บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากทางไมโครซอฟท์ เพื่อประชาสัมพันธ์เรื่อง Microsoft Openness ที่กล่าวถึงความเป็นมิตรของเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ต่อโอเพนซอร์ส
มีข่าวลือมาพักใหญ่แล้วว่าไมโครซอฟท์มีแผนจะพัฒนาบริการสตรีมเกมผ่านอินเทอร์เน็ตสำหรับเครื่อง Xbox ซึ่งวันนี้เว็บไซต์ ZDNet ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในมาแล้วว่าเจ้าบริการนี้มีชื่อว่า Arcadia นั่นเอง
Arcadia เป็นบริการสตรีมที่พัฒนาอยู่บน Azure แพลตฟอร์มกลุ่มเมฆของไมโครซอฟท์ ซึ่งนอกจากจะสตรีมเกมได้แล้ว บริการนี้ยังสามารถสตรีมแอพได้ด้วย นอกจากจะสามารถใช้กับเครื่องเกมซีรีส์ Xbox แล้ว ไมโครซอฟท์ยังมองว่า Arcadia น่าจะใช้งานกับ Windows ให้สามารถสตรีมแอพ หรือเกมมาใช้งานบนแท็บเล็ต Windows ได้ด้วย
Azure Backup บริการสำรองข้อมูลบนคลาวด์เปิดตัวไปตั้งแต่ปีที่แล้วแต่รองรับเฉพาะเซิร์ฟเวอร์บางรุ่นเท่านั้น ตอนนี้ทางไมโครซอฟท์อัพเดตตัวไคลเอนต์ให้รองรับวินโดวส์รุ่นเดสก์ทอป ได้แก่ Windows 7 SP1, Windows 8, Windows 8.1 แล้ว
ค่าสำรองข้อมูลลง Azure จะคิดค่าบริการ 0.20 ดอลลาร์ต่อกิกะไบต์ต่อเดือน โดยฟรีค่าบริการ 5 กิกะไบต์แรกโดยไม่ได้คิดค่านำข้อมูลเข้าออกอีก
คู่แข่งของ Azure Backup คงเป็น Amazon Glacier ที่คิดค่าบริการ 0.01 ดอลลาร์ต่อกิกะไบต์ต่อเดือน แต่คิดค่าแบนวิดท์นำข้อมูลออกจากระบบด้วย
ที่มา - The Register
หลังจากเหตุการณ์การล่มครั้งใหญ่ ของ Microsoft Azure ซึ่งกินเวลายาวนานทั้งสิ้น 11 ชั่วโมง ทางไมโครซอฟท์ได้ออกมาขอโทษผู้ใช้อย่างเป็นทางการ
Jason Zander รองประธานฝ่าย Microsoft Azure ของไมโครซอฟท์ ระบุว่าความผิดพลาดเกิดจากการอัพเดตประสิทธิภาพของบริการ Azure Storage ซึ่งควรจะต้องเป็นไปตามปกติ แต่กลับเกิดความผิดพลาดขึ้น ทำให้ระบบไม่สามารถรับทราฟฟิกได้ ส่งผลเป็นลูกโซ่ถึงบริการอื่นๆ ซึ่งแม้ว่าทางบริษัทพยายามแก้ไขเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะการยกเลิกการอัพเดต แต่กลายเป็นว่าระบบ Azure Storage ต้องทำการทำงานใหม่หมด (restart) ตั้งแต่แรก ทำให้กินเวลามากนั่นเอง
เมื่อเช้าของวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย (ประมาณตีหนึ่งของเวลาสากลเชิงพิกัด หรือ UTC) Microsoft Azure แพลตฟอร์มคลาวด์ของไมโครซอฟท์ ไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ โดยพบว่าบริการด้านพื้นที่หน่วยความจำ (storage services), เว็บไซต์ (website services) และ Visual Studio Online เกิดปัญหาขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
ไมโครซอฟท์เริ่มเปิดบริการ Remote.IE ให้นักพัฒนาสามารถทดสอบเบราว์เซอร์รุ่นล่าสุดที่ไมโครซอฟท์กำลังพัฒนาโดยไม่ต้องติดตั้งหรือดาวน์โหลดอิมเมจมารันเอง แต่เชื่อมต่อเข้าไปยัง Azure เพื่อทดสอบหน้าเว็บได้ทันที
