Hugo Barra ผู้บริหาร Xiaomi ออกมาอธิบายรายละเอียดของ Windows 10 ที่รันอยู่บน Xiaomi Mi 4 เพิ่มเติม เนื่องจากมีคนส่งคำถามถึงเขาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ Xiaomi ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรกันแน่
จากข่าว Microsoft ประกาศ Windows 10 ตัวจริง และประกาศความร่วมมือกับบริษัทไอทีจีนหลายราย ทางฝั่งของ Xiaomi ที่มีชื่อเป็นหนึ่งในพันธมิตร ก็นำภาพของสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi Mi 4 รุ่นรัน Windows 10 มายั่วน้ำลายแฟนๆ แล้ว
ทาง Xiaomi ระบุว่าผู้ใช้ Mi 4 สามารถแฟลชรอม Windows 10 ได้เองโดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ โดยจะเปิดให้ดาวน์โหลดรอมผ่านฟอรัม MIUI ในเร็วๆ นี้
ที่มา - MIUI
สำหรับ MiBand จาก Xiaomi (รีวิว) นั้นก่อนหน้านี้มีเฉพาะแอพสำหรับ iOS และ Android แต่ในตอนนี้แอพ MiBand Tracker สำหรับ Windows Phone นั้นได้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้ใช้งานกันแล้ว ซึ่งเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษ แต่ยังอยู่ในช่วง beta นะครับ
สำหรับท่านใดที่สนใจเชิญลงทะเบียน และดาวน์โหลดได้ที่นี่
ที่มา: Windows Central
เพิ่งรุกเข้ามาในตลาดอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้เมื่อไม่กี่เดือนก่อนด้วย Mi Band (อ่านรีวิวที่นี่) วันนี้ Huami บริษัทที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาสายรัดข้อมือรุ่นดังกล่าวก็เดินหน้าแผนไปอีกขั้นด้วยการจับมือกับ Li Ning บริษัทอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ของจีนร่วมกันพัฒนารองเท้าอัจฉริยะสำหรับการออกกำลังแล้ว
ความร่วมมือของทั้งสองบริษัทนั้นจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาชิปสำหรับใส่เข้าไปในส้นรองเท้าเพื่อเก็บข้อมูลการเดิน การวิ่ง ระยะทาง วิเคราะห์ แล้วส่งไปยังแอพของ Xiaomi (ซึ่งยังไม่บอกว่าต้องใช้ร่วมกับสมาร์ทแบนด์หรือไม่)
เมื่อกลางปีที่แล้ว Xiaomi เปิดตัว Mi Band สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพในราคาเพียง 79 หยวนหรือประมาณ 400 บาทเท่านั้น โดยผมเพิ่งได้ลองสั่งมาใช้ และเห็นว่าคนไทยน่าจะยังสนใจกันพอสมควร บวกกับยังไม่ค่อยมีรีวิวอย่างละเอียดเป็นภาษาไทย เลยเขียนมาให้อ่านกันครับ
อัพเดต 27 พ.ค. 2558: ผมพบว่าการสั่งจากอีเบย์มีความเสี่ยงที่จะเจอของปลอมสูงมาก พี่ที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัวก็โดนมาแล้ว ฉะนั้นควรซื้อจากคนที่หิ้วมาเอง หรือสั่งจากเว็บไซต์ของ Xiaomi จะดีที่สุดครับ ตอนนี้ Xiaomi Singapore ก็มีขายแล้ว
หลังจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว นักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก Bluebox เปิดเผยว่าโทรศัพท์มือถือ Xiaomi Mi4 มีมัลแวร์ฝังมาพร้อมเครื่อง และใช้ Android รุ่นดัดแปลงที่มีช่องโหว่จำนวนมาก แต่ภายหลังทาง Xiaomi ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว ล่าสุดมีแถลงการณ์เพิ่มเติมในเรื่องนี้แล้ว
