Garmin เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ที่เน้นความสมบุกสมบันในการใช้งานใน 2 ซีรีส์คือตระกูล Fenix และตระกูล Epix Pro

เริ่มกันที่ Fenix 7 Pro (ตัวสะกดทางการคือ fēnix 7 Pro) สมาร์ทวอทช์รุ่นต่อจาก Fenix 7 ในปีที่แล้ว รองรับการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ ออกแบบสำหรับนักกีฬาและนักผจญภัย พร้อมหน้าปัดและเซ็นเซอร์ เก็บและแสดงข้อมูล ทั้งพิกัดแผนที่ ข้อมูลสุขภาพ สถานะการออกกำลังกาย และทุกกิจกรรม

ในที่สุด Garmin ก็มีฟังก์ชั่นวัดความดันโลหิตของผู้ใช้งาน เพียงแต่มันไม่ใช่ฟังก์ชั่นในนาฬิการุ่นใดรุ่นหนึ่ง ทว่ามันคือฟังก์ชั่นหลักของสินค้าใหม่ที่ Garmin เพิ่งเปิดตัวไป Index BPM เครื่องวัดความดันโลหิตแบบรัดต้นแขน

ถึงแม้ชื่อ Index จะแปลว่านิ้วชี้ แต่เครื่อง Index BPM นี้ก็ไม่ต่างจากเครื่องวัดความดันโลหิตของผู้ผลิตอุปกรณ์รายอื่นที่ต้องสวมใส่ใช้งานที่บริเวณแขน โดยนอกจากจะวัดค่าความดันโลหิตแล้วยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ในเวลาเดียวกัน

การมาถึงของ Apple Watch Ultra ที่เน้นผู้ใช้สายออกกำลังกาย ถึกทน แบตอึด ถือเป็นการเปิดศักราชของแอปเปิลเข้าสู่ดินแดนของเจ้าตลาดเดิม Garmin อย่างชัดเจน

ฝั่ง Garmin เองก็ต้อนรับน้องด้วยการโพสต์ข้อความสั้นๆ ว่า นาฬิกาของเรานับหน่วยการใช้งานแบตเตอรี่เป็น "เดือน" ไม่ได้นับเป็น "ชั่วโมง"

ถ้าเทียบกันแล้ว Apple Watch Ultra แบตอยู่ได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมง (โหมดประหยัดพลังงาน 60 ชั่วโมง) ส่วน Garmin Enduro 2 รุ่นที่นำมาเทียบ แบตอยู่ได้นานสูงสุด 34 วัน (46 วันด้วยแสงอาทิตย์) และหากเปิดโหมดประหยัดพลังงาน จะอยู่ได้ 111/550 วันตามลำดับ

สมาร์ทวอทช์ Apple Watch Ultra รุ่นใหม่ที่แอปเปิลเพิ่งเปิดตัว ซึ่งชูจุดขายด้านความถึกทน และรองรับการใช้งานระดับเอ็กซ์ตรีม จึงมีหลายคนมองว่าแอปเปิลกำลังตีตลาดสมาร์ทวอทช์สำหรับนักกีฬา ที่มี Garmin เป็นเจ้าตลาดอยู่

แม้ Garmin จะไม่ได้ออกโฆษณามาโจมตี Apple Watch Ultra ตรง ๆ แบบที่เราเคยเห็นจากหลายแบรนด์ในอดีต แต่ในทวีตของ Garmin ล่าสุดซึ่งพูดถึงสมาร์ทวอทช์ Enduro 2 ก็บอกว่า "เราวัดแบตเตอรี่กันที่ระดับเดือน ไม่ใช่ชั่วโมง #Enduro2" ซึ่งประโยคนี้เป็นการชูจุดขายสำคัญ ที่ทำให้คนใช้ Garmin แต่เริ่มสนใจ Apple Watch Ultra ยังลังเลนั่นเอง

Garmin เปิดตัว Instinct 2 สมาร์ทวอชซีรีส์เน้นกลุ่มถึกทนซีรีส์ใหม่ โดยไฮไลต์สำคัญของรุ่นนี้คือ Instinct 2 Solar นาฬิกาที่ Garmin เคลมว่าเป็น unlimited battery life

สำหรับ Garmin Instinct 2 มีหน้าปัดให้เลือก 2 ขนาด คือ 45 มิลลิเมตรรุ่นมาตรฐาน และ Instinct 2S หน้าปัด 40 มิลลิเมตรสำหรับคนข้อมือเล็ก ซึ่งตัวนาฬิกาใช้กระจกกันรอยขีดข่วน และ Garmin ระบุว่าสมาร์ทวอชรุ่นนี้ผ่านการทดสอบความทนทานระดับกองทัพมาแล้ว จึงทนต่ออุณหภูมิ, กระแสไฟฟ้า และกันน้ำได้มากสุดถึง 100 เมตร

