เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมาในงานประชุมวิทยาลัยแพทย์โรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาประจำปีนี้ (American College of Cardiology 2019) มีการแถลงผลการวิจัยเกี่ยวกับความแม่นยำในการตรวจหาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติชนิด AF (Atrial Fibrillation) ซึ่งพบว่ามีความแม่นยำสูง1 เมื่อเทียบกับ เครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพาที่เรียกว่า ECG patch ในคนจำนวน 2,161 คน
งานวิจัยดังกล่าวเรียกกันว่า The Apple Heart Study เป็นความร่วมมือในการวิจัยระหว่างมหาวิทยาลัย Stanford บริษัท American Well และ บริษัท Apple ดำเนินงานวิจัยผ่านระบบ Telemedicine
แนวคิดอย่าง Telemedicine เป็นแนวคิดที่มีใช้กันบ้างมาระยะหนึ่งแล้ว และวันนี้โรงพยาบาลสมิติเวช ร่วมกับพันธมิตรจำนวน 6 ราย ประกาศเปิดตัว Samitivej Virtual Hospital โรงพยาบาลแบบเสมือนครบวงจรอย่างเป็นทางการ ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง พร้อมบริการตรวจเลือดนอกสถานที่ และการจ่ายยาถึงสถานที่ของผู้ป่วยโดยตรงครบวงจร
สำหรับพันธมิตรของโรงพยาบาลที่ร่วมเปิดตัวในครั้งนี้ประกอบด้วย AIS, LINE, เมืองไทยประกันชีวิต, แสนสิริ, ธนาคารไทยพาณิชย์ และกลุ่มซีเมนต์ไทย (SCG) ที่จะร่วมกันพัฒนาบริการดังกล่าวให้กลายเป็นบริการการแพทย์ทางไกลแบบครบวงจร
บริการ Virtual Hospital ประกอบไปด้วย
ไมโครซอฟท์หยุดขายสายรัดข้อมือ Microsoft Band มาตั้งแต่ปี 2016 แต่ยังเปิดเซอร์เวอร์ให้ลูกค้าเดิมใช้งานได้มาตลอด ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศปิดบริการทั้งหมดที่เกี่ยวกับ Microsoft Health Dashboard ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2019
ลูกค้ายังสามารถใช้ Microsoft Band ได้ต่อไป แต่จะไม่สามารถเชื่อมต่อเพื่อเก็บข้อมูลขึ้นคลาวด์ได้แล้ว (ฟีเจอร์บางอย่างย่อมใช้งานไม่ได้อีก) และสามารถ export ข้อมูลกลับมาเก็บไว้เองได้
Facebook ในขณะนี้ถือเป็นเครือข่ายใหญ่ของกลุ่มต่อต้านวัคซีน บางกลุ่มมีสมาชิกเกือบแสนคน ทำให้แพทย์และผู้เชี่ยวชาญต้องออกมาเรียกร้องให้ Facebook แบนกลุ่มเหล่านี้เสีย เพราะเผยแพร่ข้อมูลผิดเรื่องสุขภาพ เป็นอันตรายต่อสุชภาพของสังคม และชี้ว่าทฤษฎีที่กลุ่มต่อต้านวัคซีนยกมานั้นไม่จริง
ล่าสุดกลุ่มต่อต้านวัคซีนสู้กลับ ด้วยการไปคุกคามคนที่เห็นด้วยกับวัคซีนบน Facebook โดย Elias Kass คนทำงานในวงการแพทย์ ได้ไปให้การต่อหน้าคณะกรรมการวุฒิสภาของรัฐวอชิงตัน ในขณะที่กำลังพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเพื่อกำจัดข้อยกเว้นสำหรับการฉีดวัคซีนในวัยเด็กและ Kass เป็นหนึ่งในหลายคนที่พูดถึงการสนับสนุนมาตรการดังกล่าว
BuzzFeed News รายงานว่าตอนนี้ YouTube ได้ถอดโฆษณาออกจากวิดีโอที่โปรโมตคอนเทนต์ต่อต้านวัคซีนแล้ว ซึ่ง YouTube ได้รายงานไปยังแบรนด์ที่ยังไม่ทราบว่าโฆษณาของตัวเองไปปรากฏในวิดีโอเหล่านั้น โดยวิธีนี้เป็นอีกมาตรการหนึ่งในการจำกัดคอนเทนต์ที่เผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดบนแพลตฟอร์ม
โฆษกของ YouTube ระบุว่า ทาง YouTube มีนโยบายที่เข้มงวดที่จะวางระเบียบว่าวิดีโอไหนควรจะมีโฆษณาปรากฏ และวิดีโอที่โปรโมตคอนเทนต์ต่อต้านวัคซีนนั้นผิดเงื่อนไขเหล่านี้
