้รวมอยู่ที่ 61,198 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 75.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากมีรายการพิเศษขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมเป็น 10,037 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน 1,245 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากไม่รวมรายการพิเศษเหล่านี้ กลุ่มทรู ก็ยังมีกำไรอยู่ 456 ล้านบาท

ในภาพรวมธุรกิจต่าง ๆ ของกลุ่มทรู มีการเติบโตทุกส่วน ซึ่งทรูบอกว่าการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ก็ช่วยเสริมให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

เวยป๋อ (Weibo) โซเชียลมีเดียรายใหญ่ตัวหนึ่งของจีน ที่สื่อตะวันตกมักเรียกว่า Twitter จีน รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2018 รายได้เพิ่มขึ้นถึง 68% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เป็น 426.6 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 140.7 ล้านดอลลาร์

ถึงแม้รายได้จะน้อยกว่า Twitter (แต่มีกำไรนะ) สิ่งที่น่าสนใจคือจำนวนผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้เป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มขึ้นเป็น 431 ล้านคน ส่วนผู้ใช้เป็นประจำทุกวัน (DAUs) มี 190 ล้านคน ซึ่งมากกว่า Twitter

Dropbox รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2018 รายได้เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 339.2 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 48.0 ล้านดอลลาร์ ส่วนจำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงินมี 11.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอยู่ 9.9 ล้านคน ส่วนจำนวนผู้ใช้รวมทั้งหมดมีมากกว่า 500 ล้านคน

ซีอีโอ Drew Houston กล่าวว่า ไตรมาสนี้ Dropbox ได้พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจผ่านตัวเลขที่ออกมา กระแสเงินสดอิสระที่เพิ่มขึ้น และมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกมาสำหรับผู้ใช้งานหลายอย่าง

Snap บริษัทแม่ของแอป Snapchat รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2018 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 44% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 262 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 353 ล้านดอลลาร์ ลดน้อยลง 20%

ตัวเลขไฮไลท์ของ Snapchat ในไตรมาสคือจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs) ตัวเลขอยู่ที่ 188 ล้านคน ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ 1/2018 ที่ 191 ล้านคน โดยไตรมาสที่แล้วการเติบโตก็อยู่ที่ 2%

เอไอเอสรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2561 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2560 เป็น 42,228 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการรับรู้ค่าเช่าเครื่องและอุปกรณ์ในการเป็นพันธมิตรกับทีโอทีเต็มไตรมาส ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%

แอปเปิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2018 เดือนเมษายน-มิถุนายน รายได้รวม 53,265 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,519 ล้านดอลลาร์ โดยยอดขายในต่างประเทศคิดเป็น 60% ของยอดขายรวม

ซีอีโอ Tim Cook กล่าวว่านี่ถือเป็นไตรมาสเดือนมิถุนายนที่ดีที่สุดของแอปเปิล และเป็นการเติบโตระดับเลขสองหลักติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่ ทั้งจากยอดขายที่แข็งแกร่งของ iPhone, รายได้จากบริการ, อุปกรณ์สวมใส่

โซนี่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (เมษายน-มิถุนายน) ภาพรวมมีรายได้ 1.953 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2.26 แสนล้านเยน

กลุ่มธุรกิจเกมเป็นส่วนที่ทำเงินให้โซนี่มากที่สุด เฉพาะไตรมาสนี้มีรายได้ 4.72 แสนล้านเยน โดยขาย PS4 ไปได้อีก 3.2 ล้านเครื่อง มีกำไรเฉพาะส่วนธุรกิจนี้ถึง 8.3 หมื่นล้านเยน

โทรศัพท์มือถือยังคงเป็นธุรกิจที่ไม่เติบโตของโซนี่ ไตรมาสที่ผ่านมาขายสมาร์ทโฟนได้ 2 ล้านเครื่อง รายได้ลดลงถึง 27% และยังมองว่ายอดขายมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

