European Union
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้ออกกฎหมายใหม่กำหนดให้รถยนต์ที่จะผลิตใหม่และขายในยุโรปต้องติดตั้งระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะที่เรียกว่า ISA (Intelligent Speed Assistance) เพื่อช่วยในการแจ้งเตือนผู้ขับเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนดหรือช่วยจำกัดความเร็วอัตโนมัติ และล่าสุดทางการ New york เองก็เริ่มนำเอาระบบอุปกรณ์นี้มาทดลองใช้งานกับรถราชการแล้ว
รัฐสภายุโรปผ่านกฎหมายดิจิทัลที่สำคัญ 2 ฉบับคือ Digital Services Act (DSA) และ Digital Markets Act (DMA) ด้วยคะแนนท่วมท้น
Amazon เตรียมปรับวิธีการยกเลิกสมาชิก Prime สำหรับผู้ใช้ในสหภาพยุโรปทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ หลังจากมีข้อร้องเรียนจากกลุ่มและสมาคมผู้บริโภคว่าขั้นตอนแบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันสร้างความสับสน
การเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว Amazon ได้ปรับระบบยกเลิก Prime ใหม่ ซึ่งระบบใหม่นี้ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อนมาก ซึ่งคาดกันว่าเป้าหมายของดีไซน์ลักษณะนี้คือ Amazon ต้องการล็อกลูกค้าให้จ่ายเงิน Prime ต่อไปเรื่อย ๆ
สหภาพยุโรปกำลังจะได้ชุดกฎหมายกำกับดูแลสินทรัพย์คริปโต ที่ครอบคลุมหลายแง่มุมและใช้เหมือนกันทั้งหมดในประเทศสมาชิก EU
กรอบกฎหมายฉบับนี้เรียกว่า Markets in Crypto-assets (MiCA) ซึ่งตอนนี้กรอบการกำกับดูแลกว้างๆ ผ่านการเจรจาระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ (รัฐสภายุโรป) และฝ่ายบริหาร (รัฐบาลของประเทศในยุโรป) แล้ว
เมื่อต้นเดือนมิถุนายน รัฐสภายุโรปได้ผ่านโหวตให้แบนการจำหน่ายรถยนต์ใช้น้ำมันตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป
ล่าสุดมีประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 5 ชาติ คืออิตาลี, โปรตุเกส, สโลวาเกีย, บัลแกเรีย และโรมาเนีย ได้แสดงความจำนงให้เลื่อนการแบนออกไปอีก 5 ปี คือปี 2040 โดยระบุว่าปี 2035 ขอให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ 90% ก่อน แล้วค่อยลด 100% ภายในปี 2040
เจ้าหน้าที่จากบัลแกเรียคนหนึ่งระบุว่าการออกนโยบายแบบนี้ต้องคำนึงถึงเรื่องเศรษฐกิจและสังคมด้วย เพราะแต่ละชาติในสหภาพยุโรปก็มีกำลังซื้อที่ต่างกันมาก
ฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐสภายุโรป (European Parliament) ได้โหวตผ่านร่างพระราชบัญญัติด้วยคะแนน 339 ต่อ 249 เสียง ให้แบนการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป
ร่างพระราชบัญญัตินี้มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ 100% ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ แปลว่ารถที่มีเครื่องยนต์ไม่ว่าจะเป็นเบนซิน, ดีเซล หรือไฮบริดทุกชนิด ก็ต้องหยุดขายทั้งหมด
ด้านพรรคประชาชนยุโรป (European People's Party) ซึ่งเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม ได้พยายามขอยกเว้นรถไฮบริดให้ขายต่อได้ แต่ก็ไม่เป็นผล ส่วนพรรคกรีนก็อยากให้เลื่อนกำหนดการแบนเข้ามาเร็วขึ้นเป็นปี 2030 ก็ไม่เป็นผลเช่นกัน
ปัจจุบันการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชาติยุโรปมาจากรถยนต์ราว 12%
Arkady Volozh ผู้ร่วมก่อตั้ง Yandex บริการค้นหารายใหญ่จากรัสเซีย ประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ หลังสหภาพยุโรปใส่ชื่อเขาอยู่ในรายชื่อบุคคลจากรัสเซียที่ห้ามยุโรปทำธุรกิจด้วย
เหตุผลที่สหภาพยุโรปแบน Volozh ระบุว่าเป็นเพราะเขามีความใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซีย ให้การสนับสนุนทางการเงินต่อรัฐบาลรัสเซีย และสนับสนุนนโยบายการยึดดินแดนไครเมียและยูเครนด้วย อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปยังไม่ได้แบนตัวบริษัท Yandex แม้โครงสร้างบริษัทในปัจจุบันถือหุ้นโดยธนาคารของรัฐบาลรัสเซีย
Volozh ยังมีหุ้น 8.6% ใน Yandex ซึ่งมีสัดส่วนคะแนนเสียงมากถึง 45.3% โดยครอบครัวของเขาจะยังถือหุ้นก้อนนี้ต่อไป แม้ตัวเขาลาออกจากทุกตำแหน่งใน Yandex แล้ว
ท่ามกลางประเด็นถกเถียงต่างๆ หลัง Twitter ตอบรับข้อเสนอซื้อของ Elon Musk ฝั่งของสหภาพยุโรปก็เริ่มทดลองเปิดบริการโซเชียลของตัวเอง ได้แก่ EU Voice (โซเชียลแบบ Twitter) และ EU Video (บริการวิดีโอแบบ YouTube)
บริการทั้งสองตัวเป็นการทดลองสร้างโซเชียลมีเดียทางเลือก (an alternative social media pilot program) โดยหน่วยงานด้านคุ้มครองข้อมูลของยุโรป European Data Protection Supervisor (EDPS) เป้าหมายหลักคือสร้างบริการโซเชียลที่คุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ไม่หารายได้จากโฆษณา และสร้างจากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่โปร่งใส
สหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ รายงานความคืบหน้ารายละเอียดของกฎหมายดิจิทัล Digital Markets Act (เรียกย่อว่า DMA) ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือ แอพแชตส่งข้อความรายใหญ่ จะต้องรองรับการรับ-ส่งข้อความ กับแพลตฟอร์มขนาดเล็กรายอื่นด้วย
กฎหมายนี้มีเป้าหมายกำกับดูแลแพลตฟอร์มแชตขนาดใหญ่ นิยามว่ามีผู้ใช้งาน MAUs อย่างน้อย 45 ล้านคน เฉพาะในยุโรป หรือหากเป็นแอปแชตระดับองค์กรต้องมีลูกค้ามากกว่า 10,000 รายเฉพาะยุโรปเช่นกัน
แนวทางของ DMA เพื่อให้แพลตฟอร์มรายใหญ่เปิดให้แอปแชตรายเล็ก เข้าถึงผู้ใช้งานในแพลตฟอร์มได้ โดยในแถลงการณ์ได้ยกตัวอย่างเช่น iMessage, Facebook Messenger หรือ WhatsApp ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากในยุโรป จะต้องเปิดให้แอปอื่นส่งข้อความไปหาหรือรับข้อความได้
สัปดาห์ที่แล้ว รัฐสภายุโรปผ่านกฎหมายดิจิทัลสำคัญฉบับหนึ่งคือ Digital Services Act (ต่อไปจะย่อ DSA) ด้วยคะแนน 530 ต่อ 78 เสียง (งดออกเสียง 80)
กฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อกำกับดูแลแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียและอีคอมเมิร์ซ ที่มีภาระความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ในการนำเนื้อหาหรือสินค้าผิดกฎหมายออกจากแพลตฟอร์มภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องเนื้อหาผิดกฎหมาย ข่าวปลอม สินค้าผิดกฎหมาย
ในกรณีที่เป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ (very large online platforms หรือ VLOP) ยังมีหน้าที่ต้องนำเนื้อหาที่อันตราย (harmful ซึ่งอาจไม่ผิดกฎหมาย) และข่าวปลอมออกจากแพลตฟอร์ม รวมถึงต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระ และเปิดเผยอัลกอริทึมที่ใช้คัดเลือกเนื้อหามาแสดงด้วย
บริษัทคลาวด์สตอเรจแบบโฮสต์เอง Nextcloud จากเยอรมนี ร่วมกับกลุ่มบริษัทซอฟต์แวร์สายโอเพนซอร์สจากยุโรป ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการยุโรป (European Commission) ให้ตรวจสอบไมโครซอฟท์ในข้อหาผูกขาด OneDrive ผ่านการพ่วงไปกับ Windows
Nextcloud ให้บริการระบบแชร์ไฟล์และการสื่อสารภายองค์กร (แชท อีเมล ปฏิทิน) ซึ่งถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Office 365 จุดต่างคือระบบของ Nextcloud เป็นการโฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรเอง (on premise) ด้วยเหตุผลเรื่องต้นทุน การเข้าถึง ความปลอดภัย
Nextcloud ระบุว่าพฤติกรรมการพ่วง OneDrive หรือ Teams ของไมโครซอฟท์ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของไมโครซอฟท์ในยุโรปเพิ่มสูงถึง 66% ในขณะที่ผู้ให้บริการรายย่อยๆ เหลือส่วนแบ่งเพียง 16% ถือว่าคล้ายกับกรณีผูกขาดเว็บเบราว์เซอร์ในอดีตมาก
Erik Thedéen ผู้อำนวยการ Swedish Financial Supervisory Authority หน่วยงานกำกับดูแลการเงินของสวีเดน ร่วมกับ Björn Risinger ผู้อำนวยการ Swedish Environmental Protection Agency หน่วยงานกำกับดูแลสิ่งแวดล้อมของสวีเดน เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง EU ให้แบนการขุดเหมืองคริปโต ซึ่งสิ้นเปลืองพลังงานและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
จดหมายฉบับนี้ระบุว่า ตอนนี้เรายังไม่เห็นประโยชน์ของทรัพย์สินคริปโตต่อสังคม แต่โทษนั้นเห็นได้ชัดเจน ทั้งการฟอกเงิน ใช้จ่ายเงินค่าไถ่ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการสิ้นเปลืองพลังงานไปอย่างเปล่าประโยชน์ ยิ่งมูลค่าของเหรียญเพิ่มขึ้น คนที่สนใจเข้ามาขุดก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สหภาพยุโรปประกาศความสำเร็จปฎิบัติการ Dark HunTOR การตามล่าผู้ค้ายาเสพติดผ่านตลาดมืด DarkMarket ที่ถูกปิดไปตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา รวมผู้ต้องหาถูกจับกุมทั้งหมด 150 คน แบ่งเป็น สหรัฐฯ 65 คน, เยอรมนี 47 คน, สหราชอาณาจักร 24 คน, อิตาลี 4 คน, เนเธอร์แลนด์ 4 คน, ฝรั่งเศส 3 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 2 คน, และบัลแกเรีย 1 คน
นอกจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ยังมีเงินสดและเงินคริปโตถูกยึด 31 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,000 ล้านบาท) ยาเสพติด 234 กิโลกรัม และอาวุธปืน 45 รายการ
ปฎิบัติการครั้งนี้ยังทำให้ตำรวจอิตาลีปิดตลาดมืด DeepSea และ Berlusconi โดยสองตลาดมีรายการประกาศขายสินค้ารวมกว่าแสนรายการ
ข่าวการโดนกำกับดูแลของเว็บเทรดคริปโต Binance ยังออกมาอย่างต่อเนื่อง (ข่าวโดนหน่วยงานกำกับของอังกฤษแบน, ธนาคาร Barclays ห้ามโอนเงินเข้า, ก.ล.ต.ไทยเอาผิด)
ล่าสุด Financial Times รายงานว่า Binance ส่งอีเมลแจ้งผู้ใช้งานว่าขอหยุดการรับโอนเงินเข้าจาก Single Euro Payments Area (SEPA) เครือข่ายการจ่ายเงินของยุโรป โดยไม่ระบุสาเหตุแน่ชัด แต่ก็คาดกันว่าน่าจะมาจากนโยบายของฝั่ง SEPA (การถอนเงินจาก Binance มายัง SEPA ยังทำได้)
สัปดาห์ที่ผ่านมาสหภาพยุโรปเริ่มเดินหน้าออกใบรับรอง COVID-19 แบบดิจิทัล ทำให้ชาติสมาชิกสามารถสแกน QR เพื่อตรวจสอบใบรับรองได้ ผมสำรวจการออกแบบ QR ที่สหภาพยุโรปออกแบบครั้งนี้ พบว่ามีความน่าสนใจหลายประการโดยเฉพาะกระบวนการออกใบรับรองที่ง่ายเนื่องจากสามารถออกใบรับรองผ่านแอปหรือแม้แต่พิมพ์ใบรับรองเป็นกระดาษด้วยตัวเอง, ยังมีความปลอดภัยสูงด้วยกระบวนการยืนยันข้อมูลด้วยลายเซ็นดิจิทัล, และสุดท้ายคือการออกแบบฟอร์แมตข้อมูลถูกออกแบบด้วยเทคนิคหลายอย่างเพื่อให้ QR มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้สแกนได้ง่าย
วันนี้ 1 ก.ค. สหภาพยุโรปเริ่มใช้งานใบรับรองฉีดวัคซีน COVID-19 แบบดิจิทัลแล้ว โดยมีชาติสมาชิกเข้าร่วมทั้งหมด 29 ประเทศ
ประชาชนในชาติสมาชิกที่เข้าร่วม ที่ฉีดวัคซีนแล้ว / ทดสอบแล้วผลเป็นลบ / ป่วยแล้วหายแล้ว จะได้ใบรับรองนี้มาใช้งาน วิธีการคือแสดง QR Code บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อแสดงตนเวลาเดินทางในสหภาพยุโรป หากสถานที่บางแห่งจำเป็นต้องตรวจสอบว่าฉีดวัคซีนหรือยัง ก็สามารถแสดง QR Code เพื่อให้เจ้าหน้าที่สแกนได้ (ในกรณีที่ไม่มีมือถือ ก็สามารถขอเวอร์ชันกระดาษที่มี QR ได้เช่นกัน)
สหภาพยุโรป เสนอร่างข้อกำหนดควบคุมการใช้ AI โดยจะเป็นนโยบายแรกของโลกในการกำกับดูแลและกำหนดขอบเขตของบริษัทว่าสามารถใช้ AI ได้ถึงระดับไหน เนื่องจาก AI ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ทั้งการคุกคามความเป็นส่วนตัว และความโน้มเอียง
ตัวร่างข้อกำหนดความยาว 108 หน้า แบ่งความเสี่ยง AI เป็น 4 ขั้น
ต่อเนื่องจากการฟ้องร้องในสหรัฐ, ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร ล่าสุด Epic Games ขยายวงของคดีความไปยังสหภาพยุโรปแล้ว
Epic Games ยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการทั่วไปด้านการแข่งขันของคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission’s Directorate-General for Competition) ในข้อหาคล้ายกันคือผูกขาด App Store และปิดกั้นกระบวนการชำระเงิน เป็นการใช้อำนาจเหนือตลาดในทางที่ผิดในสหภาพยุโรป
DLA Piper บริษัทกฎหมายเผยตัวเลขคดีปรับตามกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวใหม่ของยุโรปหรือ GDPR ว่าตั้งแต่ 28 มกราคม 2020 เป็นต้นมา สหภาพยุโรปได้ออกบทลงโทษทางการเงินประมาณ 158.5 ล้านยูโร หรือประมาณ 192 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 39% จากช่วง 20 เดือนก่อนหน้าที่ Piper จัดทำในรายงาน และมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล 121,165 ครั้ง เพิ่มขึ้น 19% ภายในระยะเวลา 12 เดือน
การเข้าสู่ปี 2021 นี้สำหรับประชากรสหราชอาณาจักรจะมีความเปลี่ยนแปลงมากเป็นพิเศษเนื่องจากกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเดินหน้าเต็มตัว และทางรัฐบาลสหราชอาณาจักรก็เผยแพร่ข้อตกลงตัวเต็มหนาถึง 1246 หน้าออกมาเป็นผลการตกลงสุดท้าย แต่สำหรับวงการคอมพิวเตอร์อาจจะต้องแปลกใจเมื่อข้อตกลงส่วนหนึ่งกลับใช้มาตรฐานการเข้ารหัสแบบเก่า เช่น RSA-1024 และการแฮชแบบ SHA-1 รวมถึงโปรแกรมอ่านเมลที่ใช้ Netscape Communicator
Cedric O และ Mona Keijzer รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ตามลำดับ ลงนามร่วมกันในข้อเรียกร้องไปยัง EU สำหรับการออกมาตรการในกฎหมาย Digital Services Acts ที่กำลังจะออก เพื่อควบคุมและจัดการบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เจ้าของแพลตฟอร์มที่มีลักษณะ "gatekeeper" หรือผู้ควบคุมการเข้าออก (สินค้า, บริการ, ข้อมูล ฯลฯ)
หลังสหภาพยุโรปบังคับใช้ GDPR กฎหมายความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูลซึ่งค่อนข้างพลิกโฉมในแง่กฎหมายและการควบคุมเรื่องการรักษาข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยีจากภาครัฐ ตอนนี้สหภาพยุโรปกำลังร่างกฎหมายอีกฉบับชื่อ Digital Services Act ที่จะเน้นเรื่องการแข่งขันและการให้บริการ
ตัวกฎหมายคาดว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ แต่หนึ่งในรายละเอียดร่างแรกที่หลุดออกมาก็ค่อนข้างเคี่ยวแล้ว เมื่อสหภาพยุโรปพยายามจะบีบไม่ให้บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ผูกขาดกับข้อมูลผู้บริโภคที่ตัวเองเก็บได้ และจะบังคับให้แบ่งปันข้อมูลกับบริษัทเล็กกว่าที่ทำธุรกิจแบบเดียวกัน ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถทำการค้ากับข้อมูลชุดนั้นได้
จากมาตรการจัดเก็บภาษีบริการดิจิทัลใหม่ (Digital Services Tax หรือ DST) ที่รัฐบาลอังกฤษเสนอให้สหภาพยุโรปเก็บเพิ่ม บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Google, Apple และ Amazon เริ่มสื่อสารกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ว่าจะขึ้นค่าธรรมเนียมเพิ่มเช่นกัน
การควบรวมกิจการ Fitbit ของ Google น่าจะยืดเยื้อไม่น้อย หลังจากไม่กี่วันที่ผ่านมา Google ให้คำมั่นกับคณะกรรมาธิการยุโรปว่าจะไม่ใช้ข้อมูลจาก Fitbit ด้านการโฆษณา แต่ดูเหมือนทาง EU จะต้องการมากกว่านั้น
Financial Times รายงานว่าคณะกรรมาธิการยุโรปต้องการบีบให้ Google สัญญา (น่าจะเป็นลายลักษณ์อักษรที่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย) ว่าจะไม่นำข้อมูล Fitbit ไปส่งเสริมการโฆษณา รวมถึงต้องเปิดให้บริษัทภายนอก เข้าถึงข้อมูลได้เทียบเคียง Google (grant third parties equal access)
Slack ประกาศว่ายื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการยุโรป (European Commission) ในประเด็นการแข่งขันไม่เป็นธรรมจาก Microsoft Teams ที่แถมพ่วงไปกับ Office ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว จึงบิดเบือนโครงสร้างราคาและทำให้ Slack แข่งขันได้ยาก
Slack ระบุว่ามั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่ยอมรับพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายไม่ได้ ไมโครซอฟท์ทำผลิตภัณฑ์เลียนแบบ Slack แล้วนำไปผูกกับ Office ซึ่งเป็นพฤติกรรมแบบเดียวกับที่เคยใช้ตอนทำ IE แล้วพ่วงไปกับ Windows
ขั้นต่อไปคือ European Commission จะรับคำร้องเรียนของ Slack ไปพิจารณาว่าจะสอบสวนไมโครซอฟท์อย่างเป็นทางการหรือไม่