เบราว์เซอร์ที่รันบน RemoteIE จะเหมือนของจริงทุกประการ ยกเว้น WebGL ที่จะใช้ซอฟต์แวร์ไม่มีฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วเหมือนที่เราใช้งานบนเครื่องจริง ส่วนการเรียกใช้สามารถเรียกใช้ผ่าน RemoteApp ที่รันได้จากทั้ง วินโดวส์, แมค, iOS, และแอนดรอยด์
ใช้งานได้ครั้งละ 60 นาที และจะถูกตัดการเชื่อมต่อเมื่อหยุดใช้งานไปแล้วสิบนาที หากคนใช้งานมากอาจจะต้องรอคนอื่นใช้งานเสร็จ แต่ไม่มีกำหนดว่าจะเข้าใช้งานได้กี่รอบ
ไมโครซอฟท์ประกาศของใหม่เกี่ยวกับ Azure เพิ่มอีกหลายอย่างที่งาน TechEd Europe
ฟีเจอร์ใหญ่จริงๆ คือ Azure Marketplace ตลาดแลกเปลี่ยนบริการ แอพ และ VM จากคู่ค้าภายนอกของไมโครซอฟท์เอง เช่น CoreOS, Ubuntu, Cloudera โดยสามารถเข้าผ่านหน้าแรกของ Azure และซื้อหา/ใช้งานได้ง่ายๆ
ต่อมาคือบริการตัวใหม่ซิงๆ Azure Batch สำหรับจัดคิวรันงาน (job scheduling) การประมวลผลแบบขนานหรือการประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC) หน้าที่ของผู้ใช้คือส่งงานเข้ามา แล้วให้ Azure Batch เป็นฝ่ายเลือกรันงานให้ตามเงื่อนไขที่ระบุ
ไมโครซอฟท์จัดงานแถลงข่าวด้าน Cloud เมื่อคืนนี้ นอกจากประกาศข่าว Azure รองรับ CoreOS ยังมีของใหม่ที่สำคัญอีกอย่างคือ Microsoft Cloud Platform System (CPS)
CPS คือเซิร์ฟเวอร์สำเร็จรูปที่องค์กรซื้อไปแล้วจะได้กลุ่มเมฆที่มีความสามารถทัดเทียมกับ Azure ทันที (ไมโครซอฟท์เรียกมันว่า cloud-in-a-box)
ส่วนประกอบของมันได้แก่
ไมโครซอฟท์จัดงานแถลงข่าว Azure เมื่อคืนที่ผ่านมา ประกาศความร่วมมือกับคู่ค้าเพิ่มเติม ได้แก่ Cloudera ที่จะเข้ามาให้บริการ Hadoop บน Azure และ Core OS ที่เป็นลินุกซ์ดิสโทร์ที่ห้าที่ Azure รองรับ ถัดจาก CentOS, Oracle Linux, SUSE, และ Ubuntu
บริการเพิ่มเติมที่ประกาศในงาน คือ เครื่องตระกูล G ที่สามารถสร้างเครื่องบน Azure ขนาด 32 คอร์ แรม 450GB และ ดิสก์ขนาด 6.5 เทราไบต์ ใหญ่กว่าเครื่องขนาดใหญ่ที่สุดของอเมซอนในตอนนี้
นอกจากนี้ฝั่งซอฟต์แวร์ ทางไมโครซอฟท์ยังเพิ่ม Windows Azure Pack ชุดซอฟต์แวร์พอร์ทัล เพื่อให้องค์กรสามารถเปิดให้บริการผู้ใช้ภายใน โดยผู้ใช้สามารถบริการตัวเองได้แบบเดียวกับที่ใช้บริการ Azure โดยตอนนี้ชุดซอฟต์แวร์ Windows Azure Pack นี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ไมโครซอฟท์เปิดตัวบริการ Azure Site Recovery ที่เคยเปิดให้ทดสอบในวงปิดไปช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้ผู้ใช้ทั่วไปจะสามารถเปิดใช้บริการได้ทันที
บริการนี้จะสำรองข้อมูล และตรวจสอบสถานะของศูนย์ข้อมูลหลัก รวมไปถึงการนำระบบขึ้นเมื่อมีปัญหา พร้อมทั้งระบบทดสอบศูนย์ข้อมูลสำรองที่สามารถสั่งทดสอบได้โดยไม่ต้องหยุดงานในศูนย์หลัก
