กูเกิลประกาศเพิ่มโหมด Companion สำหรับผู้ใช้ Google Meet บนแอปมือถือ iOS และ Android แล้ว จากก่อนหน้านี้โหมดใช้งานดังกล่าวมีเฉพาะบนเว็บเดสก์ท็อป และ Nest Hub Max
Companion Mode เป็นการใช้งาน Google Meet แบบจอที่สอง สำหรับการประชุมในห้องใหญ่ ซึ่งมีการเชื่อมต่อเสียง-วิดีโอกับอุปกรณ์ในห้องอยู่แล้ว แต่ผู้ร่วมประชุมต้องการเข้าร่วมแบบหน้าจอส่วนตัวเพิ่มต่างหาก ซึ่งช่วยเพิ่มโฟกัสและควบคุมการประชุมได้โดยตรงจากบัญชีของตนเอง
ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะลูกค้า Google Workspace โดยต้องอัพเดตแอป iOS และ Android เป็นเวอร์ชันปัจจุบัน
Google Meet ประกาศเพิ่มฟีเจอร์เล็ก ๆ แต่ช่วยให้การจัดการภาพรวมการประชุมออนไลน์ดีขึ้น โดย Host และ Co-host สามารถกดปักหมุด (Pin) หน้าจอผู้ร่วมประชุม ได้สูงสุด 3 คน ทำให้หน้าจอของผู้พูดคนสำคัญในการประชุม แสดงค้างอยู่ตลอดเวลา มีผลกับผู้ร่วมประชุมทุกคน
เดิม Google Meet นั้นสามารถ Pin หน้าจอผู้ร่วมประชุมได้ แต่มีผลเฉพาะผู้ใช้งานคนนั้น ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ Host สามารถกำหนดค่าได้เลยสำหรับทุกคน ทั้งนี้ผู้ร่วมประชุมก็สามารถถอนหมุด (Unpin) ได้เองเช่นกัน
ฟีเจอร์นี้มีผลสำหรับลูกค้า Google Workspace ทุกคน
ที่มา: กูเกิล
Google Meet เพิ่ม 3 ฟีเจอร์ เพื่อให้วิดีโอคอลของผู้ใช้งาน ถูกปรับแต่งอย่างละเอียดให้นำเสนอออกมาในแบบที่ต้องการ
คุณสมบัติแรกคือการรวมเอฟเฟกต์หลายอย่างมาใช้ในวิดีโอเดียว ได้แก่ การปรับแต่งพื้นหลัง, การใส่ฟิลเตอร์ หรือลูกเล่นตกแต่งต่าง ๆ และตัวปรับแสง-คุณภาพวิดีโอ ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานทั้งเวอร์ชันเว็บ และแอปสมาร์ทโฟน
อีกสองคุณสมบัติเปิดให้เฉพาะลูกค้า Google Workspace Enterprise ที่ซื้อส่วนเสริม Duet AI ได้แก่ ระบบให้แสงแบบสตูดิโอ ซึ่งสามารถปรับระดับแสงและตำแหน่งได้ กับระบบเสียงสตูดิโอ ช่วยปรับปรุงเสียงที่คุณภาพไม่ดี ให้เสียงชัดเจนมากขึ้น
Google Meet เพิ่มความสามารถใหม่ จากเดิมในการประชุมหากเราต้องการพูดจะมีปุ่มยกมือ (Hand raise) แต่คราวนี้เราสามารถยกมือจริง ๆ แล้ว Google Meet ก็รับรู้ว่ายกมือในระบบได้ด้วย
โดย Google Meet จะใช้วิธีจับท่าทางในกล้องที่เปิดอยู่ว่ามีการยกมือเกิดขึ้นที่หน้าจอ ทั้งนี้เงื่อนไขคือกล้องต้องเปิด (อันนี้แน่นอน) ขณะเดียวกันมุมกล้องต้องเห็นชัดเจนว่ามือยกขึ้นมาห่างจากใบหน้าและลำตัว ระบบตรวจจับนี้จะไม่ทำงานหากคนนั้นกำลังเป็นผู้พูดอยู่แล้ว
ฟีเจอร์นี้ปิดการทำงานเป็นค่าเริ่มต้น สามารถเปิดใช้งานได้โดยไปที่ More options > Reactions > Hand Raise Gesture และมีให้เฉพาะลูกค้า Google Workspace
