ทริปทัวร์เอเชียของ Mark Zuckerberg ไม่ได้จบแค่การไปพบปะกับนายกรัฐมนตรีประเทศจีน และญี่ปุ่นเท่านั้น หลังจากมีรายงานว่าเขาได้ไปคุยกับ Dentsu บริษัทมาร์เก็ตติ้ง และอเจนซี่รายใหญ่ของโลก ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นด้วย

จากแถลงการของ Dentsu ระบุว่าต่อจากนี้ Dentsu จะเป็นตัวแทนการขายโฆษณา และเป็นฝ่ายสนับสนุนการตลาดของเฟซบุ๊กในประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 1 ปี ต่อเนื่องจากสัญญาเดิมที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2011

Mark Zuckerberg เดินสายทัวร์เอเชีย โดยเริ่มจากไปพักผ่อนที่ประเทศจีน ซึ่งมีคนถ่ายภาพเขากับแฟนสาว Priscilla Chan เดินเที่ยวอยู่ในเซี่ยงไฮ้

ทาง Facebook ไม่ระบุว่านอกจากการไปเที่ยวแล้วมีพบปะผู้นำธุรกิจ-รัฐบาลของจีนหรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า Zuckerberg เดินทางไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเพื่อให้บริการ Facebook ในประเทศจีน

จากนั้น Zuckerberg เดินทางไปยังญี่ปุ่นต่อ ซึ่งคราวนี้เขาเข้าพบนายกรัฐมนตรี Yoshihiko Noda ท่ามกลางผู้สื่อข่าวมากมาย นายกญี่ปุ่นเองก็กล่าวกับเขาว่ารู้สึกแปลกดี เพราะเขาดูภาพยนตร์ The Social Network และไม่คิดว่าจะได้เจอ Zuckerberg ตัวจริงที่ต่างออกไปจากในหนังมาก

นิตยสาร Forbes ประกาศอันดับมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2012 ออกมาเรียบร้อยแล้ว (อันดับของปี 2011) ปีนี้กลุ่มอันดับต้นๆ ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงนัก โดยอันดับ 1 เป็นของ Carlos Slim มหาเศรษฐีชาวเม็กซิโกและครอบค

การที่ Facebook ยื่นจดทะเบียน IPO ทำให้บริษัทและตัวผู้ก่อตั้ง Mark Zuckerberg กลับมาอยู่ในกระแสความสนใจอีกครั้ง ซึ่งก็คงเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าการขายหุ้นจะเสร

Mark Zuckerberg ออกมาแสดงตัวต้านร่างกฎหมาย SOPA/PIPA ชัดเจน โดยเขาโพสต์ข้อความบน Facebook เรียกร้องให้ผู้ใช้เน็ต "ปกป้องอินเทอร์เน็ตเอาไว้" จากกฎหมายที่อาจส่งผลเสียต่ออินเทอร์เน็ต นอกจากนี้เขายังระบุว่ายุคสมัยนี้จำเป็นต้องมีนักการเมืองที่ "สนับสนุนอินเทอร์เน็ต" ด้วย

The internet is the most powerful tool we have for creating a more open and connected world. We can't let poorly thought out laws get in the way of the internet's development. Facebook opposes SOPA and PIPA, and we will continue to oppose any laws that will hurt the internet.

มีคนค้นพบช่องโหว่ด้านการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Facebook โดยเข้าไปที่หน้าแจ้งภาพแสดงตนไม่เหมาะสม และเลือกว่าเป็นภาพเปลือยหรืออนาจาร จากนั้นระบบของ Facebook จะนำ "ภาพอื่นๆ" ของผู้ใช้คนนั้นขึ้นมาถามเราด้วยว่าเป็นภาพอนาจารหรือไม่ (แม้ว่าเราจะตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเอาไว้ก็ตาม)

ช่องโหว่นี้ทำให้ใครก็ได้สามารถดูภาพใดๆ ของผู้ใช้คนใดก็ได้ และสามารถเซฟภาพออกนี้มาเผยแพร่ต่อสาธารณะได้ด้วย

คนที่โดนช่องโหว่นี้เล่นงานก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ Mark Zuckerberg

ในวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐฯ Mark Zuckerberg ให้สัมภาษณ์กับ PBS ในประเด็นต่าง ๆ โดยเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่าง Facebook กับ Apple แต่หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงนอกเหนือจากนั้นคือ Google+ โดย Zuckerberg กล่าวว่ามันเป็น "Facebook ขนาดย่อม ๆ ของ Google"

ล่าสุด Bradley Horowitz ผู้เป็นรองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Google และหัวหน้าทีมของ Google+ ได้ตอบสั้น ๆ กับคำพูดดูแคลนนี้ว่า "เราดีใจที่เขาประเมินเราต่ำ และตอนนี้เราก็กำลังไปได้สวยเลยทีเดียว"

ข่าวนี้เป็นผลมาจากบทสัมภาษณ์โดย Walter Isaacson บันทึกเทปรายการ 60 Minutes ซึ่งตอนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์นั้นจ็อบส์ได้กล่าวถึงบุคคลสำคัญทางด้านไอทีสามคนไว้อย่างน่าสนใจ ดังรายละเอียดในข่าว

จ็อบส์พูดถึงซัคเกอร์เบิร์กไว้ว่าเขารู้สึกชื่นชมที่ซัคเกอร์เบิร์กไม่ตัดสินใจขายเฟซบุ๊กและมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างบริษัทเป็นของตัวเอง และแม้คำว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คจะพูดถึงบริการโดยรวม แต่เขาก็ไม่เห็นผู้เล่นรายใดโดดเด่นกว่าเฟซบุ๊ก

การจัดอันดับเศรษฐีอเมริกา Forbes 400 ปีล่าสุด บิล เกตส์ ยังรักษาแชมป์ไว้ได้ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 59 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ (แต่วัดกันที่ระดับโลก เกตส์เป็นเบอร์สองนะครับ)

การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจคือ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ไต่อันดับความรวยเร็วที่สุด มีทรัพย์สินคิดมูลค่ารวม 17.5 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นมาอยู่อันดับ 14 แซงหน้าสองผู้ก่อตั้งกูเกิลซึ่งมีทรัพย์สินเท่ากันคนละ 16.7 พันล้านดอลลาร์ อยู่อันดับ 15 ร่วม ปัจจัยสำคัญของความรวยเกิดจากมูลค่าหุ้นของ Facebook ที่ซื้อขาย (นอกตลาด) กันแพงมากนั่นเอง

ข่าวนี้เป็นเหตุการณ์เดียว แต่มีประเด็นย่อยสองเรื่องนะครับ

บล็อกเกอร์ Robert Scoble รายงานข้อมูลผ่านทาง Google+ ของเขาถึงปัญหาภายในองค์กรของ Twitter โดยอ้างแหล่งข่าวมากกว่า 20 แหล่งว่ามีพนักงานคนสำคัญหลายคนลาออกไปในช่วงที่ผ่านมา และกูเกิลก็คือสถานที่ใหม่ที่พนักงานเหล่านี้จะย้ายไปอยู่ด้วย เนื่องจาก Twitter เริ่มมีความท้าทายน้อยลงในเนื้องาน สถานการณ์นี้อาจทำให้กูเกิลมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจออกมาอีกเร็วๆ นี้ แต่ต่อมา Scoble ได้แก้ไขข้อมูลว่ามีพนักงานลาออกจริงแต่ไม่ได้มากอย่างที่ระบุในตอนแรก

ผู้ใช้ Facebook แทบทุกคนคงเคยติดตั้งแอพบางตัว ซึ่งจะโพสต์ข้อความบนหน้า wall ของเราเพื่อโฆษณาแอพของตัวเอง (แต่ทำทีเหมือนกับว่าผู้ใช้เป็นคนเขียนข้อความนั้นๆ เอง) แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ปล่อยผ่านให้โฆษณาแบบนี้เกิดขึ้นต่อไป

พวกเราไม่ได้อยู่กันลำพังครับ เพราะ Mark Zuckerberg เองก็ไม่ชอบข้อความเหล่านี้ และบอกว่ามัน "น่าละอาย"

เรื่องมีอยู่ว่า Dave Morin พนักงานรุ่นแรกๆ ของ Facebook (ปัจจุบันลาออกไปตั้งบริษัท Path) ได้ลงแอพชื่อว่า Chill สำหรับดูวิดีโอร่วมกับเพื่อนๆ

แอพ Chill ได้อาศัยสิทธิเข้าถึง wall ของผู้ใช้ โพสต์ข้อความโฆษณาว่า Chill นั้นเจ๋งแค่ไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้ตามปกติทั่วไป

นิตยสาร GQ ได้จัดอันดับ 15 อันดับแรกของคนดังใน Silicon Valley ที่แต่งตัวได้แย่ที่สุด

อันดับที่ 1 ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ Mark Zuckerberg ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Facebook นั่นเอง ส่วนอันดับ 2 คือผู้ที่สวมเสื้อคอเต่าสีดำเป็นเอกลักษณ์ Steve Jobs จาก Apple ตามมาติดๆ ด้วย Bill Gates จาก Microsoft ในอันดับที่ 3 และ Tom Anderson จาก Myspace ในอันดับที่ 7

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนดังที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งหรือ CEO ของบริษัทใหญ่ๆ เช่น Adobe, Sony Corp, HTC, LinkedIn และ Foursquare เป็นต้น

ไม่รู้ว่าเป็นที่น่าดีใจหรือเสียใจดีสำหรับ Google ที่ไม่มีบุคลากรติดอันดับเลย

ดูรูปการแต่งตัวของแต่ละอันดับได้จากที่มาครับ

ประเด็นเรื่อง Mark Zuckerberg กับ Google+ ยังเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในงานแถลงข่าว Facebook Video Call ก็มี "ผู้กล้า" ลุกขึ้นถาม Zuckerberg ในเรื่องนี้

คนที่ถามเรื่องนี้คือ Ben Parr จากเว็บไซต์ Mashable คำถามของเขามีสองข้อ ข้อแรกคือ Facebook จะมี Group Video Call แบบเดียวกับ Hangouts หรือไม่ และข้อที่สอง Zuckerberg คิดยังไงกับ Hangouts

จากข่าว Mark Zuckerberg ขอลอง Google+ ด้วยคน ที่ทำให้หลายคนแปลกใจ (รวมถึงสื่อต่างประเทศนำไปเล่นเป็นหัวข่าวใหญ่โต)

บล็อกเกอร์ชื่อดังในโลกไอทีคนหนึ่งคือ Robert Scoble ได้ส่ง SMS ไปถามเจ้าตัว ซึ่งได้คำตอบกลับมาว่า

“Why are people so surprised that I’d have a Google account?”

Zuckerberg มีบัญชีบน Twitter คือ @finkd แต่ไม่ได้ใช้มานานแล้ว ส่วนผู้บริหารของกูเกิลไม่มีใครใช้ Facebook เลย (หรือถ้ามีก็อาจจะใช้ชื่ออื่น)

ที่มา - TechCrunch

คงไม่แปลกถ้าคนแถวนี้จะมี invite ให้ไปลอง Google+ กันหมดแล้ว และคงไม่แปลกใจอีกถ้าคนที่ชื่อ Mark Zuckerberg จะขอลองใช้ Google+ กับเขาด้วย

Mark Zuckerberg ปรากฏตัวใน Google+ ด้วยภาพที่ถ่ายจากกล้องเว็บแคม สีหน้าดูเบื่อและเรียบเฉย ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเจตนา "ไม่ยินดี" ต่อผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้ของกูเกิลหรือไม่ เขายังไม่ได้โพสท์อะไรลงไปนอกจากเขียนแนะนำในส่วน About ว่า "I make things" และระบุสถานที่พักอาศัยในเมือง Palo Alto โดยขณะที่เขียนข่าวนี้ใน circles ของ Mark มีเพื่อนอยู่ 13 คน และพบว่าทั้งหมดเป็นพนักงานของ Facebook นั่นเอง

ผู้สนใจก็สามารถเชิญคุณ Mark มาร่วม "วง" กันได้ตามอัธยาศัย

เรื่องเล็กๆ ก็เป็นข่าวใหญ่ๆ ได้ เมื่อบิล เกตส์ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ Daily Mail ซึ่งเนื้อหาก็เป็นการพูดคุยเรื่องทั่วไป จนกระทั่งเมื่อเกตส์พูดถึงเหตุผลที่ Mark Zuckerberg บริจาคเงินด้านการศึกษามูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยเกตส์หลุดออกมาว่า

"His fiancée, Priscilla, thought about education, and he gave money to Newark"

Priscilla นี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Priscilla Chan แฟนสาวของ Zuckerberg ที่คบกันมาตั้งแต่เรียน Harvard ซึ่งคำพูดดังกล่าวก็ทำให้นักข่าวเชื่อว่า Zuckerberg หมั้นแล้ว เพราะคนที่หลุดประโยคนี้คือเกตส์ซึ่งสนิทกับ Zuckerberg นั่นเอง

ตัวแทนของ Facebook ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในข่าวดังกล่าว

ถ้าเคยดูภาพยนต์ The Social Network คงจำได้ว่าคู่แฝด Winklevoss เป็นคนออกไอเดีย Facebook ในตอนแรก หลังจากการฟ้องร้อง Mark Zuckerberg ที่มาขโมยไอเดีย และได้ยอมความไปด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 65 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งคู่ก็ได้กลับมาฟ้อง Mark Zuckerberg อีกรอบ ด้วยเหตุผลว่า Facebook ไม่ได้เปิดรายละเอียดทางการเงินทั้งหมด ทำให้พวกเขาได้เงินน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ที่สุดศาลก็ตัดสินออกมาว่าเงิน 65 ล้านเหรียญสหรัฐที่ได้ไปตอนแรกนั้นเหมาะสมแล้ว (ต้นฉบับใช้คำว่า Cameron and Tyler Winklevoss must accept their $65 million settlement from Facebook and move on)

ไม่ผิดจากความคาดหมายของหลายๆ คนเท่าไรนัก เพราะบริษัท M.I.C. ผู้ผลิตตุ๊กตา Mark Zuckerberg ได้รับแจ้งจากทนายของ Facebook ว่าตุ๊กตานี้ละเมิดลิขสิทธิ์แบรนด์ Facebook และนำบุคลิกของ Mark Zuckerberg ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

ทาง M.I.C. ยินยอมปฏิบัติตามความต้องการของ Facebook โดยหยุดขายตุ๊กตา Zuckerberg ทั้งหมด พร้อมเปิดเผยว่าผลิตตุ๊กตาชุดนี้มาทั้งสิ้น 300 ตัว นอกจากนั้น Facebook ยังต้องการให้ทำลายตุ๊กตาล็อตนี้ด้วย ซึ่งไม่แน่ว่ามีคนซื้อไปบ้างแล้วหรือยัง

ก่อนหน้านี้ M.I.C. เคยทำตุ๊กตาสตีฟ จ็อบส์ และโดนแอปเปิลสั่งห้ามขายเช่นกัน

บริษัท M.I.C. Gadget ซึ่งเคยทำตุ๊กตา Steve Jobs จนโดนแอปเปิลสั่งห้ามขาย เปลี่ยนใจมาทำตุ๊กตาของคนดังไอทีที่ร้อนแรงกว่าในช่วงหลัง

Mark Zuckerberg ภาคตุ๊กตามาพร้อมกับเสื้อคลุมแบบมีฮูด รองเท้าแตะ ไอคอน Facebook และป้าย Like/Poke ราคาขายตัวละ 70 ดอลลาร์ ทาง M.I.C. ได้เลี่ยงคดีฟ้องร้องโดยเรียกตุ๊กตาตัวนี้ว่า "Poking Inventor Action Figure" แทนชื่อเจ้าตัวโดยตรง

ที่มา - New York Times, M.I.C.

