YouTube ประกาศร่วมกับ Universal Music Group เพื่อทำการ remaster มิวสิควิดีโอเก่า ๆ จำนวนมากบนแพลตฟอร์มเพื่อให้มีภาพคมชัดและเสียงดีขึ้น

YouTube ให้เหตุผลว่า วิดีโอที่อยู่บนแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นมาตรฐานเก่าที่ล้าสมัยไปแล้ว การอัพเกรดวิดีโอนี้เพื่อให้ประสบการณ์รับชมวิดีโอที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะรับชมบนมือถือ, เดสก์ท็อป หรือทีวี

วิดีโอที่ทำการ remaster นี้ จะเป็นการทดแทนวิดีโอเดิม รวมถึงใช้ URL เดิม ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดอย่างยอดผู้ชม, จำนวนไลค์จะยังคงอยู่เหมือนเดิม โดยจะมีข้อความระบุว่า Remastered ในส่วนคำอธิบายวิดีโอเพื่อบอกว่าวิดีโอนี้ถูกอัพเกรดเป็น HD แล้ว

หลังจากที่ลองนำระบบ AR มาแสดงในผลเสิร์ชไปแล้ว ล่าสุด Google เตรียมจะนำเทคโนโลยีนี้มาควบรวมกับการโฆษณาแล้วโดยเริ่มที่ YouTube ก่อนด้วยฟีเจอร์ AR Beauty Try-On

AR Beauty Try-On ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทดลองลิปสติกบนหน้าตัวเองได้เลยผ่านระบบ AR และกล้องหน้า โดย Google ระบุว่าผลิตภัณฑ์นำมาให้ทดลองผ่าน AR Beauty Try-On จะมีความเหมือนผลิตภัณฑ์จริง เบื้องต้นมีแค่แบรนด์ M·A·C ที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ ขณะที่ฟีเจอร์นี้ยังเป็นแค่เวอร์ชันอัลฟาและจะถูกนำมาใช้งานกับอินฟลูเอนเซอร์บน Famebit แพลตฟอร์มแบรนด์คอนเทนท์ของ YouTube

ใน YouTube มีวิดีโอที่โปรโมททฤษฎีสมคบคิดมากมาย เช่น ทฤษฎีโลกแบน ทฤษฎีที่เชื่อว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ไม่มีจริง รวมทั้งวิดีโอที่สนับสนุนนาซี เป็นต้น ซึ่งเป็นชนักติดหลัง YouTube มาสักพักแล้วว่าสมควรแล้วหรือ ที่แพลตฟอร์มเปิดอย่าง YouTube จะมีแต่เนื้อหาที่สนับสนุนความเกลียดชังและข้อมูลไม่ตรงกับความจริง

ล่าสุด YouTube ออกมาตรการแบนวิดีโอที่ปฏิเสธเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และเหตุกราดยิงในโรงเรียน Sandy Hook Elementary ออก รวมถึงวิดีโออื่นที่สนับสนุนแนวคิดนาซีด้วย ถ้าช่องใดยังฝ่าฝืนกฎ จะถูกห้ามไม่ให้มีโฆษณามาลง วิดีโอประเภทอื่นๆ ที่จะลบออกภายใต้กฎใหม่ของ YouTube ได้แก่ ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับชาวยิวครองโลก, การปฏิเสธสิทธิสตรีเพราะฉลาดน้อยกว่าผู้ชาย

ข่าวสั้นบันเทิงกันสักเล็กน้อย สืบเนื่องกรณีที่แอปเปิลขายขาตั้งจอ Pro Display XDR แยก ด้วยราคา 999 เหรียญนั้น ภายในงานคีย์โน้ตเองตอนพูดถึงเรื่องนี้ก็มีเสียงฮือฮากันออกมา

แน่นอนว่าสุดท้ายแอปเปิลก็ไม่น่าหนีพ้นว่าจะถูกแซวในเรื่องนี้ และมีคนตัดคลิปช่วงที่ John Ternus รองประธานฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์เปิดเผยราคาของ Pro Stand นำขึ้น YouTube พร้อมตั้งชื่อว่า "WWDC 2019 Pro Stand Crowd Reaction" และมียอดวิวสูงถึง 895,743 วิว ก่อนที่ล่าสุดคลิปนี้จะถูกแอปเปิลยื่นเรื่องให้ YouTube นำคลิปนี้ลง โดยอ้างลิขสิทธิ์

ปัญหาใหญ่ของ YouTube คือกลายเป็นแพลตฟอร์มที่คนมีรสนิยมชอบเด็กเข้ามาหาคลิปและใช้ถ้อยคำล่วงละเมิดเด็ก จน YouTube ต้องออกมาจัดการปิดคอมเม้นท์ทั้งหมดในคลิปที่มีเด็กอยู่ด้วย ล่าสุด YouTube ขยับมาตรการอีกขั้น คือห้ามเด็กๆ ทำคลิปไลฟ์เอง เว้นแต่จะทำให้ชัดว่ามีผู้ปกครองอยู่ในคลิปด้วย

YouTube ประกาศเปลี่ยนวิธีการแสดงจำนวนผู้ติดตาม (subscribers) ของแต่ละช่องบนแพลตฟอร์ม ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน จากที่ปัจจุบันอาจแสดงผลไม่เหมือนกัน เช่น บนเดสก์ท็อปจะแสดงจำนวนละเอียด แต่บนมือถือจะแสดงเป็นตัวเลขย่อ

การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ตัวเลข subscribers ที่แสดงแบบสาธารณะ หากมีจำนวนมากกว่า 1,000 ขึ้นไป จะเริ่มแสดงเป็นจำนวนแบบปัดเลขลง เช่น 4,227 แสดงเป็น 4.2k หรือ 51,389,232 แสดงเป็น 51M เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงมีผลรวมไปถึงบรรดาบริการ 3rd Party ทั้งหลายที่ดึงข้อมูลตัวเลขผ่าน API ไปแสดงผลเปรียบเทียบ YouTuber ต่าง ๆ ด้วย

ใครที่จะดูวิดีโอจาก YouTube Originals ต้องจ่ายเงินรายเดือน แต่ต่อไปนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะ YouTube จะปล่อยให้ดูฟรีมีโฆษณา

YouTube ประกาศในงานอีเว้นท์ Brandcast ว่าโชว์ใหม่ๆ ใน YouTube Original จะให้คนดูฟรีแบบมีโฆษณา หนึ่งในนั้นมี Cobra Kai ซีซั่นสาม ซึ่งเป็นเรื่องราวภาคต่อจาก The Karate Kid ที่เคยโด่งดังในยุค 1980 นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จบน YouTube Originals อย่างมากด้วย

เว็บไซต์ The Information รายงานโดยอ้างอิงบุคคลภายในระบุว่า Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ฝังลิงก์ใต้วิดีโอบน YouTube ให้ผู้ใช้งานกดเข้าไปช้อปปิ้งได้ และของจะจัดส่งผ่าน Google Express ซึ่งเป็นบริการส่งของที่ Google ร่วมมือกับผู้ค้ารายปลีกใหญ่อย่าง Costco, Fry's, Target และกำลังให้บริการในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ

เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว YouTube ถือเป็นเว็บยอดนิยมแห่งแรก ๆ ที่ตัดสินใจขึ้นข้อความเตือนผู้ใช้เบราว์เซอร์ IE6 โดยแนะนำให้อัพเกรดไปใช้เบราว์เซอร์อื่นได้แล้ว การขึ้นแบนเนอร์ครั้งนั้นได้รับผลตอบรับที่ดี มีเว็บขนาดใหญ่ทำตาม จนสุดท้าย IE6 ที่เป็นเบราว์เซอร์มาตรฐานเก่าก็ได้รับความนิยมน้อยลง แต่เรื่องนี้ก็มีเบื้องหลังที่สนุกทีเดียว

Amazon และ YouTube กลับมาจับมือกันอีกครั้ง โดยประกาศว่า แอป YouTube จะกลับมาให้บริการในอุปกรณ์ Amazon Fire TV รวมทั้งสมาร์ททีวี ขณะที่แอป Prime Video ของ Amazon ก็จะรับรองการแคสต์ไปยัง Chromecast ด้วยเช่นกัน โดยจะเกิดขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ Prime Video ก็เตรียมเป็นแอปในอุปกรณ์ Android TV รวมทั้งแอป YouTube TV และ YouTube Kids ก็จะเข้ามาอยู่ใน Fire TV ภายในปีนี้

บริการของสองค่ายนี้มีการจำกัดการเข้าถึงตั้งแต่เมื่อปลายปี 2017 อย่างไรก็ตามในข้อตกลงดังกล่าวนั้น ไม่ได้พูดถึงอุปกรณ์ Amazon Echo Show แต่อย่างใด

เมื่อคืนนี้เกิดเหตุไฟไหม้มหาวิหาร Notre Dame ในกรุงปารีส นอกจากความสูญเสียในแง่มรดกทางวัฒนธรรมแล้ว ยังมีประเด็นว่าอัลกอริทึมของ YouTube ทำงานผิดพลาด มองคลิปข่าวไฟไหม้ Notre Dame เป็นคลิปเหตุการณ์ก่อการร้าย 9/11 ไปแทน

เมื่อสำนักข่าวต่างๆ เผยแพร่คลิปถ่ายทอดสดเหตุไฟไหม้ Notre Dame บน YouTube "ระบบป้องกันข่าวปลอม" ก็ทำงาน โดยแสดงข้อความกำกับใต้คลิปว่าเป็นคลิปของเหตุการณ์ใด แต่ระบบดันทำงานผิดพลาด และขึ้นข้อความว่าเป็นเหตุการณ์ 9/11 แทน

โฆษกของ YouTube ยอมรับว่าระบบทำงานผิดพลาดจริง และแก้ไขปัญหาแล้ว

ที่มา - CNN

เพลง Boy With Luv ของวง BTS ทำสถิติคนชมในรอบ 24 ชั่วโมงแรกสูงสุดถึง 78 ล้านวิว แซงหน้าเพลง Kill This Love ของ BLACKPINK ที่เพิ่งทำสถิติไปเมื่อไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาที่ 56.7 ล้านวิว ถือว่าปล่อยให้ BLACKPINK ครองแชมป์อยู่แค่สิบวันเท่านั้น

นอกจากสถิติยอดชมสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมง อีกสถิติหนึ่งคือระยะเวลาถึง 100 ล้านวิว ที่ Kill This Love ใช้เวลา 62 ชั่วโมง (2 วัน 14 ชั่วโมง) ขณะที่ Boy With Luv ใช้เวลาเพียง 37 ชั่วโมงเท่านั้น

คงนับได้ว่าปีนี้เป็นปีที่วงการ K-Pop มีอิทธิพลใน YouTube สูงขึ้นมากนับจากยุค Psy ที่เคยมีอิทธิพลรวมต่อ YouTube อย่างสูงเมื่อหลายปีก่อน

หนังที่ให้คนดูกำกับทิศทางเรื่องราวได้อย่าง Black Mirror Bandersnatch ของ Netflix เป็นอีกทางเลือกของคนดูหนังในการเสพอรรถรส และ Netflix เองก็พยายามขยายเนื้อหาทำนองนี้ไปยังหนังแนวอื่นๆด้วย YouTube เองก็ไม่น้อยหน้า Bloomberg รายงานว่า YouTube ก็กำลังลงทุนสร้างเนื้อหาที่ผู้ชมเลือกทิศทางได้หรือ Choose-Your-Own-Adventure และคาดว่าจะมีการเปิดตัวในอีเว้นท์ของ Google ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้

การพัฒนาเนื้อหาจะอยู่ภายใต้การดูแลของ Ben Relles หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมของ YouTube Originals ซึ่ง YouTube เองก็เคยทดลองทำเนื้อหาแบบ interactive ในงานโฆษณาบางชิ้น และตอนนี้ก็พร้อมเข้าสู่การทำเป็นโชว์แบบอื่นที่ต้องใช้การลงทุนและเทคโนโลยีที่ล้ำกว่าเดิม เพื่อให้คนดูสามารถเลือกกิจกรรมบนเนื้อหาได้ราบรื่น ไม่หน่วง ไม่สะดุด

Blackpink ศิลปินกลุ่มหญิงจากเกาหลี ซึ่งเพิ่งปล่อยเพลงใหม่ล่าสุด Kill This Love ได้ทำสถิติในโลกออนไลน์ใหม่ โดยมิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้ทำยอดวิวใน YouTube ทะลุ 100 ล้านวิว เร็วที่สุดในโลก ด้วยระยะเวลา 2 วัน กับอีก 14 ชั่วโมง ซึ่งสถิติเร็วที่สุดก่อนหน้านี้คือ Gentleman ของ Psy ในปี 2013 ที่ใช้เวลา 3 วัน

นอกจากนี้ Kill This Love ยังทำอีกสถิติคือยอดวิวสูงที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรก นับจากวิดีโอเผยแพร่ โดยทำได้ 56.7 ล้านวิว ชนะแชมป์เก่าคือ Thank U, Next มิวสิควิดีโอของ Ariana Grande ที่ทำไว้ 55.4 ล้านวิว

YouTube Music และ YouTube Premium เป็นบริการชมวิดิโอและฟังเพลงแบบเสียเงินของ YouTube ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จ่ายเงินต้องคาดหวังว่าจะไม่มีโฆษณามากวนใจ

ทว่าล่าสุดมีผู้ใช้หลายคนรายงานทั้งใน Reddit และหน้า YouTube Communityว่าพบโฆษณาจากทั้งสองบริการข้างต้น รวมถึงไม่สามารถเปิดเพลงฟังจากแบ็คกราวด์ได้ ซึ่งทาง YouTube ก็ระบุว่าทราบเรื่องแล้วและกำลังแก้ปัญหานี้อยู่ พร้อมแนะนำว่าให้ลองปิดบลูทูธและรีสตาร์ทแอปใหม่ น่าจะช่วยได้เป็นการชั่วคราว

เวียนมาอีกปีกับการประกาศรางวัล YouTube Ads Leaderboard หรือรางวัลโฆษณาที่ได้รับความนิยมบน YouTube ประเทศไทย ปีนี้มีโฆษณา 10 เรื่องี่มีจำนวนการเข้าชมรวมกันมากกว่า 90 ล้านครั้งในปีที่ผ่านมา ดังนี้คือ

ข่าวใหญ่ของวงการเกมสัปดาห์นี้คือ Stadia บริการเกมแบบสตรีมมิ่งของกูเกิล ที่ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก (เช่น เปิดเมื่อไร มีเกมอะไรบ้าง) แต่ก็มีสื่อต่างประเทศหลายรายเริ่มวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ของ Stadia กันบ้างแล้ว

เว็บไซต์ The Verge มองว่า Stadia ไม่ใช่บริการเกมแบบโดดๆ สำหรับเกมเมอร์แบบดั้งเดิม แต่มันคือ "ส่วนต่อขยายของ YouTube" เพราะกูเกิลออกแบบ Stadia ให้เชื่อมโยงกับ YouTube อย่างมาก มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ทำงานร่วมกัน เช่น กดเข้าร่วมเล่นเกมขณะที่กำลังดูคลิปได้เลย, Crowd Play สามารถเล่นเกมร่วมกับยูทูเบอร์ดังๆ พร้อมกันหลายคนได้ (ดูคลิปประกอบ)