หลัง OpenAI เกิดปัญหาในบริษัทจนกระทั่ง Sam Altman อดีตซีอีโอย้ายไปอยู่ไมโครซอฟท์ และพนักงานแสดงความไม่พอใจบอร์ดจำนวนมากจนมีแนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์บริษัทแตก บริษัทต่างๆ ก็ยื่นข้อเสนอให้กับพนักงาน OpenAI กันยกใหญ่ โดยเฉพาะ Salesforce ที่ถึงกับออกมายืนยันว่าจะเสนอผลประโยชน์ให้เท่าเดิม
ประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจสังเกตคือ OpenAI ประชุมไล่ Sam Altman ออกด้วย Google Meet แม้ไมโครซอฟท์เคยลงทุนใน OpenAI มาแล้วอาจจะถึงหมื่นล้านดอลลาร์
Google Meet เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ On-the-Go สำหรับการใช้งานผ่านมือถือ เพื่อให้มีหน้าตาใช้งานที่ง่ายและเหมาะกับสถานการณ์ตอนนั้น
คุณสมบัติก็ตามชื่อ โหมดการทำงาน On-the-Go จะถูกเรียกเปิดใช้เมื่อตรวจพบการเคลื่อนที่ เช่น เดิน ขับรถ หรือโดยสารรถสาธารณะ โดยขึ้นข้อความว่า Google Meet กำลังเข้าสู่โหมด On-the-Go ที่ปุ่มจะลดเหลือที่จำเป็นและมีขนาดใหญ่ขึ้น (Mute, Unmute, Hand Raise, เลือก Audio Device) ส่วนหน้าตาห้องประชุมจะปิดการแสดงวิดีโอมีเฉพาะเสียง เหลือเพียงหัวข้อประชุม จำนวนผู้เข้าประชุม และคนที่กำลังพูดอยู่
ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกการแสดงผลเพิ่มเติม เช่น ให้แสดงไฟล์ที่กำลังนำเสนออยู่ได้ หรือเลือกออกจากโหมด On-the-Go นี้เลย ก็ทำได้เช่นกัน
Google Meet ประกาศเพิ่มฟังก์ชัน ซึ่งกูเกิลบอกว่ามีการร้องขอให้เพิ่มเป็นจำนวนมากจากผู้ใช้งาน นั่นคือโหมดปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น (Portrait Touch-up)
โหมดการใช้งานมีสองระดับคือ Subtle ระบุว่าเป็นการปรับเพียงเล็กน้อย และ Smoothing ที่มีการปรับสภาพใบหน้ามากกว่า กูเกิลอธิบายว่าหลายครั้งเราต้องวิดีโอคอลในสภาพที่อาจจะดูเหนื่อยล้าเกินไป เช่น เพิ่งออกมาจากฟิตเนส เพิ่งหายป่วย หรือเพิ่งกลับจากเดินทางไกล ฟีเจอร์นี้จึงเข้ามาช่วยเพิ่มความมั่นใจและสบายใจกับผู้ใช้งานนั่นเอง
ลงสุสานกูเกิลไปอีกราย กูเกิลประกาศปิดบริการแอพ Jamboard ที่ใช้คู่กับกระดานไวท์บอร์ดอัจฉริยะ Jamboard 55 (เปิดตัวตั้งแต่ปี 2016) โดยตัวฮาร์ดแวร์จะอัพเดตให้จนถึงเดือนกันยายน 2024
กระดานอัจฉริยะ Jamboard เป็นหน้าจอขนาด 55" 4K ติดกล้องและไมโครโฟนมาให้ในตัว เขียนกระดานไป ประชุมกันไป เรียกเอกสารจาก G Suite มาขึ้นบนจอได้ (ตอนนั้นยังไม่เปลี่ยนชื่อเป็น Google Workspace ด้วยซ้ำ) ตัวกระดานตั้งราคาขายชุดละ 4,999 ดอลลาร์ และมีค่าธรรมเนียมใช้งานอีกปีละ 600 ดอลลาร์
กูเกิลมีสินค้ากลุ่มหน้าจออัจฉริยะ (Smart Display) แบรนด์ Nest Hub และ Nest Hub Max โดยรุ่น Max ที่ออกในปี 2019 มีกล้องเว็บแคมด้านหน้า แถมรองรับการคุยวิดีโอคอลล์ผ่านแอพ 3 ตัวได้แก่ Google Duo, Google Meet, Zoom