ตอนนี้มีช่องที่โปรโมตคอนเทนต์ต่อต้านวัคซีนที่โดนถอดโฆษณาออกจากวิดีโอไปแล้ว เช่น LarryCook333, VAXXED TV และ iHealthTube ซึ่งสามช่องนี้รวมแล้วมีผู้สมัครสมาชิกกว่า 473,000 คน
ในขณะที่หน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพออกมาเคลื่อนไหวให้ Facebook จัดการกลุ่มต่อต้านวัคซันที่มีสมาชิกหลายแสนคน เพราะเกรงว่าจะแพร่ข้อมูลผิดจนเป็นอันตรายต่อความรู้ความเช้าใจเรื่องวัคซีน แต่ Facebook ก็ยังไม่มีมาตรการแบนที่ชัดเจน แต่มีการรับรู้ปัญหาและพยายามแก้ไขแล้ว
ล่าสุด Pinterest บอกว่าเริ่มจัดการกับเนื้อหาต่อต้านวัคซีนแล้ว โดยจะลบพวกเนื้อหาวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนออก ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านหรือสนับสนุนก็ตามที เป็นการบล็อคผลการค้นหา แต่ก็ยังยอมรับว่าการแบนทั้งหมดนั้นมันยาก โดยจะทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญสุขภาพ และผู้เชี่ยวชาญโซเชียลมีเดีย เพื่อหาทางแก้ปัญหาแบบถาวร
Facebook ตกอยู่ในสภาวะถูกกดดันอีกแล้ว คราวนี้เปนผู้เชี่ยวชาญสุขภาพออกมากดดันให้ Facebook จัดการกับกลุ่มหรือ Groups ที่เป็นกลุ่มใหญ่ และมีการเผยแพร่ข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับสุขภาพบ่อย เช่น การต่อต้านวัคซีน เป็นต้น โดยบางกลุ่มมีสมาชิกเยอะมากเป็นแสนรายเลยทีเดียว
กลุ่มดังกล่าวรู้จักกันในชื่อว่า anti-vaxxers มีสมาชิกในกลุ่มมากราว 150,000 ราย หนึ่งในเนื้อหาที่กลุ่มนี้เชื่อคือ วิตามินซีจำนวนมากช่วยต้านผลกระทบของวัคซีนได้
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ชี้ หนุ่มสาวทั่วโลกอาจสูญเสียภาวะการได้ยินจากการใช้หูฟังบนอุปกรณ์ต่างๆ ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้มีอายุระหว่าง 12 ถึง 35 ปีหรือ 1.1 พันล้านคนทั่วโลกตกอยู่ในความเสี่ยง ใช้หูฟังเปิดเพลงดังเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยตอนนี้มีประชากรโลกราว 5% หรือ 466 ล้านคนที่สูญเสียการได้ยินไปแล้ว และในกลุ่มนี้มีเด็ก เยาวชนถึง 34 ล้านราย
WHO ระบุว่า การฟังเสียงดัง 85 เดซิเบลติดต่อกันนานๆ นั้นไม่ปลอดภัย และถ้าฟังเสียงดังถึง 100 เดซิเบล แค่ 15 นาทีก็ไม่ปลอดภัยแล้ว
Fitbit เปิดตัวสายรัดข้อมือใหม่ในชื่อว่า Inspire และ Inspire HR โดยเป็นสายรัดข้อมือเวอร์ชันธรรมดา เพื่อจับตลาดกลุ่มองค์กรที่มีปริมาณการซื้อจำนวนมากเป็นหลัก
ตัวสายรัดข้อมือนี้ สามารถติดตามการนอนหลับ, กิจกรรม, การเผาผลาญแคลอรี, แจ้งเตือนโทรศัพท์/ข้อความ/ปฏิทิน, กันน้ำ, แบตเตอรี่อยู่ได้ 5 วัน และอื่น ๆ ส่วน Inspire HR จะมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น วัดอัตราการเต้นหัวใจ, การนอนหลับ, ติดตามการฟิตเนสแบบ cardio, คำนวณ pace และระยะทางด้วย GPS บนมือถือ
Health Feedback เครือข่ายนักวิทยาศาสตร์ที่ประเมินความน่าเชื่อถือของการรายงานข่าวด้านสุขภาพ ทำงานร่วมกับ Credibility Coalition เพื่อตรวจสอบบทความด้านสุขภาพจากเว็บไซต์ข่าวมีชื่อเสียง ที่เผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดียและได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2018