ธุรกิจอื่นของโซนี่ส่วนใหญ่มีการเติบโต ทั้งธุรกิจดนตรีที่ได้เงินมากขึ้นจากการเติบโตของสตรีมมิ่ง, ธุรกิจความบันเทิงในบ้าน รายได้เพิ่มถึง 15%

Huawei รายงานผลประกอบการของครึ่งแรกปี 2018 รายได้รวม 3.26 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 14%

ปัจจุบัน Huawei โฟกัสที่กลุ่มธุรกิจหลักแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ให้บริการเครือข่าย, ลูกค้าองค์กร, ลูกค้าทั่วไป และคลาวด์ โดยสำหรับลูกค้าทั่วไปนั้น ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของ Huawei และ Honor รวมกันเป็น 27% ของยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนแล้ว

ตัวเลขรายละเอียดทางการเงินของ Huawei แยกรายธุรกิจนั้นไม่มีการชี้แจงออกมามากนัก เนื่องจากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้น แต่เป็นการออกรายงานครึ่งปีตามมาตรฐานบริษัทนานาชาติ

นินเทนโดรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน 2018 มียอดขายสุทธิ 168,157 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 30,580 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 44%

Nintendo Switch ทำยอดขายรวมนับตั้งแต่เปิดตัวไปแล้วรวม 19.67 ล้านเครื่อง และขายซอฟต์แวร์ไปแล้ว 86.9 ล้านชุด เมื่อลบกับตัวเลขในไตรมาสก่อนหน้านี้ เท่ากับว่า Switch ขายไปได้อีก 1.88 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่สูง แต่ก็เพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาลด้วย

ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 ต่อจากที่ออกมาให้ตัวเลขเบื้องต้นเมื่อต้นเดือน ยอดขายรวม 58.48 ล้านล้านวอน ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงาน 14.87 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 0.8% และมีกำไรสุทธิ 11.04 ล้านล้านวอน ใกล้เคียงกับปีก่อน

รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์มือถือของซัมซุงลดลงถึง 20% มียอดขาย 24.0 ล้านล้านวอน ซึ่งซัมซุงระบุว่าเพราะยอดขาย Galaxy S9 ออกมาน้อยกว่าที่คาดไว้ และยังมีการใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น กระทบต่อกำไรอีกด้วย โดยครึ่งปีหลังซัมซุงเลือกแก้เกมโดยออก Note รุ่นใหม่เร็วขึ้น และบอกว่าราคาจะเหมาะสมขึ้น

อินเทลเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2018 ซึ่งน่าจับตา เพราะเกิดเหตุการณ์ ซีอีโอ Brian Krzanich ต้องลาออกจากปัญหาชู้สาว มาหมาดๆ และยังไม่มีซีอีโอคนใหม่มารับตำแหน่งแทน (ตอนนี้รักษาการโดยซีเอฟโอไปก่อน)

ผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดของอินเทลออกมาน่าประทับใจ รายได้ 17 พันล้านดอลลาร์ (โต 15%), กำไรสุทธิ 4.9 พันล้านดอลลาร์ (เติบโต 41%) ปัจจัยสำคัญมาจากธุรกิจด้านอื่นที่ไม่ใช่พีซี (ศูนย์ข้อมูล/IoT/อื่นๆ) เติบโตมาก (โต 26%) และมีสัดส่วนรายได้เกือบถึง 50% ของรายได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนธุรกิจชิปสำหรับพีซีก็ยังเติบโต 6% แม้อุตสาหกรรมพีซีอยู่ในช่วงเติบโตช้าก็ตาม

Twitter รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 2 ปี 2018 ในด้านตัวเลขการเงินนั้นออกมาดีมาก โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็น 711 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นรายได้จากในอเมริกา 367 ล้านดอลลาร์ (+10%) และต่างประเทศ 344 ล้านดอลลาร์ (+44%) และมีกำไรสุทธิ 100.1 ล้านดอลลาร์ ดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน

แต่จำนวนผู้ใช้งานกลับมีทิศทางตรงข้าม โดยผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) ลดลงจากไตรมาส 1/2018 มา 1 ล้านคน อยู่ที่ 335 ล้านคน โดยตัวเลขที่ลดลงมาจากในอเมริกา ส่วนต่างประเทศจำนวนผู้ใช้คงที่ ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ Twitter ให้ความสำคัญมากกว่า ยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11% แต่ไม่ได้บอกว่ามีจำนวนเท่าใด