กูเกิลประกาศว่าบริการ Duet AI ที่นำความสามารถของ Generative AI มาใช้กับบริการของ Google Workspace ตอนนี้เปิดให้สำหรับผู้ใช้งานทุกคนแล้ว
ในประกาศนี้กูเกิลยังนำ Duet AI มาใส่ใน Google Meet โดยนอกจากระบบจัดการภาพและเสียง ยังมีฟีเจอร์อื่นดังนี้
Google Meet เริ่มทยอยเปิดฟีเจอร์สร้างภาพพื้นหลังตอนประชุมด้วย AI (generate a background)
วิธีใช้งานจำเป็นต้องได้สิทธิเป็นผู้ทดสอบกลุ่ม Google Workspace Labs ก่อน ซึ่งยังมีเฉพาะในสหรัฐอเมริกา หากได้เป็นสมาชิกแล้ว ตอนใช้งาน Google Meet จะมีปุ่มเวทย์มนตร์ให้เราเลือกสร้างภาพพื้นหลัง โดยระบุคำสั่ง prompt และเลือกสไตล์ภาพที่ต้องการให้สร้าง แบบเดียวกับบริการสร้างภาพด้วย AI ตัวอื่นๆ
กลุ่มผู้ทดสอบ Google Workspace Labs ยังจะได้ลองใช้ฟีเจอร์ด้าน AI หลายอย่างใน Google Workspace ตามที่เคยประกาศไว้ในงาน Google I/O 2023 ดูตัวอย่างได้จากคลิปท้ายข่าว
Google Meet ประกาศอัพเดตความสามารถด้านการแสดงข้อความบรรยายระหว่างการประชุม โดยการแสดงคำบรรยายหรือ Closed Captions รองรับภาษาเพิ่มเติม ได้แก่ อินโดนีเซีย โปแลนด์ โรมาเนีย ตุรกี เวียดนาม และภาษาไทย นอกจากนี้ยังรองรับภาษาฝรั่งเศสแบบแคนาดาด้วย แต่เฉพาะภาษานี้ใช้งานได้ผ่านเว็บเท่านั้น
ความสามารถการแสดงข้อความบรรยายในภาษาข้างต้น ยังมีสถานะเป็นเบต้า โดยกูเกิลประกาศถอดสถานะเบต้าสำหรับการแสดงคำบรรยายในภาษาดัตช์ อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี โปรตุเกส และรัสเซีย ด้วย
Google Meet ยังขยายความสามารถคำบรรยายแปลภาษาหรือ Translated Captions โดยสามารถแปลคำพูดจากภาษาอังกฤษ ออกมาเป็นข้อความภาษาดัตช์ อินโดนีเซีย ตุรกี และเวียดนาม ได้เพิ่มเติมด้วย โดยทั้งหมดมีสถานะเป็นเบต้าเช่นกัน
กูเกิลเพิ่มความสามารถใหม่ใน Google Meet โดยบอกว่าผู้ใช้งานสามารถเลือกปิดวิดีโอที่แสดงของผู้เข้าร่วมคนอื่นได้ในระหว่างการประชุม ซึ่งมีประโยชน์หากเราต้องการโฟกัสเฉพาะสิ่งที่ผู้นำเสนอกำลังพูด โดยไม่มีภาพเคลื่อนไหวผู้เข้าร่วมคนอื่นกวนสายตาดึงความสนใจระหว่างประชุม
กูเกิลบอกว่าเมื่อเรากำหนดค่าดังกล่าว ผู้เข้าร่วมคนอื่น (ที่ถูกจับปิดกล้องแสดงผล) จะไม่ถูกแจ้งเตือน หรือเห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในฝั่งนั้น โดยฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถใช้งานได้ทั้ง Google Meet บนเว็บและในอุปกรณ์มือถือ
นอกจากนี้ Google Meet เวอร์ชันแอปมือถือยังเพิ่มคำสั่ง Audio Only เพื่อปิดการแสดงหน้าจอวิดีโอทั้งหมด ยกเว้นจอที่ผู้นำเสนอกำลังแชร์หน้าจอเนื้อหาอยู่
Google Meet เพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ แต่น่าจะมีประโยชน์ในวงกว้าง นั่นคือปุ่ม Share เพื่อแชร์ลิงก์สไลด์ที่กำลังพรีเซนต์อยู่บนหน้าจอให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน ไม่ต้องมาตามทวงไฟล์สไลด์กันอีกในภายหลัง
