ไม่กี่วันที่ผ่านมา Microsoft Gaming CEO อย่างคุณ Phil Spencer ได้ไปให้สัมภาษณ์ใน podcast ของช่อง Kinda Funny Games ซึ่งมีช่วงหนึ่งใน Podcast ที่เขาได้ยอมรับกลาย ๆ ว่า XBOX ไม่สามารถชนะสงครามคอนโซลกับ Nintendo และ Sony ได้ถ้ายังใช้กลยุทธ์แบบเดิม
“มันไม่จริงเลยถ้าเราสร้างเกมออกมาดี ๆ ออกมา แล้วเราจะสามารถแย่งส่วนแบ่งในตลาดของเกมคอนโซลกลับมาได้ และเราแพ้อย่างอนาถที่สุดในรุ่นของ XBOX One” Phil Spencer กล่าว
Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ยืนยันว่าเตรียมจะเปิดร้านขายเกมบนมือถือ (ที่ยังไม่มีชื่อทางการ แต่เราเรียกกันเล่นๆ ว่า Xbox Game Store หรือ Xbox Mobile Store) ในปีหน้า 2024 หากดีลการซื้อ Activision Blizzard ได้รับการอนุมัติ
เหตุผลหนึ่งที่ไมโครซอฟท์สนใจทำ Xbox Mobile Store เป็นเพราะสหภาพยุโรปมีกฎหมายใหม่ Digital Markets Act ที่ EU สามารถบังคับให้เจ้าของแพลตฟอร์มอย่างแอปเปิล/กูเกิลต้องเปิดโอกาสให้มีสโตร์รายอื่นได้ กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคม 2024
Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming ให้สัมภาษณ์กับ IGN ยอมรับว่าสถานการณ์เกมปี 2022 ไมโครซอฟท์ออกเกมใหม่น้อยเกินไป (เป็นผลจากหลายเกมที่ต้องเลื่อน เช่น Starfield และ Redfall) ซึ่งเขายอมรับผิดแต่โดยดีในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของแพลตฟอร์ม
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ประกาศว่าไมโครซอฟท์เซ็นสัญญากับนินเทนโด การันตีว่าจะนำเกม Call of Duty มาลงแพลตฟอร์มของนินเทนโดเป็นระยะเวลานาน 10 ปี เริ่มนับจากที่ไมโครซอฟท์ควบกิจการ Activision Blizzard เสร็จเรียบร้อยแล้ว
นอกจากดีลของนินเทนโดแล้ว Spencer ยังประกาศว่าไมโครซอฟท์จะนำ Call of Duty มาขายบน Steam ต่อไปเช่นเดิม ขายวันเดียวกับ Xbox ด้วยเช่นกัน
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ให้สัมภาษณ์เรื่อง Age of Empires แล้วได้รับคำถามว่าสนใจอยากนำเกม real-time strategies (RTS) กลับมาทำใหม่หรือไม่ หากซื้อ Activision Blizzard เสร็จแล้ว
Spencer ออกตัวว่าเขายังไม่อยู่ในสถานะที่ตัดสินใจอะไรได้ เพราะกระบวนการยังไม่เสร็จ นี่เป็นแค่ไอเดียของเขาเท่านั้น ยังไม่มีแผนอะไรจริงจัง เขาบอกว่า Blizzard คือผู้บุกเบิกวงการเกม RTS โดย StarCraft เป็นต้นแบบของหลายๆ เรื่อง เช่น esport, การทำเกม RTS บนคอนโซล (ลง Nintendo 64) และการเล่าเรื่องของเกม RTS
เป็นเรื่องปกติของวงการเกมคอนโซลมานานแล้ว ที่เจ้าของแพลตฟอร์มยอมขายเครื่องเกมสเปกแรงในราคาขาดทุน แล้วไปทำกำไรจากการขายเกมหรือบริการเสริมอื่นๆ แทน เพียงแต่เราอาจไม่เคยเห็นตัวเลขชัดๆ มาก่อนว่าขาดทุนกันเท่าไร
