PayPal รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2019 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 4,961 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 507 ล้านดอลลาร์

ปริมาณการใช้จ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์ม (Total Payment Volume) เพิ่มขึ้น 22% เป็น 199,404 ล้านดอลลาร์ มาจาก Venmo แพลตฟอร์มจ่ายเงินระหว่างบุคคลกว่า 29,000 ล้านดอลลาร์ (+56%) มีจำนวนธุรกรรมรวมกว่า 3,500 ล้านครั้ง จำนวนผู้ใช้งานใหม่ 9.3 ล้านบัญชี ทำให้จำนวนบัญชีรวมเพิ่มขึ้นเป็น 305 ล้านบัญชี

ซีเอฟโอ John Rainey กล่าวในช่วงแถลงผลประกอบการว่าแม้เศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวน แต่แนวโน้มใหญ่ก็ยังดีสำหรับ PayPal

ซัมซุงรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2019 รายได้รวม 59.88 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2018 มีกำไรจากการดำเนินงาน 7.16 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 3.64% และมีกำไรสุทธิ 5.23 ล้านล้านวอน

ธุรกิจชิปหน่วยความจำเป็นสาเหตุที่ซัมซุงบอกว่าทำให้ภาพรวมมีการเติบโตเล็กน้อย (รายได้ส่วนนี้ลดลง 15%) เนื่องจากราคา DRAM ที่มีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตามแนวโน้มกำไรนั้นดีขึ้น เนื่องจากความต้องการสินค้าลูกค้ากลุ่มศูนย์ข้อมูล และการปรับปรุงต้นทุน

ธุรกิจชิ้นส่วนหน้าจอก็มีรายได้ลดลงเช่นกัน จากความต้องการที่ลดลงในกลุ่มสินค้าพรีเมียม ส่วนสมาร์ทโฟนมีรายได้และกำไรเพิ่มสูงขึ้น จากยอดขายสินค้าตระกูล Galaxy ที่ดี

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2020 (ตุลาคม-ธันวาคม) มีรายได้รวม 36,906 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 11,649 ล้านดอลลาร์

ซีเอฟโอ Amy Hood กล่าวว่าจากผลงานของทีมขายและพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง ทำให้รายได้จากบริการคลาวด์องค์กรเพิ่มขึ้นถึง 39% เป็นกว่า 12,500 ล้านดอลลาร์

รายได้แยกตาม 3 กลุ่มธุรกิจหลักของไมโครซอฟท์ เป็นดังนี้ Productivity and Business Processes รายได้เพิ่มขึ้น 17% เป็น 11,826 ล้านดอลลาร์ มีการเติบโตสูงจาก Office 365 และ LinkedIn, กลุ่ม Intelligent Cloud เพิ่มขึ้น 27% เป็น 11,869 ล้านดอลลาร์ จากสินค้ากลุ่มเซิร์ฟเวอร์และบริการคลาวด์

Facebook รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2019 รายได้รวม 21,082 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 7,349 ล้านดอลลาร์

จำนวนผู้ใช้งานเฉพาะ Facebook แบบเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มีจำนวน 2.50 พันล้านบัญชี และแบบเป็นประจำทุกวัน (DAUs) 1.66 พันล้านบัญชี ในไตรมาสนี้ Facebook ยังรายงานตัวเลขผู้ใช้งานรวมทุกบริการในเครือ (Facebook, Instagram, Messenger, WhatsApp) โดยมี MAP (monthly active people) 2.89 พันล้านคน และ DAP 2.26 พันล้านคน

ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าไตรมาสนี้ Facebook ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่ง Facebook ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างบริการที่ช่วยเชื่อมต่อผู้คนเข้าหากัน

LINE รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2019 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 8.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 60,783 ล้านเยน และขาดทุนสุทธิ 14,582 ล้านเยน ทั้งนี้รายได้ส่วนใหญ่ของ LINE (79%) มาจากในประเทศญี่ปุ่น

จำนวนผู้ใช้งานแบบเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) ใน 4 ประเทศหลักมี 164 ล้านบัญชี โดยในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4 ล้านบัญชีเป็น 83 ล้านบัญชี ไทยเพิ่มขึ้น 1 ล้านบัญชีเป็น 45 ล้านบัญชี ไต้หวันคงที่ และอินโดนีเซียลดลง

ธุรกิจหลักของ LINE (โฆษณา-คอนเทนต์) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 11.5% เป็น 51,830 ล้านเยน และมีกำไรจากการดำเนินงานส่วนนี้ 6,625 ล้านเยน ขณะที่ธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์ซึ่งมีการลงทุนสูง รายได้ลดลง 5.7% เป็น 8,953 ล้านเยน ขาดทุนเฉพาะส่วนนี้ 14,145 ล้านเยน

แอปเปิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2020 (ตุลาคม-ธันวาคม 2019) ไตรมาสนี้ถูกจับตามองมากเนื่องจากรวมยอดขายของ iPhone 11 ที่มีรายงานข่าวมาตลอดว่าขายดี ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะรายได้รวมแอปเปิลเพิ่มขึ้นถึง 9% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 91,819 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นสถิติใหม่สูงสุดของบริษัท มีกำไรสุทธิ 22,236 ล้านดอลลาร์ (อันนี้ก็สถิติสูงสุดเช่นกัน) และมีรายได้จากตลาดต่างประเทศ 61% ของรายได้รวม

AMD รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2019 รายได้รวม 2,127 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 50% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นสถิติใหม่ของบริษัทต่อไปอีกไตรมาส และมีกำไรสุทธิ 170 ล้านดอลลาร์ ที่น่าสนใจคืออัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 45% จากปีก่อนอยู่ที่ 38% ซึ่ง AMD บอกว่ามาจากการเพิ่มสินค้าซีพียู 7 นาโนเมตร

กลุ่มธุรกิจ Computing and Graphics (Ryzen, Radeon) เป็นรายได้และปัจจัยสำคัญให้ตัวเลขมีการเติบโตสูง โดยเพิ่มขึ้นถึง 69% เป็น 1,662 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Enterprise ภาพรวมเติบโต 7% จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ EPYC ขณะที่สินค้า Semi-Custom มีรายได้ลดลง

eBay รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 รายได้รวม 2,821 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน มียอดขายบนแพลตฟอร์มสุทธิ (GMV) 23,299 ล้านดอลลาร์ ลดลง 5% และมีกำไรสุทธิ 556 ล้านดอลลาร์

จำนวนผู้ซื้อสินค้าที่แอคทีฟมีจำนวนเพิ่มขึ้น 2% เป็น 183 ล้านคน

ผลประกอบการในไตรมาสนี้ยังรวมรายได้จาก StubHub ที่ eBay ประกาศจะขายธุรกิจให้ Viagogo ซึ่งดีลดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสปัจจุบัน โดยไตรมาส 4 ที่ผ่านมา StubHub มีรายได้ 321 ล้านดอลลาร์

ที่มา: eBay

ดีแทครายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2562 รายได้รวม 21,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 930 ล้านบาท เนื่องจาก EBITDA ที่ลดลง เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต้นทุนภายหลังการสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านโครงข่าย

จำนวนผู้ใช้งานมีอยู่ 20.642 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 2.26 แสนเลขหมายจากไตรมาสที่ 3/2562 แบ่งเป็นระบบรายเดือนเพิ่มขึ้น 4.5 หมื่นเลขหมาย และเติมเงินเพิ่มขึ้น 1.81 แสนเลขหมาย รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) อยู่ที่ 262 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน

อินเทลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2019 มีรายได้รวม 20,209 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เป็นสถิติใหม่สูงสุดของไตรมาส และมีกำไรสุทธิ 6,905 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Bob Swan กล่าวว่าในปีที่ผ่านมา อินเทลได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากการเน้นเจาะตลาดที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในการจัดการ เคลื่อนย้าย และเก็บข้อมูล แนวโน้มนี้จะยังดำเนินต่อไปในปีนี้

Netflix รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 รายได้รวม 5,467 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 30.6% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 587 ล้านดอลลาร์

ในไตรมาสที่ผ่านมา Netflix มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 8.76 ล้านคน รวมเป็น 167.09 ล้านคนทั่วโลก ที่น่าสนใจคือจำนวนผู้ใช้เฉพาะในอเมริกามีเพิ่มขึ้นเพียง 4.2 แสนคน สาเหตุหลักจากอัตราค่าบริการ Netflix ในอเมริกาที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมทั้งบริการสตรีมมิ่งคู่แข่งต่างทยอยเปิดตัวในช่วงที่ผ่านมา

คอนเทนต์เด่นในไตรมาสที่ผ่านมาก็คือ The Witcher ซึ่งมีผู้ชมแล้วกว่า 76 ล้านคนใน 4 สัปดาห์แรก ส่วนภาพยนตร์ 6 Underground มีคนดูแล้วถึง 83 ล้านคน

ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2019 รายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2018 เป็น 21,777 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 3,670 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจ Cloud & Cognitive Software ซึ่งรวมทั้ง Red Hat ด้วย มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 7,238 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.7% ส่วนกลุ่ม Global Technology Services มีรายได้ลดลง 4.8% เป็น 6,949 ล้านดอลลาร์ และกลุ่ม Systems รายได้เพิ่มขึ้น 16.0% เป็น 3,042 ล้านดอลลาร์ ปัจจัยหลักจากเมนเฟรมรุ่นใหม่ IBM z15

HTC เผยรายได้ตลอดทั้งปี 2019 อยู่ที่ 10,015 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 10,136 ล้านบาท) ลดลง 57.82% จากปี 2018 ที่ทำไว้ 23,741 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน

รายได้ของ HTC ลดลงต่อเนื่องมาทุกปี ตัวเลขของปี 2018 เองก็ลดลงจากปี 2017 ถึง 62% (รายได้ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน) และในอดีต HTC เคยทำรายได้ไว้สูงสุดที่ 4 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันเมื่อปี 2011

HTC เพิ่งเปลี่ยนตัวซีอีโอใหม่เมื่อเดือนกันยายน 2019 โดยดึง Yves Maitre อดีตผู้บริหารเครือข่าย Orange ของฝรั่งเศสมารับตำแหน่ง และเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะกลับมาโฟกัสสมาร์ทโฟนอีกครั้ง

Huawei ประกาศผลประกอบการตลอดทั้งปี 2019 รายได้รวม 8.5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท) เติบโตขึ้น 18% จากปี 2018 แม้โดนมรสุมการแบนจากรัฐบาลสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ถือว่าโตน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และน้อยกว่าอัตราการเติบโตของปี 2018 (ทำไว้ 19.5%) แสดงให้เห็นว่าการแบนของรัฐบาลสหรัฐมีผลกระทบต่อ Huawei อยู่บ้าง

ส่วนตัวเลขยอดขายมือถือของ Huawei อยู่ที่ 240 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้นจากปี 2018 ที่ขายได้ 206 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของ Huawei ในปี 2020 จะเริ่มประสบปัญหาไม่มี Google Mobile Services ซึ่งย่อมส่งผลระทบต่อยอดขายเช่นกัน

Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2019 สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน รายได้รวมยังคงเติบโตทำสถิติใหม่สูงสุดต่อไปที่ 2,992 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 852 ล้านดอลลาร์

Shantanu Naraye กล่าวว่า Adobe ยังคงมีผลประกอบการที่สุดยอด โดยสุทธิตลอดปีการเงิน 2019 บริษัทสามารถทำรายได้ทะลุ 11,000 ล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ และจากวิสัยทัศน์แนวทางที่ออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต่อเนื่อง จะทำให้ปี 2020 ยังเป็นปีที่ดียิ่งขึ้นไปอีก

รายได้ของ Adobe จาก subscription ในไตรมาสที่ผ่านมา 2,687 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23% ซึ่งแทบจะเป็นรายได้เกือบทั้งหมดของ Adobe แล้ว

Slack รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2020 สิ้นสุดเดือนตุลาคม รายได้รวมเพิ่มขึ้น 60% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เป็น 168.7 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 87.8 ล้านดอลลาร์

Allen Shim ซีเอฟโอ Slack อัพเดตตัวเลขฐานลูกค้า โดยมีลูกค้า 821 รายที่มีค่าใช้จ่ายรายปีสูงกว่า 1 แสนดอลลาร์ และมีลูกค้า 50 ราย ที่มีค่าใช้จ่ายต่อปีมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ สะท้อนว่าลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ตัดสินใจใช้ Slack มากขึ้น ภาพรวมนั้น จำนวนลูกค้าแบบเสียเงินรวมมีมากกว่า 1.05 แสนราย

ที่มา: Slack

Xiaomi รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 รายได้รวม 53,661.0 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,519.4 ล้านหยวน

รายได้จากธุรกิจสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 32,268.4 ล้านหยวน ลดลง 7.8% โดยคิดเป็น 60% ของรายได้รวม Xiaomi คิดเป็นยอดขาย 32.1 ล้านเครื่อง ปัจจัยหลักนั้น Xiaomi มาจากเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านอุปกรณ์ 4G ไปเป็น 5G ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายเป็นหัวหอกสำคัญในการเติบโตครั้งใหญ่ในปีหน้า

AIoT (AI + IoT) ที่เป็นอีกธุรกิจเสริมทัพตามกลยุทธ์ของ Xiaomi มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 44.4% เป็น 15,606.3 ล้านหยวน มีอุปกรณ์ที่ขายไปแล้วรวมสุทธิ 213.2 ล้านชิ้น ที่น่าสนใจคือมีถึง 3.5 ล้านบัญชี ที่มีอุปกรณ์อย่างน้อย 5 ชิ้น เชื่อมต่อเข้ามาในแพลตฟอร์ม

HP Inc. รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (สิงหาคม-ตุลาคม 2019) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 0.3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 15,407 ล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิอยู่ที่ 388 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจ Personal Systems รายได้เพิ่มขึ้น 3.6% เป็น 10,426 ล้านดอลลาร์ ภาพรวมมีจำนวนคอมพิวเตอร์ที่ขายได้เพิ่มขึ้น 8% การเติบโตของรายได้หลักมาจากลูกค้าองค์กร ส่วนธุรกิจพรินเตอร์รายได้ลดลง 6% เป็น 4,982 ล้านดอลลาร์

HPE (Hewlett Packard Enterprise) รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (สิงหาคม-ตุลาคม) มีรายได้รวม 7,215 ล้านดอลลาร์ ลดลง 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 480 ล้านดอลลาร์ ดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน

กลุ่มธุรกิจหลัก Hybrid IT รายได้ลดลง 11% เป็น 5,670 ล้านดอลลาร์ กลุ่ม Intelligent Edge ลดลง 6% เป็น 723 ล้านดอลลาร์ และกลุ่ม Financial Services 878 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6%

ซีอีโอ Antonio Neri ให้สัมภาษณ์กับ CNBC มองว่าวงจรการขาย (sales cycles) มีระยะเวลาที่นานขึ้น โดยเฉพาะกับดีลขนาดใหญ่ จึงส่งผลกระทบกับบริษัท

JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2019 มีรายได้รวม 18,865 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28.7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายสินค้า 16,628 ล้านดอลลาร์ และรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการ (Marketplace, โฆษณา, ลอจิสติกส์) 2,237 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 85.7 ล้านดอลลาร์

จำนวนลูกค้าที่มีการใช้งานประจำในรอบ 12 เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 334.4 ล้านบัญชี เทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ที่ 321.3 ล้านบัญชี

ไฮไลท์สำคัญในไตรมาสที่ผ่านมามีทั้ง การเปิดตัวแพลตฟอร์ม Jingxi ที่เน้นเจาะเมืองรองในจีน และปรับปรุงการส่งสินค้าโดย 90% ของสินค้า JD.com จัดจำหน่ายโดยตรง สามารถส่งได้ภายใน 24 ชั่วโมงที่จีน

NVIDIA รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปีการเงินบริษัท 2020 (สิงหาคม-ตุลาคม 2019) รายได้รวมลดลง 5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 3,014 ล้านดอลลาร์ แต่เพิ่มขึ้น 17% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และมีกำไรสุทธิ 899 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Jensen Huang กล่าวว่าผลการดำเนินงานไตรมาสนี้ผลักดันจากลูกค้ากลุ่มเกมมิ่งและไฮเปอร์สเกล อีกทั้ง NVIDIA ยังเห็นแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม Data Center ซึ่งเป็นผลจากความต้องการด้าน AI ที่มากขึ้น มีการนำไปใช้งานทั้งระดับคลาวด์ไปจนถึงเอดจ์

ที่มา: NVIDIA

ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2562 มีรายได้รวม 36,735 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2561 EBITDA 10,303 ล้านบาท (กำไรก่อนดอกเบี้ย-ภาษี-ค่าเสื่อมราคา-ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย) และมีกำไรสุทธิ 2,857 ล้านบาท

ในไตรมาสนี้มีรายการสำคัญคือ การขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวม DIF และมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ ส่วนใหญ่เป็นการด้อยค่าของสินทรัพย์โครงข่ายเทคโนโลยีเก่า ซึ่งทรูบอกว่าหากไม่รวมรายการเหล่านี้ ไตรมาสนี้จะขาดทุนราว 500 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานแยกตามกลุ่มธุรกิจของทรู เป็นดังนี้

Cisco รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ของปีการเงินบริษัท 2020 (สิงหาคม-ตุลาคม 2019) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 13,159 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,926 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Chuck Robbins ชี้แจงกับนักวิเคราะห์ในช่วงแถลงผลประกอบการว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีผลต่อธุรกิจ โดยมีการชะลอการลงทุนจากองค์กร หลายดีลขนาดใหญ่ที่ปิดได้ก็มีการลดขนาดลง

กลุ่มธุรกิจหลัก Infrastructure Platform รายได้ลดลง 1% เป็น 7,538 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Applications มีรายได้ 1,499 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% และกลุ่ม Security รายได้โต 22% เป็น 815 ล้านดอลลาร์

Tencent รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2019 รายได้รวม 13,748 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 2,882 ล้านดอลลาร์ ลดลง 13%

ซีอีโอ Ma Huateng กล่าวว่า Tencent เพิ่งประกาศพันธกิจใหม่ขององค์กร (Mission) ว่า Value for Users, Tech for Good ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้า

รายได้จากเกมสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 25% โดยในจีนมีเกมใหม่คือ Peacekeeper Elite ส่วนต่างประเทศ PUBG MOBILE ยังคงเติบโตสูง และมี Call of Duty Mobile ที่ร่วมพัฒนา ได้รับการตอบรับที่ดี

กลุ่มโฆษณาออนไลน์เติบโต 13% ส่วนกลุ่ม FinTech กับบริการธุรกิจองค์กร (คลาวด์+โซลูชัน) รายได้เพิ่มขึ้น 36%

Sea กลุ่มบริษัทแม่ของ Garena และ Shopee รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 3 ปี 2019 รายได้รวม 763.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 214.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 และมี EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย-ภาษี-ค่าเสื่อมราคา-ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย) ขาดทุน 30.8 ล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากปีก่อน สุทธิแล้วขาดทุน 175.1 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจสื่อบันเทิงดิจิทัล (Garena) รายได้เพิ่มขึ้น 212% เป็น 451.0 ล้านดอลลาร์ EBITDA 266.0 ล้านดอลลาร์ จำนวนผู้ใช้งานในไตรมาส (QAUs) เพิ่มขึ้นเป็น 321.1 ล้านบัญชี ส่วนจำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงินเพิ่มเป็น 29.2 ล้านบัญชี