หลังจากเปิดตัว Project xCloud มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 ไมโครซอฟท์ก็ประกาศเปิดให้คนทั่วไปเข้าร่วมทดสอบ xCloud เป็นครั้งแรก (public preview) ในเดือนตุลาคม 2019 โดยยังจำกัดแค่ 3 ประเทศคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้

การทดสอบต้องลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์ Xbox Game Streaming (เป็นไปได้ว่าอาจใช้ชื่อนี้ทำตลาด) และไมโครซอฟท์จะทยอยส่งคำเชิญให้ผู้เล่นเป็นชุดๆ ไป เริ่มจากชุดแรกเป็นจำนวนไม่มากนัก แล้วค่อยขยายจำนวนขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อทดสอบขีดความสามารถของไมโครซอฟท์ในการรองรับผู้เล่นจำนวนมาก

อีกหนึ่งข้อมูลสำคัญในบทสัมภาษณ์ของ Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox คือการสยบข่าวลือว่า ไมโครซอฟท์จะทำคอนโซลอีกตัวนอกเหนือจาก Project Scarlett

ข่าวนี้เกิดขึ้นเพราะ Project xCloud บริการเกมสตรีมมิ่งของไมโครซอฟท์ และ Xbox One S รุ่นไร้แผ่นดิสก์ ทำให้เกิดการคาดเดากันว่า ไมโครซอฟท์จะทำฮาร์ดแวร์คอนโซลที่เล่นได้เฉพาะเกมจาก xCloud เพียงอย่างเดียว (เหมือน Xbox One S รุ่นไร้แผ่น แต่เป็นสตรีมมิ่งเลย ไม่ต้องดาวน์โหลดก่อน)

Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Gamespot โดยเผยรายละเอียดของ Xbox รุ่นหน้า โค้ดเนม Scarlett ออกมาอีกเล็กน้อย

เขาบอกว่าสิ่งที่ไมโครซอฟท์จะโฟกัสมี 2 เรื่อง คือ เฟรมเรต และการ "เล่นได้" (playability) โดยเกมจะต้องโหลดเร็ว (Scarlett จะใช้ SSD) และต้องมีเฟรมเรตสูงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เขาบอกว่าไมโครซอฟท์ได้เปรียบที่ทำ Windows ด้วย เลยเห็นความพยายามของนักพัฒนาเกมในฝั่งพีซี ดังนั้นเป้าหมายของ Scarlett คือต้องการันตี 4K 60 FPS ให้ได้

ส่วนคำว่า playability เขาขยายความว่าเกมต้องโหลดเร็ว ต้องเข้าเกมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และขณะเล่นเกมจะต้องให้ความรู้สึกที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน

เราเริ่มเห็นข่าวลือของ Xbox Scarlett มาตั้งแต่กลางปี 2018 โดยลือกันว่า Scarlett มี 2 รุ่นย่อย

ปีนี้ ไมโครซอฟท์เปิดตัว Project Scarlett อย่างเป็นทางการ ก็มีข่าวลือตามมาว่า Scarlett จะเหลือฮาร์ดแวร์เพียงตัวเดียวคือฮาร์ดแวร์รุ่นบน (โค้ดเนม Anaconda) ส่วนฮาร์ดแวร์รุ่นล่าง (โค้ดเนม Lockhart) ถูกยกเลิกไปแล้ว

ทิศทางของวงการเกมในช่วงหลังเริ่มเห็นชัดว่ามีบริการเกมสตรีมมิ่งเข้ามา ทั้ง Google Stadia, Microsoft xCloud รวมถึงเจ้าเก่าที่หลายคนอาจลืมไปแล้วคือ PlayStation Now ด้วย

การเกิดขึ้นของเกมสตรีมมิ่ง ก่อให้เกิดคำถามว่าเรายังจำเป็นต้องมีเครื่องเกมคอนโซลอีกหรือไม่ ในฝั่งของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งเปิดตัว Project Scarlett ก็มีคำถามเช่นกันว่ามันจะกลายเป็นฮาร์ดแวร์ Xbox ตัวสุดท้ายหรือไม่