Charlie Warzel คอลัมนิสต์ผู้เขียนบทความแสดงความคิดเห็นให้ The New York Times หลายชิ้น เขียนตั้งคำถามถึงโซเชียลมีเดียกรณีการแพร่กระจายของคลิปก่อเหตุร้ายนิวซีแลนด์ ว่าถึงเวลาต้องตั้งคำถามและพูดคุยอย่างจริงจังถึงโครงสร้างโซเชียลมีเดีย ที่มีบทบาทและช่วยส่งเสริมให้คนหัวรุนแรงมีความกล้าแสดงออกถึงการกระทำรุนแรงบนออนไลน์

Warzel บอกว่า การที่โซเชียลมีเดียพยายามบอกว่าตัวเองกรองและบล็อกเนื้อหาคลิปสนับสนุนก่อการร้ายได้มากขึ้นขนาดไหนนั้นเป็นเพียงแค่การระงับอาการ ไม่ได้ดูตรงโรคที่เป็นจริงๆ

แม้ Facebook, YouTube จะลบและพยายามบล็อกวิดีโอเหตุร้ายที่นิวซีแลนด์ แต่คลิปก็ยังคงหาดูได้ในอินเทอร์เน็ต จนล่าสุดคณะกรรมการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ หรือ The US House Homeland Security Committee ออกมาเรียกร้องซีอีโอ Facebook, YouTube รวมถึง Twitter กับ ไมโครซอฟท์ด้วยว่าควรให้ความสำคัญกับการลบเนื้อหาทั้งหมดออกจากอินเทอร์เน็ตเป็นอันดับแรกในตอนนี้

ในวันศุกร์ 15 มีนาคมที่เกิดเหตุมือปืนกราดยิงที่มัสยิดเมืองไครส์เชิร์ต และผู้ก่อเหตุได้ทำการไลฟ์ลง Facebook ด้วยนั้น Neal Mohan หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ YouTube บอกกับ The Washington Post ว่าตัวคลิปมีการอัพโหลดขึ้น YouTube เร็วมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

Mohan ระบุในกรณีนี้ว่า AI สามารถตรวจจับการอัพโหลดคลิปได้ดีกว่าคน เขาจึงให้คนหยุดกรองเนื้อหา และให้ AI เข้ามาทำแทนก่อน และยังปิดการใช้งานเมื่อคนค้นหาคลิปที่เพิ่งอัพโหลดบนช่องค้นหา อย่างไรก็ตาม คนที่อัพโหลดยังสามารถใช้ทริคอื่นๆ เช่น ทำลายน้ำ ตัดต่อเพิ่ม ทำแอนิเมชั่นเพิ่มเข้าไปให้เพื่อจะสามารถอัพโหลดได้

อย่างไรก็ตาม YouTube ไม่ได้บอกตัวเลขคลิปที่มีการอัพโหลด รวมทั้งจำนวนคลิปที่ YouTube บล็อกได้สำเร็จ ส่วน Facebook ได้ออกมาชี้แจงตัวเลขแล้ว

ข่าววิดีโอ Momo challenge วิดีโออาศัยตุ๊กตารูปผีมาสร้างความกลัวให้กับเด็กๆ แล้วหลอกให้ไปทำเรื่องอันตรายต่อตัวเองหรือผู้อื่น เช่นจุดเตาทิ้งไว้โดยไม่บอกพ่อแม่ เริ่มแพร่ออกมาจากอังกฤษ แล้วกระจายไปทั่วโลก แต่จนตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่ามีวิดีโอที่หลอกให้เด็กๆ ทำสิ่งอันตราย

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าพบวิดีโอการ์ตูน Peppa Pig ที่แทรกภาพตุ๊กตาผี Momo นี้ไว้กลางเรื่อง สร้างความตื่นตกใจกลัว แต่ก็ไม่พบการชักจูงให้เด็กทำอย่างอื่น

จากปัญหาคลิปละเมิดเด็กบน YouTube ที่เป็นคลิปเด็กธรรมดาทั่วไป แต่กลุ่มคนที่ชอบร่วมเพศกับเด็กไปคอมเมนต์หยาบคาย หรือระบุช่วงเวลา (timestamp) ช่วงที่เด็กทำกริยาบางอย่างโดยไม่ตั้งใจ แต่เป็นท่าทางที่ตีความในทางเพศได้ จนเป็นผลให้แบรนด์ใหญ่ๆ หลายรายประกาศถอนโฆษณาจาก YouTube เพราะไม่ต้องการให้โฆษณาของตัวเองอยู่คู่กับคลิปเหล่านี้

ล่าสุด YouTube ประกาศมาตรการ 3 ข้อเพื่อแก้ปัญหานี้

YouTube ยังเผชิญกับปัญหาคลิปเนื้อหาไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เป็นคลิปที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก กรณีล่าสุดเป็นการแทรก "ฉากสอนฆ่าตัวตาย" ลงในการ์ตูนสำหรับเด็ก และสามารถเล็ดลอดการตรวจจับไปขึ้น YouTube Kids ที่พ่อแม่ไว้ใจให้ลูกๆ เปิดดูได้ด้วย

BuzzFeed News รายงานว่าตอนนี้ YouTube ได้ถอดโฆษณาออกจากวิดีโอที่โปรโมตคอนเทนต์ต่อต้านวัคซีนแล้ว ซึ่ง YouTube ได้รายงานไปยังแบรนด์ที่ยังไม่ทราบว่าโฆษณาของตัวเองไปปรากฏในวิดีโอเหล่านั้น โดยวิธีนี้เป็นอีกมาตรการหนึ่งในการจำกัดคอนเทนต์ที่เผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดบนแพลตฟอร์ม

โฆษกของ YouTube ระบุว่า ทาง YouTube มีนโยบายที่เข้มงวดที่จะวางระเบียบว่าวิดีโอไหนควรจะมีโฆษณาปรากฏ และวิดีโอที่โปรโมตคอนเทนต์ต่อต้านวัคซีนนั้นผิดเงื่อนไขเหล่านี้

ตอนนี้มีช่องที่โปรโมตคอนเทนต์ต่อต้านวัคซีนที่โดนถอดโฆษณาออกจากวิดีโอไปแล้ว เช่น LarryCook333, VAXXED TV และ iHealthTube ซึ่งสามช่องนี้รวมแล้วมีผู้สมัครสมาชิกกว่า 473,000 คน

YouTube เจอปัญหาอีกครั้งเมื่อพบว่า YouTube รันโฆษณาคู่กับคลิปเด็กผู้หญิงที่อาจมีท่าทางล่อแหลม ล่าสุดผู้ลงโฆษณารายใหญ่อย่าง Nestle, ดิสนีย์, Epic Games หยุดการโฆษณาบน YouTube แล้ว

เรื่องราวเริ่มต้นจาก Mark Watson ยูทูเบอร์รายหนึ่งโพสต์คลิปตีแผ่ปรากฏการณ์ทั้งหมด เริ่มจากมีคลิปที่เด็กๆ โพสต์ซึ่งเป็นเรื่องรวธรรมดาที่เกิดขึ้น เช่น เล่นของเล่น ฝึกโยคะ แต่มีผู้ใช้บางรายไปทำ time stamp หรือระบุช่วงเวลาคลิปที่เด็กๆ แสดงอาการบางอย่างออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ล่อแหลมเป็นที่ชื่นชอบของของคนที่ชอบร่วมเพศกับเด็ก และเมื่อคลิกเข้าไป อัลกอริทึม YouTube ก็จะแนะนำคลิปลักษณะเดียวกันมาให้ และมันมีโฆษณาด้วย นอกจากนี้ Watson ยังให้ดูผู้ใช้ที่มีพฤติกรรมคอมเม้นท์หยาบคาย ละลาบละล้วงต่อเด็ก เขาเรียกร้องให้มีใครทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้