กระแสของ Internet of Things กำลังรุกคืบในทุกทิศทาง ต่อเนื่องจากประเด็นที่คุณ lewcpe เคยเล่าถึงในบทความ Internet of Things: ความฝันถึงโลกที่แตกต่างในยุคต่อไป โอกาสนี้ผมมีรีวิวของ Mi Smart Home Kit จาก Xiaomi ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชุดอุปกรณ์ที่นำพาที่พักอาศัยได้มีความสะดวก ปลอดภัย ผ่านอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และใช้งานผ่าน Wi-Fi และสมาร์ทโฟน
ช่วงหลังมานี้ Xiaomi เริ่มใช้นโยบายล็อค bootloader กับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ อย่าง Mi Note Pro, Mi 4c โดยให้เหตุผลว่าป้องกันไม่ให้พ่อค้าคนกลางที่นำเครื่องไปขายต่อ สามารถฝังมัลแวร์ลงไปในรอมได้
Xiaomi ยังเปิดให้ลูกค้าสามารถปลดล็อค bootloader ได้เอง แต่กระบวนการจะยุ่งยากพอสมควร โดยต้องดาวน์โหลดโปรแกรม Unlocking Tool บนพีซีมาใช้งาน ล็อกอินด้วยบัญชี MIUI อันเดียวกับบนมือถือ จากนั้นกรอกคำขอปลดล็อค (ที่ฟอร์มเป็นภาษาจีนล้วน ยังไม่มีภาษาอังกฤษ) และรอการตรวจสอบจากทางบริษัท จากนั้นโค้ดปลดล็อคจะส่งมาให้ทาง SMS ในภายหลัง (มีคนทำคู่มือเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วย)
แม้จะมีภาพหลุดของ Mi 5 สมาร์ทโฟนเรือธงประจำต้นปี 2016 ของ Xiaomi มาตั้งแต่ปลายปีก่อน ให้หลังมาราวสองสัปดาห์ มีรายงานชิ้นใหม่ซึ่งระบุวันเปิดตัวของ Mi 5 อย่างเป็นทางการมาแล้ว
ข้อมูลชุดใหม่นี้หลุดมาจากร้านค้าปลีกในประเทศจีนที่เผยวันเปิดตัวของ Mi 5 เป็นวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ และวางขายจริงในวันถัดมา โดยแหล่งข่าวระบุว่า Foxxonn โรงงานที่รับผลิตเครื่องให้ Xiaomi ถึงกับต้องจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อให้ส่งมอบสินค้าได้ตามที่กำหนด
การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Xiaomi อาจหมดระยะแล้ว เมื่อ Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าววงในว่า Xiaomi พลาดเป้ายอดขายมือถือ 80 ล้านเครื่องในปี 2015 และนักลงทุนก็เริ่มตั้งคำถามต่อมูลค่าบริษัท 46 พันล้านดอลลาร์ว่าอาจสูงเกินจริง
ปี 2014 ถือเป็นปีทองของ Xiaomi ที่ขายมือถือได้มากถึง 61 ล้านเครื่อง เติบโต 3 เท่าจากปี 2013 ทำให้บริษัทตั้งยอดขายเพิ่มขึ้นในปี 2015 แต่ช่วงหลัง Xiaomi กลับเจอคู่แข่งอย่าง Huawei ที่ทำผลงานได้ดีกว่า และขายมือถือได้มากเกิน 100 ล้านเครื่องในปี 2015
Xiaomi เปิดตัว Redmi 3 หรือ Hongmi 3 มือถือราคาถูกรุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5 นิ้วและบอดี้โลหะที่คล้ายกับ iPhone อยู่พอสมควร
สเปกของ Redmi 3 ใช้ซีพียู Snapdragon 616, แรม 2GB, รอม 16GB + microSD, หน้าจอ 720p, กล้อง 13MP/5MP, รองรับสองซิมในตัว (ซิมนึงเป็นช่อง microSD) แต่ส่วนที่เป็นจุดเด่นจริงๆ คือแบตเตอรี่ใหญ่สะใจ 4,100mAh ในตัวเครื่องที่หนาเพียง 8.5 มิลลิเมตร หนัก 144 กรัม
