จากที่คาดกันมานาน ในที่สุด Facebook ก็เปิดหน้าร้านรวมแอพบนแพลตฟอร์มของตัวเองในชื่อ Facebook App Center เป็นที่เรียบร้อย

รูปแบบการใช้งานคงไม่ต่างอะไรจากร้านขายแอพอื่นๆ มากนัก เพียงแต่แอพที่จะแสดงบน Facebook App Center จะคัดเลือกเฉพาะแอพคุณภาพโดยวัดจากสถิติการใช้งานเป็นหลัก มีระบบแนะนำตามรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้

Dick Costolo ซีอีโอของ Twitter ไปพูดที่งานสัมมนาของ The Economist โดยเขาเปิดเผยข้อมูลว่าตอนนี้บริษัทมีรายได้จากโฆษณาบนมือถือเยอะกว่าโฆษณาบนหน้าเว็บด้วยซ้ำในบางวัน

Costolo พูดถึงกระแสอุปกรณ์พกพาว่า Twitter พร้อมสำหรับการใช้งานแบบนี้อยู่แล้ว เพราะต้นกำเนิดของ Twitter มาจากข้อความบนมือถือ (140 ตัวอักษร) มาตั้งแต่แรก ดังนั้นจะต่างไปจาก Facebook ที่ออกแบบมาสำหรับเว็บ และกำลังประสบปัญหาปรับตัวให้เข้ากับการใช้งานบนมือถือลำบาก

เขาบอกว่า Twitter เตรียมแพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือมาสักพักแล้ว เพียงแต่เลือกเปิดตัวแพลตฟอร์มโฆษณาบนเว็บก่อน และตอนนี้รายได้ทั้งสองส่วนตีคู่คี่กันอยู่ (Twitter ยังไม่เคยเปิดเผยรายได้ต่อสาธารณะ)

ผู้ใช้ Twitter คงคุ้นกันดีกับรูปนกสีฟ้า (หรือชื่อจริง Larry) อันเป็นสัญลักษณ์ของ Twitter มาตลอด 6 ปีที่ผ่านมา และต่อจากนี้ไปรูปนกสีฟ้านี้จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของ Twitter แทนข้อความ หรือแม้แต่ตัวอักษร t ที่มักเห็นบ่อยก่อนหน้านี้ (ซึ่งตรงตามการคาดการณ์ก่อนหน้า)

พร้อมกันนี้ Twitter ได้ออกแบบหน้าตาของเจ้านกสีฟ้าเสียใหม่ โดยสร้างขึ้นจากรูปทรงเรขาคณิตพื้นฐานอย่าง การใช้วงกลมมาทับซ้อน และต่อกันเป็นรูปนกที่ดูเรียวยิ่งขึ้น

ภาพสำหรับใช้งาน และข้อแนะนำการใช้ดูได้ที่หน้า Twitter brand resources ส่วนวิดีโอแนวคิดการออกแบบดูได้ท้ายข่าวครับ

มีรายงานว่ารหัสผ่าน (ที่ถูกเข้ารหัส) ของ LinkedIn เครือข่ายสังคมของคนทำงานจำนวน 6.5 ล้านบัญชีหลุดไปโผล่บนเว็บไซต์แฮ็กเกอร์รัสเซีย

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก LinkedIn แต่คาดว่าเว็บไซต์โดนเจาะและไม่รู้ว่ามีข้อมูลอะไรหลุดออกมาบ้าง เนื่องจากสิ่งที่แฮ็กเกอร์นำมาโพสต์มีเพียงรหัสผ่าน เพื่อขอให้ชุมชนแฮ็กเกอร์ช่วยกันถอดรหัส

ผู้ใช้รายหนึ่งที่ได้รายการรหัสผ่านออกมา ทดลองคำนวณ hash รหัสผ่านของตัวเอง (แบบไม่ใส่ salt) และเจอ hash ชุดเดียวกันในรายการรหัสผ่านที่หลุดออกมา

ทาง LinkedIn บอกเพียงแค่จะตรวจสอบเรื่องนี้ ระหว่างนี้ผู้ใช้ LinkedIn ทุกคนก็ควรเข้าไปเปลี่ยนรหัสผ่านกันโดยด่วน และใครที่ใช้รหัสผ่านกับเว็บไซต์อื่นๆ ก็ควรเปลี่ยนด้วยทั้งหมดครับ

หลายคนแถวนี้คงรู้จัก Meebo ในฐานะบริการแชทผ่านเว็บและแอพมือถือ แต่ภายหลังบริษัทก็ขยายตัวมาทำ Meebo Bar สำหรับแปะที่ด้านล่างของเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการเครือข่ายสังคมด้วย

ล่าสุดกูเกิลประกาศเข้าซื้อ Meebo แล้วโดยไม่เปิดเผยมูลค่า (คาดกันว่าประมาณ 100 ล้านดอลลาร์) กูเกิลไม่ได้ให้รายละเอียดของการซื้อกิจการครั้งนี้มากนัก บอกแค่ว่าทีม Meebo จะถูกรวมเข้ากับทีม Google+ ซึ่งยังไม่บอกว่าทำอะไร

TechCrunch รายงานข่าววงในว่าก่อนหน้านี้ Meebo เพิ่งปลดพนักงานด้านการขายและการตลาดไปจำนวนหนึ่ง สิ่งที่กูเกิลต้องการน่าจะเป็นทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์มากกว่า

Salesforce.com ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Buddy Media มูลค่า 689 ล้านดอลลาร์

Buddy Media เป็นบริษัทการตลาดออนไลน์ผ่านเครือข่ายสังคมหลายชนิด เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 2007 ช่วงที่ Facebook กำลังเริ่มดัง ผลิตภัณฑ์ของ Buddy Media เป็นซอฟต์แวร์ออนไลน์ที่ช่วยให้นักการตลาดของแบรนด์ต่างๆ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลบนเครือข่ายสังคมได้ง่าย และตรวจวัดผลตอบรับได้รอบด้านมากขึ้น

จุดเด่นของ Buddy Media คือฐานลูกค้าเป็นบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Ford, HP, L'Oreal รวมกว่า 1,000 ราย

แม้ว่าตัวเลขล่าสุด active user ของเฟซบุ๊กตอนนี้จะมากถึง 900 ล้านคนเข้าไปแล้ว (ข้อมูลเดือนพฤษภาคม) ซึ่งมากพอที่จะเป็นเบอร์หนึ่งในวงการโซเชียลเน็ตเวิร์คอีกนาน แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้เฟซบุ๊กสามารถขยายฐานผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีกนั่นก็คือผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 13 ปี

ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กจะยอมให้ผู้ใช้ที่มีอายุเกิน 13 ปีสามารถสมัครได้เท่านั้น แต่ตอนนี้เฟซบุ๊กมีแผนจะปรับแล้ว โดยผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 13 ปี สามารถสมัครบัญชีเฟซบุ๊กได้ โดยจะมีระบบเสริมจากบัญชีปกติคือ parental control ให้ผุ้ปกครองสามารถควบคุมและจำกัดแอพพลิเคชันที่ใช้งาน และให้เข้าถึงข้อมูลเท่าที่จำเป็น

ข่าวดีสำหรับแอดมินเฟซบุ๊กเพจมาถึงแล้ว เมื่อเฟซบุ๊กปล่อยอัพเดตสำหรับเฟซบุ๊กเพจ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ (ที่น่าจะมีตั้งนานแล้ว) สองอย่างได้แก่ การตั้งตำแหน่งของแอดมินเพจ (Admin Role) และการตั้งเวลาโพสต์ (schedule post)

สำหรับตำแหน่งแอดมินในเฟซบุ๊กเพจจากเดิมมีเพียงแค่แอดมินเพียงอย่างเดียว ตอนนี้จะปรับเพิ่มเป็น 5 ตำแหน่งใหญ่ๆ ที่สามารถจัดการกับเพจได้มากน้อยลดหลั่นกันไปดังนี้

เราเห็นของใหม่อย่าง Google+ Local กันไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่ากูเกิลยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ เตรียมเปิดตัว Google+ Events ต่อในเร็วๆ นี้

มีผู้ใช้บางคนไปค้นพบหน้าจอของ Google+ Events ปรากฏอยู่ใน Google Calendar บ้างแล้ว (แต่ยังใช้งานไม่ได้) ในข้อมูลที่ปรากฏบอกว่าเราสามารถแชร์ event ให้กับเพื่อนๆ ใน circle ได้, เพิ่มภาพและวิดีโอลงใน event ได้ และข้อมูลจาก Google+ Event จะแสดงใน Google Calendar ของเราด้วย

ที่มา - The Next Web

หนึ่งในเรื่องที่ผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คอยากรู้มาตลอดคือในโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เราใช้งานอยู่นั้น มีสแปมแฝงตัวอยู่เยอะแค่ไหน คำตอบจากนาย Mark Risher ซีอีโอของบริษัทผลิตซอฟต์แวร์แอนติสแปมชื่อว่า Impermium เผยว่าตัวเลขสแปมบนโซเชียลเน็ตเวิร์คชื่อดังอย่างเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือที่อื่นๆ นั้นมีจำนวนมากถึง 40% จากผู้ใช้ทั้งหมด และ 8% ของข้อความที่ส่งกันในโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้นก็เป็นสแปม โดยตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในเวลาหกเดือนเลยทีเดียว

WikiLeaks ประกาศเปิดตัวโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คของตัวเองภายใต้สโลแกน 'Encrypted Facebook' หรือ Facebook ในรูปแบบที่ผ่านการเข้ารหัส หลังจากมีการอ้างว่า Facebook ได้ขายข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานให้กับรัฐบาลและยังประณามการที่ Facebook สนับสนุนร่างกฎหมาย Cyber Intelligence Sharing and Protection Act (CISPA) ซึ่งว่าด้วยการที่ผู้ให้บริการสามารถเข้าถึงข้อมูลใดๆ ก็ได้ภายใต้ข้ออ้างความปลอดภัยทางไซเบอร์

สำหรับโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คนี้ยังอยู่ในช่วงเบต้า และยังเปิดให้ทุกคนสามารถสมัครสมาชิกได้ภายในลิงก์ที่มาข่าวครับ

เฟซบุ๊กเริ่มขยับเกี่ยวกับบริการแชร์ภาพแล้วตั้งแต่เข้าซื้อ Instagram ไป ด้วยการเปิดตัวแอพแยกตัวใหม่ชื่อว่า Facebook Camara

หน้าตาของแอพตัวนี้คล้ายๆ กับ Instagram ด้วยอินเทอร์เฟซแสดงภาพเดี่ยวสกรอลภาพในแนวตั้ง ฟีเจอร์ของ Facebook Camera คือการเอาจุดเด่นของ Instagram มารวมกับเฟซบุ๊กดังนี้

• สามารถโพสต์ภาพพร้อมกันหลายภาพได้
• แต่งภาพด้วยฟิลเตอร์ และครอปภาพได้
• แทกเพื่อน และใส่ข้อความรายละเอียดภาพได้

ที่น่าสนใจคือทั้ง 15 ฟิลเตอร์ที่มีใช้ใน Facebook Camera กลับไม่ได้พัฒนาจากทีมของ Instagram เลย ซึ่งตรงนี้ Dirk Stoop หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊กบอกว่าเป็นเพราะแอพตัวนี้ถูกพัฒนามานานแล้ว (น่าจะก่อนซื้อ Instagram)

ตลาดที่ Google+ ได้รับความนิยมอย่างเงียบๆ คือวงการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ โดยช่างภาพชื่อดังหลายรายเลือกใช้ Google+ เป็นที่เผยแพร่ผลงานของตัวเองเพราะตัวแสดงภาพของ Google+ มีความสามารถสูง (ตัวอย่างคือ +Trey Ratcliff) นอกจากนี้ยังมีงาน Google+ photowalk ที่ชุมชนถ่ายภาพร่วมกันจัดทริปออกตระเวณถ่ายภาพด้วยกัน และล่าสุดยังมีงานสัมมนา Google+ Photographer’s Conference อีกด้วย

กระแสความนิยมเพลงจากประเทศเกาหลีหรือที่เรียกว่า K-Pop ยังคงแรงต่อเนื่อง โดยหลังการประกาศความร่วมมือกับ YouTube ในการนำเพลงมาเผยแพร่ในช่องพิเศษตั้งแต่ปีก่อน จนนำมาสู่การจัดคอนเสิร์ตใกล้กับสำนักงานใหญ่ของกูเกิลแล้ว ล่าสุดอุตสาหกรรมดนตรีเกาหลีได้ประกาศความร่วมมือกับ Facebook และ Google+ เพิ่มเติมอีก