เรื่องนี้ Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ให้สัมภาษณ์ โดยยืนยันว่า Scarlett จะไม่ใช่คอนโซลตัวสุดท้ายอย่างแน่นอน เพราะสเปกของฮาร์ดแวร์จะพัฒนาไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา ในมุมของไมโครซอฟท์แล้ว การออก Scarlett เป็นการสะท้อน "จุดเปลี่ยน" ที่สำคัญของประสบการณ์ในการเล่นเกม

ผู้ที่เคยล็อกอินเข้าระบบ Xbox (แม้ไม่มีเครื่องคอนโซล Xbox ก็สามารถใช้ได้ผ่านแอพ Xbox ของ Windows 10) คงทราบกันดีว่ามันมีระบบตั้งชื่อบัญชีที่เรียกว่า Gamertag ซึ่งมีข้อจำกัดในการตั้งชื่ออยู่พอสมควร โดยเฉพาะการห้ามตั้งชื่อซ้ำกัน

แต่ด้วยอิทธิพลของแอพแชทสำหรับเกมเมอร์อย่าง Discord ที่อนุญาตให้ตั้งชื่อผู้ใช้ซ้ำกัน โดยจะมีตัวเลขห้อยท้ายหลังสัญลักษณ์ # ก็กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการเกม (เช่น Blognone#1048) จนทำให้ไมโครซอฟท์ต้องยอมอนุญาตให้ตั้งชื่อ Gamertag แบบมีตัวเลขห้อยท้ายเหมือนกันแล้ว ส่วนผู้ใช้เดิมที่ไม่ต้องการเปลี่ยนชื่อ Gamertag ก็สามารถใช้ชื่อของตัวเองได้ตามปกติ โดยไม่มีตัวเลขห้อยท้ายชื่อด้วย

ไมโครซอฟท์มีโครงการ Backward Compatibility นำเกมจาก Xbox 360 มาให้เล่นกันบน Xbox One ตั้งแต่ปี 2015 และเกมจาก Xbox Original รุ่นแรก ตั้งแต่ปี 2017

ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศยุติโครงการ Backward Compatibility แล้ว (เกมสำคัญๆ ของ 2 เจนแรกก็พอร์ตมาเกือบครบแล้ว) โดยประกาศเกมชุดสุดท้ายของโครงการ Backward Compatibility ดังนี้

Original Xbox

ในงาน E3 ปี 2015 ไมโครซอฟท์เปิดตัวจอยเกรดพรีเมียม Xbox Wireless Elite Controller และประสบความสำเร็จไม่น้อย เวลาผ่านมา 4 ปีเต็ม ก็ได้เวลาของจอยเวอร์ชันอัพเกรด Xbox Elite Wireless Controller Series 2

ฟีเจอร์ใหม่ในจอย Elite Series 2 คือตัวก้านโยก thumbstick สามารถปรับแรงต้านได้ 3 ระดับ, ตัว trigger สามารถล็อคระดับของความลึกในการกดได้, ตั้ง profile ของจอยได้ 3 แบบ และสลับไปมาได้ทันทีโดยกดที่ปุ่ม Profile จากตัวจอยโดยตรง, สามารถปรับแต่งปุ่มได้จากแอพ รวมถึงปรับแต่งคำสั่งเสียงได้เองด้วย

ไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าไล่ซื้อสตูดิโอพัฒนาเกมเข้าสังกัด Xbox Game Studios ตามนโยบายเพิ่มจำนวนเกมแบบ first party หลังจากที่ประกาศซื้อ-ตั้งสตูดิโอใหม่รวม 5 แห่ง ตอนกลางปี 2018 และซื้อเพิ่มอีก 2 แห่งช่วงปลายปี 2018