เป็นประจำทุกปีสำหรับนิตยสาร Forbes ที่มีการจัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปี 2011 (อันดับปี 2010) โดยในปีนี้บิล เกตส์ซึ่งตกจากอันดับ 1 ในปีก่อนมาอยู่ที่ 2 ก็ยังคงรั้งอันดับที่ 2 ต่อไปอีกปีกับมูลค่าทรัพย์สิน 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเพียงเล็กน้อยคือ 3 พันล้านดอลลาร์

ส่วนอันดับที่ 1 ยังเป็นของ Carlos Slim มหาเศรษฐีชาวเม็กซิโกเจ้าของธุรกิจสื่อสารกับมูลค่าทรัพย์สิน 7.4 หมื่นล้านดอลลาร์

Mashable รายงานว่า Mark Zuckerberg ได้สร้าง Facebook Page ของ Beast (ลิ้งก์) น้องหมาขนปุยสีขาวพันธุ์พูลิหรือที่คนไทยเรียกกันว่าหมาหิมะ ซึ่งเป็นลูกสุนัขของ Mark Zuckerberg เอง โดยใน Page ดังกล่าวระบุว่าเจ้าของ Page คือ Zuckerberg และ Priscilla Chan แฟนสาว

Page ดังกล่าวจะมีการอัพเดท status ของเจ้า Beast และมีรูปถ่ายของ Zuckerberg, Chan และน้องหมา Beast ในสถานที่ต่างๆ อย่างไรก็ตามผู้ที่กด Like จะไม่ได้รับอนุญาตให้โพสท์แสดงความเห็น

อย่าคิดว่า Mark Zuckerberg จะโด่งดังเสมอไป เพราะผลสำรวจเมื่อไม่นานมานี้มีประเทศที่พัฒนาแล้วประเทศหนึ่งแทบจะไม่รู้จัก Mark Zuckerberg กันเลย ประเทศนั้นคือ "ญี่ปุ่น" ครับ

ผลสำรวจนี้ได้สำรวจผู้หญิงญี่ปุ่นจำนวน 500 คน ในคำถามที่ว่า "Zuckerberg คืออะไร?" ผลสำรวจเป็นดังนี้ครับ

น่าจะถือเป็นภาพในตำนานของวงการเทคโนโลยีได้เลย เมื่อทำเนียบขาวได้เผยแพร่ภาพอย่างเป็นทางการผ่านทาง Flickr เป็นภาพมื้ออาหารค่ำของประธานาธิบดี Barack Obama ร่วมกับบรรดาผู้บริหารของบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเมื่อคืนที่ผ่านมา

ปีที่แล้ว Mark Zuckerberg ออกมาปฏิเสธข่าว Facebook Phone อย่างแข็งขัน แต่เมื่อมือถืออย่าง INQ Cloud Touch หรือ HTC Salsa/ChaCha เริ่มออกมาสู่สายตาชาวโลก เขาก็ต้องออกมาแถลงอีกครั้ง

Zuckerberg พูดที่ Mobile World Congress ประโยคสำคัญของเขาก็คือ คนมักพูดถึง Facebook Phone รุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่ปีนี้สิ่งที่เราจะได้เห็นคือมือถือที่รวม social integration กับ Facebook วางขายอีกหลายรุ่นแทน

เป็นเรื่องปกติของคนดังที่เจอพวกผู้ติดตามแบบทุกฝีก้าวหรือที่เรียกว่า Stalker ซึ่ง Mark Zuckerberg‎ ก็หนีไม่พ้นปัญหานี้แล้ว โดยเขาได้แจ้งความว่าถูกชายวัย 31 ชื่อ Pradeep Manukonda พยายามติดตามและติดต่อเขาทุกฝีก้าว รวมทั้งแสดงออกในลักษณะที่ทำให้รู้สึกถูกคุกคาม

ตัวอย่างข้อความที่ Manukonda ใช้ติดต่อกับ Mark ก็อ่านแล้วน่ากลัวดีทีเดียวเช่น "ช่วยด้วยช่วยผมที ผมพร้อมยอมตายเพื่อคุณ" นอกจากนี้เขาก็พยายามติดต่อ Randi Zuckerberg พี่สาวของ Mark ด้วยเนื้อหาข้อความที่ไม่ต่างกันมากเช่น "พี่สาวที่นับถือ โปรดช่วยผมที ทุกวินาทีมีค่ามากในตอนนี้"