ดูเหมือนเฟซบุ๊กกำลังจะมีการปรับหน้าตาของเว็บไซต์อีกครั้ง หลังจากที่เว็บไซต์ข่าว Talking Point Memo ได้อัพโหลดภาพของ Timeline แบบใหม่ที่อ้างว่าเพิ่งปล่อยให้บางคนได้ลองใช้ขึ้นมาแล้ว

โดยรวมแล้วหน้าตาของ Timeline ใหม่นี้จะแน่นกว่าเดิม ข้อมูลจำพวกที่ทำงาน สถานศึกษา ที่อยู่ ถูกโยกขึ้นไปทับพื้นที่ส่วนหนึ่งของภาพ cover และภาพธัมบ์เนลที่เคยมีอยู่ใต้ภาพ cover ก็ถูกเอาออกเหลือเพียงข้อความเปลือยๆ เท่านั้น

So.cl เครือข่ายสังคมที่พัฒนาโดย Microsoft Network (รายละเอียดอ่านในข่าวเก่า) เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว

ไมโครซอฟท์อธิบายว่า So.cl เป็นโครงการ "ทดลอง" โดยเน้นไปที่การค้นหาสิ่งที่น่าสนใจใหม่ๆ และเน้นเป้าไปที่นักเรียนนักศึกษาที่เข้ามาแชร์ข้อมูลความรู้กัน

เท่าที่ผมลองเล่นดู แกนหลักของ So.cl คือการแชร์ "ผลการค้นหา" (จาก Bing) ไปยังเพื่อนๆ ของเรามากกว่า แต่ก็มีฟีเจอร์อื่นๆ เช่น การโพสต์ข้อมูลทั่วไป หรือ การดูวิดีโอร่วมกับเพื่อนๆ (แบบเดียวกับ Google+) ด้วย

คนที่สนใจทดสอบก็เข้าไปเล่นกันได้ตามลิงก์แรก สามารถล็อกอินด้วย Facebook Account หรือ Windows Live ก็ได้ครับ

ที่มา - CNET

หลังจากที่ Facebook เปิดตัว Groups for Schools สำหรับนักเรียนโดยเฉพาะและอนุญาตให้นักเรียนสามารถแชร์ไฟล์ที่ขนาดไม่เกิน 25 MB ได้ด้วย แต่กลุ่มสำหรับนักเรียนแบบนี้จำกัดเฉพาะผู้ใช้ที่มีอีเมลโดเมน .edu เท่านั้น

แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง Facebook ได้ทยอยเปิดฟีเจอร์นี้สำหรับกลุ่มทั่วไปที่ไม่ใช่นักเรียนได้ใช้กันแล้ว โดยใช้เงื่อนไขเดียวกันคือ อัพโหลดไฟล์ที่ขนาดไม่เกิน 25 MB ได้ทุกชนิดยกเว้นไฟล์เพลงและไฟล์ที่มีนามสกุล .exe (executable) ส่วนไฟล์อีบุ๊ค มิวสิควิดีโอ หรือไฟล์หนังขนาดสั้นๆ ทั่วไปสามารถอัพโหลดขึ้นได้

กูเกิลยังเดินหน้าควบรวม Google+ เข้ากับบริการอื่นๆ ของตัวเองต่อไป ก่อนหน้านี้กูเกิลเคยนำข้อมูลของเพื่อนใน Google+ มาแสดงในหน้าอีเมลและสมุดที่อยู่ของ Gmail มาแล้ว คราวนี้เป็นหน้าค้นหาอีเมลของ Gmail กันบ้างครับ

ฟีเจอร์ที่กูเกิลเพิ่มเข้ามาได้แก่

คำถามว่า "Google+ มีคนใช้เยอะแค่ไหน" เป็นสิ่งที่กูเกิลเลี่ยงคำตอบเรื่อยมา บริษัทบอกเพียงตัวเลขกว้างๆ ว่ามียอดสมาชิกเท่าไร แต่ไม่ยอมบอกว่ามีผู้ใช้งานจริง (active users) สักที