ทาง Xiaomi แจ้งว่าโทรศัพท์มือถือ Mi4 ที่ทาง Bluebox ซื้อมาจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนนั้นที่จริงแล้วเป็นเครื่องเลียนแบบ โดยตัวเครื่องมีจุดที่แตกต่างจากเครื่องจริงอย่างเห็นได้ชัด หมายเลขอีมี่ของเครื่องเป็นของปลอม และรอม MIUI ที่ติดตั้งในเครื่องไม่ใช่เวอร์ชันทางการ
มีอัพเดตเพิ่มเติมจากทาง Xiaomi ท้ายข่าว
นักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก Bluebox เปิดเผยว่าโทรศัพท์มือถือ Xiaomi Mi4 มีมัลแวร์ฝังมาพร้อมเครื่อง และใช้ Android รุ่นดัดแปลงที่มีช่องโหว่จำนวนมาก
มัลแวร์ตัวแรกคือแอพ Yt Service ซึ่งจะรัน service ชื่อ DarthPusher เพื่อทำหน้าที่แสดงโฆษณา แอพนี้จงใจตั้งชื่อแพคเกจเพื่อหลอกให้ผู้ใช้เข้าใจว่าตัวแอพถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Google (ชื่อแพคเกจของแอพนี้คือ com.google.hfapservice) มัลแวร์ตัวต่อมาคือแอพ PhoneGuardService (com.egame.tonyCore.feicheng) เป็นโทรจัน และตัวสุดท้ายคือแอพ AppStats (org.zxl.appstats) เป็นมัลแวร์ SMSreg
Hugo Barra แห่ง Xiaomi ไปพูดที่งาน MWC 2015 และให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนบุกยุโรปของบริษัทว่าจะใช้รูปแบบคล้ายกับสหรัฐ นั่นคือเริ่มจากการขายอุปกรณ์เสริมผ่านหน้าร้านออนไลน์ Mi.com ก่อน
Barra บอกว่า Xiaomi จะยังไม่ขายมือถือในยุโรป แต่จะเริ่มจากการขายสายรัดข้อมือ Mi Band, หูฟัง และ power bank โดยวางตัวเองเป็นผู้ขายสินค้าไลฟ์สไตล์ แทนที่จะเป็นผู้ขายโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ระบุว่ามีแผนจะเปิด Mi.com ในประเทศใดบ้าง
ส่วนยุทธศาสตร์ด้านมือถือนั้น Barra บอกว่าตอนนี้ขอเน้นไปโฟกัสตลาดอินเดียก่อน แม้บริษัทจะอยากเข้าตลาดสหรัฐแต่ก็ยังไม่ใช่ภารกิจสำคัญในตอนนี้
หลังจากมีข่าวลือไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา วันนี้ Xiaomi ก็ได้เวลาปล่อย YiCamera กล้อง action camera ออกสู่ตลาดแล้ว
YiCamera นั้นมาพร้อมกับเซนเซอร์ Sony Exmor R ในตัวกล้องรูปทรงสี่เหลี่ยมลักษณะเดียวกับ GoPro สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p ได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ถ่ายภาพนิ่งความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ด้วยค่ารูรับแสง f/2.8 พร้อมโหมดถ่ายภาพแบบ time-lapse อีกทั้งสามารถกันน้ำได้ลึก 40 เมตร และรองรับการเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi และ Bluetooth ในตัว
ขณะนี้วางขายในประเทศจีนเท่านั้น ด้วยราคา 399 หยวน (ประมาณ 2,050 บาท) มีสีขาวและสีเขียวเหลือง ยังมีตัวเลือกจำหน่ายพร้อมไม้เซลฟี่ในราคา 499 หยวน (ประมาณ 2,600 บาท)
บริษัทวิจัย IDC เผยสถิติส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนจีนประจำปี 2014 ตลอดทั้งปี ปรากฎว่าดาวรุ่ง Xiaomi มาแรง ครองส่วนแบ่ง 12.5% ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งรายใหม่เรียบร้อยแล้ว
Xiaomi มีส่วนแบ่งตลาดปี 2013 เพียง 5.3% เท่านั้น แต่ยอดขายปี 2014 เติบโตมากถึง 186.5% จนครองแชมป์ได้ในที่สุด ส่วนแชมป์เก่าซัมซุงตกมาเป็นอันดับสอง ส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 18.7% ในปี 2013 มาเหลือ 12.1% ในปี 2014 และยอดขายเป็นจำนวนเครื่องก็ตกลง 22.4%
อันดับสามคือ Lenovo ส่วนแบ่งตลาด 11.2% ลดลงเล็กน้อย แต่ยอดขายเพิ่มขึ้น 13.7%, อันดับสี่ Huawei ส่วนแบ่งตลาด 9.8% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และอันดับห้า Coolpad ส่วนแบ่ง 9.4% ลดลงจากเดิม
Xiaomi ออกมาประกาศความสำเร็จของรอม MIUI ว่ามีผู้ใช้งานจริง (active users) เกิน 100 ล้านรายแล้ว
MIUI เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน (สิงหาคม 2010) โดยช่วงแรกมีผู้ใช้แค่ 100 รายเท่านั้น แต่ด้วยการอัพเดตอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ติดต่อกันมา 220 สัปดาห์ (หรือประมาณ 4 ปี) และยอดขายสมาร์ทโฟนของ Xiaomi เอง ช่วยผลักดันให้ MIUI เติบโตมาได้จนถึงวันนี้
MIUI มีผู้ใช้แตะหลัก 10 ล้านรายในเดือนธันวาคม 2012 จากนั้นเพิ่มเป็น 50 ล้านรายในเดือนพฤษภาคม 2014 และใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งปีดี เพิ่มผู้ใช้อีกเท่าตัวเป็น 100 ล้านราย
ที่มา - MIUI, MIUI (ประวัติ)
Hugo Barra แห่ง Xiaomi ประกาศแผนการบุกตลาดสหรัฐอเมริกา โดยหน้าเว็บ mi.com จะเปิดตัวเวอร์ชันสหรัฐในอีกไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม mi.com สำหรับลูกค้าสหรัฐจะยังไม่ขายโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ด้วยเหตุผลว่าการขายมือถือในสหรัฐมีเรื่องต้องทำอีกหลายอย่าง เช่น ผ่านการตรวจสอบ-รับรองฮาร์ดแวร์, ทดสอบเฟิร์มแวร์กับโอเปอเรเตอร์, สร้างช่องทางการจัดจำหน่าย-กระจายสินค้า
ดังนั้น mi.com ในช่วงแรกจะยังขายเฉพาะอุปกรณ์เสริมอย่าง Mi PowerBank, สายรัดข้อมือ Mi Band, ชุดหูฟัง และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เท่านั้น เป้าหมายในช่วงแรกของ Xiaomi จะเน้นการสร้างแบรนด์ให้คนอเมริการู้จักก่อน แล้วค่อยๆ ขยายไปยังการขายโทรศัพท์ในอนาคตต่อไป
เพิ่งเปิดตัวไปได้เพียงเดือนเศษๆ ก็ใกล้จะมีรุ่นย่อยเสียแล้วสำหรับ Xiaomi Redmi 2 ที่เพิ่งมีคนไปพบข้อมูลใน TENAA (กสทช. จีน) ว่ากำลังจะมีรุ่นใหม่เพิ่มแรมเป็น 2GB เร็วๆ นี้
อ้างอิงจากสเปคของ Redmi 2 ที่เพิ่งเปิดตัวไป ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งแง่ของสเปค และการออกแบบมากนัก โดยจุดที่เปลี่ยนไปมากคือการปรับไปใช้ซีพียู Snapdragon 410 รองรับ 64 บิต และระบบสองซิมที่ใช้งาน LTE ได้ทั้งคู่ แต่กลับยังให้แรมมาเพียง 1GB เท่านั้น ซึ่งมีเสียงบ่นจากหลายทิศว่าให้แรมมาน้อยไป ก่อนที่ทีม MIUI จะบอกว่า Redmi 2 ได้ปรับแต่งมาสำหรับใช้งานกับแรม 1GB อย่างดี และจะมีพื้นที่แรมเหลือให้ใช้สูงสุด 400MB แน่นอน จนกระทั่งมีข่าวรุ่น 2GB มาในตอนนี้
เมื่อวันที่ 29 มกราคม บริษัทวิจัยตลาด IDC เปิดเผยภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟน
มียอดจัดส่งประจำปี 2014 รวมทั้งปีอยู่ที่ 1,301.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจาก 1,019.4 ล้านเครื่อง ในปี 2013 อยู่ที่ 27.6% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกันกับรายงานของ Strategy Analytics ที่ระบุว่ามียอดจัดส่งประจำปี 2014 รวมอยู่ที่ 1,283.5 ล้านเครื่อง จาก 990 ล้านเครื่องในปีก่อนหน้า
เมื่อแบ่งเป็นตามรายผู้ผลิต พบว่า
เริ่มขายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Xiaomi Mi Note และ Mi Note Pro ที่เพิ่งขายก่อนกำหนดในจีนวันนี้ ซึ่งแน่นอนว่า Xiaomi ต้องมาอวดยอดขายวันแรกว่าหมดเร็วแค่ไหนตามระเบียบ
จากรายงานที่แจ้งมา Mi Note ชุดแรกที่วางขายวันนี้ ขายหมดภายในสามนาทีเท่านั้น แม้ว่าจะไม่ได้แจ้งว่าชุดแรกมีกี่เครื่อง แต่รองประธานของ Xiaomi ก็ออกมาเผยว่ามียอดจองสูงถึง 2.2 ล้านเครื่องด้วยกัน
สำหรับล็อตหน้าของ Mi Note จะเริ่มขายวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ส่วน Mi Note Pro จะเริ่มขายในเดือนมีนาคม ซึ่งบริษัทวิเคราะห์ทำนายไว้ว่า Xiaomi น่าจะขายสองรุ่นนี้ได้ราว 13-15 ล้านเครื่องในปีนี้
TechCrunch สัมภาษณ์ Hugo Barra ว่า Xiaomi ทำอย่างไรจึงขายสินค้าได้ในราคาถูก โดยที่ผ่านมา Xiaomi ขายโทรศัพท์รุ่นท็อปในราคาประมาณ 300 ดอลลาร์หรือประมาณหมื่นกว่าบาทเท่านั้น เพิ่งจะมีรุ่น Mi Note ที่น่าจะทำราคาสูงถึง 500 ดอลลาร์
Barra ระบุว่า Xiaomi นั้นที่จะออกโทรศัพท์น้อยรุ่น และยืดระยะเวลาขายแต่ละรุ่นออกไปให้นาน สำหรับรุ่นที่เก่ามากๆ ก็ปรับปรุงเล็กน้อยแล้วยังขายต่อไป
ตัวอย่างคือ Mi2 ที่ปรับปรุงเป็นรุ่น Mi2S โดยหลักๆ แล้วทั้งสองรุ่นเป็นรุ่นเดียวกัน เมื่อนับรวมแล้วทั้งสองรุ่นมีระยะเวลาขายรวมถึง 26 เดือน Redmi 1 ขายรุ่นเดิมถึง 16 เดือนก่อนจะออกรุ่น Redmi 2
Hugo Barra ผู้บริหาร Xiaomi ให้สัมภาษณ์กับ BBC มีประเด็นน่าสนใจดังนี้
AnTuTu ซอฟต์แวร์เบนช์มาร์คชื่อดัง เผยสถิติของสมาร์ทโฟนสาย Android ยอดนิยมประจำปี 2014 โดยวัดจากการรันเบนช์มาร์คจากอุปกรณ์เหล่านี้
แชมป์แบบรวมทั้งโลกเป็นของ Xiaomi 4 ด้วยเหตุผลว่า AnTuTu มีผู้ใช้ในจีนเป็นจำนวนมากช่วยดัน ส่วนอันดับสองคือ Galaxy Note 3, อันดับสาม Galaxy S5, อันดับสี่ Xiaomi 3 และอันดับห้า ZenFone 5
Xiaomi เปิดตัวโทรศัพท์สองรุ่น ในงานเดียวกันก็เปิดตัว Mi Box mini กล่องทีวีรุ่นใหม่ที่มีจุดเด่นสำคัญคือขนาดเล็กลงมาก เท่ากับที่ชาร์จ USB ใหญ่ๆ สักอันเท่านั้น
Mi Box mini ใช้ซีพียู Cortex-A7 สี่คอร์ แรม 1GB และแฟลช 4GB รองรับ Wi-Fi ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz แถมรีโมตแบบ Bluetooth และสาย HDMI
ราคา 199 หยวน หรือประมาณหนึ่งพันบาท งานนี้ถือว่า Chromecast มีคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะสเปคดีกว่ามากในราคาที่เท่าๆ กัน
อีกชิ้นที่เปิดตัวมาพร้อมกัน คือ Mi Headphones หูฟังขนาดใหญ่ มีไดอะเฟรมขนาดถึง 50 มิลลิเมตร ราคา 499 หยวนหรือประมาณ 2500 บาท
ที่มา - MIUI
ปล่อยทีเซอร์ให้แฟนๆ เดากันไปเมื่อวันก่อน วันนี้ Xiaomi ก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนมารวดเดียวสองรุ่นใหม่ในซีรีส์เดียวกันคือ Mi Note และ Mi Note Pro
ทั้งสองรุ่นนี้ใช้การออกแบบเดียวกันเป๊ะ ใช้กระจกกันรอย Gorilla Glass ทั้งหน้าหลัง โดย Xiaomi บอกว่าด้านหน้าเป็นกระจกขอบมน (2.5D) และด้านหลังเป็นกระจกโค้งที่ขอบ (3D) ทำให้ได้ตัวเครื่องที่โค้งมนสวยงาม เสริมแกร่งด้วยขอบรอบเครื่องโลหะ
สเปคของทั้งสองรุ่นต่างกันเล็กน้อย ตามราคาที่ต่างกัน แต่ก็เรียกได้ว่าแรงทั้งคู่ โดยรุ่นเล็กกว่าอย่าง Mi Note ใช้สเปคดังนี้ครับ
ใกล้เปิดตัวรุ่นใหม่อีกแล้วสำหรับ Xiaomi ที่วันนี้เพิ่งโพสต์ภาพทีเซอร์ใหม่ลงบนเฟซบุ๊กสำหรับอุปกรณ์รุ่นเรือธงรุ่นใหม่พร้อมคำโปรยแบบมีช่องว่างให้ได้เติมกันเองทั้งสามแบบด้วยกัน
สามประโยคที่ Xiaomi โปรยมาในครั้งนี้ก็มีตั้งแต่ As ___ as paper, The ___ the better และ As __ as the Bell พร้อมกับระบุว่าจะเปิดตัวในวันที่ 15 มกราคมนี้
ตอนนี้ก็เป็นเวลาเดาของแฟนๆ กันไปก่อน ว่าจะมาอีท่าไหนครับ
ที่มา - Xiaomi Facebook
สำนักข่าว Reuters รายงานข่าววงในว่า Facebook เคยคิดจะเข้าไปลงทุนใน Xiaomi แต่สุดท้ายดีลนี้ก็ไม่เกิดขึ้น
ตามข่าวบอกว่าเมื่อครั้งที่ Mark Zuckerberg ไปปักกิ่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว (ที่โชว์การพูดภาษาจีน) เขาไปรับประทานอาหารเย็นกับ Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi และคุยกันในหลายๆ เรื่อง ซึ่งมีประเด็นการซื้อหุ้นของ Xiaomi ด้วย เพราะการที่สองบริษัทนี้เป็นพันธมิตรกัน ย่อมช่วยให้ Xiaomi เป็นที่รู้จักในระดับโลกมากขึ้น และ Facebook ก็เจาะตลาดจีนได้มากขึ้นเช่นกัน (ปัจจุบัน Facebook ยังโดนแบนในจีนอยู่)
Bin Lin ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน Xiaomi เปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานในปี 2014 ระบุว่าบริษัทขายสมาร์ทโฟนไปได้ 61.12 ล้านเครื่อง คิดเป็นรายได้รวม 74,300 ล้านหยวน (ประมาณ 11,900 ล้านดอลลาร์) ถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะในปี 2013 บริษัทขายสมาร์ทโฟนไปได้ 18.7 ล้านเครื่อง
ในปี 2014 ยังถือเป็นก้าวสำคัญของ Xiaomi เนื่องจากบริษัทสามารถขึ้นแซงหน้าซัมซุง เป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในจีนได้ ซึ่งบริษัทก็ยอมรับว่ากลยุทธ์ของบริษัทกำลังถูกคู่แข่งศึกษาอย่างมาก เพราะตลาดในจีนมีการแข่งขันสูง
นอกจากนี้ Xiaomi ยังเปิดเผยว่ายอดขายในประเทศอินเดียซึ่งถือเป็นอีกตลาดที่บริษัทให้ความสำคัญ สามารถขายสมาร์ทโฟนไปได้กว่า 1 ล้านเครื่อง หลังจากวางขายเพียง 5 เดือนเท่านั้น
ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดพร้อมสเปค ของแล็ปท็อปที่อ้างว่า Xiaomi กำลังซุ่มพัฒนาอยู่ ตอนนี้มีทาง Xiaomi ยืนยันแล้วว่าข่าวข้างต้นเป็นข่าวปลอม
เว็บไซต์ Tech in Asia รายงานว่า Kaylene Hong ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารของ Xiaomi ยืนยันกับทางเว็บไซต์ว่าภาพหลุดข้างต้นไม่เป็นความจริง นอกจากนั้นภาพเรนเดอร์จากข่าวข้างต้น เป็นภาพของโน้ตบุ๊คยี่ห้อ KaKa รุ่น K18 ที่ถูกตัดต่อเอาโลโก้ของ Xiaomi เพิ่มเข้าไปเท่านั้น
ที่มา - Tech in Asia