Fortnite จากค่าย Epic Games ยังคงเป็นเกมบนมือถือที่มาแรงต่อเนื่อง สามารถทำรายได้บน iOS ถึง 100 ล้านดอลลาร์ ภายใน 90 วันแรก แม้จะยังไม่เปิดให้เล่นบน Android ก็ตาม

จากข้องมูลของ SensorTower ระบุว่าในช่วง 90 วันแรกของการเปิดให้เล่นบน iOS เกม Fortnite สามารถทำรายได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์ เหนือกว่าอย่าง Honor of Kings หรือ RoV และ Knives Out

แต่หากเทียบสถิติด้านระยะเวลาในการทำรายได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์ บน iOS แล้ว เกม Fortnite ยังเป็นรองเกม Clash Royale ที่ใช้เวลาเพียง 51 วันเท่านั้น

ช่วงนี้เกมที่มาแรงสุดๆ จริงๆ หนีไม่พ้น Fortnite ที่กระแสดีมาก ล่าสุด Epic Games เผยข้อมูลว่ามีจำนวนผู้เล่นที่ลงทะเบียนเยอะถึง 125 ล้านคนแล้ว

ตัวเลขนี้ถือว่าเพิ่มขึ้นสูงมากจากที่ Epic Games เคยประกาศไว้ในเดือนมกราคม 2018 ว่ามียอดดาวน์โหลด 45 ล้านครั้ง และก่อนหน้านี้ Tencent ซึ่งเป็นผู้ลงทุนใน Epic ก็ระบุว่ามีผู้เล่น 40 ล้านคนที่เข้ามาเล่นเกมอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน

Fortnite เพิ่งประกาศออกเวอร์ชัน Nintendo Switch แต่ตอนนี้ยังไม่ออกเวอร์ชัน Android (มีเฉพาะ iOS) ซึ่งถ้าออกแล้วจะช่วยให้ยอดผู้เล่นขยับขึ้นได้อีกมาก

Epic เพิ่งประกาศทัวร์นาเมนต์ Fortnite World Cup ในปี 2019 โดยมีเงินรางวัลตั้งต้นสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์

ทาง Epic Games ได้ออกมาประกาศว่าเงินรางวัลรวมในทัวร์นาเมนต์นั้นจะมีมูลค่าถึง $100 ล้านเหรียญ (3,000 ล้านบาทไทย) ซึ่งนับเป็นเงินรางวัลที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการ Esport มากกว่ารายการ The International ของเกม Dota2 โดยยอดตัวเลขเงินรางวัลของ TI 7 ตอนนี้อยู่ที่ $20,793,780 เหรียญ (700 ล้านบาทโดยประมาณ)

ซึ่งตอนนี้ทางทีมงานยังไม่ได้ออกมาบอกรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการแข่งขันมากซักเท่าไรแต่ทางผู้พัฒนาก็ได้บอกว่าจะทำให้ออกมาให้ทุกคนสามารถรับชมได้อย่างสนุกแน่นอน

Epic Games ผู้พัฒนาเกม Fortnite ประกาศเตือนว่าอีเมลเชิญเล่น Fortnite Beta บน Android เป็นของปลอม เพื่อดักข้อมูลผู้ใช้

ตอนนี้ Fortnite บนมือถือยังมีเฉพาะเวอร์ชัน iOs เท่านั้น ส่วน Android กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา ทำให้กลายเป็นช่องว่างให้แฮ็กเกอร์อาศัยความอยากเล่นของชาว Android มาหลอกข้อมูล

Fornite : Battle Royale เป็นเกมส์แนว Battle Royale ต่อสู้เอาชีวิตรอดในสนามรบ ผู้ที่เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายจะชนะ แนวเดียวกับเกมรุ่นพี่อย่าง H1z1 และ PUBG แต่กระแสดีกว่าเพราะเปิดเป็น Free-To-Play และมีสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนเกม Battle Royale เกมอื่นๆ โดยสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างได้และเกมค่อนข้างจบเร็วกว่า

เกมที่มาแรงมากที่สุดในช่วงนี้คือ Fortnite Battle Royale ที่สะสมโมเมนตัมมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการประเมินรายได้ (อย่างไม่เป็นทางการ) โดยบริษัท Superdata Research ว่าสูงถึง 126 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2018

ตัวเลขนี้ถือว่าสูงกว่าเกมต้นฉบับอย่าง PUBG ที่ถูกประเมินว่าทำรายได้ 103 ล้านดอลลาร์ในเดือนเดียวกัน อย่างไรก็ตาม โมเดลการทำเงินของทั้งสองเกมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะ PUBG เน้นไปที่การซื้อไลเซนส์เกมในราคา 30 ดอลลาร์ (จ่ายครั้งเดียว) ส่วน Fortnite ให้เล่นฟรี แต่ทำเงินจากการขายสินค้าภายในเกมแทน

ส่วนตัวเลขผู้เล่นของ Fortnite ในเดือนกุมภาพันธ์ ประเมินว่าอยู่ที่ 45 ล้านคน และมีจังหวะผู้เล่นพร้อมกันมากที่สุดที่ 3.4 ล้านคน

Fortnite Battle Royal เกมแอคชันของค่าย Epic Games ที่กำลังมาแรงในช่วงหลัง ประกาศออกเวอร์ชันมือถือ โดยจะลงทั้ง Android และ iOS

Fortnite Battle Royale จะลง iOS ก่อน โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนรับคำเชิญในวันจันทร์หน้า 12 มีนาคม ส่วนเวอร์ชัน Android จะตามมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

สิ่งที่น่าสนใจคือ Fortnite Battle Royale บนมือถือรองรับฟีเจอร์ Cross Play เล่นแข่งกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ทั้งพีซี แมค และ PS4 ได้ด้วย โดยได้รับคำอนุญาตจาก Sony แล้ว (แต่กลับไม่มีชื่อของ Xbox One ในรายชื่อ Cross Play แม้เกมลง Xbox One ด้วย ตรงนี้ Epic ไม่ได้อธิบาย แต่เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเงื่อนไขของ Sony)

ที่มา - Epic Games

ค่าย Epic Games ประกาศแผนการยุติบริการ Paragon เกมแนว MOBA ของตัวเอง โดยจะมีผลในวันที่ 26 เมษายน 2018

Epic ระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เหตุผลสำคัญคือไม่สามารถพัฒนา Paragon ได้ดีพอตามที่สัญญาไว้ และเพื่อเป็นการชดเชยความผิดพลาด บริษัทจะคืนเงินให้ลูกค้าเต็มจำนวน (full refund) ผ่านบัญชี Epic Account

Paragon เป็นเกม MOBA ที่เปิดตัวรุ่นทดสอบในปี 2016 บน PS4 และ PC โดยเริ่มจากเกมแบบขาย ก่อนเปลี่ยนเป็น free-to-play และทำรายได้จากการขายไอเทมในปี 2017 แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดจนต้องประกาศปิดตัว

อย่างไรก็ตาม Epic กลับประสบความสำเร็จกับเกม Fortnite Battle Royale เกมแนว battle royale (แนวเดียวกับ PUBG) ที่เป็นเกมแบบ free-to-play เช่นกัน

Epic Games บริษัทค่ายเกมและพัฒนาเอ็นจินเกมอย่าง Unreal Engine ตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางการพัฒนาและธุรกิจฝั่งเกมของตัวเอง หลังโด่งดังมาจากเกม Third-person shooting อย่าง Gears of War โดยจะหันไปเน้นการพัฒนาเกมออนไลน์ที่เล่นได้หลายคน (multi-player) แทน

ผู้บริหารของ Epic Games ระบุว่าซีรีส์เกมอย่าง Gears of War มีต้นทุนในการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ และหากบริษัทพัฒนาขึ้นมาอีกภาค ต้นทุนน่าสูงเกิน 100 ล้านเหรียญ และหากไม่ประสบความสำเร็จ บริษัทอาจถึงขั้นล้มละลายได้เลย

Tim Sweeny ผู้ร่วมก่อตั้ง Epic Games ค่ายเกมชื่อดัง เจ้าของ Unreal Engine เอนจินทำเกมยอดนิยมตัวหนึ่ง เสนอแนวคิดเรื่องการทำให้ Universal Windows Platform เป็นแพลตฟอร์มเปิด หลังจากที่เคยออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ (ความเดิมตอนที่แล้ว)

VentureBeat รายงานว่า เขาเสนอให้ Universal Windows Application เปิดให้นักพัฒนาเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ได้ทัดเทียมเท่ากับบริการที่อยู่ใน Windows Store โดยสามารถสรุปเป็นข้อๆ ได้ ดังนี้

Tim Sweeney ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Epic Games เจ้าของเอนจิน Unreal Engine กล่าวถึงแนวทาง Universal Windows Platform ของไมโครซอฟท์ว่าไม่ใช่แนวคิดที่ดี และอุตสาหกรรมเกมจำเป็นต้องต่อสู้กับไมโครซอฟท์

เขาให้เหตุผลว่าไมโครซอฟท์กำลังผลักผู้พัฒนาเกมให้ลงสู่ walled garden ของ Windows Store ที่ยังมีระบบที่ไม่ดีพอ และเป็นการเพิ่มต้นทุนในการผลิต เขามองว่าควรให้อิสระกับผู้พัฒนาในการเลือกช่องทางการขายเกมแบบ Universal Windows Application ให้เปิดกว้างกว่านี้ อย่างเช่น การซื้อและดาวน์โหลดโดยไม่จำเป็นต้องผ่านหน้าร้านของไมโครซอฟท์

Epic Games ผู้พัฒนา Unreal Engine ชุดเครื่องมือสำหรับพัฒนาเกมชื่อดัง ประกาศเปิดตัวเครื่องมือตัวใหม่สำหรับพัฒนาเกม VR เข้ามาใน Unreal Editor ด้วยจุดเด่นที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทำเกมได้บนสภาพแวดล้อมแบบ VR จริงๆ

ช่วงนี้มีข่าวของ Final Fantasy VII Remake ออกมากันเรื่อยๆ ข่าวล่าสุดคือเอนจินของเกมเลือกใช้ Unreal Engine 4 ของค่าย Epic Games แทนการใช้ Luminous Studio แบบเดียวกับ Final Fantasy XV

Yoshinori Kitase ผู้บริหารของ Square Enix ระบุว่าร่วมมือกับ Epic Games อย่างใกล้ชิดในการพัฒนาเกมบนเอนจินตัวนี้ ส่วนฝั่งของ Epic ก็บอกว่าเป็นเกียรติที่เกมในตำนานเกมนี้เลือกใช้ Unreal Engine

ในยุคสมัยที่เกมแนว MOBA กำลังเป็นเทร็นด์ ค่ายเกมใหญ่น้อยก็เริ่มพัฒนาเกม MOBA ของตัวเอง ค่ายล่าสุดที่เข้ามาร่วมวงคือ Epic Games โดยใช้ชื่อเกมว่า Paragon

Paragon จะลงทั้ง PC และ PS4 (เล่นต่อสู้กันระหว่างเครื่องได้) เกมจะออกรุ่น Early Access ในฤดูใบไม้ผลิ 2016 และรุ่น Open Beta ช่วงฤดูร้อนปี 2016 ตัวเกมเป็นการต่อสู้แบบทีม 5v5 มีฉากให้เลือกหลากหลาย จุดเด่นของเกมคือการวางกลยุทธ์พลิกแพลงหลากหลายรูปแบบครับ

ที่มา - PlayStation Blog

ในยุคที่วงการเกมกำลังตื่นตัวกับการมาของ Virtual Reality ฝั่งผู้พัฒนาเกมอย่าง Epic Games ให้ความใส่ใจกับเทคโนโลยีที่มองว่าจะมาพลิกโฉมวงการเกมเป็นพิเศษด้วยการรองรับการพัฒนาเกม VR ด้วยเอนจิน Unreal Engine 4 ตั้งแต่เนิ่นๆ

Kim Libreri ซีอีโอของ Epic Games บอกว่าการรองรับ VR ของ Unreal Engine 4 เป็นการสร้างมาตรฐานให้กับการพัฒนาเกม VR ทั้งในแง่ของคุณภาพ และความง่ายในการพัฒนาไม่ว่าจะบนแพลตฟอร์มใดก็ตาม รวมถึงมองว่าการจับมือกันระหว่างไมโครซอฟท์ และ Oculus จะช่วยให้วงการนี้โตเร็วขึ้น หรืออย่างน้อยก็ลดปัญหาลง จากข้อมูลของ Windows ที่ผ่านการทำงานให้รองรับกับฮาร์ดแวร์ร้อยพ่อพันแม่มาก่อนแล้ว

ค่ายคู่แข่ง Unity เพิ่งออกเวอร์ชัน 5.1 ทางฝั่งของ Epic Games ก็ออกเอนจิน Unreal 4.8 มาในช่วงไล่เลี่ยกัน ของใหม่ในรุ่นนี้คือ

• ปรับปรุงเอนจินหญ้า (Grass Systems) ให้ทำงานในเกมที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ (เช่น เกมสาย open world) ได้ดีขึ้น
• เริ่มมีปลั๊กอินของ Unreal Engine แล้ว ปลั๊กอินตัวแรกมาจากบริษัท Allegorithmic
• ปรับปรุงเอฟเฟคต์ Motion Blur ให้ทำงานได้ละเอียดกว่าเดิม
• รองรับแว่น VR แทบทุกค่าย Oculus Rift, Samsung Gear VR, Steam VR, HTC Vive, Leap Motion, Project Morpheus

ที่มา - Unreal Blog

บริษัท Epic Games เจ้าของเอนจิน Unreal Engine ประกาศในแผน roadmap การพัฒนาเอนจินของตัวเองว่าจะเพิ่มการรองรับแว่น HTC Vive และแพลตฟอร์ม Valve SteamVR ด้วยอีกอย่างหนึ่ง

ที่ผ่านมา Unreal Engine รองรับแว่น VR หลายค่ายแล้ว ทั้ง Oculus Rift, Gear VR, Sony Project Morpheus ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ของ Epic Games ที่ต้องการสร้างจุดดึงดูดนักพัฒนาให้มาใช้เอนจินของตัวเองนั่นเอง

ที่มา - Road to VR

Unreal Engine 4 ประกาศปรับโมเดลรายได้ใหม่ เปิดให้ทุกคนเข้าใช้งานได้ฟรี แต่จะเริ่มคิดค่าธรรมเนียม 5% เมื่อรายได้เกิน 3,000 ดอลลาร์ต่อไตรมาส เปิดทางให้นักพัฒนาอิสระรายเล็กสามารถเลือกใช้งานได้ทันที

Unreal Engine 4 เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยคิดค่าสมาชิกรายเดือน เดือนละ 19 ดอลลาร์และคิดส่วนแบ่ง 5% เช่นกัน การประกาศครั้งนี้เป็นการเลิกเก็บค่าสมาชิกรายเดือน ส่วนสมาชิกที่จ่ายเงินไปแล้วจะได้รับเครดิตเข้าไปซื้อสินค้าใน Unreal Engine Marketplace คนละ 30 ดอลลาร์

Epic Games เจ้าของ Unreal Engine 4 ได้ร้องขอให้ Destructive Creations ซึ่งเป็นทีมพัฒนาเกม Hatred นำโลโก้ UE4 ออกจากวิดีโอเปิดตัวเกมเนื่องจากไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่ Hatred นำมาใช้เป็นจุดเด่นของเกม

Hatred เป็นเกม shooter มุมมองแบบ isometric ที่ให้ผู้เล่นสวมบทเป็นนักฆ่าที่เกลียดชังมนุษย์ที่พร้อมจะฆ่าทุกคนที่เขาเจอ โดยที่ฉากของเกมเป็นย่านชานเมือง New York โดยที่จุดเด่นของเกมคือฉากการสังหารผู้คนในเกมที่ทารุณโหดร้าย โดยหลังจาก Destructive Creations ปล่อยวิดีโอเปิดตัวเกม Hatred ได้ไม่นาน มันก็กลายเป็นประเด็นเกี่ยวกับความรุนแรงในเกมขึ้นมาทันที ซึ่งคาดว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ Epic Games ร้องขอให้นำโลโก้ UE4 ออกจากวิดีโอดังกล่าว

Epic Games ใจดี เปิดให้สถาบันการศึกษาสามารถนำ Unreal Engine 4 ไปใช้ฟรี ๆ ในการเรียนการสอน รวมไปถึงให้นักเรียนสามารถนำไปใช้เองได้อีกด้วย โดยนักเรียนที่เข้าข่ายจะต้องเป็นนักเรียนที่ศึกษาในสถาบันการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในสาขาวิชาด้านการพัฒนาวิดีโอเกม, วิทยาการคอมพิวเตอร์, ศิลปศาสตร์, สถาปัตยกรรมศาสตร์, ด้านการจำลองสถานการณ์, และการสร้างภาพนามธรรม

ทั้งนี้สถาบันการศึกษาจะต้องลงทะเบียนเพื่อที่จะเข้าร่วมโปรแกรมที่ unrealengine.com/education ครับ

ที่มา Unreal Engine Technology

ตามแผนที่วางเอาไว้ตั้งแต่เปิดตัว Unreal Engine 4 ว่าจะขยายการรองรับไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย และในเวอร์ชัน 4.1 นี้ Epic ก็ทำให้ Unreal Engine รองรับการใช้งานบน Linux และ SteamOS ได้แล้ว

นักพัฒนาที่สนใจจะใช้งาน Unreal Engine 4.1 สามารถเข้าถึงซอร์สโค้ดได้ที่ GitHub ซึ่ง ณ ตอนนี้ยังเป็นรุ่นพรีวิวอยู่ ตัวเต็มจะตามมาในช่วงปลายเดือนนี้ครับ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ สามารถดูได้จากที่มาครับ

ที่มา - Unreal Engine Blog

ค่ายเกมเอนจินใหญ่อย่าง Epic เปิดตัวเอนจิน Unreal Engine 4 (UE4) โดยใช้โมเดลการคิดค่าใช้จ่าย 19 ดอลลาร์ นักพัฒนาจะสามารถใช้งานทุกอย่างตั้งแต่ Unreal Editor ไปจนถึงซอร์สโค้ดทั้งหมดที่จะเปิดให้เข้าถึงได้บน GitHub แต่หลังจากเกมวางขายแล้วนักพัฒนาจะต้องแบ่งส่วนแบ่ง 5% ให้กับทาง Epic

ที่ต้องระวังคือส่วนแบ่ง 5% นั้นเป็นส่วนแบ่งจาก "ราคาขาย" ไม่ใช่รายได้ของผู้ผลิตเกม ดังนั้นหากผู้ผลิตขายผ่านช่องทางที่กินส่วนแบ่งสูงๆ ก็ต้องเตรียมอีก 5% มาจ่าย Epic ด้วยอีกทาง

UE4 ยังเป็นรุ่นแรก ทาง Epic ประกาศว่า UE4 เตรียมรองรับแพลตฟอร์มอื่นๆ อีก ได้แก่ Oculus VR, ลินุกซ์, Steam Machine, และเว็บผ่าน WebGL

เคยร่วมมือกันนำเอนจินเกม Unreal Engine 3 ไปรันบน Firefox แบบไร้ปลั๊กอินมาแล้ว ครั้งนี้ Mozilla ร่วมมือกับ Epic Games อีกครั้งเพื่อนำเอาเอนจินเกมตัวล่าสุดอย่าง Unreal Engine 4 ไปรันบน Firefox จนได้

ในตอนนี้โครงการดังกล่าวยังอยู่ในขั้นแรกเริ่ม แต่ก็สามารถรันเกมที่ใช้เอนจิน Unreal Engine 4 บนเบราว์เซอร์ Firefox ได้แล้ว โดยบอกว่าสามารถรันได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับ native เลยทีเดียว และจะยังต่อยอดไปยังเบราว์เซอร์อื่นที่รองรับ asm.js ได้ในอนาคตอีกด้วย

เกมที่โชว์ในวิดีโอตอนนี้มีแค่สองเกมคือ Epic Soul และ Swing Ninja ซึ่งเล่นได้ลื่นไหลดี แม้ว่าจะไม่มีการใช้ปลั๊กอินใดๆ มาช่วยเลยก็ตาม

วิดีโอตัวอย่างดูได้ท้ายข่าวครับ

ไมโครซอฟท์ประกาศเข้าซื้อแฟรนไซส์เกม Gears of War จากค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Epic Games โดยสิทธิ์ที่ว่านั้นรวมไปถึงชื่อเกม และสินค้าเกี่ยวกับเกมนี้

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังประกาศให้ค่ายเกม Black Tusk Studios จากแคนาดา เป็นผู้พัฒนาเกม Gears of War ภาคต่อไปอีกด้วย โดยได้ Rod Fergusson อดีตผู้อำนวยการฝ่ายผลิตของซีรีย์เกม Gears of War จาก Epic Games เป็นผู้ควบคุมการผลิต

งานนี้แฟนเกม Gears of War ต้องคอยภาวนาแล้วว่าเกมนี้ภายใต้การดูแลของไมโครซอฟท์จะออกมาดีหรือไม่ครับ

ที่มา: Xbox Wire ผ่าน Engadget

ข่าวนี้ต้องย้อนกันหลายชั้นหน่อยครับ เริ่มจาก โครงการ asm.js ของ Mozilla, Mozilla จับมือ Epic Games ทำเดโม Unreal Engine 3 บนเบราว์เซอร์, Chrome ประกาศรองรับ asm.js บ้าง

สำหรับข่าวนี้ ล่าสุด Chrome และเบราว์เซอร์อีกรายคือ Opera รองรับ asm.js ได้ดีขึ้นเยอะมากแล้ว (Chrome 31 และ Opera 18) สามารถรันเดโม Epic Citadel ได้แล้ว และทาง Epic เองก็ขึ้นชื่อของ Chrome/Opera เป็นเบราว์เซอร์ที่สามารถรันเดโมได้แล้ว

ก้าวไปอีกขั้นกับวงการเบราว์เซอร์ เมื่อ Mozilla จับมือกับ Epic Games พอร์ทเอนจินเกมคุณภาพสูงอย่าง Unreal Engine 3 ให้รันได้บนเบราว์เซอร์โดยที่ไม่ต้องลงปลั๊กอินได้แล้ว

ทีมที่ทำโปรเจคนี้บอกว่าใช้เวลา 4 วันในการพอร์ทโดยโค้ดเป็น JavaScript ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยโครงการ asm.js ของ Firefox เอง ผลที่ได้คือสามารถรันเกมที่ใช้ Unreal Engine 3 ได้อย่างลื่นไหลไม่แพ้ native กันเลย