บริษัทวิจัย RJ Metrics พยายามหาคำตอบนี้ โดยดูดข้อมูลของผู้ใช้ Google+ จำนวน 40,000 ราย (เฉพาะข้อมูลสาธารณะ เลือกผู้ใช้แบบสุ่ม) มาวิเคราะห์หาข้อมูลอย่างละเอียด ผลคือ Google+ แบบสาธารณะมีผู้ใช้น้อยมากจนน่าตกใจ

พักหลัง ๆ มานี้ Facebook เริ่มให้ความสำคัญด้านการสร้างรายได้ ล่าสุดทาง Facebook ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปทดสอบระบบใหม่อย่าง highlight post หรือโพสเด่นที่ทาง Facebook ได้ทำการปักไว้บน news feed ของเรา คล้าย ๆ กับ sponsored tweet ใน Twitter (ซึ่งผมก็เห็นมาสักพักแล้ว) โดยผู้ที่ต้องการจะส่งโพสของตัวเองขึ้นใน highlight post ก็สามารถส่งโพสของตัวเองขึ้นได้พร้อมจ่ายเงินเพียงโพสละ 2 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 62 บาท สามารถจ่ายเงินได้ผ่าน PayPal หรือบัตรเครดิตทั่วไปของคุณได้เลย

ตอนนี้เท่าที่ผมเห็นอยู่ก็จะมีของ ESPN แต่คาดว่าในอนาคต จะมีผู้ใช้บริการนี้มากขึ้น

ที่มา : TechCrunch

หลังจากที่ช่วงหลังเงียบๆ ไปพักใหญ่ วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศยกเครื่องอินเทอร์เฟซระบบค้นหาของบริษัทอย่าง Bing ใหม่ยกชุด แบ่งเป็นสามคอลัมน์ที่เน้นการแสดงผลครบถ้วนในหน้าเดียว โดยมีสามคอร์หลักได้แก่

Pair โซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับคนมีคู่ที่เพิ่งถูก Pair Network ฟ้องไปหมาดๆ ออกแอพบนแอนดรอยด์มาแล้ว

โดยรวมแล้วหน้าตา และฟีเจอร์นั้นยกมาจากรุ่น iOS ล้วนๆ (แน่นอนว่า Thumbkiss ก็มา!) อ่านฟีเจอร์ทั้งหมดได้จากข่าวเก่าครับ

สำหรับสถิติล่าสุดของ Pair นับตั้งแต่เปิดตัวมาในช่วงเดือนมีนาคม ตอนนี้มีผู้ใช้งาน 220,000 คน และได้เงินทุนเป็นจำนวน 4.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าไปแล้ว

ปิดท้าย เข้าไปดาวน์โหลดได้จาก Play Store เหมือนเดิมครับ

Hangouts on Air เป็นฟีเจอร์ของ Google+ ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ความสามารถของมันคือสร้างห้องสนทนาแบบวิดีโอ Hangouts ที่มีผู้ชมมากกว่า 10 คน ช่วยให้การถ่ายทอดกิจกรรมออนไลน์สะดวกขึ้นมาก

หลายคนคงรู้จักกับ Pair โซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับคนมีคู่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ประมาณเดือนเศษๆ และในขณะที่กำลังโตไปด้วยดี ตอนนี้ Pair ถูกฟ้องเข้าเสียแล้ว

คู่กรณีของ Pair คือ Pair Networks บริษัทให้บริการเว็บโฮสต์ติ้งที่อ้างว่า Pair นั้นละเมิดเครื่องหมายการค้าของบริษัท ซึ่งบริษัทที่ถูกฟ้องอย่าง TenthBit ผู้พัฒนา Pair ได้ออกมาแย้งว่าทั้งสองบริษัทอยู่ในธุรกิจคนละประเภทกัน ไม่น่าจะมีผลต่อความสับสนในแบรนด์ของแต่ละฝ่ายได้

Facebook ยังคงเดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่อง คราวนี้เป็นแอพเครือข่ายสังคมที่ชื่อ Glancee โดยเว็บของ Glancee ได้ประกาศว่าทีมงานทั้งหมดเตรียมย้ายไปทำงานกับ Facebook เพราะถูกซื้อกิจการแล้วด้วยมูลค่าที่ไม่เปิดเผย โดยผู้ใช้งานเดิมสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเก่าออกมาได้