มีรายงานจากเว็บไซต์ MarketWatch ว่าแอปเปิลเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ (Director) ของหน่วย Rapid Enforcement Allied Computer Team (REACT) ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ทำการบุกเข้าค้นบ้านของบรรณาธิการ Gizmodo (ดูข่าวเก่า) เช่นเดียวกับบริษัทไอทีอื่นๆ อย่างกูเกิล หรือ Adobe
แม้ว่าจะไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าแอปเปิลมีสิทธิ์ในการควบคุมการทำงานของ REACT แค่ไหน รวมไปถึงอยู่เบื้องหลังการตรวจค้นครั้งนี้หรือไม่ แต่ปัจจุบันแอปเปิลอยู่ในรายชื่อบริษัทที่มีคดีเปิดอยู่
เป็นเรื่องใหญ่ของจริงซะแล้ว สำหรับกรณีที่ Gizmodo เปิดเผยต้นแบบ iPhone 4G โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าค้นบ้านของ Jason Chen บรรณาธิการเว็บ Gizmodo แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงปรากฏว่านาย Jason ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ตำรวจจึงได้พังประตูบ้านเข้าไป !!
หลังจากนั้นไม่นาน นาย Jason ก็กลับมาถึงบ้านหลังจากไปทานอาหารค่ำกับภรรยา แล้วก็พบว่าบ้านกำลังถูกค้นอยู่ เค้าได้เข้าไปขอดูหมายค้นจากเจ้าหน้าที่ แล้วก็พบว่าตำรวจมีหมายค้นที่ถูกต้อง ทั้งสองถูกห้ามเข้าไปในบริเวณบ้านจนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจค้นเสร็จ
หน่วยสอบสวนอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของเขต Santa Clara County ได้เริ่มการสืบสวนการซื้อต้นแบบ iPhone 4G ของ Gizmodo เพื่อพิจารณาว่าจะตั้งข้อหาหรือไม่
ประเด็นหลักๆ ของปัญหาคือการที่ Gizmodo เองก็ประกาศว่าได้จ่ายเงินถึง $5,000 เพื่อซื้ออุปกรณ์ที่เชื่อได้ว่าเป็นต้นแบบ iPhone 4G ซึ่งเป็นการแสดงถึงว่า Gizmodo ก็ทราบก่อนแล้วว่าของที่ซื้อเป็นของที่อาจถูกขโมยมา จึงเป็นไปได้ที่จะถูกตั้งขอหาในการรับซื้อของโจร
แม้ว่าตามกฎหมายจะอนุญาตให้สื่อสามารถตีพิมพ์ข้อมูลที่เป็นความลับได้ แต่การซื้อขายวัตถุที่ถูกขโมยมาเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับกฎหมายอาญา และจึงทำให้ตำรวจต้องเข้ามาสอบสวนทันที โดยที่แอปเปิลเองไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องแต่ประการใด
หน่วยสอบสวนอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของเขต Santa Clara County ได้เริ่มการสืบสวนการซื้อต้นแบบ iPhone 4G ของ Gizmodo เพื่อพิจารณาว่าจะตั้งข้อหาหรือไม่
ประเด็นหลักๆ ของปัญหาคือการที่ Gizmodo เองก็ประกาศว่าได้จ่ายเงินถึง $5,000 เพื่อซื้ออุปกรณ์ที่เชื่อได้ว่าเป็นต้นแบบ iPhone 4G ซึ่งเป็นการแสดงถึงว่า Gizmodo ก็ทราบก่อนแล้วว่าของที่ซื้อเป็นของที่อาจถูกขโมยมา จึงเป็นไปได้ที่จะถูกตั้งขอหาในการรับซื้อของโจร
แม้ว่าตามกฎหมายจะอนุญาตให้สื่อสามารถตีพิมพ์ข้อมูลที่เป็นความลับได้ แต่การซื้อขายวัตถุที่ถูกขโมยมาเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับกฎหมายอาญา และจึงทำให้ตำรวจต้องเข้ามาสอบสวนทันที โดยที่แอปเปิลเองไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องแต่ประการใด
ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางโกดักได้ยื่นฟ้องต่อแอปเปิลและ RIM ว่าละเมิดสิทธิบัตรของตนเอง (ดูข่าวเก่า) เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ทางแอปเปิลมีการยื่นฟ้องโกดักต่อ ITC (U.S. International Trade Commission) ว่าทางโกดักเองก็มีการละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิล 2 รายการ ได้แก่สิทธิบัตรที่มีชื่อว่า "Computer vision system for subject characterization" และ "Modular digital image processing via an image processing chain with modifiable parameter controls"
หลังจากที่แอปเปิลได้ติดต่อทาง Gizmodo เพื่อขอรับต้นแบบ iPhone คืน (ดูข่าวเก่า) ทางเว็บไซต์ AppleInsider ได้รายงานว่าทาง Gizmodo มีโอกาสที่จะถูกฟ้องใน 2 ข้อหา ได้แก่การซื้อของโจร และการเปิดเผยความลับทางการค้า
ในข้อหาแรกคงเป็นข้อหาที่คล้ายๆ กับกฎหมายของไทย ที่ระบุว่าการซื้อของที่ถูกขโมยมา ไม่ว่าผู้ซื้อจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ในขณะที่ข้อหาที่สองตามกฎหมายความลับทางการค้าของรัฐแคลิฟอร์เนียได้ระบุอย่างชัดเจนว่าการจ่ายเงินเพื่อซื้อของต้นแบบที่ถูกขโมยและนำมาหาผลประโยชน์ให้กับตนเองนั้นมีความผิด
หลายคนอาจจะเฮ แต่สำหรับแอปเปิลแล้วงานนี้อาจจะต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากอีกครั้ง ในเมื่อศาลของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Court) อนุญาตให้ Psystar Corp ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับ Mac OS X ทำการฟ้องกลับแอปเปิลด้วยสำนวนฟ้องใหม่แล้ว
จุดที่สำคัญที่สุดของการฟ้องกลับในครั้งนี้คือ หาก Psystar ชนะในครั้งนี้ ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายอื่น ๆ ก็จะสามารถขายคอมพิวเตอร์พร้อม ๆ กับ Mac OS X เช่นกัน
BSA (Business Software Alliance) ออกมาสนับสนุนให้บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกับผู้บริโภคที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ จากกรณีคดีบริษัทไทยละเมิดลิขสิทธิ์ "Autodesk"
สื่อออสเตรเลียเริ่มที่จะทำการรายงานปัญหาของเกมออนไลน์ในออสเตรเลีย แต่ปัญหานี้ไม่เหมือนกับปัญหาของบ้านเราแต่เป็นปัญหาความเข้าใจผิดของผู้นำเข้าเกม ผู้ขายเกมในประเทศออสเตรเลีย
โดยตามกฎหมายของออสเตรเลีย เกมทุกเกมจะต้องได้รับเรตติ้งจากหน่วยงานที่รับผิดชอบก่อนจะวางขายโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่สำหรับเกมออนไลน์หลาย ๆ เกมที่ขายในประเทศออสเตรเลียนั้นยังไม่ได้มีการให้เรตติ้งแต่อย่างใด และไม่มีใครรู้ถึงปัญหานี้มาก่อนจนถึงตอนนี้
จากคำให้สัมภาษณ์ของ Tim Cook ผู้บริหารของแอปเปิลที่ขู่คู่แข่งว่าจะดำเนินการทางกฎหมายหากถูกละเมิดลิขสิทธิ์ (จริงๆ ก็ไม่ได้ระบุชื่อแต่ฟังแล้วก็รู้แน่ว่าคือปาล์ม) ที่ผ่านมา (ข่าวเก่าโดยคุณ infernohellion: แอปเปิลขู่ Palm Pre จะไม่ยืนเฉย หากโดนละเมิดสิทธิ) วันนี้ปาล์มก็ออกมาให้สัมภาษณ์โต้กลับแล้วครับ
คุณ Lynn Fox ซึ่งเป็นผู้แทนจากบริษัทปาล์ม ได้ให้สัมภาษณ์กับ All Things Digital ว่า
ระหว่างการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี นาย Tim Cook ตำแหน่ง COO ของแอปเปิลนั้นได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับ Palm Pre อ้อม ๆ ว่า "เราจะไม่ยืนเฉยแน่ ในเมื่อมีคนมาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของเรา"
จากคำพูดที่ว่านี้ ค่อนข้างชัดเจนว่านาย Cook ได้กล่าวถึง Palm และนาย Jon Rubinstein ผู้ใหญ่ของ Palm ที่เคยทำงานกับแอปเปิลมาก่อน แม้ว่าเขาจะไม่ได้กล่าวถึง Palm ตรง ๆ ก็ตาม ... "ผมไม่ได้พูดเจาะจงถึงบริษัทไหน"
แม้ว่า Palm และผู้พัฒนากลุ่มใหญ่ที่เคยทำงานกับแอปเปิล ที่ถูกชักชวนโดย Jon Rubinstein ยังไม่ประกาศวันเปิดตัวของ Palm Pre แต่ดูเหมือนว่าแอปเปิลคงไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน
The Guardian รายงานว่าโฆษณาไอโฟน 3G ที่ออกอากาศผ่านทางโทรทัศน์ได้ถูกแบน โดยหน่วยควบคุมมาตราฐานโฆษณา (Advertising Standards Authority) ของสหราชอาณาจักร หลังจากที่มีเสียงเรียกร้องว่าแอปเปิลได้อ้างข้อมูลที่ไม่เป็นจริงในโฆษณาชุดนี้
โดยในโฆษณานี้นั้น ได้มีการกล่าวว่า "ทุก ๆ ส่วนของอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้จากไอโฟน" แต่จากความเป็นจริงแล้ว ไอโฟนยังไม่รองรับการใช้งาน Flash หรือ Java ที่เว็บไซต์หลาย ๆ แห่งใช้แต่อย่างใด โดยหน่วยควบคุมมาตราฐานโฆษณาได้สรุปว่า "โฆษณาชิ้นนี้ทำให้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสามารถทางด้านอินเทอร์เน็ตของไอโฟน"
บทความจาก ComputerWorld ได้เขียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตอบสนองจากทนายความของฝั่ง ThinkSecret ซึ่งได้บอกว่าเรื่องการตกลงนอกศาลระหว่างแอปเปิลกับ ThinkSecret นั้นจะไม่ถูกเปิดเผยแต่อย่างใด
Terry Gross แห่ง Gross & Belsky LLP ได้กล่าวกับ ComputerWorld ว่าด้วยบัญญัติข้อแรกของรัฐธรรมนูญของสหรัฐเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นนั้น นักข่าวในอินเทอร์เน็ตคนอื่น ๆ น่าจะรู้สึกถึงบางอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น
นั่นก็หมายความว่าเป็นไปได้ที่แอปเปิลนั้นจะแพ้คดีนี้ถ้าหากคดียังดำเนินต่อไป
หลังจากที่มีคดีต่อสู้กันมานานระหว่าง RIAA หรือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจสื่อบันทึกแห่งอเมริกากับหญิงชาวมินเนโซตาเจมี่ ธอมมาสที่ได้ดาวน์โหลดเพลง 24 เพลงและแชร์เพลงเหล่านี้บน Kazaa ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ออกมากล่าวสนับสนุนคำตัดสินของศาลและลูกขุน หลังจากที่ศาลได้ติดสินว่าเธอนั้นทำผิดและจำเป็นต้องปรับธอมมาสเป็นเงิน 222,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 6.8 ล้านบาท
กูเกิลรายงานว่าทางบริษัทได้ทำการเปิดเผยข้อมูลไอพีแอดเดรสของผู้ใช้งาน Blogger อย่าง "สมัครใจ" ให้กับศาลอิสราเอล
ขณะนี้มีผู้ใช้งานนิรนามใช้บล็อกในบริการ Blogger ของกูเกิลในการหมิ่นประมาทบุคคลหนึ่งในประเทศอิสราเอล หลังจากที่มีการยื่นฟ้องต่อศาลของอิสราเอล ทางศาลอิสราเอลได้ตัดสินให้กูเกิลเปิดเผยข้อมูลไอพีแอดเดรสของผู้ใช้งานนิรนามผู้นี้
สตีฟ แลงดอน โฆษกของกูเกิลได้ออกมากล่าวว่า "กูเกิลจะให้ข้อมูลของลูกค้าหรือผู้ใช้งานกูเกิลให้แก่บุคคลที่สามก็ต่อเมื่อมีการอนุญาตหรือร้องขออย่างถูกต้องตามกฏหมาย นี่เป็นการยืนยันว่าเราปกป้องสิทธิและความส่วนตัวของผู้ใช้บริการของเรา ในขณะเดียวกันนั้นก็มีความรับผิดชอบถ้าหากมีบุคคลใดใช้บริการของเราเพื่อกระทำใด ๆ อย่างผิดกฏหมาย"
หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้พยายามเรียกร้องขอความเป็นธรรมก่อนหน้านี้เมื่อศาลสหภาพยุโรปได้ตัดสินว่าไมโครซอฟท์นั้นดำเนินธุรกิจในลักษณะผูกขาด ล่าสุดเมื่อวานศาลยุโรปตัดสินว่าจะไม่เปลี่ยนคำตัดสินเดิมตามที่ไมโครซอฟท์เรียกร้อง
ตอนนี้ไมโครซอฟท์จะต้องเจอค่าปรับสูงถึง 497 ล้านยูโรพร้อมกับต้องจ่ายค่าธรรมเนียมกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ทีี่ใช้ในการต่อสู้คดีในครั้งนี้ รวมไปถึงสิ่งที่ไมโครซอฟท์คงไม่อยากจะทำ ซึ่งก็คือการที่จะต้องเอาโปรแกรม Media Player และเว็บบราวเซอร์ของตัวเองเก็บเข้ากรุไป นอกจากนี้ยังจะต้องช่วยคู่แข่งของตัวเองโดยการเสนอข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดและความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เพื่อที่จะให้ซอฟต์แวร์ของผู้ผลิตอื่น ๆ นั้นสามารถใช้งานได้กับระบบได้อย่างเต็มที่