สตูดิโอรายล่าสุดที่เข้าสู่ครอบครัวไมโครซอฟท์คือ Double Fine Productions ซึ่งเป็นผู้รีมาสเตอร์เกมผจญภัยของ LucasArts เดิมอย่าง Grim Fandango, Day of the Tentacle, Full Throttle

เดือนที่แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดตัว Xbox Game Pass for PC เล่นเกมพีซีแบบเหมาจ่ายรายเดือน โดยระบุว่ามีเกมให้เล่นมากกว่า 100 เกมจากหลากหลายค่าย

เมื่อคืนนี้ที่งาน E3 2019 ไมโครซอฟท์ก็เผยข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง "ราคา" ที่หลายคนอยากรู้ ซึ่งได้ข้อสรุปว่า Xbox Game Pass for PC คิดค่าสมาชิก 9.99 ดอลลาร์ เท่ากับ Xbox Game Pass เวอร์ชัน Xbox One

หากเรามีเครื่อง Xbox One อยู่แล้ว และอยากสมัครบริการ Game Pass บนทั้งคอนโซลและพีซี ก็ไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อน เพราะไมโครซอฟท์มีแพ็กเกจ Xbox Game Pass Ultimate เดือนละ 14.99 ดอลลาร์ ได้ทั้ง Game Pass บน Xbox One, พีซี และค่าสมาชิก Xbox Live Gold ไปในตัว

ข่าวคราวเงียบหายไปนาน ในที่สุดในงาน E3 2019 ทาง Microsoft ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ให้ได้ชมกันแล้ว ทำแฟนๆ เกมนี้ขนลุกเกรียวกันเป็นแถว

ในคลิป นอกจากจะบอกว่าภาพที่เห็นนั้น เรนเดอร์ด้วยเกมเอนจิ้นล้วนๆ แล้ว ยังบอกวันวางจำหน่ายอีกด้วย

โดยตัวเกมจะจำหน่ายในช่วงปลายปี 2020 พร้อมๆ กับ Project Scarlett ไม่ต้องเดาว่าเกมนี้จะลงเฉพาะ Xbox แน่นอน

ส่วนจะลง Windows หรือไม่ต้องรอติดตามต่อไปครับ ระหว่างนี้ก็รอเล่น Master Chief Collection ไปพลางๆ ก่อนนะครับ ?

ในงานแถลงข่าวของไมโครซอฟท์ที่งาน E3 2019 เมื่อคืนนี้ คงไม่มีประเด็นไหนถูกจับตามากไปกว่า Xbox รุ่นหน้า โค้ดเนม Project Scarlett ซึ่งไมโครซอฟท์ก็แถลงข้อมูลอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

Project Scarlett มีกำหนดวางขายช่วงปลายปี 2020 โดยมีเกมเปิดตัวที่วางขายพร้อมกันคือ Halo Infinite (หรือ Halo 6)

เมื่อปลายเดือนทีเพิ่งผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกอัพเดตใหม่ให้กับ Xbox Game Bar แอพที่เกมเมอร์สามารถใช้เข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ Windows 10 มีให้ใช้งานขณะกำลังเล่นเกมผ่านการกดคีย์ลัด Windows + G เพื่อยกเครื่องตัวแอพครั้งใหญ่

โดยได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ซึ่งน่าจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกมเข้ามาหลายอย่าง จากเดิมที่สามารถใช้ประโยชน์ได้เพียงแค่การจับภาพสกรีนช็อต/อัดวิดีโอ, แคสต์เกม หรือเช็กแบตเตอรี่จอย Xbox เท่านั้น

ในยุคนี้เราเห็นการฟีเจอริ่งกันของแบรนด์ที่อยู่คนละหมวดหมู่สินค้ากันอยู่เป็นประจำ แต่กรณีนี้อาจจะเกิดจะคิดสักนิด เมื่อ Xbox ประกาศร่วมมือกับผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย Lynx (ในไทยคือแบรนด์ Axe) ออกสินค้าพิเศษ Lynx Xbox ที่มีทั้งเจลอาบน้ำ โรลออน และบอดี้สเปรย์