ราคาเริ่มต้นสำหรับการสำรองไปยังศูนย์ข้อมูลของลูกค้า จะอยู่ที่ 16 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน หากใช้เครื่องของ Azure เป็นศูนย์สำรองจะอยู่ที่ 54 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน
ไมโครซอฟท์ออกเครื่องมือตัวใหม่ชื่อ Migration Accelerator (MA) for Azure ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถย้ายแอพพลิเคชันเดิมบนเซิร์ฟเวอร์จริง, เซิร์ฟเวอร์เสมือน (VMware, Hyper-V) หรือบริการกลุ่มเมฆอื่นๆ (AWS) ไปรันบน Azure ได้ง่ายขึ้น
หลักการทำงานของ Migration Accelerator คือฝังเซอร์วิสไว้บนเซิร์ฟเวอร์ต้นทางเพื่อดูว่ามีงานอะไรบ้างรันอยู่ แล้วช่วยย้ายข้อมูลแบบ replication มายังเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง (ซึ่งเป็น VM ของ Azure) โดยจะจัดการคอนฟิกต่างๆ ให้อัตโนมัติ และมีพอร์ทัลช่วยดูสถานะการย้ายงานด้วย
Kubernetes เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการคลัสเตอร์ Docker ที่กูเกิลพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับแพลตฟอร์ม Google Compute Engine ของตัวเอง (ข่าวเก่า) แต่ก็เปิดซอร์สโค้ดและเชิญบริษัทอื่นๆ เข้าร่วมพัฒนาด้วย (ข่าวเก่า)
หนึ่งในบริษัทที่ร่วมพัฒนา Kubernetes คือไมโครซอฟท์ และวันนี้ Kubernetes สามารถรันบน Azure ได้แล้วครับ (รายละเอียด) รูปแบบการใช้งานคร่าวๆ คือ
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Azure DocumentDB ฐานข้อมูลแบบ NoSQL ที่ออกแบบมาเพื่องานด้านเอกสารโดยเฉพาะ โดยนำเอาฟีเจอร์ของฐานข้อมูลแบบ NoSQL มาผสมกับความสามารถด้าน transaction และภาษา query ของฐานข้อมูลแบบ relative ดั้งเดิมเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย
ไมโครซอฟท์เลือกเปิดบริการ DocumentDB ผ่านกลุ่มเมฆ (database-as-a-service) เพื่อชูจุดขายด้านประสิทธิภาพ และการทำ replication แบบข้ามพื้นที่ภูมิศาสตร์ ตอนนี้ DocumentDB ยังมีสถานะเป็นรุ่นพรีวิว รองรับภาษาโปรแกรมหลายตัวคือ .NET, Node.js, JavaScript, Python
นอกจาก Windows Phone SDK 8.1 Update และอีมูเลเตอร์ ไมโครซอฟท์ยังปล่อยอัพเดตของเครื่องมือพัฒนาแอพ Visual Studio 2013 Update 3, Multi-Device Hybrid Apps CTP 2.0, Azure SDK 2.4 และ IntelliTrace Standalone Collector รายละเอียดมีดังนี้
Visual Studio 2013 Update 3 มีสิ่งใหม่และสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงมากมาย อาทิ
ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะแย่ในตลาดคอนซูเมอร์ แต่ในตลาดไอทีองค์กรกลับยังแข็งแกร่งมาก และบริษัทก็เริ่มขยับขยายไปยังอุตสาหกรรมเฉพาะทาง (ที่จำเป็นต้องใช้ไอทีมากขึ้นเรื่อยๆ)
