วันนี้ไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยราคาของ Windows 7 อย่างเป็นทางการ โดยราคาอัพเกรดจาก Windows Vista Home Premium เป็น Windows 7 Home Premium ถูกลง 10 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรืออยู่ที่ 119.99 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ส่วนเวอร์ชั่นเต็มนั้นถูกลง 40 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรืออยู่ที่ 199 ดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น Professional (รุ่น Business เดิมใน Windows Vista) และ Ultimate ทั้งราคาแบบอัพเกรดและเวอร์ชั่นเต็มไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับราคาปีค.ศ. 2008 (ดูราคาอัพเกรดและเวอร์ชั่นของแต่ละรุ่นได้ที่นี่)

รายละเอียดอื่นๆ ของข่าว:

Neowin.net ได้รายงานว่าไมโครซอฟท์เตรียมเปิดตัวโครงการอัพเกรดเป็น Windows 7 สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Windows Vista โดยมีที่อยู่เว็บไซต์คือ https://windows7upgradeoption.com ซึ่งเมื่อเปิดเข้าไปจะปรากฏหน้าว่างและข้อความดังรูปข้างล่าง (คลิกที่หัวข้อเพื่อดูภาพหน้าจอเว็บไซต์)

อัพเดต 2: ดูเหมือนไมโครซอฟท์กำลังนับถอยหลัง วันนี้เข้าเว็บ https://windows7upgradeoption.com ระบุว่าให้กลับมาใหม่เวลา 14:00 ของวันที่ 26 มิ.ย.

สำหรับผู้ที่ใช้ Windows 7 Beta ควรจะเปลียนเป็นรุ่น RC นะครับ เพราะว่า รุ่น Beta จะเริ่ม reboot ตัวเองทุก 2 ชม.ตั้งแต่วันที่ 1 กค.นี้ และจะหมดอายุในวันที่ 1 สค.นะครับ

ส่วนท่านต้องการโหลด Windows 7 RC ก็ขอแนะนำให้โหลดตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 สค.นะครับ เพราะหลังจากนั้นจะไม่สามารถโหลดผ่านหน้าเว็บได้แล้ว แต่ยังสามารถติดตั้งและ ขอ Key ได้อยู่นะที่นี่

ใครที่ใช้ Windows 7 RC อยู่ก็ลองไปคอมเมนท์ ได้ที่นี่นะครับ

Credit : windowsteamblog.com

ท่ามกลางฝุ่นตลบเรื่องข่าวลือของ Windows 7 ว่าจะสิ้นสุดกระบวนการพัฒนาตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา (จาก Wzor.net ผ่าน UX Evangelist) และโครงการอัพเกรดจาก Windows Vista เป็น Windows 7 ที่น่าจะเริ่มในวันที่ 26 มิ.ย. (ดูข่าวได้จาก Engadget.net) นี้ ล่าสุด Wzor.net ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลถึงโรดแมปช่วงสุดท้ายของ Windows 7 และ Windows Server 2008 R2 โดยได้ระบุว่าไมโครซอฟท์จะทำการ "sign-off" รุ่น RTM ในวันที่ 13 ก.ค. ที่จะถึงนี้

หลังจากมีข่าวว่าไมโครซอฟท์จะให้สิทธิ์การดาวน์เกรดจาก Windows 7 กลับไปยัง Windows Vista และ Windows XP จนถึงเดือนเมษายนของปีค.ศ.2010 เท่านั้น หลังจากนั่นจะมีสิทธิ์ดาวน์เกรดกลับไปได้แค่ Windows Vista เท่านั้น โดยแผนการดังกล่าวได้หลุดลอดมาจากบันทึกระหว่างไมโครซอฟท์กับบริษัท HP(ดูข่าวเก่าจาก AppleInsider ได้ที่นี่) ในที่สุดโฆษกไมโครซอฟท์ก็ได้ให้ข่าวผ่าน ComputerWorld ว่าจะขยายเวลาให้สิทธิ์การดาวน์เกรดไป Windows XP จนถึงเดือนเมษายนของปีค.ศ.2011 ห

หากได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับข้อจำกัดของ Windows 7 Starter ที่ไมโครซอฟท์พยายามจะผลักดันลงสู่เน็ตบุ๊กว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนภาพหน้าจอได้ (ดูข่าวเก่า โดยคุณ mk) โดยทางเว็บไซต์ Within Windows โดยคุณ Rafael ได้ระบุว่า ไมโครซอฟท์ได้กำหนดค่า ChangeDesktopBackground-Enabled ใน Policy ของวินโดว์เป็น 0 (หรือ disable) และทำการเข้ารหัสโดยใช้อัลกอริทึม SHA-256 เพื่อป้องกันการแก้ไข

หลังจากไมโครซอฟท์ได้ประกาศข้อเสนอที่จะปล่อย Windows 7 E ที่ไม่มี Internet Explorer ออกมาจำหน่ายให้กับลูกค่าทั่วไปและผ่านผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการจากโรงงาน (OEMs) แล้ว (ดูข่าวเก่า ไปแล้ว ก็มีเสียงตอบรับจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น European Commission (EC) หรือกระทั่งหัวเรี่ยวหัวแรงในศึกครั้งนี้อย่าง Opera

C|Net ได้อ้างรายงานจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ว่า ไมโครซอฟท์ได้ส่งบันทึกข้อความไปยังผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ว่าไมโครซอฟท์เตรียมที่จะออก Windows 7 รุ่นที่ไม่ได้ติดตั้ง Internet Explorer ไว้ในชื่อ Windows 7 E โดยเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์สามารถติดตั้งเบราว์เซอร์ Internet Explorer เอง หรือเบราว์เซอร์จากค่ายอื่น หรือกระทั่งติดตั้งหลายเบราว์เซอร์ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวได้ นอกจากนั้นไมโครซอฟท์จะเพิ่มช่องหาทางที่สะดวกสบายต่อผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หากผู้ผลิตดังกล่าวต้องการติดตั้ง Internet Explorer ลงใน Windows 7 ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน (pre

หลังจากยืนยันวันวางจำหน่ายคือ 22 ตุลาคม ไมโครซอฟท์ได้เผยโฉมกล่องของ Windows 7 ที่ Microsoft Store แล้ว จากภาพจะเห็นว่าใกล้เคียงกับภาพกล่องที่หลุดออกมาเมื่อเดือนที่แล้วมาก ทั้งรูปทรง สี และภาพหน้ากล่อง

ในภาพจะมีกล่องของ 3 รุ่นย่อยคือ Ultimate, Professional และ Home premium ยังขาดอีก 3 รุ่นคือ Starter, Home basic และ Enterprise

ที่มา - istartedsomething

หลังจากที่ปล่อยตัว RC ให้ใช้งานฟรีเป็นเวลา 1 ปี และวางแผนที่จะปล่อยตัวจริงออกมาภายในปีนี้ ในตอนนี้ทางไมโครซอฟท์ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอนสำหรับการวางจำหน่าย Windows 7 คือในวันที่ 22 ตุลาคม

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะอัพเกรดระบบปฏิบัติการให้กับผู้ที่ซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Vista ในช่วงที่ใกล้กับการวางจำหน่ายของ Windows 7 อีกด้วย โดยอาจจะอัพเกรดให้ฟรี หรือมีส่วนลดให้แทนแล้วแต่กรณีไป

อนึ่งในวันที่ 22 นี้อาจจะเป็นเพียงการส่งมอบให้กับทางคู่ค้าของไมโครซอฟท์เท่านั้น และจะนำมาวางขายทั่วไปในภายหลัง

Tech ARP ได้เปิดเผยข้อมูลวงในว่า ไมโครซอฟท์เตรียมที่จะมอบสิทธิ์การดาวน์เกรด (downgrade rights) ให้กับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง Windows 7 Professional หรือ Ultimate จากโครงงาน (OEMs) ไปเป็น Windows Vista Business หรือ Ultimate หรือ Windows XP Professional ได้ นอกจากนั้นยังอาจมอบสิทธิ์ให้ผู้กับใช้งานทั่วไป (End User) สามารถดาวน์เกรดจาก Windows 7 Professional หรือ Ultimate ไปเป็น Windows Vista Business หรือ Windows XP Professional ได้เช่นกัน

แล้วเมื่อไรไมโครซอฟท์จะจบชีวิต Windows XP เสียที หรือ Windows Vista จะจบชีวิตไปก่อน Windows XP ละเนี่ย!?

ไมโครซอฟท์เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของ Windows 7 รุ่น Starter ซึ่งจะมาพร้อมกับเน็ตบุ๊กออกใหม่

• ตัดข้อจำกัดเดิมของ XP Starter และ Vista Starter ที่อนุญาตให้รันโปรแกรมพร้อมกันมากสุด 3 ตัวออกไป (ตรงตามข่าวเดิม ไมโครซอฟท์ตัดการจำกัดการรันแอพพลิเคชั่นได้เพียง 3 ตัวออกจาก Windows 7 Starter ของ nuntawat)

อย่างไรก็ตาม Windows 7 Starter มีข้อจำกัดดังต่อไปนี้

มีข่าวลือจาก DigiTimes ซึ่งเป็นเว็บข่าวในแวดวงอิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวันออกมาว่า ไมโครซอฟท์และอินเทลกำลังจะจำกัดขนาดของเน็ตบุ๊กตามหน้าจอให้อยู่ที่ 10.2" เท่านั้น

ถ้าเน็ตบุ๊กมีขนาดใหญ่เกินกว่านี้ (เช่น 11" หรือ 12") จะไม่สามารถซื้อ Windows 7 แบบยกล็อตราคาถูกตามแผนการ Windows 7 สำหรับเน็ตบุ๊กของไมโครซอฟท์ได้ (Starter?) ถ้าต้องการแถม Windows 7 ไปด้วย ทางผู้ผลิตต้องลงทุนซื้อ Windows 7 รุ่นแพงขึ้นแทน

หลังจากเพิ่งมีข่าวว่าไมโครซอฟท์ได้เสร็จสิ้นการกำหนดความต้องการขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ที่จะติดตั้ง Windows 7 สำหรับคอมพิวเตอร์ประเภท Netbooks จากบล็อกของ SuperSite Blog ของคุณ Paul Thurrott ได้รายงานว่าไมโครซอฟท์จะทำการตัดการจำกัดการรันแอพพลิเคชั่นได้เพียง 3 ตัวออกจาก Windows 7 Starter นอกจากนั้นปัญหาการเปลี่ยนภาพหน้าจอไม่ได้ก็จะได้รับการแก้ไขเช่นกัน

หลังจากไมโครซอฟท์ได้ซุ่มทำโครงการ Virtual WiFi (VWiFi) ภายใต้ Microsoft Research มาได้สักพักใหญ่ก็ได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วใน Windows 7 RC

คำตอบสำหรับคนที่อยากลองลง Window 7 แต่ใจไม่กล้าเพราะขี้เกียจฟอร์แมทเครื่องเก้อก็มาถึงแล้ว

หลังจากที่ไมโครซอฟท์ ปล่อย Windows 7 Release Candidate มาให้ลองกัน แล้วอาจมีใครหลาย ๆ คนติดใจอาจอยากลองลง Windows 7 จริง ๆ ก็นี่เลยครับ Windows 7 Upgrade Advisor ซึ่งโปรแกรมตัวนี้จะตอบปัญหาว่า เครื่องเราจะลงได้มั๊ย, ซอพต์แวร์ที่ใช้งานอยู่จะสนับสนุนการทำงาน Windows 7 ได้มั๊ย, จะกิน Buffer(Swap File)เครื่องไปเท่าไหร่

บทความนี้เป็นเพียงข้อคิดเห็นจากนาย Rob Enderle จาก Tech News World

มีคำถามที่ว่า แอปเปิลสมควรได้รับเครดิตว่าเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงโลกหรือไม่ จริงๆแล้วแอปเปิลได้ทำให้โลกขยับก้าวหน้าไปอีกขั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามทิศทางที่แอปเปิลเองตั้งใจเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แอปเปิลสร้างขึ้นนั้นได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วให้กับวินโดวส์ โดยเฉพาะ วินโดวส์ 7 รวมไปถึงเร่งการพัฒนาให้กับ Palm Pre และ Android อีกด้วย
ถึงเวลารึยังที่จะเสียความเป็นผู้นำในตลาด smart phone เช่นเดียวกับที่เคยสูญเสียความเป็นผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไป

หลังจากมีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ วันนี้ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่าจะออก Windows 7 ภายในช่วงปลายปีนี้แน่นอนครับ

ถึงแม้ว่าจะยังไม่กำหนดวันที่ที่แน่ชัด แต่ Bill Veghte ผู้บริหารของไมโครซอฟท์ก็กล่าวระหว่างสัมภาษณ์ในงาน TechEd ว่าเขามั่นใจว่า Windows 7 นั้นจะสามารถออกวางขายได้ภายในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีนี้อย่างแน่นอน และไมโครซอฟท์เองยังมีแผนจะออก Windows Server 2008 R2 ภายในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย

มีข่าวจากทางไมโครซอฟท์ว่าโปรแกรมเพื่อป้องกันการลักลอบใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ หรือที่รู้จักกันในนาม Windows Genuine Advantage (WGA) นั้น จะยังคงมีอยู่ในระบบปฎิบัติการวินโดวส์ 7 ที่จะออกสู่ตลาดในเร็ววันนี้ ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Windows Activation Technologies

โดยที่ Windows Activation Technologies นี้ ทางไมโครซอฟท์ได้กล่าวเอาไว้ว่าได้เขียนขึ้นใหม่โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ และวิธีการใหม่ที่รองรับโดยเฉพาะบนวินโดวส์วิสต้าและวินโดวส์ 7 เพื่อที่จะตรวจจับวินโดวส์ที่ถูกติดตั้งว่าผิดลิขสิทธิ์หรือไม่ และจะแตกต่างจากระบบเก่าที่ใช้ตรวจสอบบนวินโดวส์เอ็กซ์พี

ดูเหมือนสถานการณ์คนแห่มาดาวน์โหลด Windows 7 นั้นจะเกิดขึ้นซ้ำรอยขึ้นอีกครั้ง โดยในครั้งนี้นั้นเว็บไซต์ที่เปิดให้สมาชิก MSDN และ TechNet นั้นเกิดอาการล่มชั่วคราว ซึ่งสถานการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อตอนไมโครซอฟท์เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปนั้นดาวน์โหลด Windows 7 Beta เมื่อต้นปี (อ่านข่าวเก่าโดยคุณ mk: คนแห่โหลด Windows 7 Beta จนเว็บล่ม)

ผู้ใช้หลายคนนั้นได้อีเมลไปสอบถามไมโครซอฟท์ แต่ก็มีอีเมลตอบกลับมาว่าไม่ได้มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น และให้ลองพยายามดาวน์โหลดต่อไปอีกเรื่อยๆ

มีข่าวลือหลุดออกมาจากปากของผู้บริหาร Acer UK ที่ให้สัมภาษณ์ต่อเว็บไซต์ Pocket-lint เกี่ยวกับกำหนดการของคอมพิวเตอร์ที่จะมาพร้อม Windows 7 ว่าตัว Windows 7 นั้นจะออกมาในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ โดยจะมีเวลาให้ผู้ใช้เตรียมตัวก่อนเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ที่ซื้อคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Vista ในช่วงวันที่ 23 กันยายนถึง 23 ตุลาคมนั้นจะได้รับการอัพเกรดเป็น Windows 7 ฟรีอีกด้วย

อย่างไรก็ดียังไม่มีข่าวยืนยันหรือโต้แย้งออกมาจากไมโครซอฟท์ตามเคย แต่ไมโครซอฟท์นั้นเคยให้ความเห็นว่า Windows 7 นั้นน่าจะออกภายในต้นเดือนมกราคมปีหน้า

หลาย ๆ ท่านทราบดีแล้วว่าไมโครซอฟท์จะทำการเปิดตัว Windows 7 Release Candidate อีกเพียงแค่ 5 วันหลังจากนี้ให้กับคนทั่วไปแล้ว

ที่สำคัญกว่านั้นคือ ผู้ใช้จะมีสิทธิในการใช้ Windows 7 รุ่น Release Candidate ไปจนถึงวันที่ 1 มิถุนายนปีหน้าเลยทีเดียว

ไม่่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ไมโครซอฟท์ไม่แนะนำให้ผู้ใช้ทั่วไปติดตั้ง Release Candidate เป็นระบบหลัก แต่แนะนำให้ผู้ใช้ Windows 7 เบต้าทุกคนเปลี่ยนมาใช้ Release Candidate

ที่มา - Slashdot

จากข่าวเก่าทั้งหมด (ข่าว 1,

หลายๆ คนที่ได้เคยใช้ Windows 7 รุ่นเบต้าแล้วนั้นคงมีความรู้สึกว่ามันเร็วกว่า Vista อย่างไรก็ตาม "ความรู้สึก" นี้อาจจะไม่ใช่ความเป็นจริงเสมอไปครับ

ทาง Gizmodo นั้นได้ทดสอบทั้ง Windows 7 RC1 และ Vista เปรียบเทียบกันบนเครื่องที่ใช้ Core 2 Duo, แรม 4 กิกะไบต์ (แต่เพราะวินโดวส์ที่ทดสอบนั้นเป็นรุ่น 32 บิตจึงถูกจำกัดเพียง 3 กิกะไบต์) และการ์ดกราฟฟิค GeForce 9600M GT ที่มีแรม 256 เมกะไบต์

ไมโครซอฟท์ได้ออกมาประกาศว่าจะยกเลิกระบบ AutoRun สำหรับไดร์ฟที่เขียนเพิ่มได้ อันได้แก่พวกแฟลชไดร์ฟและฮาร์ดดิสก์นั่นเอง โดยที่ระบบ AutoRun ในไดร์ฟที่เขียนเพิ่มไม่ได้จำพวกซีดีหรือดีวีดีนั้นจะทำงานเหมือนเดิม สาเหตุในการยกเลิกครั้งนี้เป็นเพราะโปรแกรมที่เป็นอันตรายในปัจจุบันนั้นแพร่กระจายผ่านไดร์ฟที่เขียนได้โดยใช้ระบบ AutoRun เป็นตัวช่วย

การยกเลิกนี้จะเริ่มใน Windows 7 Release Candidate ที่จะออกในช่วงนี้ และผู้เขียนคาดว่าน่าจะเริ่มใน Windows Vista Service Pack 2 ที่จะออกในเร็วๆนี้ด้วย