กลิ่นของ Lynx Xbox นั้นอธิบายไว้ว่า เป็นกลิ่นของซิตรัส ประกอบด้วย มะกรูด เลมอน และสมุนไพรอีกหลายอย่างผสมกัน เพิ่มพลังและความสดชื่นในยามเช้า

ถ้าอยากซื้ออาจต้องพยายามหน่อย เพราะ Lynx Xbox จะมีวางจำหน่ายเฉพาะร้านค้าในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เท่านั้น ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ส่วนประเทศอื่นจะมีหรือไม่ก็ต้องรออัพเดตกันอีกที

ไมโครซอฟท์มีบริการ Xbox Game Pass เล่นเกมเหมาจ่ายรายเดือนละ 9.99 ดอลลาร์ สำหรับลูกค้า Xbox One มาตั้งแต่ปี 2017 โดยจะมีเกมเพิ่มเข้ามาในแคตาล็อกมากขึ้นเรื่อยๆ

ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศทำ Xbox Game Pass for PC แล้ว มีเกมให้เล่นมากกว่า 100 เกม ซึ่งรวมเกมจากค่ายดังๆ อย่าง Bethesda, Deep Silver, Devolver Digital, Paradox Interactive, SEGA รวมถึงสัญญาว่าจะนำเกมใหม่ๆ จากสตูดิโอในเครือของตัวเองมาให้บริการทันทีในวันแรกที่เกมวางขาย

ไมโครซอฟท์ยังไม่เผยรายชื่อเกมที่ให้บริการ รวมถึงค่าสมาชิกต่อเดือน ซึ่งบริษัทระบุว่าจะประกาศข่าวเพิ่มเติมในงาน E3 2019 ช่วงกลางเดือนหน้า

ข่าวหลุดออกมาเยอะจนไม่เซอร์ไพร์ส และไมโครซอฟท์ก็เปิดตัว Xbox One S All-Digital Edition ตรงตามข่าวลือทุกประการ (แม้แต่ชื่อรุ่นก็ยังตรงเป๊ะ)

Xbox One S All-Digital Edition หน้าตาเหมือนกับ Xbox One S แทบทุกประการ เว้นแต่ตัดช่องใส่แผ่นดิสก์ออกไป (สเปกอื่นก็เหมือนกันหมด) แลกกับค่าตัวที่ถูกกว่าเดิม 50 ดอลลาร์ ลงมาเหลือ 249.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8,000 บาท พร้อมแถมเกมให้อีก 3 เกมคือ Minecraft, Forza Horizon 3, Sea of Thieves ติดตั้งมาให้ในเครื่อง พร้อมเล่นได้ทันที

ไมโครซอฟท์อธิบายว่า Xbox One S All-Digital Edition ออกแบบมาสำหรับคอนซูเมอร์ที่เน้นการดาวน์โหลด โดยแลกกับราคาที่ถูกลงเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดตัว Project xCloud บริการเกมสตรีมมิ่งบนมือถือ ตอนนี้เวลาผ่านมาราวครึ่งปี ก็ได้เวลาของการอัพเดตความคืบหน้าของ xCloud กัน

ในเดโมของไมโครซอฟท์ แสดงการเล่นเกม Forza Horizon บนสมาร์ทโฟน Android โดยเชื่อมต่อกับคอนโทรลเลอร์ของ Xbox One เพื่อใช้ควบคุมผ่าน Bluetooth ซึ่งการตอบสนองก็รวดเร็วและไม่มีปัญหาใด

ไมโครซอฟท์ยืนยันว่า Project xCloud ไม่ได้มาแทนเกมคอนโซล แต่เป็นการขยายพรมแดนของการเล่นเกมให้กว้างขึ้น เพิ่มวิธีการเล่นให้มากขึ้น สามารถเล่นเกมได้จากอุปกรณ์ใดก็ได้ และเปิดโอกาสให้นักเล่นเกมจำนวนมากที่อาจไม่มีเครื่องคอนโซล ให้เข้าถึงเกมบนแพลตฟอร์ม Xbox

จุดยืนของ Sony Interactive Entertainment (SIE) ที่ผ่านมาค่อนข้างชัดเจนและสวนทางคู่แข่ง คือการปิดกั้นการเล่นแบบครอสแพลตฟอร์มบน PlayStation 4 ซึ่งก็เพิ่งมี Fortnite เจ้าแรกที่โซนียอมผ่อนปรนและเปิดให้ครอสเพลย์

อย่างไรก็ตามมุมมอง Shawn Layden ประธานของ SIE Worldwide Studio ที่ดูแลสตูดิโอพัฒนาเกมเอ็กคลูซีฟในเครือ SIE ทั้งหมดกลับมองต่าง เมื่อถูกถามถึงวงการเกมในอนาคตกับ GameInformer และเจ้าตัวตอบในเชิงเป็นมิตรและเปิดกว้างกับคอนโซลเจ้าอื่นมากกว่าที่คิด

ไมโครซอฟต์ประกาศเปิดตัวสตูดิโอพัฒนาเกม Xbox Game Studios ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก Microsoft Studio เพื่อต้องการเน้นย้ำแบรนด์ Xbox ที่ขยายจากแค่แบรนด์คอนโซล กลายมาเป็นแพลตฟอร์มเกม ที่ครอบคลุมบนอุปกรณ์ประเภทอื่นมากขึ้น

ในเชิงโครงสร้างของสตูดิโอยังเหมือนเดิมทั้งหมดหมด ที่ประกอบด้วยทีมพัฒนาเกมรวมทั้งหมด 13 ทีม

ที่มา - Xbox

Damon Baker อดีตหัวหน้าฝ่ายจัดการพาร์ทเนอร์ของ Nintendo อเมริกา ที่คอยจัดหาเกมอินดี้จากสตูดิโออิสระ รวมถึงเกมระดับ AAA จากสตูดิโอใหญ่ๆ มาลง Switch ประกาศร่วมงานกับทีม Xbox ของไมโครซอฟท์ในฝ่าย Head of Portfolio

Baker ประกาศลาออกจาก Nintendo ตั้งแต่เดือนธันวาคม หลังร่วมงานกันมานานกว่า 12 ปี ขณะที่หน้าที่ใหม่ที่ Xbox ก็ดูจะคล้ายๆ เดิม ตามที่เจ้าตัวทวีตว่าคือการประเมินคอนเทนท์จาก 2nd และ 3rd party ให้ตรงกับยุทธศาสตร์ของไมโครซอฟท์

ที่มา - @DWBakes via IGN

เมื่อกลางปีนี้ เราเห็นไมโครซอฟท์ประกาศซื้อกิจการสตูดิโอเกม + ตั้งสตูดิโอใหม่รวม 5 แห่ง ตามนโยบายเร่งสร้างเกม first party เพื่อเป็นจุดเด่นของแพลตฟอร์ม

เมื่อคืนนี้ไมโครซอฟท์ประกาศซื้อสตูดิโอเกมเพิ่มอีก 2 แห่ง

เมื่อครั้งงาน E3 2018 ตอนกลางปี ไมโครซอฟท์เผยว่ากำลังทำระบบสตรีมมิ่งเกมคุณภาพระดับคอนโซล วันนี้มันเปิดตัวแล้วในชื่อ Project xCloud

xCloud เป็นบริการเกมสตรีมมิ่งที่เล่นบนอุปกรณ์ไหนก็ได้ เบื้องต้นจะเป็นการนำเกมจาก Xbox One กว่า 3,000 เกมไปให้บริการก่อน ในแง่เทคนิคแล้ว ไมโครซอฟท์นำฮาร์ดแวร์ของ Xbox One มาดัดแปลงให้เป็นเบลดเซิร์ฟเวอร์ เพื่อลดขนาดของเซิร์ฟเวอร์ลง และใช้เบลดเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ให้บริการเล่นเกมของ Xbox One บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

ตัวอย่างการเล่นเกม Xbox One บนแท็บเล็ต โดยไมโครซอฟท์ปรับแต่งให้มีปุ่มควบคุมลอยทับขึ้นมาบนจอ แต่ก็สามารถใช้กับจอย Xbox One ผ่านบลูทูธได้เช่นกัน

Lisa Su ซีอีโอของ AMD ให้สัมภาษณ์กับรายการของ CNBC โดยพูดถึงอนาคตของคอนโซลว่า AMD กำลังทำงานร่วมกับทั้งโซนี่และไมโครซอฟท์ ทั้งสองฝ่ายมี "ทีเด็ด" (secret sauce) ของตัวเอง ซึ่ง AMD ก็ช่วยสนับสนุนทั้งคู่

เธอยังบอกว่าตลาดเกมมิ่งเติบโตระดับเลขสองหลักมาตลอด และผู้เล่นก็ต้องการสมรรถนะด้านการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะทั้ง Xbox One และ PS4 ต่างก็ใช้หน่วยประมวลผลจาก AMD ทั้งซีพียูและจีพียูอยู่แล้ว และ AMD ก็เป็นบริษัทเดียวที่มีครบทั้งซีพียู x86 และจีพียูสมรรถนะสูง

AMD มีหน่วยธุรกิจที่เรียกว่า Semi-Custom รับผลิตชิปพิเศษให้บริษัทต่างๆ อยู่แล้ว โดยชิปของ PS4 และ Xbox One ก็นับเป็นรายได้ในส่วนนี้

ก่อนหน้านี้ Microsoft เปิดตัว Xbox Adaptive Controller คอนโซลเกมที่สามารถปรับแต่งการใช้งานให้เหมาะกับผู้พิการได้ และไม่เพียงตัวเครื่องเท่านั้น แต่หีบห่อที่บรรจุก็แกะง่าย ออกแบบมาให้แกะได้แม้ใช้ฟันฉีก

โดยตัวกล่องจะมีเทปคาดผืนเดียวที่แกะออกง่ายโดยใช้แรงน้อย แกะเสร็จก็จะเจอกล่องที่บรรจุตัวเครื่องอีกชั้น สามารถแกะเทปรูปริบบิ้นออกและดันฝาเปิดออกได้ง่าย ด้าน Mark Weiser ดีไซเนอร์ของ Microsoft บอกว่า ประสบการณ์การใช้งานของผู้พิการคือ บางรายต้องใช้ฟันเปิดกล่อง จึงต้องทำกล่องให้ง่ายต่อพวกเขา

ช่วงนี้มีข่าวลือของ Xbox รุ่นใหม่รหัส Scarlett ออกมาเรื่อยๆ ข้อมูลล่าสุดมาจากเว็บไซต์ Thurrott.com ที่เชี่ยวชาญข้อมูลฝั่งไมโครซอฟท์ ระบุว่าที่จริงแล้ว Scarlett แบ่งออกเป็น 2 รุ่นซะด้วย

Scarlett รุ่นแรกเป็นคอนโซลแบบดั้งเดิม ทุกอย่างประมวลผลภายในเครื่องเลย แต่ Scarlett อีกตัวน่าสนใจกว่าเพราะเป็นคอนโซลที่ออกแบบมาเล่นเกมผ่านสตรีมมิ่งอย่างเดียว (ชื่อเล่นของมันตอนนี้เรียกกันเองว่า Scarlett Cloud) มีพลังประมวลผลต่ำกว่า Scarlett รุ่นปกติ ราคาเครื่องถูกกว่า