เมื่อพูดถึง Internet of Things วงการไอทีมักนึกถึง "บ้านอัจฉริยะ" เป็นอย่างแรก แต่ไมโครซอฟท์ก็แสดงให้เห็นว่า Internet of Things สามารถเชื่อมโยงกับของได้ทุกอย่าง และในกรณีนี้คือ "ลิฟต์" ครับ
ไมโครซอฟท์ประกาศเข้าซื้อกิจการ InMage บริการกู้คืนระบบจากความเสียหาย รวมถึงการโยกย้ายข้อมูลระหว่าง private cloud และ public cloud โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเสริมทัพให้กับ Microsoft Azure ให้มีความแข็งแกร่งด้านนี้มากขึ้น
โดยบริการ Scout ของ InMage ที่ไมโครซอฟท์เข้าซื้อกิจการนั้น จะถูกรวมเข้ากับบริการ Azure Site Recovery ขณะเดียวกันลูกค้าปัจจุบันของ InMage ยังคงสามารถใช้บริการได้ต่อไป
ทั้งนี้ ทางไมโครซอฟท์ไม่ได้พูดถึงมูลค่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้แต่อย่างไร
ไมโครซอฟท์เปิดตัวบริการใหม่ Azure ML บริการวิเคราะห์ข้อมูลที่ผ่านมา เพื่อทำนายผลในอนาคต เช่น ทำนายพื้นที่ระบาดของโรคติดต่อ, วิเคราะห์ระยะเวลาก่อนการบำรุงรักษาเครื่องจักร, หรือกระทั่งวิเคราะห์อาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้น
นักพัฒนาสามารถพัฒนา Azure ML ด้วยภาษา R โดยไมโครซอฟท์รองรับแพ็กเกจภาษา R มากกว่า 300 ชุด
นักพัฒนาที่เข้าถึง Azure ML มาก่อนแล้ว เช่น มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon กำลังสร้างโมเดลการใช้พลังงานเพื่อหาทางประหยัดพลังงานในอาคารต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
Azure ML น่าจะเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Google Prediction API ที่กูเกิลเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2011
ไมโครซอฟท์ออกมาแจ้งลูกค้า Azure ว่าปัญหาไอพีบล็อคสหรัฐฯ ที่หมดไปนานแล้วกำลังส่งผลกระทบให้เครื่อง VM ที่สร้างขึ้นใหม่จะได้หมายเลขไอพีจากบล็อคอื่นๆ ที่ไมโครซอฟท์จัดหามาให้
กรณีที่เกิดขึ้นตอนนี้คือหมายเลขไอพีที่ใช้งานกับเครื่องในสหรัฐฯ อาจจะเป็นหมายเลขไอพีจากบราซิล
โดยทั่วไปแล้วการใช้หมายเลขไอพีเซิร์ฟเวอร์ต่างไป ไม่ควรจะส่งผลกระทบจากผู้ใช้ทั่วไปนัก แต่ก็มีบางกรณีที่เซิร์ฟเวอร์แต่ละประเทศถูกกำหนดให้แสดงหน้าเว็บของประเทศนั้นๆ ผู้ใช้อาจจะเข้าเว็บในสหรัฐฯ แล้วพบว่าเว็บที่แสดงเป็นเว็บบราซิล แม้เครื่องเซิร์ฟเวอร์จะวางในสหรัฐฯ ก็ตาม
บริษัท Netcraft สำรวจส่วนแบ่งตลาดเว็บเซิร์ฟเวอร์บนโลกอินเทอร์เน็ตมาตั้งแต่ปี 1995 ซึ่งเคยรายงานเมื่อสามปีก่อนว่าส่วนแบ่งตลาดเว็บเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ Internet Information Server (IIS) ลดลงจนเท่ากับปี 1997 สมัยที่ IIS เพิ่งจะออกมาใหม่ๆ เปิดเผยผลสำรวจเว็บไซต์ประจำเดือนมิถุนายน พบว่าเว็บไซต์บน Apache ลดลงถึง 13 ล้านเว็บไซต์ ในขณะเว็บไซต์บน IIS กลับเพิ่มขึ้นถึง 26 ล้านเว็บไซต์ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดเว็บเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์เป็นรอง Apache เพียงร้อยละ 0.15 เท่านั้น