ล่าสุด Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ให้สัมภาษณ์กับ CNBC (ช่วงนี้ออกสื่อบ่อย) และเผยตัวเลขออกมาให้เห็นว่าขาดทุนที่ราว 100-200 ดอลลาร์ต่อเครื่อง โดยกรณีของ Xbox Series X (ราคาขาย 499 ดอลลาร์) ขาดทุนน้อยกว่าที่ 100 ดอลลาร์ และ Xbox Series S (ราคาขาย 299 ดอลลาร์) อาจขาดทุนถึง 200 ดอลลาร์ต่อเครื่อง
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ยังต้องตอบคำถามเรื่องอนาคตของ Call of Duty อีกเรื่อยๆ และรอบนี้เขาพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาที่สุดเท่าที่เคยตอบมา ว่า Call of Duty จะอยู่บน PlayStation ตราบเท่าที่ยังมีเครื่องให้เล่นกัน (as long as there's a PlayStation out there to ship to)
ก่อนหน้านี้ โซนี่กับไมโครซอฟท์โต้เถียงกันเรื่องนี้บ่อยครั้ง โดย Jim Ryan ซีอีโอของ PlayStation เคยออกมาพูดว่าไมโครซอฟท์เสนอต่อสัญญาอีก 3 ปีจากสัญญาฉบับปัจจุบัน ซึ่งเขามองว่าไม่ดีพอ
อีกโพสต์ของ Phil Spencer พูดที่งาน Wall Street Journal (เรื่อง Game Pass, เรื่องยกเลิก Keystone) เขาพูดถึงอนาคตของ Call of Duty หลังไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ Activision Blizzard สำเร็จ ว่าเขาอยากเห็นแฟรนไชส์ Call of Duty ขยายตัวไปยังหน้าจอทุกขนาด แบบเดียวกับ Minecraft
เขาบอกว่า Call of Duty จะยังมีให้เล่นบน PlayStation ต่อไป แต่เขาก็อยากเห็นเวอร์ชัน Switch ด้วย และโอกาสที่แท้จริงคือตลาดเกมมือถือที่มีผู้เล่นมากถึง 3,000 ล้านคน ใหญ่กว่าตลาดคอนโซล 200 ล้านบ้านมากๆ
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ไปพูดที่งานสัมมนาของ Wall Street Journal มีข้อมูลใหม่หลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น Xbox Game Pass เป็นธุรกิจที่มีกำไร, อาจต้องขึ้นราคา Xbox
อีกประเด็นที่ Spencer พูดถึงคือ Project Keystone อุปกรณ์เชื่อมต่อทีวีสำหรับเล่นเกมผ่านคลาวด์ ที่ไมโครซอฟท์เคยยืนยันว่ากำลังทำอยู่เมื่อเดือนพฤษภาคม ถูกยกเลิกเรียบร้อยแล้ว
Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming ไปพูดที่งานสัมมนาของ Wall Street Journal เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
Final Fantasy XIV เป็นเกมออนไลน์ที่มาแรงมากในช่วงหลัง แต่ที่ผ่านมายังมีเฉพาะบน PlayStation และพีซีเท่านั้น ไม่มีบน Xbox (ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง) แม้ทาง Square Enix และไมโครซอฟท์มีการพูดคุยเรื่องนี้กันมานานตั้งแต่ปี 2016 แต่ก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง (ปี 2021 ก็บอกว่ายังคุยกันอยู่ คุยนานมาก)
ล่าสุดมีคนไปถาม Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง คำตอบของเขาคือเสียงหัวเราะ พร้อมกับบอกว่า "พวกเรายังไม่ยอมแพ้ในเรื่องนี้" เขาบอกว่าทั้งไมโครซอฟท์และ Square Enix ต้องการตอบสนองแฟนเกม และจะร่วมมือกันต่อไปให้มันเกิดขึ้น
