บริษัท King Digital Entertainment หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า King ผู้สร้างเกมยอดฮิตแห่งปี Candy Crush Saga ได้ยื่นเอกสาร F-1 เพื่อขอเข้านำหุ้นบริษัทซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะตัวย่อว่า KING จากที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ และก็มีข่าวเลื่อนตามมา
บริษัทยังไม่ระบุจำนวนหุ้นไอพีโอและราคาหุ้นที่กำหนดไว้ แต่มีการนำเสนอข้อมูลบริษัทและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยมีส่วนที่น่าสนใจดังนี้
ซิสโก้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองของปีบัญชี 2014 รายได้ 11,200 ล้านดอลลาร์ลดลง 7.8% ขณะที่ผลกำไร 1,400 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 54.5% โดยเทียบกับปี 2013 ทั้งคู่
แม้จะดูว่ากำไรลดลงมาก แต่เมื่อดูกำไรแบบ Non-GAAP จะมีกำไรไตรมาสนี้ 2,521 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรแบบเดียวกันในปีที่แล้วอยู่ที่ 2,722 ล้านดอลลาร์ ลดลง 7.4%
ซิสโก้ชูธงปีนี้ยังมีเทรนด์ใหญ่ คือ Internet of Everything ที่น่าสร้างมูลค่า 4.6 ล้านล้านดอลลาร์ให้หน่วยงานสาธารณะทั่วโลก ส่วนซีอีโอของบริษัทคือ John Chambers ระบุว่าผลประกอบการยังเป็นไปตามที่คาดหวัง
ที่มา - Cisco
บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2556 มีรายได้รวม 3,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปี 2555 และมีกำไรสุทธิ 462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%
รายได้ส่วนใหญ่ของซีเอส ล็อกซอินโฟมาจากบริการด้านไอซีที โดยบริการ Leased Line ที่เป็นรายได้หลักกว่า 40% ของรายได้รวม มีรายได้เพิ่มขึ้นในส่วนนี้ 2% เป็น 1,302 ล้านบาท ธุรกิจบริการศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 19% เป็น 185 ล้านบาท ส่วนบรอดแบนด์มีรายได้ลดลง 22% เหลือ 64 ล้านบาท เนื่องจากมีการแข่งขันที่รุนแรง และบริษัทปรับทิศทางจากการเป็นบริษัท ISP มาเป็นผู้ให้บริการไอซีทีครบวงจรมากกว่า
เลอโนโวประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2013 โดยไตรมาสนี้ยังไม่นับรวมการซื้อกิจการเซิร์ฟเวอร์ของไอบีเอ็ม และการซื้อโมโตโรลามาจากกูเกิล
ไตรมาสที่ผ่านมา เลอโนโวมีรายได้รวม 10.8 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นครั้งแรกที่มีรายได้รวมทะลุหลัก 10 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรอยู่ที่ 265 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน, ถ้านับเฉพาะรายได้จากประเทศจีนอยู่ราว 4 พันล้านดอลลาร์ ถือว่าใกล้เคียงกับปีก่อน
ยอดขายสินค้าแบ่งเป็นพีซี 15.3 ล้านเครื่อง, สมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตรวมกัน 17.3 ล้านเครื่อง
Yang Yuanqing ซีอีโอของเลอโนโวประกาศในงานแถลงข้อมูลว่าจะพลิกฟื้นโมโตโรลาให้กลับมาทำกำไรได้ในอีก "ไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า"
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 มีผู้ใช้บริการรวม 27.9 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นมา 4.7 แสนเลขหมายจากไตรมาสก่อนหน้านี้ และเป็นผู้ใช้บริการบนดีแทคไตรเน็ตแล้ว 12 ล้านเลขหมาย โดยมีรายได้ต่อเลขหมายหรือ ARPU (Average revenue per user) 214 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน ไม่รวมค่า IC
รายได้รวมในไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ที่ 24,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีปัจจัยสำคัญจากการขาย iPhone 5s และไตรเน็ตโฟนชุดใหม่ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,857 ล้านบาท ลดลง 27.8% จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 มีผู้ใช้บริการรวม 40.8 ล้านเลขหมาย โดยเป็นลูกค้า 3G 2100 MHz อยู่ 16.4 ล้านเลขหมายหรือคิดเป็น 40% ของลูกค้าทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าอีก 5.8 ล้านเลขหมาย ส่วนรายได้ต่อเลขหมายหรือ ARPU (Average revenue per user) ลดลงเหลือ 226 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน อันเป็นผลจากการยืดวันหมดอายุในระบบเติมเงินตามคำสั่งของกสทช.
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2556 มีรายได้รวม 11,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบกับปี 2555 โดยส่วนของเฉพาะไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมามีรายได้ 3,014 ล้านบาท
จัสมินมีรายได้หลักจากธุรกิจอินเทอร์เน็ต (3BB) โดยคิดเป็นรายได้ 85.5% ของรายได้รวม และส่วนธุรกิจนี้เติบโตถึง 19.3% และมีลูกค้าเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา 60,181 ราย ในส่วนของกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.0%
ที่มา: จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) (SPVi) ตัวแทนจำหน่ายสินค้าแอปเปิลในประเทศไทย รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2556 มีรายได้รวม 2,304.85 ล้านบาท ลดลงจากปี 2555 อยู่ 8.54% โดยมีสาเหตุจากสินค้าแอปเปิลมีการออกใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี ทำให้เกิดการชะลอซื้อช่วงครึ่งแรกของปี
ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 16.26 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 64.58% บริษัทอธิบายสาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มสินค้าแท็บเล็ต (iPad) ที่ลดลง และผลกระทบของการเร่งระบายสินค้าคงคลังค้างนาน โดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์เสริม
ทั้งนี้เอส พี วี ไอเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแอปเปิลในประเทศไทยรายหนึ่งจากผู้ได้รับสิทธิหลายบริษัทในไทย ไม่ใช่เพียงรายเดียวครับ
LINE รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 มีรายได้รวม 1.22 หมื่นล้านเยน (120 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นถึง 450% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 แต่หากคิดเป็นรายได้ทั้งหมดก่อนหักค่าธรรมเนียมให้กูเกิลและแอปเปิลจะเป็น 1.59 หมื่นล้านเยน
โครงสร้างรายได้ของ LINE ตอนนี้เป็นการซื้อของในเกมถึง 60% ส่วนสติกเกอร์คิดเป็น 20% และรายได้อื่นมาจากบรรดา Official Account และสติกเกอร์แจกฟรีของแบรนด์สินค้า
ตัวเลขผู้ลงทะเบียนใช้งาน LINE ล่าสุดอยู่ที่ 340 ล้านคนทั่วโลก และมีการเติบโตอย่างสูงช่วงที่ผ่านมาในประเทศอย่างอินเดีย, เม็กซิโก, เวเนซุเอลา และอีกหลายประเทศในทวีปอเมริกาใต้
Twitter รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัทตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น มีรายได้ 243 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 116% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 9.77 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ไตรมาสก่อนหน้านี้ขาดทุน
จำนวนผู้ใช้งาน Twitter เป็นประจำทุกเดือนอยู่ที่ 241 ล้านคน เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน ส่วนผู้ใช้งานผ่านมือถือมี 184 ล้านคน คิดเป็น 76% ของผู้ใช้งานทั้งหมด สอดคล้องกับโครงสร้างรายได้ที่เป็นโฆษณาจากบนมือถือมากกว่า 75% ของรายได้โฆษณารวม
ARM รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่ปี 2013 รายได้ 189.1 ล้านปอนด์เพิ่มจากไตรมาสที่สี่ปี 2012 ที่ 164.2 ล้านปอนด์ แต่ค่าใช้จ่ายจากการซื้อสิทธิบัตรจาก MIPS รวมมูลค่า 59.5 ล้านปอนด์ ทำให้ผลประกอบการรวมกลายเป็นขาดทุน 6.2 ล้านปอนด์
รายได้ที่เพิ่มขึ้นและแม้จะขาดทุนแต่หากลบกับค่าซื้อสิทธิบัตรไปแล้วยังกำไรมากขึ้น แสดงให้เห็นว่า ARM ยังแข็งแกร่งต่อไป แต่ ARM ก็ยอมรับว่าความเติบโตในชิประดับสูงราคาแพงนั้นช้าลง ความหวังของ ARM ที่จะขายพิมพ์เขียวชิปรุ่นใหญ่ราคาแพงจะไปอยู่กับชิป Cortex-A57 ที่ใช้ในเซิร์ฟเวอร์แทน
ARM เซ็นสัญญาขายพิมพ์เขียวชิปเพิ่มเติมอีก 22 สัญญา โดยครึ่งหนึ่งเป็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่
Zynga รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 มีรายได้ 147.677 ล้านดอลลาร์ ลดลง 43.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรก่อนดอกเบี้ย, ภาษีและค่าเสื่อมราคา 2.603 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 20.834 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ Zynga ยังประกาศเข้าซื้อบริษัทเกมบนมือถือ NaturalMotion (เจ้าของเกม CSR Racing และ Clumsy Ninja) ด้วยมูลค่า 527 ล้านดอลลาร์ และประกาศลดค่าใช้จ่ายในปี 2014 โดยลดพนักงานลง 314 คน คิดเป็น 15% ของพนักงานทั้งหมด
อเมซอนรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 รายได้เพิ่มขึ้นอีก 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน อยู่ที่ 25,587 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 239 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นผลประกอบการไตรมาสวันหยุดเทศกาลที่ดีที่สุดของอเมซอนอีกครั้ง
ในช่วงแถลงผลประกอบการมีเนื้อหาสำคัญคืออเมซอนระบุว่าเนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ทั้งค่าแรงและค่าเชื้อเพลิง อัตราค่าสมาชิก Amazon Prime ที่เป็นการสมัครเพื่อแลกกับการส่งของฟรีภายใน 2 วันทำการ อาจเพิ่มขึ้นราว 20-40 ดอลลาร์ต่อปี จากเดิมซึ่งคิดราคา 79 ดอลลาร์ต่อปีมาตั้งแต่เปิดตัวและไม่เคยปรับราคา อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่ได้ระบุว่าราคาใหม่จะมีผลตั้งแต่เมื่อใด
กูเกิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 มีรายได้รวม 16,858 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2012 กำไรสุทธิอยู่ที่ 3,376 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Larry Page กล่าวว่าถือเป็นการสิ้นสุดปีการเงินแบบเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนธุรกิจของกูเกิลเองก็มีรายได้เพิ่มถึง 22% เป็น 15,707 ล้านดอลลาร์ โดยปีที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาและขยายธุรกิจต่อเนื่องตามเป้าหมาย และยังได้ปรับปรุงวิถีชีวิตผู้คนรวมถึงสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้งาน
นินเทนโดประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สามตามบัญชีงบประมาณบริษัท โดยรวมรายได้ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาทำรายได้ไปทั้งสิ้น 499.1 พันล้านเยน ผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากยอดไตรมาสก่อนหน้าไปอยู่ที่ 10.1 พันล้านเยน (ลดลงจากปีก่อนราว 30%) แต่ยังคงขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ 1.5 พันล้านเยน แม้ว่าผ่านไปสามไตรมาสแล้วยังกำไรอยู่ แต่ก็คาดว่าผลประกอบการทั้งปีของนินเทนโดน่าจะยังขาดทุนต่อไปในปีนี้
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 รายได้เพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็น 2.59 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 76% และเป็นโฆษณาบนมือถือคิดเป็น 53% (ไตรมาสที่แล้ว 49%) โดยมีกำไรสุทธิ 523 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าถือเป็นการสิ้นสุดปีที่ยอดเยี่ยมของ Facebook และเรายังคงมองไปข้างหน้าในทศวรรษถัดไปเพื่อช่วยให้คนทั่วโลกเชื่อมต่อกัน
ยาฮูรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 มีรายได้ 1,266 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ 348 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28%
ธุรกิจเสิร์ชของยาฮูมีการเติบโตที่ดี โดยมีรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้น 8% และจำนวน Paid Click ก็เพิ่มขึ้น 17% ขณะที่ธุรกิจที่เป็นรายได้หลักอย่างการแสดงโฆษณามีรายได้ลดลง 6%
ที่มา: ยาฮู และ Tech Trader Daily
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปีการเงิน 2014 (ตุลาคม-ธันวาคม) มีรายได้รวม 57,594,000,000 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 54,512,000,000 ดอลลาร์ มีกำไรสุทธิ 13,072,000,000 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 13,078,000,000 ดอลลาร์ โดยคิดเป็นกำไร 14.50 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 13.81 ดอลลาร์ต่อหุ้น เนื่องจากบริษัทมีการซื้อหุ้นคืน อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 37.9% ลดลงจากปีก่อนที่ 38.6% และยอดขายในต่างประเทศคิดเป็น 63% ของรายได้รวม
LG รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 มีรายได้รวมทุกธุรกิจ 14,915,300,000,000 วอน (ประมาณ 452,560,000,000 บาท) เพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังขาดทุนสุทธิ 63,500,000,000 วอน ซึ่งเป็นผลจากภาระภาษี 91,500,000,000 วอน เพราะหากคิดเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานยังมีกำไร 238,100,000,000 วอน (7,232,000,000 บาท)
ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 กำไรสุทธิอยู่ที่ 7.22 ล้านล้านวอน (6.7 พันล้านดอลลาร์) และมีรายได้รวม 59.3 ล้านล้านวอน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ซัมซุงมีกำไรลดลงในรอบ 2 ปี ส่วนหนึ่งมาจากการจ่ายโบนัสพิเศษให้พนักงาน 800 พันล้านวอน (ผู้เขียนเจตนาแปลจากต้นฉบับที่เขียนว่า 800 billion ซึ่งมีค่าเท่ากับ 800,000 ล้าน หรือเขียนอีกแบบเพื่อให้เป็นมิตรต่อการอ่านได้คล่องว่า 8 แสนล้าน) ตัวเลขนี้เยอะกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดกันไว้ก่อนหน้า
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัทสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2013 มีรายได้รวม 24.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของบริษัทอีกครั้ง ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.56 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.8%
ซีอีโอ Steve Ballmer กล่าวว่าสินค้ากลุ่มลูกค้ายังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง อาทิ Xbox และ Surface ตลอดจนได้ยอดขายสูงเป็นพิเศษจากเทศกาลวันหยุดปลายปีด้วย ซึ่งบริษัทจะยังคงมุ่งมั่นลงทุนต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
ตัวเลขที่น่าสนใจเพิ่มเติมมีดังนี้
โนเกียรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 โดยเป็นไตรมาสสุดท้ายที่มีธุรกิจอุปกรณ์และบริการ (Devices & Services) ซึ่งขายให้ไมโครซอฟท์ มีรายได้รวม 3,476 ล้านยูโร ลดลง 21% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มีกำไรจากการดำเนินงาน 274 ล้านยูโร และกำไรสุทธิ 183 ล้านยูโร
John Donahoe ซีอีโอ eBay เปิดเผยในการรายงานผลประกอบการ eBay ไตรมาสล่าสุดว่า Carl Icahn นักลงทุนรายใหญ่ซึ่งตอนนี้ก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน eBay ได้ยื่นข้อเสนอให้ eBay แยก PayPal ออกไปเป็นอีกบริษัทเพื่อเพิ่มมูลค่ากับผู้ถือหุ้น
โดย Donahoe บอกว่าเขาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้เพราะอีคอมเมิร์ซกับระบบจ่ายเงินนั้นเป็นการพึ่งพิงร่วมกันจนเกิดประโยชน์สูงสุด และ PayPal ก็เป็นระบบจ่ายเงินที่เติบโตได้ดีกว่าคู่แข่งเพราะมี eBay หนุนหลัง นอกจากนี้ PayPal ยังได้ประโยชน์จากข้อมูลของ eBay ด้วย เขาจึงไม่เข้าใจว่าจะแยกบริษัทเพื่อให้ PayPal มีข้อมูลในมือที่ลดลงไปทำไม
eBay ซื้อกิจการ PayPal ไปเมื่อปี 2002 และตอนนี้ตัวธุรกิจ PayPal ก็สร้างรายได้ให้คิดเป็น 40% ของรายได้รวม eBay
เอเอ็มดีรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่ของปี 2013 มีรายได้รวม 1,590 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสสาม และ 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว ทำกำไร 89 ล้านดอลลาร์
เมื่อดูผลรวมทั้งปี เอเอ็มดีมีรายได้ปี 2013 รวม 5,300 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปี 2012 ที่มี 5,420 ล้านดอลลาร์ ผลกำไรขาดทุนรวมทั้งปียังคงขาดทุน 83 ล้านดอลลาร์ เทียบกับขาดทุนในปี 2012 ที่หนักถึง 1,180 ล้านดอลลาร์
ผลประกอบการที่กลับมาดีขึ้นมีเหตุผลหลักคือ Xbox One และ PS4 ที่มียอดขายรวมกว่าเจ็ดล้านเครื่อง
ขณะที่ปี 2014 สินค้าชุดใหม่ๆ พากันเปิดตัว ทั้ง APU Kaveri และ AMD Radeon ชุดใหม่ แต่เอเอ็มดีเตือนว่ารายได้ในไตรมาสนี้น่าจะลดลงประมาณ 16%
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 มีกำไรสุทธิ 6.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีรายได้รวม 27.7 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 5% โดยกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์และการให้บริการมีรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กลุ่มงานระบบและเทคโนโลยีมีรายได้ลดลง
ซีอีโอ Ginni Rometty กล่าวว่าปีที่ผ่านบริษัทดำเนินงานได้อย่างแข็งแกร่ง สร้างผลกำไรได้มากขึ้น รวมถึงมีความคืบหน้าที่ดีในกลุ่มธุรกิจใหม่ในอนาคต และเพื่อรับผลงานในส่วนยอดขายที่ลดลง ตัวซีอีโอและกลุ่มผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดจะงดรับเงินค่าตอบแทนพิเศษของปี 2013