รีวิว Windows 7 ตอนที่สอง ว่าด้วยสเปกฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำ คำถามว่าควรใช้ 32 บิทหรือ 64 บิท จากนั้นเข้าสู่เรื่องหน้าตาและรูปลักษณ์ รวมไปถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดจาก Vista มายัง Windows 7 นั่นคือ Taskbar อันใหม่นั่นเอง

บทความในชุด: รีวิว Windows 7 ตัวจริง: ตอนที่ 1

คุณ Chris Hernandez ซึ่งเป็น Software Engineer ของไมโครซอฟท์ได้โพสต์ผลการทดสอบการอัพเกรดเป็นวินโดวส์ 7 ทั้งแบบ 32 และ 64 บิต ลงในบล็อกส่วนตัว โดยมีสองตัวแปรคือฮาร์ดแวร์และประเภทของผู้ใช้ที่ต่างกัน (รายละเอียดของสองตัวแปรดูได้ที่บล็อกของคุณ Hernandez)

หลังจากมีคลิปหลุดของโฆษณา Windows 7 ตัวใหม่ลง Youtube ก่อนออกอากาศทางทีวี ทางไมโครซอฟท์ได้ทำโฆษณาตัวใหม่ ที่ชื่อชุด "Good news" มาออกอากาศแทน ได้ออกอากาศที่อเมริกาไปเมือคืนก่อนแล้ว โดยใช้นักแสดงสาวน้อยน่ารักคนเดิมจากโฆษณา I'm PC ที่ชื่อ Kylie โฆษณานี้น้อง Kylie ได้นำเสนอการใช้ Windows Live Photo บน Windows 7 ว่าสามารถใช้ง่ายดายอะไรเช่นนี้ ก่อนจบน้อง Kylie พูดจาอย่างฉะฉาน ฟังชัดว่า "I'm PC. And more happy is coming." (หนูเป็นชาว PC ค่ะ ความสุขที่ยิ่งกว่านี้กำลังจะมาเร็วนี้ค่ะ) แถมท้ายโฆษณายังบอกวันวางตลาดของ Windows 7 ที่เป็นกล่องอีกต่างหากซึ่งก็คือ วันที 22 ตุลาคม 2552 นั่นเอง

เมื่อต้นปี Blognone ได้รีวีว Windows 7 Beta ไปแล้ว (ตอนที่ 1, ตอนที่ 2) เมื่อเวลาผ่านมาอีกเกือบปี Windows 7 ก็เสร็จสมบูรณ์ และพร้อมสำหรับวันวางจำหน่ายจริง 22 ตุลาคม 2009 คราวนี้ถึงเวลามาดูกันอีกรอบว่า ระบบปฏิบัติการที่หลายๆ คนรอคอย และไมโครซอฟท์เองก็ฝากความหวังไว้อย่างเต็มที่ว่าจะมากู้หน้าของ Vista ได้นั้นใช้ดีแค่ไหน เป็นอย่างไร

อัพเดต 2 ตอนนี้คลิปโฆษณาล่าสุดของวินโดวส์ 7 ได้หลุดผ่านยูทูปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (หลังจากคลิปต้นฉบับถูกทำเป็น Private ไป ตอนนี้มีคนคัดลอกแล้วขึ้นยูทูปใหม่แล้ว)

มูลนิธิซอฟต์แวร์เสรี (Free Software Foundation) ก่อตั้งมาเพื่อสนับสนุนซอฟต์แวร์เสรีและเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ได้ออกนโยบาย "ต่อต้านการอัพเกรดระบบเป็นวินโดวส์ 7" และทำการการส่งจดหมายให้แก่องค์กรไอทีที่ใหญ่ที่สุดในโลกจำนวน 499 บริษัท แต่ไม่ได้จัดส่งให้ไมโครซอฟท์เพียงรายเดียว (จัดอันดับโดยนิตยสาร Fortune จำนวน 500 องค์กร)

