เมื่อวาน Tesla เปิดตัว Cybertruck รถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ มาพร้อมดีไซน์แปลกแหวกแนวที่ถ้าไม่ชอบก็คงเกลียดไปเลย โดยมีเรื่องฮือฮาระหว่างการเปิดตัวตอนที่ Elon Musk และ Franz von Holzhausen หัวหน้าทีมออกแบบของ Tesla ได้โชว์ว่ากระจกรถรุ่นนี้แข็งแรงขนาดไหนด้วยการขว้างลูกเหล็กหนัก 1 กิโลกรัมใส่กระจกรถ ปรากฎว่ากระจกแตก ทำเอา Elon ต้องแก้เก้อด้วยการรับปากว่าจะกลับไปปรับปรุงเพิ่มเติม
รถกระบะไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ Elon Musk เคยบอกไว้หลายปีแล้วว่าอยากผลิตขาย โดยเมื่อกลางปี 2018 เขาได้ทวีตถามว่าอยากเห็นอะไรในรถดังกล่าวบ้าง หลังจากนั้นก็ยืนยันเองช่วงปลายปี 2018 ว่า Tesla จะทำรถกระบะไฟฟ้าแน่ ต่อมาเขาก็เริ่มพูดถึงมันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ พร้อมบอกว่ามันจะมีดีไซน์ล้ำยุคอย่างกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ และไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบมัน
ล่าสุดวันนี้ Tesla ได้เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าแล้วในชื่อ Cybertruck เป็นการพิสูจน์ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบมันจริงๆ เพราะการออกแบบนั้นเรียกว่าไม่เหมือนใคร (และไม่แน่ใจว่าใครจะอยากมาเหมือน) โดยหลังคามาเป็นรูปสามเหลี่ยม รอบตัวรถไม่มีเส้นโค้งเลย ทุกจุดเหลี่ยมทั้งหมด
บริษัทขนส่งยามาโตะหรือที่เรารู้จักกันจากโลโก้แมวดำ ได้เปิดตัวรถส่งของรุ่นใหม่ใช้พลังงานไฟฟ้า แถมยังออกแบบมาเพื่อพนักงานที่เป็นผู้หญิงและผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
เหตุผลที่ต้องออกแบบมาอย่างนี้ก็เพราะญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รถส่งของแบบเดิมๆ จึงไม่เอื้อต่อการทำงานของคนเหล่านี้ แต่หากออกแบบมาดีพอก็สามารถดึงดูดให้คนกลุ่มนี้กลับมาทำงานได้ ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งบริษัทเองที่มีคนทำงาน และกลุ่มผู้หญิงกับผู้สูงอายุก็มีงานทำ
เมื่อสองวันก่อน Ford ได้เปิดตัว Mustang Mach-E รถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของบริษัทที่มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี โดย Mustang Mach-E ไม่ใช่รถเก๋งแบบที่ผ่านมา แต่เป็นรถ SUV ทรงสปอร์ตที่ดูผ่านๆ อาจนึกว่าเป็นรถเก๋ง ซึ่ง Ford ได้ลงทุนเพื่อก้าวเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าไปถึง 3.3 แสนล้านบาท
Ford Mustang Mach-E มีรุ่นย่อยหลัก 4 รุ่น ซึ่งก็มีออปชันย่อยลงไปอีก ดังนี้
Select รุ่นเริ่มต้น มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 75.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง หากเป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะมีกำลัง 255 แรงม้า เร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 7 วินาที ขับได้ระยะทางราว 370 กิโลเมตร และถ้าเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อก็จะเร็วกว่านั้นนิดหน่อยและมีระยะทางลดลง ราคาเริ่มต้น 43,895 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.32 ล้านบาท
เมื่อเดือนสิงหาคมมีข่าวความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ของ Tesla ในจีน หรือที่รู้จักกันในชื่อ Gigafactory 3 ซึ่งจัดว่าคืบหน้าไปเร็วมาก และจะเริ่มเดินสายการผลิตภายในสิ้นปีนี้เลย
ล่าสุด Tesla ได้ปล่อยภาพรถยนต์รุ่น Model 3 เวอร์ชันที่ผลิตในจีนออกมาแล้วทางบัญชี Weibo ของ Tesla เอง โดยภายนอกมีความแตกต่างจากเวอร์ชันที่ขายทั่วโลกคือมีคำว่า Tesla ในภาษาจีน หรือ 特斯拉 ติดอยู่บริเวณฝากระโปรงท้ายด้านซ้าย
Mazda ได้ใช้เวทีที่งาน Tokyo Motor Show ที่กำลังจัดอยู่ขณะนี้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท ในชื่อ MX-30 ถือเป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นเจ้านี้ที่อยู่กับเครื่องยนต์ SKYACTIV มานาน
Mazda MX-30 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 35.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระบบขับเคลื่อนที่ให้กำลัง 142 แรงม้า หรือราว 105 กิโลวัตต์ อัตราเร่ง 264 นิวตันเมตร โดยชาร์จเต็มหนึ่งครั้งจะวิ่งได้ราว 210 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ของยุโรป ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้หวือหวาอะไรนักกับสเปกแบบนี้
ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวด้านรถยนต์ไฟฟ้าจาก Toyota เมื่อบริษัทจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋วในงาน Tokyo Motor Show 2019
Toyota ระบุว่าบริษัทตั้งใจจะซัพพอร์ตสังคมผู้สูงอายุของญี่ปุ่นโดยเฉพาะจึงออกรถรุ่นนี้มา โดยนั่งได้สองคน ออกแบบมาให้ใช้งานระยะทางสั้นๆ ซึ่งจะขับได้ไกล 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ความเร็วสูงสุดเพียง 60 กม./ชม.
ไอเดียเรื่องการแปลงรถยนต์เก่าให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีมาหลายปีแล้ว ส่วนมากมักจะทำกับรถยนต์คลาสสิกเนื่องจากรถเหล่านั้นมักไม่มีอะไรซับซ้อน และเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการรักษาสภาพรถเก่าให้ใช้งานได้ไปในตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ Volkswagen ก็ได้เปิดโครงการรับแปลงรถเต่าคลาสสิกให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามาแล้ว
ล่าสุดบริษัท Swindon Powertrain ได้แปลงรถ Mini คลาสสิกให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยชุดขับเคลื่อนที่พัฒนาขึ้นเอง ทำให้ "Swind E Classic Mini" สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 9.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 128 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเหลือเฟือสำหรับรถประเภทนี้
อะไรก็เกิดขึ้นได้ในยุครถยนต์ไฟฟ้า เมื่อ Ford หนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ได้ก้าวเข้าสู่สงครามรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเปิดตัวเครือข่ายสถานีชาร์จรถ EV ด้วยจำนวนมากถึง 12,000 สถานีทั่วสหรัฐอเมริกา
กลยุทธ์ของ Ford ไม่ใช่การสร้างหรือผลิตสถานีชาร์จไฟของตัวเอง แต่ใช้วิธีจับมือกับผู้ให้บริการชาร์จไฟที่มีอยู่หลายเจ้า เช่น Greenlots ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทน้ำมัน Shell อีกที, Electrify America ผู้ให้บริการชาร์จรถ EV ที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ รวมถึงผู้ให้บริการเจ้าอื่นๆ
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Porsche ได้เปิดตัว Taycan Turbo และ Turbo S รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท ล่าสุด Porsche ได้เปิดตัวสมาชิกใหม่ในตระกูล คือ Porsche Taycan 4S
Porsche Taycan 4S จัดเป็น "รุ่นเริ่มต้น" ของครอบครัว Taycan (อ่านว่า ไท-คาน) โดยแบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 2 รุ่นคือ Performance battery และ Performance battery Plus ซึ่งอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 4.0 วินาทีเท่ากัน และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กม./ชม. แต่จะต่างกันที่ระยะทาง ดังนี้
Performance battery Plus ความจุ 93.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกล 463 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รับกำลังไฟสำหรับชาร์จได้ 270 กิโลวัตต์
Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเกรดพรีเมียมจากอังกฤษได้ประกาศยกเลิกโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว โดยให้เหตุผลว่าบริษัทประเมินแล้วพบว่าไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ และได้พยายามขายโครงการนี้ให้บริษัทอื่นแต่ก็ไม่มีใครซื้อ
Dyson ประกาศเริ่มโครงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในปลายปี 2017 จากนั้นในเดือนตุลาคม 2018 ก็บอกว่าจะตั้งโรงงานในสิงคโปร์
หลายเดือนก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ไฟไหม้รถ Tesla สองครั้งในเอเชีย โดย Tesla ก็ได้ออกอัพเดตมาครั้งหนึ่งในเดือนพฤษภาคมซึ่งระบุว่าเป็นการแก้ไขค่าบางอย่างของระบบจัดการแบตเตอรี่และควบคุมการชาร์จรวมถึงควบคุมอุณหภูมิ เพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รถ Tesla บางรายพบว่าหลังได้รับอัพเดต รถของพวกเขาก็วิ่งได้ระยะทางน้อยลง แต่ Tesla ก็ไม่ได้ระบุว่าการอัพเดตนี้มีผลกระทบต่อระยะทางหรือไม่ ทำให้ผู้ใช้รถกลุ่มนี้รวมตัวกันร้องเรียนผ่านทนายไปยังหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยบนทางหลวงของสหรัฐอเมริกา (US National Highway Traffic Safety Administration - NHTSA) ให้เข้ามาช่วยสอบสวนกรณีนี้
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเริ่มเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้บริโภคที่จะซื้อรถยนต์สักคันหนึ่ง เพราะด้วยจุดเด่น หลักๆ ที่ผู้บริโภคมักจะมองหาอย่างเรื่องค่าใช้จ่ายของพลังงานไฟฟ้าที่มากกว่าค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และไม่มีการปล่อยมลพิษ แต่จริงๆ แล้วมันมีอะไรมากกว่านั้น วันนี้เรามาลองทำความรู้จักกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้มากขึ้นไปกับ ราเมช นาราสิมัน ประธานนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กัน
หากยังจำกันได้ สถานการณ์ด้านการผลิตของ Tesla เมื่อปี 2017 ถึง 2018 เข้าขั้นแย่มาก อัตราการผลิตต่ำแถมยังมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพการประกอบ แต่ขณะนี้ดูเหมือนปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปแล้ว เพราะ Tesla รายงานตัวเลขล่าสุดว่าส่งมอบรถทุกรุ่นในไตรมาส 3/2019 ไปเกือบ 1 แสนคัน
Tesla ระบุว่าไตรมาส 3/2019 บริษัทได้ส่งมอบรถไปราว 97,000 คัน และผลิตไปทั้งสิ้น 96,155 คัน ถือเป็นสถิติใหม่ของบริษัท อย่างไรก็ตาม Tesla เคยตั้งเป้าไว้ว่าไตรมาสนี้จะส่งมอบได้ 1 แสนคัน ซึ่งก็พลาดเป้าไปนิดหน่อย
เมื่อไตรมาส 2/2019 Tesla ทำยอดส่งมอบไว้ที่ 95,200 คัน
ปัจจุบันหากสั่งรถ Tesla Model 3 จะได้รับรถภายใน 2-3 สัปดาห์
เป็นที่ทราบกันว่ารถยนต์ Tesla นั้นสามารถอัพเดตซอฟต์แวร์ได้แบบ OTA (Over-the-air) ซึ่งเป็นช่องทางที่ Tesla ใช้ปล่อยอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ รวมถึงแพตช์ด้านความปลอดภัยให้รถของตนอยู่เสมอ และล่าสุด Tesla ได้เดินทางมาถึงเวอร์ชัน 10 แล้ว
ซอฟต์แวร์เวอร์ชัน 10.0 มีฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย อันที่น่าตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็น Smart Summon โดยก่อนหน้านี้รถ Tesla มีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Summon มานานแล้ว เป็นการกดปุ่มบนแอพให้รถเดินหน้าหรือถอยหลังโดยที่เราไม่ต้องอยู่ในรถ ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกเวลาต้องนำรถเข้าออกช่องจอดที่แคบมากๆ
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว Tesla ปล่อยภาพชิ้นส่วนเกียร์ของ Model 3 ที่ผ่านการทดสอบวิ่งมาแล้ว 1 ล้านไมล์ หรือ 1.6 ล้านกิโลเมตร และยังคงสภาพดีอยู่มากเพราะได้รับการออกแบบมาให้ทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งเป้าหมายต่อไปคือแบตเตอรี่ที่ Elon Musk ก็อยากให้แบตเตอรี่ 1 ชุดสามารถใช้งานได้ 1 ล้านไมล์เช่นกัน และขณะนี้ก็ดูจะใกล้ความเป็นจริงเข้ามาแล้ว
กลุ่มนักวิจัยด้านแบตเตอรี่จากมหาวิทยาลัย Dalhousie ที่เมือง Halifax ประเทศแคนาดา นำโดยนักฟิสิกส์ Jeff Dahn เคยเซ็นสัญญาพิเศษกับ Tesla ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยใหม่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่สามารถใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าได้กว่า 1 ล้านไมล์ โดยมีความจุลดลงเพียง 10% เท่านั้น
วันนี้ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ในวงการรถยนต์ เพราะ Daimler บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz ได้ระบุว่าไม่มีแผนจะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่แล้ว
Markus Schäfer สมาชิกบอร์ดบริหาร และผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนารถยนต์ Mercedes-Benz ได้กล่าวกับสื่อเยอรมันว่าขณะนี้พวกเขาไม่มีแผนจะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่แล้ว และกำลังโฟกัสกับการพัฒนาระบบขับเคลื่อนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแทน อย่างไรก็ตาม Schäfer ระบุว่าการพัฒนาชิ้นส่วนสำหรับเครื่องยนต์ในปัจจุบันยังคงอยู่
Amazon ประกาศแผนงานด้านสิ่งแวดล้อมชุดใหญ่ โดยสั่งซื้อรถตู้ไฟฟ้าแบรนด์ Rivian ของสหรัฐอเมริกาจำนวนมากถึง 1 แสนคัน เพื่อใช้แทนรถยนต์เชื้อเพลิงน้ำมันแบบเดิม ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนในชั้นบรรยากาศลง
รถยนต์ล็อตแรกจะเริ่มให้บริการส่งสินค้าในปี 2021, จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าจะแตะ 10,000 คันในช่วงต้นปี 2022 และครบ 100,000 คันตามแผนในปี 2030 ซึ่ง Amazon ถือว่าเป็นการสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าล็อตใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น
Rivian เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ก่อตั้งในปี 2009 โดยที่ผ่านมาเน้นขายรถยนต์กลุ่ม SUV และรถกระบะเป็นหลัก การที่ได้ออเดอร์ขนาดใหญ่ระดับ 1 แสนคันจากบริษัทใหญ่ระดับ Amazon ย่อมถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัท และ Amazon เองก็ยังประกาศเข้าไปลงทุนใน Rivian อีก 440 ล้านดอลลาร์ด้วย
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สหภาพยุโรปออกกฎหมายใหม่ให้รถยนต์ไฟฟ้าต้องปล่อยเสียงปลอมๆ ออกมาเพื่อความปลอดภัยของคนเดินถนน
อันที่จริงหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยบนทางหลวงของสหรัฐอเมริกา (US National Highway Traffic Safety Administration - NHTSA) เป็นผู้ออกกฎลักษณะนี้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2018 แล้ว แต่ล่าสุดได้ระบุว่าจะเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถใส่เสียงปลอมเข้ามาได้หลายแบบ และให้เจ้าของรถเลือกเสียงเองได้ อีกทั้งยังตัดสินใจอยู่ว่าจะกำหนดจำนวนเสียงที่สามารถใส่มาหรือไม่
ที่งาน Frankfurt Motor Show 2019 ที่กำลังจัดอยู่ขณะนี้ Mercedes-Benz ก็เดินหน้าบนเส้นทางรถยนต์ไฟฟ้าต่อ โดยการเปิดตัว Vision EQS รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่เน้นความหรูหรา หรืออาจกล่าวได้ว่ามันคือ S-Class แห่งโลกรถยนต์ไฟฟ้า
Mercedes-Benz ระบุว่า Vision EQS จะถูกวางตัวอยู่ในระดับท็อปสุดของซีรี่ส์ EQ (ชื่อเรียกกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าล้วน) ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิก S-Class แต่จะถูกทำตลาดควบคู่กันไป รวมถึงชื่อ S-Class ก็ยังถือเป็น "เรือธง" ของแบรนด์อยู่
เรียกว่าไม่ปล่อยให้ Porsche Taycan แย่งซีนไปนาน เพราะวันนี้ Tesla ได้เปิดตัวระบบขับเคลื่อนใหม่สำหรับ Model S ในชื่อ "Plaid" หรือก็คือธงลายหมากรุกที่โบกตอนรถแข่งเข้าเส้นชัย
บัญชีทวิตเตอร์ของ Tesla ระบุว่าได้นำ Model S ที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อน Plaid และแชสซีรุ่นต้นแบบไปทดสอบที่สนามแข่ง Laguna Seca ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สามารถทำเวลาได้ 1:36.555 นาที ถือเป็นสถิติใหม่ของรถยนต์ซีดานสี่ประตู เอาชนะ Jaguar XE SV ที่ทำไว้ 1:37.54 นาทีเมื่อปี 2018 (ชมคลิปท้ายข่าว)
สัปดาห์นี้ Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี ได้เปิดตัว ID.3 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของบริษัทที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง หลังเจอมรสุมคดีโกงผลการทดสอบมลพิษเมื่อปี 2015 ทำเอาบริษัทต้องปฏิวัติธุรกิจของตนใหม่หมด
Volkswagen เปลี่ยนยุทธศาสตร์ของบริษัทใหม่โดยวางแผนว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถึง 70 รุ่น รวม 22 ล้านคันในเวลา 10 ปีข้างหน้า และจะลงทุนราว 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1 ล้านล้านบาท ในการปรับโครงสร้างองค์กรทั้งหมดภายในปี 2023
เมื่อเดือนสิงหาคม ผู้บริหารกลุ่มพัฒนานวัตกรรมและดิจิทัลของ ปตท. ได้เข้าพบซีอีโอของ WM Motor ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่ปัจจุบันทำตลาดในแบรนด์ "Weltmeister" (ภาษาเยอรมันแปลว่า world champion) เพื่อลงนามในบันทึกความร่วมมือว่าจะร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ที่จะตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมถึงพัฒนาแบตเตอรี่ด้วย
นอกจากนี้ การร่วมมือครั้งนี้ยังกล่าวถึงโอกาสที่จะให้ ปตท. เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าของ WM Motor ในประเทศไทยรวมถึงส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียงด้วย
Volkswagen Group เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ ID.3 เน้นจับกลุ่มลูกค้าราคาประหยัด โดยจะตั้งราคาต่ำกว่า 30,000 ยูโร (ประมาณ 1 ล้านบาท)
Volkswagen ID.3 เป็นรถยนต์แฮทช์แบ็ค 5 ประตูขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานในเมือง ใช้แนวทางการดีไซน์แบบใหม่ที่ดูทันสมัยกว่าเดิม รุ่นมาตรฐานมีแบตเตอรี่ที่ใช้พลังงาน 45 kWh มีระยะวิ่งต่อตั้ง 330 กิโลเมตร, รุ่นกลาง 58 kWh ระยะวิ่ง 420 กิโลเมตร, และรุ่นใหญ่ 77 kWh ระยะวิ่ง 550 กิโลเมตร สามารถชาร์จเร็วเพียง 30 นาที วิ่งได้ 290 กิโลเมตร
รถยนต์รุ่นแรกที่จะวางขายคือ ID.3 1st Edition ที่เปิดจองมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม (ให้จองล่วงหน้าโดยยังไม่เผยโฉมรถ) เป็นรุ่นแบตเตอรี่ 58 kWh ราคาขายที่ 40,000 ยูโร (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) ส่วนวันส่งมอบรถจะประกาศในภายหลัง
หนึ่งในรถคลาสสิกตลอดกาลคงหนีไม่พ้น "รถเต่า" หรือ Volkswagen Beetle ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ราวปี 1940 จากรถยนต์ที่ฮิตเลอร์เป็นผู้สั่งให้ผลิตขึ้น จนได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา เพราะประหยัดน้ำมันและมีความคุ้มค่า รวมถึงดูแลรักษาง่าย