ราคาขาย 699 หยวน หรือประมาณ 3,900 บาท มีให้เลือก 3 สีคือ เงิน ทอง เทา วางขายในจีนวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ข่าวดีสำหรับคนที่กำลังรอ Mi 5 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงตัวต่อไปของ Xiaomi ที่แม้ตอนนี้จะยังไม่เปิดตัว แต่ก็มีวิดีโอ พร้อมกับภาพเรนเดอร์ตัวเครื่องจริงมาให้เห็นกันแล้ว
ตามภาพที่ออกมา Mi 5 เปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก ทั้งการออกแบบตัวเครื่องเน้นความโค้งมนมากขึ้น ยังคงใช้กรอบโลหะรอบตัว ส่วนความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเพิ่มปุ่มโฮมเข้ามา แทนของเดิมที่เป็นปุ่มเมนูแบบสัมผัส คาดว่าจะใช้เป็นที่สแกนลายนิ้วมือด้วย รวมถึงใช้หน้าจอโค้ง 2.5D และกระจกหลังขอบมน 3D ตามรุ่นจอใหญ่อย่าง Mi Note Pro
Mi 5 ตามภาพที่หลุดมาจะมีทั้งหมด 4 สี ขาว ดำ และสองสีใหม่ ทอง และชมพู โดยสเปคที่ลือมาจะใช้ Snapdragon 820, หน้าจอ 5.2" QHD, กล้องหลัง 16 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,030 mAh
มีข่าวมานานว่า Xiaomi กำลังพัฒนาโน้ตบุ๊กของตัวเองเน้นสเปคแรงในราคาย่อมเยา ล่าสุดมีข้อมูลเพิ่มเติมของโน้ตบุ๊กรุ่นที่ว่าออกมาแล้ว
ตามข่าวลือชุดใหม่ โน้ตบุ๊กที่ Xiaomi พัฒนาจะมีทั้งหมดสามรุ่นย่อยต่างขนาดหน้าจอที่ 12.5", 13.3" และ 15.6" โดยสเปคของรุ่นใหญ่สุดอย่าง 15.6" จะมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด 1080p, ซีพียู Core i7 รหัส Haswell, การ์ดจอ GTX 760M และแรม 8GB
แม้สเปคของโน้ตบุ๊กที่ออกมาจะดูตกรุ่นไปปีกว่า แต่ด้วยราคาที่คาดว่าจะอยู่ราวๆ 2,999 หยวนหรือประมาณ 16,700 บาท เรียกได้ว่าคุ้มราคาตามข่าวที่ออกมา คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2016 ครับ
Xiaomi หนึ่งในบริษัทจีนที่มีข่าวว่ากำลังทำชิปประมวลผลของตัวเองเมื่อไม่กี่วันก่อน ล่าสุดออกมาประกาศเซ็นสัญญาใช้งานสิทธิบัตรเทคโนโลยี 3G/4G จาก Qualcomm ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกแล้ว
การได้ Xiaomi เข้ามาร่วมเป็นลูกค้าสิทธิบัตรของ Qualcomm นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ในส่วนของค่าไลเซนส์ซึ่งเป็นส่วนที่ทำรายได้กว่าครึ่งของบริษัทแล้ว ยังเป็นการขยายตลาดในจีนเพิ่มเติม หลังจากเพิ่งปิดดีลกับยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ อย่าง Huawei, ZTE, TCL และ Lenovo ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในจีนหลายรายเริ่มปันใจจาก Qualcomm เมื่อปีก่อนจนกระทบกับรายได้ และหุ้นของ Qualcomm เป็นอย่างมาก
นอกจากจะกลายมาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว และเป็นโรงงานผลิตชิปขนาดใหญ่ของโลก ดูเหมือนว่าบริษัทไอทีในจีนจะสนใจผลิตชิปประมวลผลใช้เองบ้างแล้วในรายงานล่าสุด
รายงานชิ้นนี้มาจาก DigiTimes แต่ไม่ใช่ข่าวลือ โดยยืนยันว่า ZTE ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ในจีนเพิ่งได้รับเงินทุนจาก China’s National IC Industry Investment Fund จำนวนกว่า 2,400 ล้านหยวนเพื่อใช้ในการเร่งผลิตชิปประมวลผลบนสมาร์ทโฟน ส่วนอีกรายอย่าง Xiaomi ก็จับมือกับบริษัทออกแบบชิปอย่าง Leadcore เพื่อร่วมผลิตชิปประมวลผลสำหรับสมาร์ทโฟนของตัวเองในปี 2016 เช่นกัน
หลังจากมีข่าวว่า รอม Windows 10 Mobile สำหรับ Xiaomi Mi 4 จะมาในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า
ล่าสุด Bin Lin หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Xiaomi เผยแพร่ภาพผ่าน Weibo ว่ารอมรุ่นนี้จะปล่อยสู่สาธารณะในวันที่ 3 ธันวาคม แต่จะยังลงได้เฉพาะ Mi 4 รุ่น LTE ก่อนเท่านั้น
ที่มา - Bin Lin (Weibo) via Windows Central, ภาพจาก MIUI forums
ในงานเปิดตัว Mi Pad 2 ของ Xiaomi วันนี้ การเปลี่ยนแปลงทั้งซีพียูที่หันไปใช้อินเทล Atom X5 และใช้ USB Type-C นั้นดูจะมีคำตอบให้กับแฟนๆ ที่สงสัยแล้ว นั่นก็คือเจ้า Mi Pad 2 นั้นจะมีรุ่นที่รัน Windows 10 ได้นั่นเอง
โดย Mi Pad 2 รุ่นที่รัน Windows 10 ได้นั้นจะเป็นโมเดลความจุ 64GB แรม 2GB เท่านั้น การรองรับ Windows 10 ครั้งแรกของ Xiaomi นี้นับเป็นครั้งแรกที่ Xiaomi มีอุปกรณ์ที่ไม่ได้รัน MIUI ของตัวเองอีกด้วย
นอกจากของที่คนรอคอยอย่าง Mi Pad 2 และ Redmi Note 3 ที่เปิดตัวมาตามคาดแล้ว ในงานวันนี้ Xiaomi ยังมีเซอร์ไพรส์มาอีกหนึ่งชิ้น นั่นก็คือ Mi Air Purifier 2 เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ที่เคยเปิดตัวอย่างลึกลับเมื่อปีก่อน
มาตามคาดสำหรับ Xiaomi Redmi Note 3 สมาร์ทโฟนจอใหญ่ตัวใหม่ในซีรีส์ Redmi Note อย่างเป็นทางการ โดยเป็นรุ่นแรกที่ใช้ตัวเครื่องอะลูมิเนียมทั้งหมดตามข่าวลือเป๊ะๆ
ถ้าไม่นับเรื่องตัวเครื่องอะลูมิเนียมแล้ว งานออกแบบของ Redmi Note 3 ยังคงใช้แนวทางเดิมของซีรีส์ Redmi Note โดยฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามามีตั้งแต่ที่สแกนลายนิ้วมือด้านหลังที่เคลมว่าสามารถใช้ปลดล็อกหน้าจอได้ภายใน 0.3 วินาทีเท่านั้น ส่วนสเปคคร่าวๆ มีดังนี้
Xiaomi ประกาศ อัพเดต MiPad 2 โดยเปลี่ยนมาใช้งานชิป Atom X5-Z8500 แทนที่ Tegra ส่วนแรมยังคงอยู่ที่ 2GB เท่าเดิม หน้าจอเท่าเดิมทั้งขนาดและความละเอียด
ความเปลี่ยนแปลงภายนอกที่เปลี่ยนไปได้แก่ พอร์ตไปใช้ USB Type-C, น้ำหนักเบาลง 38 กรัม บางลง 18% เหลือ 6.95 มิลลิเมตร
ราคารุ่น 16GB อยู่ที่ 999 หยวน และรุ่น 64GB อยู่ที่ 1299 หยวน มีให้เลือกสองสีคือ เทา และทองชมพู
หลังจากออกมาชงให้เก้อกันไปเมื่อ Singles Day ตอนนี้ Xiaomi ก็ออกมาเผยรายละเอียดของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ และรุ่นที่ว่าคือ Redmi Note 3 นั่นเอง
ในโปสเตอร์ที่ปล่อยมาไม่มีรายละเอียดของตัวเอง แต่มีรายงานออกมาก่อนแล้วว่า Redmi Note 3 จะใช้หน้าจอขนาด 5.5" ความละเอียด 1080p, ซีพียู MediaTek Helio X10, หน่วยความจำภายใน 32GB, แรม 3GB, กล้องหลัง 13 เมกะพิกเซล กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล, แบตเตอรี่ความจุมหาศาลถึง 4000 mAh รวมถึงจะใช้ตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งหมดเป็นครั้งแรก และมีที่สแกนลายนิ้วมือด้านหลังอีกด้วย
หลังจากที่ Xiaomi โชว์ Windows 10 Mobile บนโทรศัพท์รุ่น Mi 4 ของตัวเอง และเปิดให้ผู้ใช้สามารถแฟลชรอมกันเองได้ ตอนนี้ก็มีข่าวออกมาแล้วว่าบริษัทเตรียมปล่อยให้ใช้งานในช่วงสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving)
โดยวิศวกรด้านระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ในชื่อ TheRenaissanceMan ได้เผยแพร่ข้อความผ่านทาง Weibo ว่า Windows 10 รุ่น public release จะถูกปล่อยให้ใช้งานในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ๆ สำหรับผู้ที่อยากลองใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Mobile
ผ่านมาเกือบปีหลังจากที่มีข่าวลือของแท็บเล็ตรุ่นใหม่จาก Xiaomi ล่าสุดมีผลการ benchmark ถูกอัพโหลดขึ้นมาแล้ว
ผลการ benchmark นี้มาจากแอพ Geekbench โดยแสดงรายละเอียดสเปกในส่วนของชิปเซ็ตไว้ค่อนข้างเยอะ และบอกชื่อผลิตภัณฑ์ชัดเจนว่าเป็น Xiaomi Mi Pad 2 ซึ่งทำคะแนนแบบใช้คอร์เดียวได้ 985 คะแนน และแบบใช้ทุกคอร์ได้ 3,268 คะแนน ส่วนสเปกอื่นๆ มีดังนี้
ส่วนของหน้าจอเคยมีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ว่าจะเป็นหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล (เท่าเดิมเป๊ะ)
ภารกิจซอยแหลกของ Xiaomi ปีนี้ยังมีมาอีกเรื่อยๆ ล่าสุดเปิดตัวสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยารุ่นใหม่ด้วย Redmi 2A รุ่นเพิ่มสเปคของรุ่นสุดถูกซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีด้วยราคาเพียง 599 หยวน และทำยอดขายทะลุ 10 ล้านเครื่องเป็นที่เรียบร้อย
Redmi 2A โมเดลใหม่จะใช้สเปคโดยรวมใกล้เคียงกับรุ่นเดิมแทบทุกประการ ทั้งหน้าจอขนาด 4.7" ซีพียู Leadcore ควอดคอร์ และกล้องหน้าหลังที่ 8 เมกะพิกเซล และ 2 เมกะพิกเซลตามลำดับ โดยส่วนที่เปลี่ยนไปจะเป็นฝั่งหน่วยความจำที่เพิ่มเป็นเท่าตัวไปอยู่ที่ 16GB และแรม 2GB รวมถึงจะรองรับ LTE แบบสองซิมอีกด้วย
สำหรับราคาของ Redmi 2A รุ่นอัพสเปคจะเปิดมาเท่ากับราคาพิเศษของโมเดลเดิมที่ 499 หยวน หรือราว 2,800 บาท เริ่มขายวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้
ขณะนี้ Xiaomi มี power bank วางจำหน่ายอยู่ 3 ขนาดด้วยกัน คือ 16,000, 10,400 (ภายหลังปรับปรุงสเปกและลดความจุเหลือ 10,000 mAh) และ 5,000 mAh ล่าสุด Xiaomi ได้เปิดตัว power bank รุ่นใหม่ ความจุถึง 20,000 mAh แล้ว
Mi Power Bank รุ่นใหม่นี้หนักเพียง 338 กรัม (รุ่น 10,400 mAh หนัก 250 กรัมเข้าไปแล้ว) รองรับการจ่ายกระแสหลายแบบ คือ 5V/2A, 9V/2A และ 12V/1.5A อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี QuickCharge 2.0 ด้วย มีช่อง USB สำหรับจ่ายไฟ 2 ช่อง รวมถึงมีวงจรป้องกันการชาร์จไฟเกิน
ทางเว็บบอร์ด MIUI ได้ทดสอบแล้ว สามารถเก็บประจุได้ถึง 11,000 mAh จากการชาร์จ 3 ชั่วโมง ในขณะที่รุ่น 10,000 mAh เพิ่งเก็บประจุได้ 5,000 mAh เท่านั้น
เริ่มวางขายวันนี้ที่ประเทศจีน ราคา 149 หยวน หรือราว 840 บาท
เพิ่งเปิดตัว Mi Band Pulse สายรัดข้อมือรุ่นใหม่ไป ในวันที่ 11 พฤศจิกายน Singles Day ที่จะถึงนี้ Xiaomi มีแผนจะเปิดตัวสินค้าใหม่อีกชุด
ตามโปสเตอร์ที่ทาง Xiaomi โพสมาไม่มีรายละเอียดของสินค้าใหม่ที่ว่า แต่ว่าใบ้มาเล็กน้อยด้วยคำว่า "Mi Dual 11" ซึ่งตีความกันว่า Xiaomi น่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่รวดเดียวสองรุ่นใน Single Day ที่จะถึงนี้
เพิ่งมีข่าวลือว่า Xiaomi กำลังจะเปิดตัวสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพรุ่นใหม่ ตอนนี้เจ้าสายรัดข้อมือที่ว่าก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อ Mi Band Pulse
Mi Band Pulse หน้าตาภายนอกเรียกได้ว่าเหมือนเป๊ะกับ Mi Band รุ่นแรก โดยฟีเจอร์ใหม่มีเพียงเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจเพิ่มเข้ามา ซึ่งการเพิ่มเซ็นเซอร์ใหม่ทำให้ Mi Band Pulse สามารถเก็บข้อมูลได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น สามารถใช้ได้กับ Android 4.4 ขึ้นไปผ่าน Bluetooth 4.0 LE
ด้านความคงทน Mi Band Pulse กันน้ำกันฝุ่นที่มาตรฐาน IP67 เปิดราคาเริ่มต้นมาที่ 99 หยวน (ประมาณ 560 บาท) ใกล้เคียงกับรุ่นแรก โดยจะมีรุ่นแบตเตอรี่จุพิเศษ 45 mAh มาขายด้วย แต่ยังไม่ประกาศราคาออกมา ส่วนรุ่นก่อนหน้าประกาศลดราคาลงเหลือ 69 หยวน หรือราว 390 บาท
มีข่าวลืออยู่นานแล้วว่า Xiaomi จะเข้าทำตลาดในสหรัฐอเมริกา รวมถึง Hugo Barra ผู้บริหารของ Xiaomi และอดีตผู้บริหารทีมแอนดรอยด์ของกูเกิล ก็เคยบอกว่า Xiaomi กำลังตุนสิทธิบัตรเพื่อเข้าทำตลาดในสหรัฐอเมริกา
ล่าสุดมีคนไปพบว่าโทรศัพท์ Redmi 2 Pro ได้ผ่านการตรวจสอบจาก FCC (กสทช. ของสหรัฐอเมริกา) แล้ว โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Bin Lin ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานของ Xiaomi เพิ่งบอกว่าบริษัทฯ กำลังพิจารณาหลายๆ ทางเลือกในการเข้าทำตลาดในสหรัฐอเมริกา
Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหน้าใหม่ที่ทำตลาดมาได้ไม่กี่ปีก็ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในประเทศจีนไปเมื่อปี 2014 ตอนนี้เริ่มแผ่วจนโดนยักษ์ใหญ่ไล่ตามมาทันแล้ว และเป็น Huawei ที่เร่งเครื่องกลับมาแซงจนได้ในไตรมาสสามของปี 2015
ตัวเลขสถิติครั้งนี้ได้มาจาก Canalys บริษัทวิจัยสัญชาติจีนที่รายงานว่า Huawei เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา โดยมียอดส่งมอบเพิ่มขึ้นถึง 81% จากปีก่อน ตรงข้ามกับ Xiaomi ที่ทำยอดตกเป็นครั้งแรกในปีนี้ ส่งผลให้ Huawei ขึ้นแท่นนำ Xiaomi เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี หลังจากก่อนหน้านี้ขับเคี่ยวกันมาในสัดส่วน 15.7% (Huawei) ต่อ 15.9% (Xiaomi) เมื่อไตรมาสสอง
เพิ่งเปิดตัว Mi TV 2s สมาร์ททีวีรุ่นอัพเกรดไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ตอนนี้ Xiaomi จัดการเปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง Mi TV 3 อย่างเป็นทางการ พร้อมกับ Mi TV Bar สำหรับแปลงร่างทีวีธรรมดาให้กลายเป็นสมาร์ททีวีด้วย
สำหรับของใหม่อย่าง Mi TV 3 อัพเกรดจากรุ่นเดิมด้วยการเพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 60" (ใช้พาเนลของ LG) ความละเอียดระดับ 4K ตัวเครื่องเป็นโลหะ ขอบเป็นอะลูมิเนียมบางสุดเพียง 11.6 มม. พร้อมสลักลายเพชรไว้ที่ขอบ พร้อมกับลำโพงคุณภาพสูง ให้เสียงดังขึ้น 67%