รูปแบบการทำงานคือคนพรีเซนต์จะเห็นปุ่ม Share ขึ้นมาบนหน้าจอ กดแล้วจะเป็นการโพสต์ลิงก์ลงในห้องแชทของการประชุมนั้นๆ พร้อมภาพพรีวิวสไลด์ ผู้เข้าประชุมคนอื่นๆ สามารถเข้าไปดูสไลด์เองได้ทันที (หากไม่ได้ตั้งสิทธิการเข้าถึงไว้ จะขึ้นหน้าจอถามว่าต้องการเปิดสิทธิให้คนที่อยู่ในห้องประชุมหรือไม่)
ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานเป็นค่าดีฟอลต์ และทยอยเปิดให้ผู้ใช้ Google Workspace บางกลุ่มแล้ว
กูเกิลประกาศความร่วมมือกับ Zoom ให้ฮาร์ดแวร์ประชุม Google Meet ใช้คุยวิดีโอคอลล์ข้ามกับ Zoom ได้ ในทางกลับกัน ฮาร์ดแวร์แบรนด์ Zoom Rooms ก็ใช้คุยผ่าน Google Meet ได้เช่นกัน
เมื่อปี 2021 กูเกิลมีความร่วมมือแบบเดียวกันกับ Cisco ให้ฮาร์ดแวร์ Meet กับ Webex คุยกันได้ ข้อดีของความร่วมมือแบบนี้คือลูกค้าองค์กรที่ลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์สำหรับการประชุมออนไลน์ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อชุดแยกเมื่อต้องคุยผ่านโปรแกรมวิดีโอคอลล์อื่น (ในกรณีที่องค์กรพาร์ทเนอร์ใช้ตัวอื่น)
Google ประกาศอัปเดตปรับปรุง Workspace ให้ผู้ใช้ 3 เรื่องดังนี้
กูเกิลประกาศฟีเจอร์ใหม่ชุดใหญ่ให้กับ Google Workspace โดยมีของเด่นที่น่าสนใจดังนี้
กูเกิลอัพเดตฟีเจอร์ให้ Google Meet เวอร์ชันเว็บ สามารถแยกบุคคลและวัตถุที่ฉากหน้า และฉากหลังได้แม่นยำกว่าเดิม ส่งผลให้การเบลอฉากหลังหรือเปลี่ยนภาพพื้นหลังสวยงามขึ้น (ภาพแอนิเมชันแบบเต็มดูได้จากลิงก์)
วิธีการของกูเกิลนั้นง่ายๆ คือย้ายการประมวลผลภาพบางส่วนไปไว้บนคลาวด์แทน ช่วยลดแรงซีพียูของเครื่องลงได้ 30% และคุณภาพของภาพดีขึ้นด้วย
ตอนนี้ เอฟเฟคต์ของ Meet ที่ใช้งานระบบแยกแยะภาพแบบใหม่นี้ได้แล้วคือ การเบลอฉากหลัง และการปรับสภาพแสง ส่วนการเปลี่ยนภาพพื้นหลังจะตามมาในอนาคต
ระหว่างการควบรวม Google Meet และ Google Duo เข้าด้วยกัน Google อาจพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้สามารถฟังเพลงและชมวิดีโอผ่าน Spotify หรือเล่นเกมอย่าง UNO, Heads Up, และ Kahoot ได้ รวมทั้งการจัดตารางผ่าน GQueues ผ่านฟีเจอร์ live share เพื่อที่ผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นสามารถเห็นได้
9to5Google เป็นคนเจอโค้ดการทำงานข้างต้นผ่านการแงะ APK โดยแอปพลิเคชันอาจจะสลับไปยังแอปพลิเคชันที่สาม ซึ่งก่อนหน้านี้ Google ก็ได้เพิ่มการถ่ายทอดไลฟ์ผ่าน Youtube โดยตรงด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้อ้างอิงจาก APK บนแอนดรอยด์เท่านั้น ยังไม่มีข้อมูลว่าแพลตฟอร์มอื่นจะได้ฟีเจอร์นี้ด้วยหรือไม่
เมื่อสองเดือนก่อน Google ประกาศยุบรวม Duo และ Meet เข้าด้วยกัน และใช้แบรนด์ Meet เพียงแบรนด์เดียว วันนี้ Google ก็เริ่มดำเนินการตามแผนที่ได้ประกาศไว้แล้ว