ผลการวิจัยพบว่า 10 โพสต์ที่มียอดแชร์สูงสุดมาจากเว็บไซต์ข่าวมีชื่อเสียงทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น Your Health Guide, The Guardian, Time, Daily Mail เป็นต้น และพบว่ามีเพียง 3 ใน 10 บทความเหล่านี้ที่ข้อมูลถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์และหลักสุขภาพมีความน่าเชื่อถือสูง และมีสามบทความที่ทีมวิจัยติดตัวแดงไว้เลยว่าไม่น่าเชื่อถือ มีข้อมูลหลอกลวง ตีความไม่ถูกต้อง
Google Fit แอพศูนย์รวมด้านสุขภาพบน Android ออกฟีเจอร์ใหม่เอาใจคนอยากทำ New Year's resolution เป็นการชาเลนจ์ออกกำลังกาย 30 วัน ถ้าทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็สามารถปลดล็อกได้คะแนนหรือ Heart Points ด้วย เริ่ม 1 มกราคม 2019
Google Fit จะจับกิจกรรมการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน โดย Google ระบุว่าทางที่ดีควรทำคะแนนให้ได้สัปดาห์ละ 150 Heart Points เพื่อสอดคล้องกับมาตรฐานของสมาคมโรคหัวใจสหรัฐและองค์การอนามัยโลก ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ ให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพ
ตั้งแต่งาน Google I/O 2018 กูเกิลเปิดตัวโครงการวิจัยที่ใช้ AI วิเคราะห์อาการเบาหวานขึ้นตา ด้วยการใช้ AI อ่านภาพถ่ายนัยน์ตาและวิเคราะห์ว่าเป็นเบาหวานหรือไม่ และเปิดเผยในภายหลังว่าจะทำวิจัยในประเทศไทยด้วย
วันนี้กูเกิลแถลงข่าวประกาศความร่วมมือกับโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทดลองทางคลินิกกับผู้ป่วยในพื้นที่ที่ได้รับการคัดเลือกทั่วประเทศ
เชื่อว่าในไทยยังมีหลายหน่วยงานยังคงใช้เครื่องรับส่งแฟกซ์อยู่ อังกฤษก็เช่นกัน ล่าสุด NHS หน่วยงานสุขภาพอังกฤษ เตรียมแบนเครื่องรับส่งแฟกซ์แล้ว ไม่จัดซื้อเข้ามาใหม่อีก เตรียมการดำเนินการไปสู่การส่งเอกสารที่โมเดิร์นกว่าอย่างอีเมลเป็นต้น
NHS จะเริ่มแบนการจัดซื้อเครื่องรับส่งแฟกซ์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 และมีเป้าหมายจะยุติการใช้งานเครื่องมือดังกล่าวให้หมดภายในปี 2020 ปัจจุบันยังมีการใช้เครื่องรับส่งแฟกซ์ในหน่วยงานเครือ NHS ราว 8,000 เครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มใช้และติดตั้งตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2000
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ watchOS 5.1.2 สำหรับ Apple Watch แล้ว โดยผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้ผ่านแอปเปิล Apple Watch ใน iPhone และต้องมีแบตเตอรี่อย่างน้อย 50% รวมทั้งวางอยู่บนแท่นชาร์จ ขณะทำการอัพเดต
คุณสมบัติใหม่เพิ่มเติมที่สำคัญของ watchOS 5.1.2 คือเพิ่มแอปรองรับการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ที่ถือเป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญของ Apple Watch Series 4 นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถแจ้งเตือน การมีการตรวจจับการเต้นของหัวใจแล้วพบรูปแบบผิดปกติ
ช่วงที่ผ่านมา กลุ่มโรงพยาบาลเอกชนที่ปรับตัวเรื่องเทคโนโลยีได้โดดเด่น คือกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช ที่ประกอบไปด้วยโรงพยาบาลสมิติเวชทุกสาขา และโรงพยาบาล BNH โดยทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของเครือกรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) กลุ่มโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
