PS Vita ใช้การ์ดหน่วยความจำที่หน้าตาคล้ายๆ Micro SD แต่ก็ไม่ใช่ Micro SD เพราะเป็น "อารยธรรม" ของโซนี่เอง
ลำพังแค่ใช้การ์ดของตัวเองก็โดนวิจารณ์อยู่แล้ว ที่โดนวิจารณ์มากขึ้นไปอีกคือราคาของการ์ดที่แพงพอตัว (ราคาอ้างอิงจาก GameStop) และ PS Vita เองก็ไม่มีหน่วยความจำในตัวมาให้ด้วย
จากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อจากเว็บไซต์ Macotakara.jp รายงานว่าแอปเปิลเลือกที่จะใช้หน้าจอจากฮิตาชิและโซนี่ใน iPhone รุ่นต่อไป โดยหน้าจอที่กำลังดำเนินการผลิตนี้มีขนาด 4 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าเดิมที่มีขนาด 3.5 นิ้ว ซึ่งหมายความว่าข่าวลือก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ iPhone รุ่นต่อไปที่หน้าจอจะมีขนาดใหญ่ขึ้นก็มีมูลขึ้นมามากท
หลังจาก Sony Tablet P เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ล่าสุดแท็บเล็ตสองจอที่มีรูปทรงคล้ายกับกล่องใส่ปากกาตัวนี้ได้เปิดให้จับจองกันได้ผ่านหน้าเว็บได้แล้ว
โซนี่เคยสาธิตการเล่นเกมจาก PS3 แบบสตรีมไปบน PS Vita มาก่อนแล้ว ล่าสุดมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการจาก Eurogamer ว่าในอนาคต PS3 จะได้เฟิร์มแวร์ที่สามารถส่งเกมทุกเกมไปเล่นบน PS Vita ได้
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดหลักของการเล่นเกมโหมด Remote Play อยู่ที่ความละเอียดของกราฟิก โดยเกมที่สตรีมไปยัง Vita จะถูกจำกัดที่ความละเอียด 480x272 (หน้าจอของ PSP) แล้วจึงขยายขนาด (upscale) ให้พอดีกับจอภาพของ Vita (960x544 เพิ่มขึ้นด้านละ 2 เท่า) และตามข่าวบอกว่าในอนาคตนักพัฒนาเกมสามารถปรับความละเอียดมาที่ 480p ได้
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องปุ่มบางปุ่มที่มีบนจอย Dual Shock แต่ไม่มีบน PS Vita ซึ่งโซนี่จะใช้วิธีเพิ่มปุ่มบนหน้าจอมาทดแทน
ปีนี้ นินเทนโดเปิดตัว Wii U ในฐานะคอนโซลรุ่นถัดไป ในขณะที่ฝั่งไมโครซอฟท์ก็มี
หลังเหตุการณ์น้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมในอยุธยา หนึ่งในโรงงานที่ได้รับผลกระทบคือโรงงานผลิตกล้องของโซนี่ซึ่งส่งผลให้กล้องสาย NEX ทั้งหมดได้รับผลกระทบ วันนี้ทางโซนี่ก็ยืนยันกับทาง DPReview แล้วว่าการย้ายสายการผลิตไปยังโรงงานที่ชลบุรีนั้นเสร็จแล้ว และกำลังเดินสายการผลิตอีกครั้ง
การประเมิณผลกระทบต่อยอดขายของเหตุการณ์น้ำท่วมยังไม่เสร็จ แต่การประเมิณความเสียหายเพื่อเรียกค่าสินไหมจากประกันภัยคาดว่าจะประมาณ 25,000 ล้านเยน หรือประมาณหมื่นล้านบาท
ที่มา - DPReview
ช่วงนี้โซนี่เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ PlayStation Suite อย่างคึกคัก หลังจากประกาศว่าจะขยายไปลง Android ยี่ห้ออื่น และ
ข่าวในรอบเดือนที่ผ่านมาอาจไปโฟกัสที่ "ทีวียุคหน้า" ของแอปเปิล ซึ่งสตีฟ จ็อบส์พูดถึงไว้ในหนังสือชีวประวัติของเขา
แต่ราชาแห่งทีวีอย่างโซนี่ก็เตรียมเปิดตัวทีวียุคใหม่ของตัวเองเช่นกัน โดย Sir Howard Stringer ซีอีโอของโซนี่ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่า "เราไม่สามารถขายทีวีแบบปัจจุบันได้ตลอดไป และถ้าคิดอัตรากำไร-ขาดทุนต่อเครื่อง ตอนนี้เราขายทีวีแบบขาดทุนอยู่" และตอนนี้องค์กรหลายแห่งก็ลงทุนเพื่อวิจัยพัฒนาทีวีรุ่นใหม่ในอนาคต
เขาเปิดเผยว่าใช้เวลา 5 ปีที่ผ่านมาสร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยให้โซนี่แข่งกับสตีฟ จ็อบส์ได้ และตอนนี้มันเสร็จแล้ว โซนี่จะเปิดตัวทีวีแบบใหม่ในเร็วๆ นี้
Stringer ไม่ยอมเปิดเผยว่า "ทีวีแบบใหม่" ที่ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง อันนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไป
โซนี่รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองตามปฏิทินบริษัท (กรกฎาคม-กันยายน) ออกมาขาดทุนสุทธิ 2.7 หมื่นล้านเยน ซึ่งยังคงขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว โดยบริษัทคาดการณ์ว่ายอดสุทธิของปีจะขาดทุนราว 9 หมื่นล้านเยน ซึ่งมาจากปัจจัยสำคัญ
ในอดีตอันไกลโพ้น (รึเปล่า?) เมื่อพูดถึง "ทีวี" เราคงนึกถึงแบรนด์ "โซนี่" กันเป็นอันดับแรก แต่ในวันนี้สถานการณ์กลับกัน เพราะธุรกิจทีวีของโซนี่ย่ำแย่ติดต่อกันมาหลายไตรมาสแล้ว สาเหตุสำคัญมาจากการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะจากซัมซุงและผู้ผลิตทีวีราคาถูกอย่าง Vizio นอกจากนี้ตลาดทีวีในประเทศพัฒนาแล้วก็เริ่มอิ่มตัว
วันนี้โซนี่จึงประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ที่หวังว่าจะมากอบกู้ธุรกิจทีวีของบริษัท โดยจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ แบ่งฝ่ายธุรกิจทีวีออกเป็น 3 ส่วน เพื่อให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น ผังองค์กรใหม่มีผลบังคับใช้ในวันนี้
จากที่มีข่าวมาก่อนหน้า วันนี้ Sony ประกาศว่าจะเข้าซื้อหุ้นในกิจการร่วมทุน Sony Ericsson ในส่วนที่เป็นถือหุ้นโดย Ericsson 50% ทั้งหมด ทำให้ Sony เป็นเจ้าของส่วนธุรกิจโทรศัพท์มือถือนี้อย่างสมบูรณ์ รายละเอียของดีลนี้คือ Sony จะจ่ายเงินให้ Ericsson มูลค่า 1.05 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.47 พันล้านดอลลาร์
ครั้งที่แล้วแค่เจรจา แต่วันนี้ฝ่าย Ericsson ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Sony ได้เข้าซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ทั้งหมดของ Sony Ericsson ที่เป็นส่วนของ Ericsson ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้านี้ ด้วยจำนวนเงินทั้งหมด 1.05 พันล้านยูโร ทั้งนี้ Sony จะทำการรวบกิจการระหว่างแท็บเล็ต, มือถือ, โน้ตบุ๊ค และเครื่องเล่นเกมเข้าเป็นตระกูลเดียวกัน อีกทั้ง Sony ยังมีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองสิทธิบัตรจำนวน 5 ใบของ Ericsson Mobile ไว้ด้วย
ยุทธศาสตร์ PlayStation Suite ของโซนี่คือนำเกมดังจากคอนโซล (ตอนนี้ยังมีแค่ PS1) พอร์ตมาลงอุปกรณ์พกพาที่ผ่านการรับรอง PlayStation Certified จากโซนี่ โดยขายผ่านร้านค้าออนไลน์ของโซนี่เอง
หลักการฟังดูดีเพราะโซนี่เป็นราชาแห่งเกมคอนโซลมาหลายสมัย มีคลังเกมดังในมือมากมาย แต่ในทางปฏิบัติยังไม่เห็นผลนัก เพราะอุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองยังมีแค่ Xperia Play, Tablet S/P และ PlayStation Vita เท่านั้น (อันที่ออกวางขายจริงๆ มีแค่ Xperia Play ด้วยซ้ำ) ทำให้ตลาดแคบมาก
หลังจากที่ได้รับสิทธิในการผลิตภาพยนตร์ชีวิตของ สตีฟ จ็อบส์ จาก Walter Isaacson ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ ล่าสุดหนังสือพิมพ์ The Lost Angeles Times อ้างว่าโซนี่ได้ทาบทามผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง The Social Network นาย Aaron Sorkin มาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้
Aaron Sorkin มีผลงานมาหลายเรื่องแล้ว ในเมืองไทยเราอาจจะรู้จักเขาในฐานะผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง The Social Network แต่ผลงานอื่น ๆ ของเขาที่น่าจดจำก็มีอีกมากเช่น A Few Good Men, The West Wing และ Moneyball
โซนี่ได้ออกมาประกาศว่ากล้องถ่ายรูป Alpha mirrorless ตัวใหม่ NEX-7 และกล้อง DSLR อีกตัว Alpha A65 จำเป็นจะต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายไป เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมสาหัสภายในประเทศไทย โดยสองในสามของโรงงานของโซนี่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้
รายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอีกว่า หนึ่งในโรงงานผลิตกล้องถ่ายรูปจมไปทั้งหมด และอีกโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วน semiconductor อีกแห่งก็ต้องหยุดสายการผลิตชั่วคราว เนื่องจากขาดชิ้นส่วนที่ต้องได้รับการส่งต่อในการเดินสายผลิต
โซนี่บอกกับ BBC ว่าบริษัทไม่สามารถบอกได้ว่าโรงงานจะสามารถเปิดได้อีกเมื่อใด แต่โซนี่กำลังพยายามที่จะย้ายกระบวนการผลิตทั้งหมดไปที่โรงงานแห่งที่สาม ที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้
โซนี่เรียกโทรทัศน์ในตระกูล Bravia จำนวน 1.6 ล้านเครื่องให้กลับเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยหลังเกิดเหตุไหม้ในอุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง โดยมีรายงานเหตุการณ์ไหม้จากญี่ปุ่นแล้วหลายครั้ง
รุ่นที่ถูกเรียกคืนได้แก่ KDL-40D3400, KDL-40D3500, KDL-40D3550, KDL-40D3660, KDL-40V3000, KDL-40W3000, KDL-40X3000, และ KDL-40X3500
โซนี่ยืนยันว่าไม่มีการไหม้ขณะที่ปิดเครื่องเอาไว้ และหากผู้ใดพบอาการ มีเสียง, กลิ่น, หรือควันออกจากเครื่องให้ถอดปลั๊กและหยุดใช้งานทันที
ที่มา - BBC, Yahoo! News
โซนี่ได้ออกมารายงานเช้าวันนี้ ว่าบริษัทได้ตรวจว่ามีการพยายามล็อคอินเข้าระบบของ Sony Online Entertainment, PlayStation Network และ Sony Entertainment Network ด้วยยูสเซอร์เนมและรหัสผ่าน ที่คาดว่าไปได้มาจากฐานข้อมูลของเว็บอื่น มาลองล็อคอินกับบริการของโซนี่ ในช่วงวันที่ 7-10 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยโซนี่ได้ตัดสินใจที่จะล็อคบัญชีผู้ใช้จำนวน 93,000 รายไปก่อนเพื่อความปลอดภัย
Sony Ericsson เป็นบริษัทร่วมทุนของ Sony จากญี่ปุ่น และ Ericsson จากสวีเดน (สัดส่วน 50:50) เริ่มกิจการมาตั้งแต่ปี 2001 แต่วันนี้ผ่านมาสิบปี มีข่าวว่า Sony เตรียมเสนอซื้อหุ้นส่วนของ Ericsson แล้ว
ทางหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานข่าวว่า Sony เจรจาซื้อหุ้นเกือบสำเร็จแล้ว มูลค่าการซื้อกิจการจะอยู่ระหว่าง 1.3-1.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนชื่อแบรนด์จะยังเป็น Sony Ericsson เหมือนเดิม หรือจะเปลี่ยนมาใช้แบรนด์ Sony ทั้งหมด อันนี้ยังไม่มีข้อมูล
ในข่าวยังบอกว่าการเจรจาครั้งนี้ Sony ยังจะได้สิทธิบัตรด้านมือถือจาก Ericsson ด้วย
ข่าวนี้อาจจะไม่ใช่สำหรับทุกคน แต่สำหรับคนที่ "อิน" กับเกมที่ตัวเองเล่นมากเมื่อเห็นโฆษณา PlayStation 3 ล่าสุดจากโซนี่นี้แล้วอาจจะรู้สึก "ซึ้ง" ได้
โฆษณาตัวนี้มีชื่อว่า "ไมเคิล" โดยในโฆษณาตัวละครที่ผู้เล่นที่ชื่อ Michael ได้เล่นในเกมต่าง ๆ ได้ออกมาพูดถึงความทรงจำที่พวกเขามีกับไมเคิล และได้พูดถึงหลาย ๆ ครั้งที่ไมเคิลได้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้
ตัวละครเหล่านี้คือตัวละครที่เรานักเล่นเกมก็รู้จักดีทั้งนั้น ตั้งแต่ Link, Ghost, Gordon Freeman หรือแม้กระทั่ง Ezio จาก Assassin's Creed, Lightning จาก Final Fantasy 13 และ Mr. Sackman จาก Little Big Planet
กดอ่านต่อเข้ามาดูวีดีโอได้เลยครับ
หลังจากกรณี PSN โดนแฮ็กครั้งใหญ่เมื่อต้นปีนี้ โซนี่ก็โดนลูกค้ารวมตัวกันฟ้องแบบกลุ่ม (class action lawsuit คือลูกค้าหลายๆ คนที่มีปัญหาแบบเดียวกัน รวมตัวกันฟ้องในคดีเดียวกัน) ข้อหาไม่ดูแลระบบของตัวเองให้ดี
เพื่อป้องกันการโดนฟ้องลักษณะนี้ในอนาคต โซนี่จึงปรับเงื่อนไขใน Term of Service and User Agreement ของ PSN เสียใหม่ (PDF) ใจความสำคัญคือ ลูกค้าของ PSN ที่มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายกับโซนี่ จะต้องเจรจาตกลงกับ "อนุญาโตตุลาการ" (arbitrary) ที่โซนี่แต่งตั้งมาก่อน ถึงจะมีสิทธิฟ้องศาลได้
ในงานแถลงข่าวของ Sony Computer Entertainment ก่อนเริ่มงาน Tokyo Game Show 2011 ทางโซนี่ประกาศว่าเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นใหม่ PS Vita จะวางขายที่ญี่ปุ่นวันที่ 17 ธันวาคมนี้
เกมที่จะเปิดตัวมี 26 เกม และโซนี่จะจับมือกับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่นคือ NTT Docomo เพื่อให้บริการ 3G สำหรับ PS Vita ด้วย
PS Vita จะขายที่ญี่ปุ่นด้วยราคา 24,980 เยนสำหรับรุ่น Wi-Fi (ประมาณ 9,900 บาท) และ 29,980 เยนสำหรับรุ่น 3G (ประมาณ 11,800 บาท) ซึ่งอาจจะแพงไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง 3DS ที่ลดราคาลงมาเหลือ 15,000 เยน (5,900 บาท) แต่ทางโซนี่ก็ยังยืนยันราคาเดิม
ส่วนการขายนอกญี่ปุ่นก็ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มจากข้อมูลเดิมว่า "ปีหน้า"
เครือร้านขายเกม GameStop ของสหรัฐ ประกาศลดราคาอุปกรณ์เสริม PlayStation Move ทุกชนิดลง 50% จนถึงวันที่ 2 ตุลาคมนี้ หรือจนกว่าของจะหมด
นอกจากนี้ยังลดราคาปืน Move SharpShooter และแท่นชาร์จ Move Charging Station ด้วย ตอนนี้การลดราคานี้เป็นของ GameStop เพียงอย่างเดียว (เว็บของ GameStop) แต่ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวอะไรกับยอดขายของ Move ในภาพรวมหรือเปล่า?
Sony ได้เปิดตัวเครื่องเล่นสื่อผสมแบบพกพารุ่นใหม่ ในชื่อว่า Sony Walkman Z
โดยเป็นเครื่องเล่นสื่อผสมที่ใช้ Android 2.3 มีหน้าจอขนาด 4.3 นิ้วที่ความละเอียดระดับ WVGA ใช้หน่วยประมวลผล NVIDIA Tegra 2 ความเร็ว 1GHz เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ที่รองรับมาตรฐาน 802.11 b/g/n และมาพร้อมกับแบทเตอรี่ที่อยู่ได้นานถึง 20 ชม. เมื่อใช้ฟังเพลงอย่างเดียว
สำหรับฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจก็ได้แก่
Sony Z Series เป็นโน๊ตบุ๊คจากโซนี่ ที่ลงมาแข่งในตลาดโน๊ตบุ๊คสายบางเบา เช่น MacBook Air และ Samsung Series 9 สำหรับ Z217 นี้ก็ถือเป็นโมเดลล่าสุด ที่อัพเดทใส่ Sandy Bridge เข้ามา โดย Z Series ยังคงแนวคิดความบางโดยไม่ทิ้งประสิทธิภาพตามรอยทางที่รุ่นก่อนหน้าวางไว้ โดยใส่ CPU Intel Core i7-2620M ควบคู่กับ RAM ขนาด 8GB และ SSD 256GB (128*2 Raid 0) มาให้ในตัวเครื่อง แม้ว่าในรุ่นนี้จะตัดในส่วนของ Bluray Drive และ Radeon HD6650M ออกจากตัวเครื่องไปเป็น Dock สเปคที่จัดมาให้ก็นับว่าแรงเกินขนาดตัว
รายละเอียดเพิ่มเติม: Sony
ผู้ผลิตจอ LCD จากญี่ปุ่นเริ่มประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักในช่วงหลัง อันมีเหตุมาจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดจอภาพ (โดยเฉพาะจากฝั่งเกาหลีและจีน) ล่าสุดบริษัทญี่ปุ่นที่ขาดทุนในตลาดนี้ 3 รายประกาศควบรวมกิจการผลิตจอ LCD เข้าด้วยกันแล้ว
บริษัท 3 รายนี้ได้แก่ โซนี่ โตชิบา ฮิตาชิ จะควบรวมกิจการจอภาพเข้าด้วยกันเป็นบริษัทใหม่ชื่อ Japan Display โดยคาดว่าจะควบกิจการเสร็จช่วงกลางปี 2012 และเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2016
ผู้ผลิตจอภาพทั้ง 3 รายจะมีหุ้นใน Japan Display รายละ 10% ส่วนที่เหลืออีก 70% จะลงทุนโดยกองทุน Innovation Network Corp of Japan (INCJ) ของรัฐบาลญี่ปุ่น คิดมูลค่าการลงทุน 2 แสนล้านเยนหรือ 2.6 พันล้านดอลลาร์