ในฝั่งของแอป Duo เริ่มได้ฟีเจอร์ของ Meet เข้ามาแล้ว และจะถูกรีแบรนด์ใหม่เป็น Meet โดยวันนี้ Google จะปล่อยแอปบน iOS และ Android ที่เปลี่ยนโลโก้ Duo เป็น Meet และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หากเข้าเว็บ duo.google.com จะรีไดเรกไปที่ meet.google.com/calling
กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ให้ Google Meet ที่อาจหาคู่แข่งมาสู้ลำบาก นั่นคือระหว่างการประชุมออนไลน์สามารถกดไลฟ์ออก YouTube ได้ทันที
ฟีเจอร์นี้ทำให้การจัดประชุมสัมมนา ที่เนื้อหาอาจไม่เป็นความลับภายในขององค์กรไปให้คนทั่วไปดูได้ง่ายขึ้น (ไม่ต้องล็อกอินหรือยืนยันตัวตนเพื่อเข้า Meet) การใช้งานจำเป็นต้องเชื่อมต่อบัญชี Meet กับช่อง Youtube ก่อน และจำเป็นต้องให้แอดมิน Google Workspace ขององค์กรเปิดฟีเจอร์นี้ด้วย
Google Meet เคยมีฟีเจอร์ลดเสียงรบกวน (background noise) มาก่อนแล้ว ล่าสุดกูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ลดเสียงก้อง (reverberation) ที่อาจเกิดจากพื้นผิวแข็ง เช่น การใช้งานในห้องใต้ดิน หรือ ในห้องครัว
ฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดใช้งานอัตโนมัติให้ผู้ใช้ Google Meet ทุกรายตามแพ็กเกจที่กำหนด
ประกาศของกูเกิลออกมาไล่เลี่ยกับ Microsoft Teams ที่เพิ่มฟีเจอร์ลดเสียงสะท้อนระหว่างการประชุมเช่นกัน
ที่มา - Google via Android Police
กูเกิลประกาศทำในสิ่งที่ทุกคนตั้งคำถามมานานหลายปี นั่นคือทำไมไม่รวม Google Meet กับ Google Duo เข้าด้วยกัน วันนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ แล้ว
Google Meet ประกาศฟีเจอร์ด้าน AI หลายอย่างที่ช่วยให้คุณภาพของภาพและเสียงออกมาดีกว่าเดิม แม้อยู่ในสภาพแสงน้อย หรือใช้เว็บแคมคุณภาพต่ำก็ตาม
อย่างแรกคือ Portrait Restore ปรับคุณภาพของวิดีโอให้ดีขึ้น จากตัวอย่างจะเห็นว่าผู้ประชุมนั่งแบบย้อนแสง หน้ามืด ก็กลับมาสว่างขึ้นจากเดิมมาก กระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นบนคลาวด์ ไม่กระทบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ฝั่งผู้ใช้
Google Workspace ประกาศเพิ่มคุณสมบัติในการใช้งานใหม่หลายรายการ โดยเน้นไปที่การทำงานร่วมกันในทีมผ่านแอปสำหรับการประชุม Google Meet
คุณสมบัติแรกคือสามารถแทรก Google Docs, Sheets และ Slides แสดงผลเข้ามาในระหว่างการประชุมผ่าน Meet และทุกคนในนั้นสามารถร่วมตรวจสอบ และแก้ไขไปพร้อมกันได้ทันที
นอกจากนี้ Google Meet ยังรองรับ picture-in-picture บน Chrome สามารถย่อจอสนทนาลงมาเล็กลงระหว่างสลับไปทำอย่างอื่นได้ รวมทั้งเพิ่มการประชุมแบบเข้ารหัส โดยจะเริ่มที่ฝั่งไคลเอ็นต์ในเดือนพฤษภาคม และเพิ่มระดับ end-to-end ภายในสิ้นปีนี้