วิวาทะระหว่างไมโครซอฟท์กับโซนี่ ในประเด็นการซื้อ Activision Blizzard ยังดำเนินต่อไป ความเดิมตอนที่แล้วคือ Jim Ryan ซีอีโอ PlayStation ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าข้อเสนอของไมโครซอฟท์เรื่อง Call of Duty บน PlayStation ไม่ดีพอ (inadequate)
ล่าสุด Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ให้สัมภาษณ์กับสถานีทีวี CNBC โต้กลับบ้าง โดยเขายืนยันคำเดิมว่าไมโครซอฟท์จะยังออก Call of Duty บน PlayStation และแพลตฟอร์มอื่นๆ (PlayStation and other places) ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการขยายฐานเกมเมอร์ให้กว้างขึ้น
Phil Spencer ซีอีโอ Microsoft Gaming ให้สัมภาษณ์กับ Washington Post เรื่องการซื้อกิจการ Activision Blizzard ตอบคำถามที่หลายคนอยากรู้เรื่องการปลุกชีพเกมแฟรนไชส์เก่าๆ ของ Activision Blizzard กลับมาใหม่
Spencer บอกว่าเขาอยากเห็นเกมที่เขาชอบสมัยเด็กๆ กลับมาใหม่อีกครั้งอยู่แล้ว เมื่อกระบวนการซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์ เขาจะนำทีม Xbox ไปนั่งคุยกับทีมของ Activision Blizzard ว่ามีแฟรนไชส์ไหนบ้างที่น่านำกลับมาทำ ทีมไหนอยากทำเกมไหน และเขามีหน้าที่หาทรัพยากรมาผลักดันให้เกิดขึ้นได้จริง
ชื่อแฟรนไชส์ที่ Spencer เอ่ยถึงมี 3 เกมคือ King’s Quest, Guitar Hero และ HeXen แต่จริงๆ แล้ว Activision ยังมีเกมแฟรนไชส์อื่นๆ อีกมาก เช่น Crash Bandicoot, Spyro the Dragon, Tony Hawk เป็นต้น
Phil Spencer ซีอีโอของ Xbox Gaming ออกมาเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาโทรคุยกับผู้บริหารของโซนี่แล้ว และยืนยันว่าจะเคารพสัญญาต่างๆ ที่ Activision Blizzard เซ็นไว้ก่อนโดนซื้อกิจการ รวมถึงบอกว่าต้องการเห็น Call of Duty อยู่บนแพลตฟอร์ม PlayStation ต่อไป
การออกมายืนยันของ Spencer ถือว่าตอบรับคำขอของโซนี่ และน่าจะทำให้แฟนๆ Call of Duty บน PlayStation สบายใจขึ้นได้
Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ตอบคำถามที่ทุกคนอยากรู้ว่าอนาคตของเกมจาก Activision Blizzard บนแพลตฟอร์ม PlayStation จะเป็นอย่างไร
คำตอบของ Spencer คือเขาอยากฝากถึงผู้เล่นเกมบนแพลตฟอร์มโซนี่ว่า "เราไม่ต้องการดึงชุมชนคนเล่นเกมออกจากแพลตฟอร์ม และเรายังยึดมั่นแนวทางนี้"
ถึงแม้ Spencer ไม่ได้ตอบมาชัดๆ แต่น่าจะหมายถึงว่าเกมที่มีฐานผู้เล่นเยอะๆ (เช่น Call of Duty) จะยังเป็นเกมมัลติแพลตฟอร์มต่อไป
พร้อมกับประกาศซื้อกิจการ Activision Blizzard ไมโครซอฟท์ได้แต่งตั้ง Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ขึ้นเป็นซีอีโอของหน่วยงานใหม่ชื่อ Microsoft Gaming ดูแลงานด้านเกมมิ่งทั้งหมด (สถานะยังไม่แน่ชัดว่าเป็นบริษัทลูกแยกต่างหาก หรือเป็นแค่โครงสร้างภายใน)