หน่วยงานรัฐของมลรัฐนิวเซาท์เวลส์ในประเทศออสเตรเลียได้มอบโน้ตบุ๊กเลโนโวที่ติดตั้งวินโดวส์ 7 RTM ล็อกแรกจำนวน 5,000 เครื่องให้กับนักเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

เลโนโวได้ชนะประมูลโครงการจากรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงการศึกษาของประเทศที่มีมูลค่าส่งถึง 2 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ด้วยมูลค่าถึง 150 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในสัญญาเลโนโวจะต้องส่งมอบคอมพิวเตอร์รุ่น IdeaPad S10e ให้กับนักเรียนและคุณครูในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในมลรัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นจำนวน 267,000 เครื่อง

สำหรับหน่วยงานรัฐดังกล่าวได้ทำการทดสอบวินโดวส์ 7 ตั้งแต่รุ่น RC เป็นต้นมา

มีผลการทดสอบการทำงานของเบราว์เซอร์บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (ใช้ Internet Explorer 7 เป็นฐานในการทดสอบ) พบว่าเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะทำงานบน Windows XP SP3 เร็วกว่า Windows 7 ถึง 13% และเร็วกว่า Windows Vista SP2 ถึง 29% นอกจากนั้น Chrome 3 ยังทำงานบน Windows XP ที่ติดตั้ง SP3 เร็วกว่า Internet Explorer 7 บนระบบปฏิบัติการเดียวกันถึงเกือบ 19 เท่าอีกด้วย

สำหรับผลการทดสอบอื่นๆ มีดังนี้ (ยกมาบางส่วน):

จนถึงตอนนี้แม้ว่าจะมีการประกาศว่าจากทั้ง Samsung และ Lenovo จะวางขายเน็ตบุ๊ครุ่นที่ใช้ lon platform ที่หลาย ๆ คนรอกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคงต้องใช้เวลารอเพิ่มขึ้นอีกซักหน่อยแล้วล่ะครับ

เนื่องมาจากทาง Lenovo ตัดสินใจเลื่อนการวางขาย Lenovo Ideapad S12 รุ่น lon (ดูรายละเอียดได้ที่ข่าวเก่า โดยคุณ pawinpawin) ออกไปจนกว่าวินโดวส์ 7 จะออกมาเพราะว่าทาง Lenovo คาดว่าการใช้งานวินโดวส์ 7 ร่วมกับ S12 น่าจะให้ความพึงพอใจแก่ผู้ใช้มากกว่าแผนเก่าที่จะใช้ Vista

อนึ่ง Lenovo S12 รุ่นที่ใช้ Intel GMA950 วางขายได้ระยะหนึ่งแล้วในราคา $500 (ประมาณ 17,500 บาท) และรุ่น lon ที่ยังไม่วางขายราคา $550 (21,000 บาท) ซึ่งแพงกว่าที่เปิดตัวไว้พอสมควร

Windows 7 รุ่น RTM ซึ่งแจกจ่ายไปยังสมาชิก MSDN และ TechNet นั้นมีข้อผิดพลาดร้ายแรงเรื่องหน่วยความจำรั่ว ซึ่งปัญหานี้จะเกิดขึ้นเมื่อใช้คำสั่ง CHKDSK /R บน non-system drive

ลักษณะของปัญหาดังกล่าวคือเมื่อใช้คำสั่งข้างต้นจะทำให้โพรเซส chkdsk.exe เขมือบหน่วยความจำของระบบไปกว่า 90% ซึ่งอาจจะทำให้ระบบค้างไม่ตอบสนองการใช้งาน

อย่างไรก็ดีปัญหานี้คงไม่เกิดกับผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปที่มิได้ใช้คำสั่งนี้ แต่น่าจะเป็นปัญหากับบรรดาฝ่ายไอทีซะมากกว่า(ข่าวร้ายยิ่งไปกว่านั้นคือ Windows Server 2008 R2 ก็มีปัญหานี้เช่นกัน)