Spotify รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2018 รายได้รวม 1,273 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่ยังขาดทุนอีก 394 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการทำโปรโมชันในช่วงไตรมาส 2 และ 4 ของทุกปี

จำนวนผู้ใช้งาน Spotify แบบเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มขึ้น 30% เป็น 180 ล้านคน การเติบโตสูงมาจากภูมิภาคละตินอเมริกา ส่วนจำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงินเพิ่มขึ้น 40% เป็น 83 ล้านคน โดยมาจากผู้สมัครแบบ Family Plan เป็นหลัก ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีอัตรายกเลิกที่ต่ำด้วย

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ GDPR เนื่องจาก Spotify มีฐานผู้ใช้หลักอยู่ในยุโรป ซึ่ง Spotify ก็บอกว่ากระทบการเติบโตในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา แต่มองว่าสถานการณ์ในไตรมาสถัดไปจะดีขึ้น

Amazon รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2018 มียอดขายรวม 52,886 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น % จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,534 ล้านดอลลาร์

ในครั้งนี้ซีอีโอ Jeff Bezos เลือกอัพเดตข้อมูลของ Alexa โดยบอกว่าเป้าหมาย Amazon คือทำให้ลูกค้าสามารถใช้ Alexa ได้ทุกที่ ๆ ลูกค้าต้องการ ปัจจุบันมีนักพัฒนาในกว่า 150 ประเทศ ร่วมพัฒนาอุปกรณ์รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Alexa มีทั้งลำโพง, หูฟัง, แล็ปท็อป จนถึงอุปกรณ์ติดตั้งในรถยนต์

Qualcomm รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุดตามปีการเงินบริษัท สิ้นสุดวันที่ 24 มิถุนายน 2018 มีรายได้รวม 5,629 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 1,508 ล้านดอลลาร์ โดยการเติบโตมาจากทุกส่วนธุรกิจ โดยเฉพาะส่วนการขายไลเซนส์ที่เติบโตถึง 25% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน

AMD รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2018 มีรายได้รวม 1,756 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 53% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 116 ล้านดอลลาร์ ซึ่งดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน

รายได้เฉพาะกลุ่มธุรกิจซีพียู-จีพียู เพิ่มขึ้นถึง 64% จากยอดขายสูงของสินค้ากลุ่ม Radeon และ Ryzen อย่างไรก็ตาม AMD ให้ข้อมูลน่าสนใจว่ารายได้ส่วนนี้เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2018 นั้นลดลง 3% เนื่องจากยอดขายจีพียูสำหรับตลาดบล็อกเชนลดลง และมองว่าแนวโน้มจะยังคงลดลงต่อไปในไตรมาส 3/2018 ปัจจุบัน

สำหรับรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Enterprise, Embedded และ Semi-Custom (EESC) เพิ่มขึ้น 37% เนื่องจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มเกม และเซิร์ฟเวอร์

PayPal ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2018 แล้ว โดยรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 3.86 พันล้านดอลลาร์ เติบโต 23% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ 3.13 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรในไตรมาสนี้อยู่ที่ 526 ล้านดอลลาร์

ไตรมาสนี้ PayPal มีจำนวนผู้ใช้แบบแอคทีฟเพิ่มขึ้น 7.7 ล้านบัญชี ส่วนจำนวนผู้ใช้ใหม่เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งรวมแล้ว PayPal มีบัญชีแบบแอคทีฟทั้งหมด 244 ล้านบัญชี ส่วนจำนวนธุรกรรมการเงินที่ประมวลผลทั้งหมดอยู่ที่ 2.3 พันล้านครั้ง คิดเป็นมูลค่า 1.39 แสนล้านดอลลาร์ เฉลี่ยแล้วมีการทำธุรกรรมที่ 35.7 ครั้งต่อบัญชี