Spencer ประกาศผังโครงสร้างของ Microsoft Gaming ว่ามีทั้งทีมการตลาด ทีมธุรกิจ ทีมกฎหมายเป็นของตัวเอง โดยโยกทีมการตลาดเกมมิ่งมาจากทีมการตลาดหลักของไมโครซอฟท์มาดูแลเอง
ซีอีโอ Satya Nadella ให้เหตุผลว่าธุรกิจด้านเกมมิ่งของไมโครซอฟท์ขยายตัวอย่างมาก และตอนนี้ไมโครซอฟท์เป็นผู้นำทั้งด้าน game subscription และ cloud gaming เรียบร้อยแล้ว จึงตั้งโครงสร้างใหม่ขึ้นมาเพื่อรองรับธุรกิจที่ขยายตัว
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ให้สัมภาษณ์กับเว็บเกม IGN และคอมเมนต์ถึงคู่แข่ง PlayStation ในประเด็นข่าวลือช่วงนี้ว่าโซนี่กำลังซุ่มทำบริการใหม่มาแข่งกับ Xbox Game Pass
ความเห็นของ Spencer คือการทำบริการแบบ Game Pass หรือพอร์ตเกมมาลง PC เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว เขาไม่คิดว่านี่คือการยืนยันว่าไมโครซอฟท์ทำถูก (validation) แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างเลี่ยงไม่ได้ (inevitability) ในมุมของไมโครซอฟท์ก็ต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อเตรียมรับมือคู่แข่ง ไมโครซอฟท์อาจได้เปรียบตรงที่ทำก่อนใคร แต่คู่แข่งทุกรายก็สามารถเข้าสู่ตลาดนี้ได้เสมอ
ปัญหาชิปขาดแคลน และซัพพลายเชนที่ติดขัด เป็นอีกปัญหาที่วงการอิเล็กทรอนิกส์แทบจะทุกแขนง ทั้งรถยนต์ ทีวี ไปจนถึงเครื่องซักผ้าและเครื่องปิ้งขนมปัง โดยบริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำอย่าง TSMC มองว่าปัญหานี้อาจลากยาวไปจนถึง ปี 2023 และวันนี้ฝั่งบอสใหญ่ของ Xbox อย่าง Phil Spencer ก็ออกมาให้ความเห็นคล้ายคลึงกัน
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox แถลงข่าวก่อนงาน E3 2021 โดยพูดถึงยุทธศาสตร์ Game Pass ของไมโครซอฟท์ นอกจากประเด็นว่า xCloud จะลงสมาร์ททีวี และมีฮาร์ดแวร์สตรีมมิ่ง ยังมีประเด็นที่น่าสนใจของธุรกิจ Game Pass
Spencer ย้ำว่าฐานลูกค้าของ Game Pass เป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ใช่เกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่พร้อมจ่ายเงิน 60-70 ดอลลาร์เพื่อซื้อเกมได้บ่อยๆ ทำให้โมเดล Game Pass ที่เหมาจ่ายรายเดือนในราคาถูกกว่า (15 ดอลลาร์) ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ (ปัจจุบัน Game Pass มีฐานสมาชิก 18 ล้านคน)
เก็บตกประเด็นไมโครซอฟท์ปิดดีล Bethesda นอกจากเรื่องประกาศเอ็กซ์คลูซีฟเกมในอนาคต ยังมีประเด็นเล็กๆ อีกเรื่องคือการซื้อ Bethesda ยังทำให้ไมโครซอฟท์ได้เป็นเจ้าของเอนจินเกมอีกอย่างน้อย 2 ตัว ได้แก่ id Tech ของ id Software (ชื่อในอดีตคือ Doom Engine, เวอร์ชันล่าสุด id Tech 7 คือใช้กับ Doom Eternal) และ Creation Engine ของ Bethesda Game Studios (ใช้กับ Skyrim, Fallout 4, Fallout 76)