ที่งาน TechEd 2014 North America ไมโครซอฟท์เผยว่าได้เพิ่มระบบปฏิบัติการสำหรับไคลเอนต์ Windows 7 Enterprise และ Windows 8.1 Enterprise ให้เลือกติดตั้งจาก Azure VM gallery บน Microsoft Azure แล้ว แต่ก็ระบุชัดเจนว่าเฉพาะสมาชิกนักพัฒนา MSDN (MSDN subscriber) เท่านั้นที่สามารถเลือกใช้ได้ และให้ใช้ระบบปฏิบัติการไคลเอนต์นี้เฉพาะงานด้านพัฒนาและทดสอบแอพเท่านั้น สำหรับวิธีการติดตั้ง VM ที่รันระบบปฏิบัติการไคลเอนต์ทั้งสองนั้นดูได้ที่นี่
ไมโครซอฟท์ใช้เวทีงาน TechEd North America เปิดตัวความสามารถและบริการใหม่ในตระกูล Microsoft Azure อีกชุดใหญ่ครับ เนื่องจากรายละเอียดของฟีเจอร์แต่ละอย่างมีมาก อ่านข้อมูลยาวๆ ได้ตามลิงก์ที่มา
Azure Virtual Machines
เพิ่มคำสั่งที่ใช้สร้าง VM image ที่เรียกใช้ดิสก์หลายลูก (สำหรับ OS และเก็บข้อมูล)
Azure Networking
หลังจาก SQL Server 2014 เข้าสถานะ RTM เมื่อวานนี้ไมโครซอฟท์ก็จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ รายละเอียดฟีเจอร์อ่านได้ในข่าวเก่า สามารถดาวน์โหลดรุ่น Express มาใช้งานได้ฟรีเช่นเดิม
ที่น่าสนใจกว่าคือในงานเดียวกัน ไมโครซอฟท์ยังเปิดตัวเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลใหม่อีก 2 ตัว
ไมโครซอฟท์โชว์หน้าจอพอร์ทัลแบบใหม่ของ Azure ที่ปรับปรุงใหม่ให้ดูสดใสและใช้งานง่ายกว่าเดิม โดยใช้ชื่อว่า Microsoft Azure Preview Portal
สงครามราคากลุ่มเมฆมีผลอย่างเต็มตัว (ผู้บริโภคเฮ) หลังจากกูเกิลออกมาเปิดศึกด้วยการลดราคา Cloud Platform ครั้งใหญ่ จนฝั่ง Amazon ต้องตอบโต้ด้วยการลดราคา AWS ทันที หลังจากนั้นเพียง 1 วัน
การลดราคาของทั้งสองค่ายใหญ่ส่งผลให้พี่เบิ้มค่ายสุดท้ายอย่างไมโครซอฟท์ต้องออกมาประกาศลดราคาบ้าง โดยบริการกลุ่มเมฆสำหรับประมวลผลลดสูงสุด 35% และบริการสตอเรจลดสูงสุด 65% รายละเอียดในแต่ละบริการย่อยมีค่อนข้างเยอะ ใครใช้ Azure อยู่สามารถตามไปอ่านได้จากลิงก์ที่มา
เมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์เคยประกาศทำ Azure ในจีน โดยจับมือกับพันธมิตรท้องถิ่น 21Vianet หลังจากทดสอบแบบพรีวิวกันมานาน วันนี้ Azure เปิดให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปในประเทศจีนแล้ว
ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าตัวเองเป็นบริษัทระดับโลกรายแรกที่เปิดให้บริการกลุ่มเมฆในจีน (คู่แข่งอย่าง Amazon เพิ่งเริ่ม, Google ยังไม่ขยับ) ส่วนพันธมิตร 21Vianet ก็มีฐานลูกค้าเป็นบริษัทใหญ่ๆ ของจีนเป็นจำนวนไม่น้อย เช่น Coca-Cola China, CNTV, LineKong, GMW.cn
เมื่อเดือนที่แล้วไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดบริการ Azure อย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน