The Korea Herald สำนักข่าวประเทศเกาหลีใต้รายงานว่า ตอนนี้ Apple ได้เริ่มขั้นตอนการเปิดใช้งาน Apple Pay ในประเทศเกาหลีใต้แล้ว โดยการเจรจากับเจ้าหน้าที่รัฐด้านการเงินของเกาหลีใต้ โดยมีทั้งหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและผู้ให้คำปรึกษาทางกฎหมายอาวุโสของทางบริษัทเข้าพบเพื่ออธิบายหลักการทำงานของ Apple Pay และความปลอดภัยของบริษัท ซึ่งเริ่มมีการเข้าพบครั้งแรกช่วงเดือนพฤศจิกายน และในช่วงหลังมานี้ก็มีการเข้าพบอีก แต่การเจรจาดังกล่าวยังเป็นเพียงขั้นตอนแรก ๆ ของการดำเนินการเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ Square Cash ได้เพิ่มบัตรเดบิตเสมือนเป็นบัตร Visa สำหรับใช้จ่ายสินค้าออนไลน์ และตอนนี้ Square Cash ก็ได้เพิ่มระบบเพื่อให้รองรับ Apple Pay แล้ว ดังนั้นผู้ใช้ iPhone ที่มีแอพ Square Cash ก็สามารถเพิ่มบัตรเข้าใช้งานกับ Apple Pay ได้ทันที และใช้งานกับบริการที่รองรับ Visa และ Apple Pay ได้ทุกที่

นอกจาก Apple Pay แล้ว Jack Dorsey ซีอีโอของบริษัทเผยว่ายังมีแผนการเพิ่มการใช้งาน Android Pay หรือ Samsung Pay อีกด้วยในอนาคต

ที่มา - Engadget

Apple Pay เพิ่มฟีเจอร์สำหรับบริจาคเงินให้องค์กรการกุศลต่างๆ ได้ง่ายเพียงปุ่มเดียว (Instant Donations) เพียงแค่ใส่จำนวนเงินและกดปุ่ม "Donate" ก็เสร็จเรียบร้อย

ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้ทั้งผ่านเว็บและผ่านแอพ ส่วนองค์กรที่เข้าร่วมก็มีมากมาย เช่น American Red Cross, American Heart Association, (RED), Save the Children, UNICEF, WWF เป็นต้น รายชื่อทั้งหมดดูได้จากที่มา

ที่มา - Apple

หลัง Apple Pay เปิดให้ใช้งานในญี่ปุ่น ได้ไม่นานก็เกิดอุปสรรคกับผู้ใช้ขึ้น เมื่อบริษัท East JR ผู้ให้บริการรถไฟทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผู้ใช้จำนวนมากไม่สามารถเชื่อมต่อ Apple Pay กับบัตร Suica ที่ใช้งานกับเครือข่ายระบบรถไฟได้

JR ระบุว่าปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 9 โมงเช้าในพื้นที่กรุงโตเกียว ก่อนที่จะกลับมาใช้งานได้ 1-2 ชั่วโมงถัดมา ซึ่งทาง JR ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะมีผู้ใช้จำนวนมากพยายามเชื่อมต่อบริการพร้อมๆ กัน ขณะที่ปัญหานี้ทำให้ชาวญี่ปุ่นแสดงความไม่พอใจบนทวิตเตอร์กันเป็นจำนวนมาก จนคำว่า Apple Pay และ Mobile Suica เป็นคีย์เวิร์ดยอดฮิตในกรุงโตเกียว

ก่อนหน้านี้ Apple ได้ประกาศว่าจะเปิดตัว Apple Pay ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็มาตามสัญญาพร้อมกับการอัพเดต iOS 10.1 และ watchOS 3.1

เมื่อผู้ใช้อัพเดตซอฟต์แวร์ให้กับอุปกรณ์ที่รองรับ ก็คือ iPhone 7, iPhone 7 Plus และ Apple Watch Series 2 ที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็สามารถใช้งานบัตร Suica, QuicPay หรือ iD เพื่อจ่ายค่าเดินทางหรือสินค้าต่าง ๆ ได้ทันทีผ่านแอพ Wallet สำหรับอุปกรณ์ เนื่องจากในตัวเครื่องมีชิพ FeliCa อยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ทางการนิวยอร์คได้เปิดตัวแอพ MTA eTix ซึ่งเป็นแอพสำหรับออกตั๋วโดยสารผ่านมือถือ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางโดยระบบรถไฟชานเมืองของนิวยอร์ค ตอนนี้ก็ได้เริ่มขยายช่องทางการจ่ายเงินผ่านตัวแอพเพิ่มเติม คือสามารถจ่ายเงินได้ผ่าน Apple Pay ระบบจ่ายเงินของ ​Apple และ MasterPass ระบบจ่ายเงินของ MasterCard

สำหรับระบบการจ่ายเงินผ่าน Apple Pay และ MasterPass จะสามารถใช้งานได้ทั้งการซื้อตั๋วเที่ยวเดียว, ตั๋วเที่ยวไปกลับ, ตั๋วสิบเที่ยว ไปจนถึงตั๋วสัปดาห์, ตั๋วเดือน และ CityTickets

ที่มา - CNET

Apple เคยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ Apple Pay คือการใช้งานบนเว็บ เพื่อให้ผู้ใช้บน iOS 10 หรือ macOS Sierra สามารถใช้งาน Apple Pay เพื่อจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการผ่านเว็บได้ นอกจากแอพและร้านค้าที่รองรับอยู่แต่เดิม

สำหรับการใช้งาน Apple Pay บนเว็บนี้จะยังสามารถใช้งานได้เพียงไม่กี่แห่ง เนื่องจากตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยบริษัทที่เริ่มรองรับก็มี Time Inc. และ Tayfair ส่วนบริการที่ทำ backend payment service สำเร็จรูปสำหรับร้านค้าที่รองรับแล้วก็มี Shopify และ Stripe

ที่มา - The Verge

ในงานเปิดตัว iPhone 7 ทางแอปเปิลยังประกาศว่าได้นำระบบ Pay หรือ Felica ระบบ NFC เวอร์ชั่นญี่ปุ่นมาไว้ใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ด้วย เช่นกันกับ Apple Watch Series 2

เท่ากับว่าผู้เดินทางในญี่ปุ่นจะใช้ Felica ใน iPhone 7 จ่ายค่ารถไฟฟ้าซึ่งเป็นการคมนาคมหลักของประเทศได้ภายในเดือนหน้า รองรับการเติมเงินค่าเดินทางรถไฟ JR East หรือ Suica นอกจากนี้ยังมีระบบแผนที่รถไฟในญี่ปุ่น ใน iOS 10 ด้วย และไม่เพียงค่าเดินทาง การจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าต่างๆ ในญี่ปุ่นก็ใช้ Apple Pay จ่ายได้

สืบเนื่องจากกรณีที่ธนาคารชั้นนำของออสเตรเลีย เรียกร้องให้แอปเปิลอนุญาตให้แอพของตัวเองใช้งานชิป NFC ล่าสุดแอปเปิลได้ตอบกลับข้้อเรียกร้องดังกล่าวว่าคงทำให้ไม่ได้ เพราะจะเป็นการทำลายระบบความปลอดภัยของตัวเครื่อง

แอปเปิลชี้แจงว่า มาตรฐานความปลอดภัยของแอปเปิลที่สูง เกิดจากการพัฒนาฮาร์ตแวร์ ซอฟต์แวร์และบริการให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และการเปิดให้แอพของธนาคารเข้าถึงการใช้งาน NFC จะเป็นการทำลายพื้นฐานความปลอดภัยของแอปเปิล

ธนาคารใหญ่ของออสเตรเลีย 3 แห่ง ประกอบด้วย National Australia Bank, Commonwealth Bank of Australia และ Westpac Banking Corp มีความต้องการที่จะเข้าถึง NFC ของตัวเครื่อง iPhone สำหรับแอพกระเป๋าเงินที่พัฒนาขึ้นเอง เพื่อนำมาแข่งกับบริการของ Apple

ธนาคารทั้งสามนั้น บอกว่าการที่ Apple ไม่อนุญาตให้บริการจ่ายเงินอื่นเข้าถึง NFC ที่อยู่ภายในเครื่อง iPhone ได้ เนื่องจากสงวนไว้ให้เฉพาะ Apple Pay นั้นถือเป็นการผิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด

Apple Pay เปิดให้ใช้งานในฮ่องกงได้แล้ว โดยรองรับบัตรเดบิตและบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ ในฮ่องกงที่มีสัญลักษณ์ Visa และ MasterCard ส่วนผู้ใช้ American Express ก็สามารถใช้งานผ่านระบบชำระเงินของ Apple ได้โดยตรงเช่นกัน โดยขณะนี้มีร้านค้าในฮ่องกงที่รองรับการชำระเงินผ่าน Apple Pay แล้วเช่น 7-Eleven, KFC, McDonald's, Pacific Coffee และร้านค้าชั้นนำต่างๆ

ขณะนี้ Apple Pay รองรับแล้ว 9 แห่งทั่วโลกและกำลังจะขยายต่อไปที่ประเทศสเปนโดยทำความร่วมมือกับ American Express นั่นเอง

ที่มา : MacRumors

จากข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ธนาคารหลายแห่งในสหรัฐฯ เตรียมเปิดใช้งาน contactless ATM และตอนนี้ก็มีธนาคารหนึ่งที่เริ่มใช้งานระบบ contactless ATM แล้ว คือ Bank of America

สำหรับตู้ ATM ที่รองรับระบบนี้ จะมีรูป NFC ซึ่งผู้ใช้ที่ใช้งาน Apple Pay, Android Pay หรือ Samsung Pay สามารถเลือกบัตรจากอุปกรณ์ที่รองรับ จากนั้นเข้าไปใกล้ ๆ เครื่องรับสัญญาณ และใส่รหัส PIN ที่ตู้ ATM จากนั้นก็ใช้งานเหมือนบัตร ATM ตามปกติ

ที่มา - MacRumors, Bank of America

แอปเปิลขยายฟีเจอร์ของ Apple Pay ให้สามารถจ่ายเงินซื้อของผ่านหน้าเว็บไซต์ได้ด้วย (เฉพาะบน Safari) เว็บที่รองรับจะมีปุ่ม Buy with Apple Pay เมื่อกดแล้วจะมีหน้าจอยืนยันตัวตน ซึ่งเราสามารถยืนยันผ่านการสแกนนิ้วบน iPhone ที่เชื่อมต่อเครื่องแมคผ่าน Continuity หรือจะผ่าน Apple Watch ก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ แอปเปิลยังประกาศขยาย Apple Pay อีก 3 ประเทศคือ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ฮ่องกง

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า Apple จะเปิดตัว Apple Pay สำหรับใช้งานบนเว็บภายในปีนี้ และล่าสุดก็มีรายงานข่าวจาก DigitalTrends ว่า Apple Pay สำหรับเว็บจะเปิดตัวในงาน WWDC 2016 ที่จะจัดขึ้นในวันจันทร์นี้เลย

Apple Pay สำหรับใช้งานบนเว็บนี้ ถ้าอ้างอิงจากข่าวเก่าคือจะมีลักษณะคล้าย PayPal ที่มีปุ่ม Pay with PayPal อยู่บนเว็บในขั้นตอนจ่ายเงินเพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้งาน เพื่อลูกค้าจะได้ไม่ต้องใส่เลขบัตรเครดิตลงในหน้าเว็บโดยตรง โดยจากรายงานบอกว่า Apple ตั้งใจทำ Apple Pay เพื่อเป็นคู่แข่งกับ PayPal โดยตรง

Phoenix Marketing International ได้จัดทำแบบสำรวจสอบถามถึงการใช้บริการจ่ายเงินผ่านมือถือพบว่า จำนวนผู้ใช้ Apple Pay นำมาเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย Samsung Pay และ Android Pay อย่างไรก็ตามผู้ใช้จำนวนมากกลับไม่ได้ใช้บริการของเจ้าใดเจ้าหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว

ปัจจุบัน Apple Pay ระบบจ่ายเงินของ Apple มีให้ใช้งานเฉพาะร้านค้าแอพเท่านั้น แต่สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ขายสินค้าผ่านเว็บยังไม่มีการรองรับ ซึ่งตอนนี้สำนักข่าว Re/code ได้รายงานว่า Apple เตรียมจะให้ใช้งาน Apple Pay กับการซื้อสินค้าผ่านเว็บด้วย

ลักษณะของการซื้อสินค้าผ่านเว็บโดยใช้ Apple Pay ก็จะมีลักษณะคล้าย PayPal ที่มีปุ่ม Pay with PayPal อยู่บนเว็บในขั้นตอนจ่ายเงินเพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้งาน เพื่อลูกค้าจะได้ไม่ต้องใส่เลขบัตรเครดิตลงในหน้าเว็บโดยตรง

ส่วนรายละเอียดว่าจะใช้ในอุปกรณ์อะไรได้บ้าง จากรายงานข่าวบอกว่า Apple ตั้งใจจะใส่ฟีเจอร์นี้สำหรับอุปกรณ์ iOS ที่มี Touch ID ทุกเครื่อง และอาจจะใส่มาบน Mac ด้วย

ตลาดเทคโนโลยีการจ่ายเงินผ่านมือถือ หรือ Mobile Payment ที่แอปเปิลและกูเกิลบุกเบิกเข้ามาเป็นรายแรกๆ อาจไม่ราบรื่นอีกต่อไป เพราะต้องเจอกับคู่แข่งหน้าใหม่อย่างซัมซุงที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ มียอดผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 5 ล้านราย และมีมูลค่าการใช้จ่ายตั้งแต่เปิดตัวในอเมริกาเมื่อเดือนกันยายน กว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ

แอปเปิลเคยประกาศไว้ว่าปี 2016 จะเปิดตัว Apple Pay ในจีน สิ่งที่เกิดขึ้นคือวันมะรืนนี้ (18 ก.พ.) Apple Pay จะเปิดบริการแล้ว โดยพาร์ทเนอร์ของแอปเปิลมีธนาคารทั้งหมด 19 ราย

จีนถือเป็นประเทศที่ Apple Pay เปิดบริการเป็นลำดับที่ห้า หลังจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม สภาพตลาดจีนแตกต่างจากประเทศตะวันตกพอสมควร เพราะมีผู้ให้บริการสัญชาติจีนที่เข้มแข็งอยู่แล้ว ทั้ง Tencent (WeChat) และ Alibaba (Alipay)

สำนักข่าวต่างประเทศเผยว่า ธนาคารของสหรัฐหลายแห่งอย่าง Chase, Bank of America และ Wells Fargo กำลังพัฒนา ATM ที่รองรับ NFC โดยจะใช้ Apple Pay และ Android Pay เป็นตัวกลาง

Michael Fusco โฆษก Chase เผยว่า ระบบ contactless ATM จะไม่ได้แทนที่บัตรเดบิตโดยตรง แต่เพื่อเป็นการมอบตัวเลือกที่สะดวกสบายให้ลูกค้าถ้าไม่มีบัตรเครดิต และ Chase เผยเตรียมติดตั้ง ATM ที่รองรับ NFC ในปลายปีนี้

Apple ประกาศข่าวการร่วมมือกับ China UnionPay เตรียมให้บริการ Apple Pay ในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2016 ที่กำลังจะถึงนี้ เป็นจริงตามข่าวลือที่หลุดลอดมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน

สำหรับ China UnionPay นั้นให้บริการบัตรธนาคารเชื่อมต่อใช้งานได้กับธนาคารทุกแห่งในจีน ตัวบัตรของ China UnionPay นั้นมีฟังก์ชั่น Quickpass ซึ่งเป็นระบบจ่ายเงินแบบใช้บัตรแตะอยู่ก่อนแล้ว เมื่อมีการร่วมมือกับ Apple ก็จะมีการนำเอาเทคโนโลยีที่ Apple ใช้กับ Apple Pay มาช่วยป้องกันข้อมูลสำคัญของผู้ใช้บัตรให้ดียิ่งขึ้นด้วย

Square ออกเครื่องอ่านบัตรแบบใหม่เพื่อรองรับบัตรแบบชิพการ์ด โดยสามารถนำบัตรที่มีชิพการ์ดมาเสียบได้ทันที และมีระบบ NFC เพื่อรองรับการจ่ายเงินผ่าน Apple Pay ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่นสามารถรองรับการจ่ายเงินแบบใหม่ๆ ได้ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ซื้อสินค้า

เครื่องอ่านบัตรแบบใหม่ของ Square จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขายอยู่ที่ราคา 49 ดอลลาร์ โดยเครื่องอ่านบัตรนี้สามารถนำไปใช้งานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องใช้ Square Stand

ที่มา - USA Today, MacRumors

เพิ่งมีข่าวว่าแอปเปิลเตรียมขยาย Apple Pay บริการจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาไปยังสิงคโปร์ และฮ่องกงภายในปีหน้า ล่าสุดมีรายงานว่าแอปเปิลตั้งใจจะขยายไปยังยักษ์ใหญ่อย่างจีนในปีหน้าอีกด้วย

ข้อมูลชุดนี้ไม่ได้ออกมาจากแอปเปิลโดยตรง แต่หลุดมาจากแหล่งข่าววงในที่ใกล้ชิดกับดีลนี้โดยระบุว่าแอปเปิลได้เดินเรื่องเจรจากับบรรดาธนาคารใหญ่ของจีนทั้งสี่แห่งได้แก่ Bank of China, China Construction Bank, Agricultural Bank of China และ Industrial and Conmmercial Bank of China ไว้แล้ว นั่นหมายความว่าเมื่อเปิดให้บริการ ผู้ใช้ในจีนจะสามารถเชื่อม Apple Pay เข้ากับบัญชีส่วนตัวในธนาคารหลักๆ ได้ทันที

Apple ยังคงเดินหน้าผลักดัน Apple Pay อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดก็ได้ประกาศความร่วมมือกับ American Express ในการนำ Apple Pay เข้าไปยังประเทศอื่นแล้ว ที่น่าสนใจที่สุดก็คือประเทศใกล้เคียงอย่างสิงคโปร์

American Express เปิดเผยว่า ทางบริษัทเตรียมเปิดให้ใช้ Apple Pay กับบัตรเครดิตในประเทศแคนาดาและออสเตรเลียภายในปีนี้ ส่วนสิงคโปร์, สเปน และฮ่องกงจะเปิดให้ใช้ในปี 2016

ปัจจุบัน Apple Pay ยังคงจำกัดอยู่ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเท่านั้น โดย Tim Cook เผยในการรายงานผลประกอบการไตรมาสว่าทางบริษัทจะผลักดัน Apple Pay ให้ใช้ในตลาดสำคัญๆ ให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ยังไม่มีข่าวว่านอกจาก American Express แล้ว Apple ได้ไปเจรจากับธนาคารหรือผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายอื่นในประเทศหรือยัง

PayPal Here เครื่องอ่านบัตรเครดิตสำหรับจ่ายเงินด้วยอุปกรณ์พกพาที่แต่เดินทำมาแข่งกับ Square โดยเฉพาะ จนมาช่วงหลังเริ่มรับกระแส Mobile Payment ที่กำลังโตด้วยการรองรับ NFC และ EMV ก่อนขายจริงไม่นาน PayPal ก็ประกาศฟีเจอร์เพิ่มเติมมาอีกชุดแล้ว

ตัวเครื่องอ่านบัตรเครดิตรุ่นใหม่จะไม่ได้ขนาดจิ๋ว และเสียบเข้ากับพอร์ตหูฟังเหมือนรุ่นแรก แต่เป็นเครื่องขนาดเท่าสมาร์ทโฟน มีปุ่มและหน้าจอของตัวเอง เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ ซึ่งในรุ่นล่าสุดรองรับการจ่ายเงินรูปแบบใหม่อย่าง Android Pay และ Apple Pay เป็นครั้งแรก

ข่าวล่าสุดระบุว่าแอปเปิลกำลังเจรจากับเครือธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย 4 แห่ง เพื่อที่จะเปิดบริการ Apple Pay ในประเทศ แต่การเจรจาในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าธนาคารในออสเตรเลียจะไม่ค่อยพอใจเรื่องค่าบริการที่แอปเปิลเรียกเพิ่มจากธนาคาร

ในสหรัฐฯ แอปเปิลเก็บค่าธรรมเนียมจากธนาคาร 0.15% จากยอดใช้จ่ายของลูกค้าผ่านทาง Apple Pay โดยค่าธรรมเนียมดังกล่าว ในสายตาร้านค้าจะถือว่าอยู่ในหมวดค่าดำเนินการ (Processing Fee) ที่ทางธนาคารเก็บจากร้านค้าเป็นปรกติอยู่ในอัตราใกล้เคียง 1% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด