บริษัทวิจัย IDC ออกมาประเมินยอดขายแท็บเล็ตปี 2014 ที่ 260.9 ล้านเครื่อง เติบโต 19.4% จากยอดขายแท็บเล็ตปี 2013 (217.1 ล้านเครื่อง)

อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตของปี 2014 ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จะลดลงจากปี 2013 มาก เพราะยอดขายปี 2013 เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ถึง 50% ซึ่งเหตุผลก็คือฮาร์ดแวร์เริ่มนิ่ง ผู้บริโภคเริ่มไม่คิดจะอัพเกรดแท็บเล็ตของตัวเองเพราะของเดิมยังใช้งานได้

IDC ยังประเมินว่าราคาเฉลี่ย (average selling price) ของแท็บเล็ตในปีนี้จะลดลงจากปี 2013 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ที่มา - IDC

สถิติของ IDC ในปี 2013 สรุปว่าตลาดพีซีหดตัว 10% ส่วนของปี 2014 นี้ IDC ออกมาคาดการณ์ว่าน่าจะหดตัวลงอีก 6% จากปี 2013

เหตุผลที่ตลาดพีซีหดตัวมีทั้งการแข่งขันจากอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ และสภาพทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ปัจจัยที่ผลักดันให้ซื้อพีซีใหม่อย่างเรื่อง Windows XP หมดอายุ ก็มีผลช่วยเพิ่มยอดขายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

IDC คาดว่ายอดขายพีซีในปี 2014 จะอยู่ที่ 295.9 ล้านเครื่อง (ปี 2013 อยู่ที่ 315.1 ล้านเครื่อง) และตลาดน่าจะทรงๆ ตัวไปจนถึงปี 2018 ซึ่งประเมินยอดขายที่ 291.7 ล้านเครื่อง

ที่มา - IDC

บริษัทวิจัย IDC เปิดเผยสถิติยอดขายแท็บเล็ตรวมทั่วโลก ประจำไตรมาส 4/2013 (และยอดรวมตลอดปี 2013)

ตลอดทั้งปี 2013 มีแท็บเล็ตขายได้ทั้งหมด 217.1 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 50.6% จากปี 2012 อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตเริ่มช้าลงในประเทศพัฒนาแล้ว แนวโน้มตลาดระยะยาวในปี 2014 เป็นต้นไป ตลาดแท็บเล็ตคอนซูเมอร์จะเริ่มโตช้าลง แต่ตลาดแท็บเล็ตธุรกิจจะเริ่มเติบโตมากขึ้นแทน

สำหรับข้อมูลของไตรมาส 4/2013 มีแท็บเล็ตขายได้ทั้งหมด 76.9 ล้านเครื่อง (โต 28.2% จากไตรมาส 4/2012) โดยแอปเปิลยังเป็นแชมป์ที่ยอดขาย 26 ล้านเครื่อง ตามด้วยซัมซุง 14.5 ล้านเครื่อง, อเมซอน 5.8 ล้านเครื่อง, เอซุส 3.9 ล้านเครื่อง และเลอโนโว 3.4 ล้านเครื่อง (ผู้ผลิตนอก Top 5 มีสัดส่วนรวมกัน 30.3% ของตลาดแท็บเล็ต)

บริษัทวิจัยตลาด Canalys เผยสถิติยอดขายสมาร์ทโฟนจาก 50 ประเทศทั่วโลกในไตรมาส 4/2013 (และตัวเลขรวมตลอดทั้งปี 2013)

อินเทลประกาศแผนปลดพนักงานลง 5% หรือประมาณ 5,000 คนจากพนักงานทั้งหมด 107,000 คน โดยยังไม่ประกาศรายละเอียดว่าจะลดพนักงานฝ่ายใดลงบ้าง

อินเทลเพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 เมื่อวานนี้ และถึงแม้ว่ารายได้-กำไรจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ในภาพรวมแล้วอินเทลก็ต้องรีบปรับตัวอย่างหนักเพื่อให้อยู่ได้ในยุค "หลังพีซี" ที่ธุรกิจพีซีไม่เติบโตขึ้นจากเดิมแล้ว เมื่อไม่นานมานี้อินเทลเพิ่งประกาศว่าจะยังไม่เปิดใช้โรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ล่าสุดที่แอริโซน่า และเปลี่ยนมาใช้วิธีอัพเกรดโรงงานเดิมแทน

อินเทลปลดพนักงานครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2006 โดยลดพนักงานลง 10,000 คน แต่หลังจากนั้นอินเทลก็เพิ่มจำนวนพนักงานมาตลอด

วันก่อนเพิ่งมีข่าว Gartner: ยอดขายพีซีโลกปี 2013 ทั้งปีติดลบ 10% หดตัวมากเป็นประวัติการณ์ วันนี้เป็นสถิติของสำนัก IDC ซึ่งก็ให้ข้อมูลที่ตรงกันครับ

ตลาดพีซีโลกไตรมาส 4/2013 หดตัว 5.6% จากปีก่อน (Gartner บอกหดตัว 6.9%) ขายได้ 82.2 ล้านเครื่อง อันดับหนึ่งคือ Lenovo ที่มียอดขายโตขึ้น 9%, อันดับสอง HP ลดลง 8.5%, อันดับสาม Dell โตขึ้น 5.8%

ส่วนตลาดพีซีโลกตลอดทั้งปี 2013 สรุปว่าหดตัว 10% จากปี 2012 ขายได้ 314.5 ล้านเครื่อง อันดับหนึ่ง Lenovo ครองส่วนแบ่งตลาด 17.1% และเป็นรายเดียวใน Top 5 ที่ขายเครื่องได้เพิ่มขึ้น, อันดับที่เหลือคือ HP, Dell, Acer, ASUS ตามลำดับ โดยรายที่หดตัวรุนแรงที่สุดคือ Acer ติดลบ 28.5%

Gartner เผยสถิติยอดขายพีซีทั่วโลกประจำไตรมาส 4/2013 ขายได้ 82.6 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาส 4/2012 ที่ 6.9%

เมื่อนับรวมสถิติตลอดทั้งปี 2013 สรุปยอดขายพีซีโลกคือ 315.9 ล้านเครื่อง ลดลงจากปี 2012 ถึง 10% ซึ่งถือว่าเป็นการหดตัวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีธุรกิจพีซีเป็นต้นมา และใกล้เคียงกับระดับการหดตัวในปี 2009 หลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์

ส่วนอันดับผู้ผลิตพีซีโลกตลอดทั้งปีคือ Lenovo (16.9%), HP (16.2%), Dell (11.6%), Acer (8.1%), ASUS (6.3%) โดยใน 5 อันดับแรกมีเพียง Lenovo เจ้าเดียวที่ขายพีซีนับเป็นจำนวนเครื่องได้มากกว่าปีก่อน (โตขึ้น 2.1%) ส่วนรายที่บาดเจ็บหนักที่สุดคือ Acer ยอดขายติดลบ 28.1% ตามด้วย ASUS ติดลบ 17.7%

Nielsen SoundScan หน่วยวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมดนตรีของ Nielsen ให้ข้อมูลว่ายอดขายเพลงดิจิทัลในปี 2013 มีจำนวนเพลงลดลง 5.7% จากปี 2012 (ขายได้ 1.26 พันล้านเพลง) ส่วนยอดขายแบบทั้งอัลบั้มก็ลดลงเล็กน้อย 0.1% จากปีก่อน

สถิตินี้ถือเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจขายเพลงออนไลน์หดตัวลง ส่วนเหตุผลก็ไม่น่าแปลกใจครับ เพราะว่าธุรกิจเพลงออนไลน์เริ่มเปลี่ยนจากการขายขาดเป็นเพลงๆ หรืออัลบั้ม มาเป็นการจ่ายเหมาเพื่อฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งเป็นรายเดือนแทน (SoundScan ยังไม่ประกาศสถิติของธุรกิจเพลงแบบสตรีมมิ่ง)

Bob O'Donnell อดีตนักวิเคราะห์ของ IDC ที่ปัจจุบันออกมาเปิดบริษัทตัวเองชื่อ Technalysis ออกมาประเมินว่าในปี 2014 อุปกรณ์จำพวก phablet (จอใหญ่กว่า 5 นิ้ว) จะขายดีกว่าแท็บเล็ตจอเล็กกว่า 8 นิ้ว

ตัวเลขที่ O'Donnell ประเมินคือ phablet จะขายได้ 175 ล้านเครื่องในปีหน้า ส่วน small tablet จะขายได้ 165 ล้านเครื่อง

ปัจจัยผลักดันตลาด phablet มีทั้งสินค้าจากผู้ขายฝั่งเกาหลี (ซัมซุง-แอลจี) และการตอบรับของผู้บริโภคในเอเชีย-ยุโรปตะวันออก-อเมริกาใต้ ส่วนประเทศที่ยังไม่ค่อยสนใจ phablet เท่าไรนักมีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

SIPA เผยสถิติของตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ในประเทศไทย ประจำปี 2555 โดยใช้ทีมนักวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)

บริษัทวิจัยตลาด Gartner ออกมาปรับตัวเลขประเมินยอดขายสินค้าไอทีตลอดทั้งปี 2013

บริษัทด้านตำแหน่งงานไอทีของสหรัฐ CyberCoders รวบรวมสถิติการจ้างงานสายนักพัฒนาแอพระหว่างปี 2011-2013 และสรุปออกมาได้ว่า "ค่าตอบแทนเฉลี่ย" ของนักพัฒนาสาย Android เยอะกว่านักพัฒนาสาย iOS อยู่เล็กน้อย

ค่าตอบแทนเฉลี่ย (นับเป็นเงินทั้งปีตามแบบฝรั่ง) สำหรับตำแหน่ง "นักพัฒนา" (developer) ของ Android อยู่ที่ 107,185 ดอลลาร์ ในขณะที่ iOS อยู่ที่ 107,081 ดอลลาร์ ส่วนตำแหน่ง "นักพัฒนาอาวุโส" (senior/lead developer) ของ Android อยู่ที่ 131,571 ดอลลาร์ และของ iOS คือ 121,117 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตของการจ้างงานของฝั่ง iOS มากกว่า Android อยู่เล็กน้อยเช่นกัน (วัดเฉพาะปี 2012-2013)

ข่าวนี้เป็นสถิติของสำนัก Gartner เอาไว้ดูเทียบกับสถิติของสำนัก IDC ที่เขียนเป็นข่าวไปก่อนแล้วนะครับ

Gartner สรุปยอดขายพีซีไตรมาสสามปี 2013 ว่าขายออกไปทั้งสิ้น 80.3 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 8.6% (IDC บอกลด 7.6% ก็ถือว่าต่างกันไม่มาก) ส่วนแบ่งตลาด 5 อันดับแรกก็ไล่เลี่ยกัน

1. Lenovo 17.6% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนทั้งส่วนแบ่งตลาดและยอดขาย
2. HP 17.1% เพิ่มขึ้น
3. Dell 11.6% เพิ่มขึ้น
4. Acer 8.3% ลดลงทั้งส่วนแบ่งและยอดขาย
5. ASUS 6.1% ลดลงทั้งส่วนแบ่งและยอดขาย

ที่มา - Gartner

IDC เผยสถิติยอดขายตลาดพีซีทั่วโลกประจำไตรมาสที่สามของปี 2013 ขายได้ 81 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 7.6% ผู้ขาย 5 อันดับแรกได้แก่

1. Lenovo ครองส่วนแบ่งตลาด 17.3% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
2. HP 17.1% เพิ่มขึ้น
3. Dell 11.7% เพิ่มขึ้น
4. Acer 6.7% ลดลง
5. ASUS 5.2% ลดลง

ส่วนตลาดสหรัฐอเมริกา แชมป์ยังเป็น HP ตามด้วย Dell, Apple, Lenovo, Toshiba ครับ

ที่มา - IDC

บริษัทวิจัยตลาด ABI Research รายงานสถิติของตลาดแท็บเล็ตในไตรมาสที่สองของปี 2013 ดังนี้

บริษัทวิจัยตลาด IDC ประเมินว่าในไตรมาสสี่ของปีนี้ (2013) ยอดขายแท็บเล็ตน่าจะแซงยอดขายพีซีโดยรวม (นับเครื่องตั้งโต๊ะ+โน้ตบุ๊ก) ได้แล้ว อย่างไรก็ตามถ้านับยอดตลอดทั้งปี 2013 พีซียังชนะแท็บเล็ตอยู่ โดย IDC ประเมินว่าแท็บเล็ตจะชนะพีซีได้อย่างเบ็ดเสร็จในปี 2015

IDC ยังเก็บสถิติของอุปกรณ์กลุ่ม smart connected device (นับรวมพีซี แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน) ว่าตลอดทั้งปี 2013 จะขายได้รวมกันประมาณ 1,556 ล้านเครื่อง โดยแบ่งเป็นสมาร์ทโฟนราว 1 พันล้านเครื่อง แท็บเล็ตประมาณ 200 ล้านเครื่อง และพีซีประมาณ 300 ล้านเครื่อง เติบโตจากปีก่อนหน้า 27.8%

บริษัทวิจัยตลาด IDC ปรับลดตัวเลขประเมินยอดขายแท็บเล็ตโลก (นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป) จากเดิมที่คาดว่าปี 2013 จะขายได้ 229.3 ล้านเครื่อง ลดลงมาอยู่ที่ 227.4 ล้านเครื่อง

IDC ให้เหตุผลว่าตลาดแท็บเล็ตไตรมาสสองไม่มีข่าวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่โดดเด่นมากนัก, ตลาดอเมริกาเหนือ-ยุโรปเริ่มอิ่มตัว, สมาร์ทโฟนกลุ่ม phablet จอใหญ่กลายเป็นคู่แข่งกับแท็บเล็ต, และอุปกรณ์ไอทีประเภทใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มสวมใส่ได้ (wearable) กำลังเข้าสู่ตลาด

IDC ประเมินว่าตลาดแท็บเล็ตจะยังโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี แต่เติบโตด้วยอัตราที่ลดลง นอกจากนี้แท็บเล็ตคอนซูเมอร์จะมีส่วนแบ่งในตลาดแท็บเล็ตรวมลดลง จาก 90% ในปี 2012 ลงไปอยู่ที่ 80% ในปี 2017 (แท็บเล็ตสำหรับองค์กรจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นแทน)

นักวิเคราะห์ของ IDC ออกมาเผยตัวเลขของสัดส่วนโน้ตบุ๊กจอสัมผัสในท้องตลาดว่า เดิมทีเคยประเมินไว้ว่าปี 2013 โน้ตบุ๊กประมาณ 17-18% จะเป็นจอสัมผัสแล้ว แต่ในความเป็นจริงตัวเลขกลับไม่เข้าเป้า และ IDC ต้องปรับลดตัวเลขประเมินใหม่ลงเหลือ 10-15% แทน

เหตุผลสำคัญที่โน้ตบุ๊กจอสัมผัสเติบโตไม่เข้าเป้าเป็นเพราะราคาแพงเกินกว่าโน้ตบุ๊กจอปกติมาก (บางครั้งแพงกว่ากันเป็นเท่าตัว) และผู้บริโภคเองก็ยังไม่เห็นประโยชน์จากจอสัมผัสมากนัก แถมเรายังไม่เห็นแอพที่ดึงพลังของจอสัมผัสบนโน้ตบุ๊กออกมาได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

การเติบโตของพีซีจอสัมผัสที่น้อยกว่าที่คาด ส่งผลกระทบกับยอดขายของ Windows 8 ซึ่งนักวิเคราะห์ของ IDC ก็เสนอให้ไมโครซอฟท์รีบกลับมาผลักดันตลาดพีซีจอไม่สัมผัสที่ยังเป็นส่วนใหญ่ของตลาด

ข่าวนี้เป็นอีกเวอร์ชันหนึ่งของข่าว ยอดขายพีซีไตรมาสสอง 2013 แต่เปลี่ยนค่ายเก็บสถิติจาก IDC มาเป็น Gartner (เอาไว้ดูเทียบกัน)

ตลาดพีซีโลกในไตรมาสที่สองปี 2013 หดตัวลง 10.9% (IDC บอกลดลง 11.4%) โดยแชมป์เป็นของ Lenovo ที่แซง HP กลับขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งได้อีกครั้ง (Lenovo เคยเป็นแชมป์ของ Gartner มารอบหนึ่งแล้ว ก่อนจะโดน HP แซงกลับลงไป) ส่วนแบ่งตลาดของเบอร์หนึ่งและสองคือ 16.7% และ 16.3% ตามลำดับ

อันดับสามเป็นของ Dell 11.8%, อันดับสี่ Acer 8.3%, อันดับห้า ASUS 6.0% ส่วนที่เหลือรวมกัน 40.8%

IDC เผยสถิติยอดขายพีซีทั่วโลกประจำไตรมาสที่สองของปี 2013 ปรากฏว่า Lenovo สามารถแซง HP ขึ้นมาเป็นผู้ผลิตพีซีอันดับหนึ่งของโลกได้สำเร็จ

ส่วนแบ่งตลาดของ Lenovo ในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 16.7% ส่วน HP อยู่ที่ 16.4%, อันดับสามเป็นของ Dell 12.2%, อันดับสี่ Acer 8.2%, อันดับห้า ASUS 6.1% และบริษัทที่เหลือมีส่วนแบ่งตลาดรวมกัน 40.4%

อย่างไรก็ตาม ตลาดพีซีโดยรวมหดตัวลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 11.4% (ยอดขายรวม 75.6 ล้านเครื่อง) โดย IDC อธิบายเหตุผลว่าเกิดจากตลาดพีซียังเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกของจอสัมผัสไม่ได้, การแข่งขันจากตลาดแท็บเล็ตและอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ และราคาของอัลตร้าบุ๊กก็ยังแพงเกินไปในสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง

หลังจากที่ทีมวิจัยตลาดของ Citi ได้ออกมาบอกว่ายอดโตของตลาดพีซีน่าจะติดลบ 10 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ล่าสุดทีมวิจัยของ IDC ได้ออกมาแสดงความเห็นไปทางเดียวกันว่า ตลาดพีซีน่าจะแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้เห็นตัวเลขจากเดือนพฤษภาคม

ในตอนแรก IDC คาดว่า ตลาดพีซีน่าจะแย่ลงไม่มากเท่าไหร่นักในไตรมาสที่สองของปี 2013 แต่หลังจากได้เห็นตัวเลขล่าสุดแล้ว เชื่อว่ายอดเติบโตของตลาดพีซีน่าจะลดลงมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ในตอนแรก ซึ่งทั้งปีนี้ IDC เชื่อว่าตลาดพีซีน่ามียอดเติบโตอยู่ที่ติดลบ 7.8 เปอร์เซ็นต์

ซัมซุงชี้แจงวันนี้ว่าบริษัทได้ตัดสินใจปิดแผนกธุรกิจพีซีตั้งโต๊ะแบบดั้งเดิม เนื่องจากยอดขายที่ถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะย้ายทีมงานมาช่วยส่วนธุรกิจอย่างแท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก และออลอินวันพีซี ที่ยังมีกำไรเติบโตได้ดี

เรื่องนี้สอดคล้องกับการเปิดสินค้าของซัมซุงเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งแท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก และออลอินวันพีซี นั่นเองครับ

ที่มา: The Korea Times

Gartner เผยสถิติยอดขายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกประจำไตรมาสแรกของปี 2013 ปรากฎว่าลดลงจากปีก่อน ทั้งในแง่จำนวนเครื่อง (ลดลง 0.7%) และรายได้เป็นตัวเงิน (ลดลง 5%)

Gartner บอกว่าภูมิภาคที่มียอดขายเซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นคือเอเชียแปซิฟิกและสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ภูมิภาคอื่นลดลงทั้งหมดทำให้ยอดรวมตกลงตามไปด้วย ส่วนถ้าแยกตามสถาปัตยกรรม เซิร์ฟเวอร์สาย x86 ค่อนข้างคงตัว ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์สาย RISC/Itanium มียอดขายตกลงถึง 38.8% ถ้านับตามจำนวนเครื่อง

บทความนี้เป็นตอนต่อของซีรีส์ พาสำรวจวงการไอทีพม่า โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวประเทศอินเดียพอดีเลยเก็บบรรยากาศ-ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวงการไอทีของอินเดีย (รอบนี้เน้นไปที่มือถือเสียเยอะ) มาฝากกันครับ

แน่นอนว่าการเดินทางของผมไปในฐานะนักท่องเที่ยวเต็มขั้น รับรู้ข้อมูลเฉพาะเท่าที่ตาเห็นซึ่งก็คงไม่ละเอียดเท่าไรนัก ถ้าสมาชิก Blognone มีใครอยู่ที่อินเดียหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมก็คอมเมนต์ได้เต็มที่

หมายเหตุ: ภาพเยอะมากครับ ใครใช้เน็ตแบบมีข้อจำกัดก็พึงระวัง

บริษัทวิจัย IDC ออกมาประเมินวงการฮาร์ดแวร์ไอทีปี 2013 ดังนี้