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox พูดถึงเรื่องนี้เล็กน้อย โดยเน้นไปที่เอนจิน id Tech ว่าสามารถนำไปใช้กับสตูดิโอเกมอื่นๆ ของไมโครซอฟท์ได้เช่นกัน เขาบอกว่าอยากเห็นเรื่องนี้และจะนำไปขยายผลต่อไป
ผู้บริหารของไมโครซอฟท์และ Bethesda ออกมาแถลงข่าวครั้งแรกหลังควบกิจการเสร็จอย่างเป็นทางการ ประเด็นสำคัญที่สุดคือ Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ประกาศออกมาชัดๆ เป็นครั้งแรกว่า "เกมของ Bethesda ในอนาคตจะเป็นเอ็กซ์คลูซีฟของแพลตฟอร์มที่มี Xbox Game Pass"
ความหมายของ Spencer คือเกมของ Bethesda ในอนาคต (เช่น The Elder Scrolls VI หรือ Starfield) จะลงพีซี, Xbox One และ Series X|S รวมถึงเปิดให้เล่นผ่านสตรีมมิ่งบนอุปกรณ์อื่นๆ เช่น Android, iOS ด้วย แต่ไม่รวมถึงคอนโซลคู่แข่งนั่นเอง (ยกเว้น 2 เกมที่ประกาศลง PS5 ไปก่อนแล้วคือ Deathloop และ GhostWire: Tokyo)
เก็บตกบทสัมภาษณ์ Phil Spencer ใน The Verge (ตอนก่อน, ตอนก่อนๆ)
Spencer บอกว่าตัวเขาเองมอง Game Pass เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งๆ ไม่ใช่แค่บริการสมาชิกบนแพลตฟอร์ม ส่วนคำนิยามของแพลตฟอร์มนั้น เขาอ้างคำพูดของบิล เกตส์ ในอดีตว่า เราจะไม่นับเป็นแพลตฟอร์มจนกว่านักพัฒนารายอื่นๆ จะทำเงินบนแพลตฟอร์มของเราได้มากกว่าเจ้าของแพลตฟอร์มเอง ดังนั้น รายได้ของนักพัฒนา third party จึงสำคัญต่อ Game Pass มาก
เก็บตกประเด็นเพิ่มเติมในบทสัมภาษณ์ Phil Spencer ใน The Verge (ข่าวเก่า)
The Verge ตั้งคำถามว่าการมาถึงของเทคโนโลยีการสตรีมเกม จะทำให้คอนโซลเจนนี้เป็นเจนสุดท้ายหรือไม่ คำตอบของ Spencer คือเขาไม่คิดอย่างนั้น ตอนนี้ xCloud ยังเป็นการนำเกมแบบเดิมๆ มาให้เล่นผ่านสตรีมมิ่ง แต่ในอนาคต เกมต้องวิวัฒนาการให้เหมือนแอพตอนนี้ เป็นโมเดลไฮบริดระหว่างการประมวลผลบนเครื่องและบนคลาวด์ สิ่งที่ควรประมวลผลในเครื่องก็ทำในเครื่อง สิ่งที่ใช้ประโยชน์จากคลาวด์ได้ก็ใช้คลาวด์
ช่วงนี้อาจมีข่าวจากปากของ Phil Spencer ถี่เล็กน้อย (ข่าว 1, 2, 3) จากการไปให้สัมภาษณ์กับ The Verge และเขาก็ถูกถามเรื่องการถูกแซะเรื่องค่าธรรมเนียมของสโตร์ขายเกมดิจิทัลที่กำลังเป็นประเด็นจาก Apple vs Epic ซึ่ง Xbox ก็ประกาศจุดยืนข้าง Epic แต่ Xbox หรือแม้แต่ PlayStation ก็เก็บค่าธรรมเนียมเดียวกับ Apple
ในบทสัมภาษณ์ Phil Spencer ของ The Verge (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2) เขาเล่าถึงเบื้องหลังการสั่งผลิต Xbox Series ว่าตั้งใจเริ่มผลิตช้ากว่าโซนี่สั่งผลิต PS5 เพราะตั้งใจ "รอ" เทคโนโลยีบางตัวในชิปของ AMD ให้พร้อมเสียก่อน
Spencer ไม่ได้บอกว่าเทคโนโลยีที่ว่าคืออะไร เขาบอกว่าเริ่มผลิตช่วงปลายฤดูร้อน (ราวๆ เดือนสิงหาคม) ทำให้ตามหลังโซนี่อยู่บ้างในแง่จำนวนเครื่องที่ผลิตได้ ตอนนี้สายการผลิตทำงานเต็มกำลังมาหลายเดือน แต่สินค้าก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