ใช้คำสั่ง CHKDSK /R บน non-system drive

ในที่สุด Microsoft ก็ได้ทำการเปิดให้อนุญาตสมาชิกที่มี ID ของ MSDN Subscriptions และ Technet สามารถที่จะทำการดาวโหลดแผ่นติดตั้ง Windows 7 ฉบับสมบูรณ์ (Build 7600) ที่ได้มีการหลุดออกมาผ่านช่องทางอื่นๆ ก่อนหน้านี้ และได้ทำการอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถที่จะทำการ Generate Serial Number ของแท้ได้ โดย Serial Number ของเวอร์ชั่น 32bit และ 64bit จะเป็นหมายเลขชุดเดียวกัน โดย 1 Account สามารถที่จะทำการ Generate Serial Number ได้สูงสุดถึง 10 หมายเลข

โดยส่วนตัว ผมมี Account ของ MSDN Subscriptions อยู่แล้ว จึงได้ทำการ Generate Serial Number ออกมาและสามารถนำมา Activate Windows 7 (Build 7600) 64bit ได้เรียบร้อยครับ

จากกรณี EU สั่งให้ไมโครซอฟท์ปรับแต่งวินโดวส์เพื่อป้องกันการผูกขาดเบราว์เซอร์ จนมีข่าว Windows 7 E ที่ตัด IE ออกไป แต่ช่วงหลังก็มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไมโครซอฟท์ให้ผู้ใช้ในยุโรปเลือกใช้เบราว์เซอร์ได้ใน Windows 7 เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ตอนนี้ยืนยันแล้วว่าไมโครซอฟท์ตัดสินใจเลือกทางหลัง แปลว่าไม่ขาย Windows 7 E แล้ว และใช้ Windows 7 เวอร์ชันเดียวกันหมดทั่วโลก

หลังจากมีข่าวออกมาว่าไมโครซอฟท์จะออก Windows 7 Family Pack ใช้งานได้ 3 เครื่องต่อชุด สิ่งที่ทุกๆ คนสนใจคือราคาจะเคาะออกมาที่เท่าไร คุ้มค่าแก่การซื้อแค่ไหน

ไมโครซอฟท์เปิดราคาของ Windows 7 Family Pack ออกมาแล้วว่าอยู่ที่ 149.99 ดอลลาร์ต่อชุด ซึ่งเทียบกับการซื้อ Windows 7 Home Premium แยกเอง 3 กล่องจะประหยัดไปได้ 200 ดอลลาร์ (ราคาเต็ม 199.99 ต่อกล่อง) แน่นอนว่าเรื่องราคาถูกเป็นข่าวดี แต่ข่าวร้ายคือไมโครซอฟท์จะวางขาย Windows 7 Family Pack ไม่เยอะนัก (ต้นฉบับใช้คำว่า limited-quantity) เพื่อทดลองตลาดว่าจะขายดีแค่ไหน ไมโครซอฟท์ไม่ได้ระบุว่าจะขาย Family Pack ในประเทศอื่นนอกเหนือจากสหรัฐและแคนาดาหรือไม่

วานนี้ (24 ก.ค.) European Commission (EC) ได้ประกาศรับข้อเสนอจากทางไมโครซอฟท์ที่ยอมให้มี ballot-screen ให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์สามารถเลือกเบราว์เซอร์ได้ แทนที่วินโดวส์ 7 E ที่ไม่ติดตั้งเบราว์เซอร์ใดๆ เลย (ดูประกาศฉบับเต็มได้จาก EU ที่นี่) (ดูข่าวก่อนหน้าโดยคุณ toandthen)

วานนี้ตามเวลาสหรัฐฯ (22 ก.ค.) ถือได้ว่าเป็นวันสำคัญของไมโครซอฟท์ เพราะมีถึง 2 เหตุการณ์ด้วยกัน

วันนี้ไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยกำหนดการปล่อยวินโดวส์ 7 ผ่าน Windows Team Blog ให้กับลูกค้าแต่ละกลุ่มแล้ว สรุปได้ดังนี้

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Windows 7 ตัวจริงออก 13 ก.ค. ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกมาสยบข่าวลือทั้งหมดแล้วว่า ณ ขณะนี้ Windows 7 ยังไม่เสร็จดี

สถานะปัจจุบันของ Windows 7 คือ "ยังไม่เสร็จ" แม้ว่าจะใกล้เสร็จแล้วก็ตาม ไมโครซอฟท์บอกว่าเป็นเพราะ Windows 7 ต้องสนับสนุนภาษาต่างๆ จำนวนมาก จึงต้องรอทีมของไมโครซอฟท์ดูแลด้านภาษาให้สมบูรณ์ก่อน ไมโครซอฟท์ไม่ได้ระบุว่า Windows 7 RTM จะออกเมื่อไรแน่ เพียงแต่บอกว่าภายในครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคมนี้

ไมโครซอฟท์ยืนยันอย่างเป็นทางการ ผ่านหน้าเว็บไซต์ Microsoft Partner Network ว่า จะปล่อยวินโดวส์ 7 ให้กับผู้ผลิต (RTM) ภายในสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ตามที่เคยประกาศในงาน Computex 2009 ที่กรุงไทเป

"... And announced at Computex 2009 in Tapei, Windows 7 will release to manufacturing (RTM) during the last two weeks of July, ..."

หลังจากมีการรายงานว่า Windows 7 จะมีรุ่น Family Pack ซึ่งจะเป็น Windows ที่มีไลเซนส์ของ Windows 7 Home Premium ให้ 3 ไลเซนส์เพื่อใช้งานภายในบ้าน (ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าการซื้อไลเซนส์ของ Windows 7 Home Premium จำนวน 3 ไลเซนส์ตามปกติ) ขณะนี้ร้านค้าออนไลน์บางแห่งได้หลุดราคาออกมาบนหน้าเว็บไซต์ของตนแล้ว

โดยราคา Windows 7 Family Pack (ราคาอัพเกรด) จากร้านค้าออนไลน์ Expercom ออกมาอยู่ที่ราคา $136.95 หรือประมาณ 4700 บาท และจากร้าน University IT Computer Sales อยู่ที่ราคา $144.95 หรือประมาณ 5000 บาท (ซึ่งภายหลังเว็บไซต์ University IT Computer Sales ได้ทำการลบข้อมูลดังกล่าวออกไปแล้ว แต่ยังคงหลงเหลือบนแคชของกูเกิล)

หลังจากหลายสำนักได้ทำนายวันที่วินโดวส์ 7 จะเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ (ดูข่าวเก่า) วันนี้เว็บไซต์ GeekSmack ได้ออกมาเปิดเผยว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ (RTM) ในวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งตรงกับงาน WPC09 (Worldwide Partner Conference) ที่จัดโดยไมโครซอฟท์พอดี

ข้อดีประการหนึ่งของ Mac OS X คือมีขายรุ่น Family Pack ที่สามารถใช้ได้ใน 5 เครื่อง (ต้องอยู่บ้านเดียวกัน) ซึ่งเมื่อหารเฉลี่ยต่อเครื่องออกมาแล้วจะถูกมาก (ทั้งชุดราคาเต็ม 199 ดอลลาร์ แต่บน Amazon ตอนนี้เหลือ 117.75 แล้ว)

ล่าสุดมีคนไปแกะ EULA ของ Windows 7 ซึ่งเป็น build ใหม่ๆ ก็พบว่ามีการเอ่ยถึง Family Pack เข้ามาแล้ว

If you are a ‘Qualified Family Pack User’, you may install one copy of the software marked as ‘Family Pack’ on three computers in your household for use by people who reside there.

วันนี้จะเป็นวันแรกที่ไมโครซอฟท์จะเริ่มสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows 7 Beta ทำการ Shut Down เครื่องเองอัตโนมัติหลังจากการใช้งาน 2 ชั่วโมง โดยก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ได้ทำการประกาศแจ้งเตือนผู้ใช้หลาย ๆ คนมาแล้ว

สำหรับผู้ใช้ Windows 7 RC อย่าเพิ่งตกใจ เพราะว่าจะสามารถใช้งาน Windows 7 ได้ตามปกติจนถึงวันที่ 1 มีนาคมปีหน้า หลังจากนั้น Windows ก็จะเริ่มทำการ Shut Down หลังจากการใช้งาน 2 ชั่วโมงเช่นกัน โดยจะสามารถใช้งานในลักษณะนี้ได้จนถึงวันที่ 1 มิถุนายนปีหน้า

สรุปง่าย ๆ ใครใช้ Windows 7 Beta ถ้าไม่อยากโดน Shut Down เองอัตโนมัติละก็เปลี่ยนมาใช้ Windows 7 RC ซะ

Windows 7 ตัวเต็มจะวางขายวันที่ 22 ตุลาคมปีนี้

สัปดาห์ที่ผ่านมา Microsoft และคู่ค้าได้เปิดให้ลูกค้าที่สนใจ สั่งจอง Windows 7 ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น โดยได้ราคาที่ถูกลงถึง 58% ทำให้ยอดสั่งจอง Windows 7 พุ่งทะยานขึ้นติดอันดับบนสุดของ bestseller ของ Amazon.com

Microsoft ได้ประกาศให้สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันพฤหัสที่ผ่านมา แต่มีข่าวออกมาตั้งแต่ต้นเดือนเนื่องจาก engadget ระบุถึงข้อมูลที่รั่วออกมาจาก bestbuy เกี่ยวกับรายละเอียดของราคา และวันที่เริ่มให้สั่งจองได้

โดย promotion ดังกล่าวจะสิ้นสุด ณ วันที่ 11 ก.ค. นี้ -- หรือจนกว่าสินค้าจะหมด -- (ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา) ส่วนที่ญี่ปุ่นจะสิ้นสุดวันที่ 5 ก.ค. และลูกค้าในสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมัน จะได้เริ่มสั่งจองกันวันที่ 15 ก.ค. นี้

C|Net ได้อ้างแหล่งข่าวว่าไมโครซอฟท์กำลังสนใจที่จะออกแฟลชไดรฟ์ที่มีตัวติดตั้งวินโดวส์ 7 อยู่ข้างใน เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการติดตั้งลงบนเน็ตบุ๊กได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น (แต่ก็ยังมีทางเลือกอื่น เช่น ให้ผู้ซื้อดาวน์โหลดไฟล์ไปใส่ในแฟลชไดรฟ์ของตัวเอง) ซึ่งทาง ZDNet ได้กล่าวเสริมว่าคล้ายกับโครงการ Microsoft StartKey ซึ่งผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์สามารถบันทึกการตั้งค่าของวินโดวส์และวินโดวส์ไลฟ์ลงใน Flash-storage devices เช่น แฟลชไดรฟ์ หรือ SD การ์ดได้

หลังจากไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยราคา Windows 7 ทั้งแบบกล่องและแบบอัพเกรด (ดูข่าวเก่า) วันนี้ AeroXperience ก็ได้เปิดเผยภาพกล่อง Windows 7 ชนิด Anytime Upgrade ออกมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ไมโครซอฟท์จะวางขาย Windows 7 Anytime Upgrade ตามร้านค้าทั่วไป นอกเหนือจากการขายผ่านอินเตอร์เน็ตแบบที่เคยทำกับ Windows Vista เท่านั้น