Blognone มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลสมิติเวช และ BNH ถึงทิศทางของการปรับตัวและการบริหารงานโรงพยาบาลเอกชนในปัจจุบัน ในงานเปิดตัว Samitivej Mobile Health ที่จัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา
กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช ประกาศขยายบริการด้านสุขภาพบนโทรศัพท์มือถือเพิ่มเติม และใช้ชื่อทางการของบริการทั้งหมดว่า Samitivej Mobile Health โดยแถลงเปิดตัวในวันนี้ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
สำหรับ Samitivej Mobile Health ประกอบไปด้วยบริการเดิมอย่าง แอพ Samitivej Plus ซึ่งพัฒนาร่วมกับบริษัท Digital Ventures ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ (เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา), LINE Official Account ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว และทางโรงพยาบาลได้แถลงเปิดตัวอีก 3 บริการใหม่ดังนี้
บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ประกาศว่าบริษัทได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับ Ping An Healthcare and Technology เจ้าของบริการ Ping An Good Doctor แพลตฟอร์มบริการด้านการแพทย์และสุขภาพออนไลน์ของประเทศจีนรายใหญ่เมื่อวานนี้
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว BDMS ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ของประเทศไทย จะให้บริการแนะนำด้านสุขภาพ (เน้นไปที่โรคร้ายแรง) การนัดหมายแพทย์ และนำเสนอแพ็คเกจด้านสุขภาพให้กับผู้ใช้ชาวจีนที่ใช้บริการของ Ping An Good Doctor โดยถือเป็นการเข้าสู่ตลาดประเทศจีนอย่างเป็นทางการของบริษัท
Verily ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือ Alphabet (บริษัทแม่กูเกิล) ที่เน้นทำโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ ประกาศระงับโครงการที่ได้รับความสนใจมากในช่วงก่อตั้งบริษัท นั่นคือคอนแทคเลนส์วัดระดับน้ำตาลอัจฉริยะ ที่ใช้การวัดข้อมูลน้ำตาลจากน้ำตาแทน โครงการนี้ได้รับความสนใจเนื่องจากแก้ไขปัญหาให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ต้องเจาะเลือดวัดระดับเป็นระยะ
Brian Otis ซีทีโอของ Verily อธิบายว่าปัญหาใหญ่หลังพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว คือผลการทดสอบวัดระดับน้ำตาล ระหว่างข้อมูลที่ได้จากคอนแทคเลนส์ เทียบกับข้อมูลที่ได้จากเลือด พบว่าไม่มีความสัมพันธ์กันเพียงพอ จึงทำให้ยังไม่สามารถนำผลวัดระดับน้ำตาลจากคอนแทคเลนส์นี้ มาใช้ทดแทนได้ในทางการแพทย์
Withings แบรนด์ผลิตภัณฑ์สุขภาพเปิดตัว Pulse HR สายรัดข้อมือฟิตเนสรุ่นใหม่ที่อัพเดตจาก Pulse รุ่นแรกซึ่งออกมาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานสุดถึง 20 วัน, กันน้ำในตัว และเพิ่มเซนเซอร์ต่าง ๆ เข้ามา
ตัวสายรัดของ Pulse HR นั้นเป็นซิลิโคน ส่วนหน้าจอเป็น OLED ที่สามารถแสดงข้อมูลการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ อย่างเช่น แคลอรี่ที่เผาผลาญไปแล้ว, เป้าหมายของกิจกรรม ไปจนถึงการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน ซึ่งตัว Pulse HR สามารถติดตามการนอนหลับได้ และปลุกผู้ใช้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมโดยใช้การสั่นได้ด้วย
ระบบปฏิบัติการของ Pulse HR นั้นเป็น OS2 แบบเดียวกับ Steel และ Steel HR ในตัวเครื่องมี GPS สำหรับติดตามตำแหน่ง และยังมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย
เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา แอปเปิลอัพเดตผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ Apple Watch Series 4 ที่มีไฮไลท์คือการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram - ECG/EKG) สามารถตรวจหาความผิดปกติของการเต้นของหัวใจได้สร้างความฮือฮาและความตื่นตัวในแง่ของการมี ECG บนอุปกรณ์สวมใส่
แต่การมาถึงของ ECG บน Apple Watch ยังมีคำถามตามมามากมาย ทั้งความสามารถว่าอุปกรณ์เหล่านี้ให้ผลเทียบเท่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในสถานพยาบาลหรือไม่ ความน่าเชื่อถือว่าแม่นยำแค่ไหน ไปจนถึงประเด็นว่าเราควรจะเชื่อผลการตรวจ ECG บนอุปกรณ์สวมใส่มากน้อยแค่ไหน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Siemens Healthineers บริษัทลูกในเครือ Siemens ได้มีการแถลงข่าวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับทิศทางของเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์ในการนำเทคโนโลยีมาใช้งานในสายสุขภาพ โดย Dr. Tobias Seyfarth กรรมการผู้จัดการ และประธานประจำภูมิภาคอาเซียนของบริษัท
Blognone มีโอกาสได้ไปร่วมงานแถลงดังกล่าว จึงขอเรียบเรียงเนื้อหาสรุปการแถลงข่าวดังกล่าวครับ
เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังมีบทบาทในความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายโรงพยาบาลทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทยต่างต้องเร่งปรับตัว
คำถามคือ โรงพยาบาลทำอะไรกันไปบ้างแล้ว บทความชิ้นนี้มุ่งสำรวจความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งในแง่ของแอพพลิเคชันบนมือถือ ระบบคิว สื่อโซเชียล และเทคโนโลยีขั้นสูงแขนงอื่นๆ
โดยปกติแล้วนั้น ตับสามารถดูแลรักษาตัวเองได้ แต่มักจะถูกทำลายได้โดยหลายวิธี เช่น การดื่มแอลกอฮอลหรือการใช้ยาเกินขนาด โดยในสหราชอาณาจักรมีผู้เสียชีวิตจากตับอักเสบเฉียบพลันอย่างน้อย 200 คนในแต่ละปี
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระได้ค้นพบวิธีใหม่ในการเปลี่ยนถ่ายตับซึ่งไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดอีกต่อไป โดยเปลี่ยนเป็นการบริโภคยาแทน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและลดความเสี่ยงในระหว่างการปลูกถ่ายตับ
ปัญหาการขาดแคลนเลือด เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลทั่วโลก เนื่องจากการบริจาคเลือดนั้นสามารถทำได้ลำบาก และหากบริจาคไม่ตรงตามกรุ๊ปเลือดที่ต้องการ ก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสียกับผู้ที่ได้รับเลือดจนถึงแก่ชีวิตได้ จะเป็นเช่นไรถ้าเราสามารถเปลี่ยนเลือดกรุ๊ปหนึ่ง เป็นอีกกลุ่มหนึ่งแทนเสียล่ะ?
Google ประกาศออกเวอร์ชัน Google Fit แอพศูนย์รวมด้านสุขภาพบน Android ใหม่ รวมถึง Fit สำหรับแอพ Wear OS บน iPhone ด้วย ซึ่งเป็นผลงานที่ Google ร่วมมือกับสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาหรือ AHA และองค์การอนามัยโลกหรือ WHO โดย Fit เวอร์ชันใหม่นี้ถูกออกแบบใหม่ เน้นที่เป้าหมายการทำกิจกรรมควบคู่ไปกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