Hugo Barra พูดไว้ในโพสต์ อำลาตำแหน่งรองประธาน Xiaomi Global ว่า "ผมสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า Xiaomi เป็นเสมือนเด็กคนแรกที่ผมทำให้เขาได้เติบโตในตลาดโลก"

ตั้งแต่ปี 2012-2015 ยอดขายสมาร์ทโฟน Xiaomi โตขึ้นหกเท่า โดยใช้กลยุทธ์ขายบนออนไลน์เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ในปี 2014-2015 บริษัทมียอดขายในประเทศจีนสูงเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อ Barra เข้ามา เขาก็หวังว่าจะส่งออกแบรนด์ Xiaomi ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดโลก โดยตั้งเป้าที่อินเดียและบราซิลก่อน

ที่อินเดีย Xiaomi สามารถทำยอดขายได้ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และข้อมูลจาก Counterpoint Research ระบุว่าส่วนแบ่ง Xiaomi สูงเป็นอันดับสามของอินเดีย

แต่ผลงานในบราซิลกลับไม่ดีเท่าไรนัก ส่วนแบ่งในตลาดมีเพียง 1% เท่านั้น และสำนักงาน Xiaomi ในบราซิลปิดตัวไปไม่นานมานี้ หลังทำยอดขายได้ไม่เป็นที่น่าพอใจ สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาษีมหาโหดที่คิดเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมด (ข้อมูลจาก Tina Lu หัวหน้าสำนักวิจัย Counterpoint Research ในละตินอเมริกา)

ภาพจาก [Facebook Hugo Barra](https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10154009938201612&set=pb.717846611.-2207520000.1485928402.&type=3&theater)

เมื่อมองกลับมาที่ตลาดในบ้านเกิดประเทศจีน Xiaomi ก็มีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง Oppo และ Vivo เพิ่มขึ้นมา ยอดขาย Xiaomi เริ่มตกจากอันดับหนึ่งไปอยู่อันดับสี่ จุดแตกต่างที่สำคัญคือ Xiaomi เน้นขายออนไลน์เพียงอย่างเดียว แต่ Oppo และ Vivo เน้นขายผ่านร้านค้า ซึ่งยังคงเป็นที่ที่คนส่วนใหญ่ไปซื้อมือถือกันอยู่

ก่อนที่ Barra จะลาออก ซีอีโอ Lei Jun ของ Xiaomi เขียนจดหมายถึงพนักงานว่าเรากำลังเจอความท้าทายใหม่ ตอนนี้ต้องเน้นที่การเติบโต "อย่างยั่งยืน" หลังจากที่เราประสบความสำเร็จในการขายผ่านออนไลน์ ตอนนี้ถึงเวลาที่จะสร้างร้านขายของตัวเอง

เรียกได้ว่าการสร้างให้ Xiaomi เติบโตอย่างมั่นคง เป็นสิ่งที่ Barra ยังสานต่อไม่สำเร็จ และเป็นโจทย์ที่บริษัทต้องขบคิดต่อไป

ที่มา - Bloomberg