Garmin เปิดตัวสมาร์ทวอช Fenix 7 ใหม่ โดยจุดสำคัญในรุ่นนี้คือ Garmin ใส่หน้าจอสัมผัสมาให้ซีรีส์ Fenix ซึ่งเป็นซีรีส์นาฬิกาเน้นกลุ่มผู้ใช้งานแบบสมบุกสมบันเป็นครั้งแรก

Garmin Fenix 7 แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย คือ 7S, 7 และ 7X โดยทั้งสามรุ่นมีหน้าจอขนาด 42, 47 และ 51 มิลลิเมตรตามลำดับ ทุกรุ่นมีตัวเลือก Solar หรือฟีเจอร์ชาร์จแบตด้วยแสงอาทิตย์ และ Garmin ระบุว่าหน้าจอของซีรีส์ 7 มีขนาดใหญ่ขึ้น จึงสามารถรับแสงอาทิตย์ได้ดีกว่าซีรีส์ Fenix 6 ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องชาร์จแบตนาฬิกาได้นานสุดถึง 5 สัปดาห์

นอกจากนี้ ตัวนาฬิกายังมีไฟฉายแบบ multi-LED โดยใช้ได้ทั้งเป็นไฟฉายในสถานการณ์ทั่วไป หรือปรับเป็นโหมดเฉพาะก็ได้ เช่น เป็นสีแดงและขาวตอนวิ่ง, ปรับให้เข้ากับจังหวะดนตรี เป็นต้น

Garmin เปิดตัว Lily สมาร์ทวอทช์สำหรับผู้หญิง ตัวเรือน 34 มิลลิมเมตร สายนาฬิกาขนาด 14 มิลลิเมตร หน้าจอ liquid crystal monochromatic ดีไซน์สไตล์เครื่องประดับ มีสองรูปแบบแบบละสามสี คือรุ่นคลาสสิกสายหนัง ราคา 8,490 และรุ่นสปอร์ตสายซิลิโคน ราคา 6,790 บาท อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดถึง 5 วัน ไม่มี GPS ในตัว

ด้านฟีเจอร์ สามารถตรวจวัดการหายใจ ออกซิเจนในเลือด (Pulse OX) ความเครียด ปริมาณน้ำในร่างกาย ติดตามการนอนหลับและอัตราการเต้นของหัวใจ ได้ 24 ชั่วโมง มีกิจกรรมกำหนดลมหายใจ Breathwork ช่วยในการลดความเครียด ทำสมาธิ มีแอปกีฬาโยคะ พิลาทิส คาร์ดิโอ ลู่วิ่ง และอื่นๆ มีแอปปฏิทิน

ในวงการนาฬิกาอัจฉริยะ เราอาจคุ้นเคยกับภาพลักษณ์ของหน้าปัดที่มีขนาดใหญ่ เพื่อแสดงข้อมูลได้เต็มที่ ล่าสุด Garmin เปิดตัว Lily ที่มีหน้าปัดและสายรัดขนาดเล็กกว่าแบรนด์อื่นๆ เหมาะกับคนที่มีขนาดข้อมือเล็กมากขึ้น ตัวสายนาฬิกาของ Lily กว้าง 14 มม. หน้าปัดเป็นทรงกลมกว้าง 34 มม. หนา 10.15 มม. มีหลายสีทั้งขาว ครีม ดำ ม่วง และ Rose Gold ขายที่ราคา 199.99 ดอลลาร์ หรือราว 6,000 บาท

หลังจาก Garmin ถูกโจมตีจนต้องปิดบริการแทบทั้งหมด และสามารถเปิดบริการกลับมาได้ภายในสี่วันถัดมา ทาง Bleeping Computer ระบุว่าได้รับโปรแกรมถอดรหัสมัลแวร์ WastedLocker

สคริปต์ติดตั้งระบุว่าสร้างไฟล์เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสคริปต์จะสำเนาโปรแกรมลงเครื่อง, ถอดดิสก์เน็ตเวิร์ค, แล้วถอดรหัสไฟล์ในเครื่องจากกุญแจเข้ารหัสของไฟล์นามสกุล .garminwasted

Garmin เริ่มเปิดบริการออนไลน์กลับขึ้นมาอีกครั้งหลังจากปิดบริการทั้งหมดไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา โดยหน้าเว็บ dashboard แสดงสถานะของบริการต่างๆ ระบุว่ากระบวนการซิงก์อาจจะช้ากว่าปกติ ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติของบริการที่คนใช้จำนวนมากแต่กลับปิดบริการไปนาน ทำให้ทุกคนกลับมาซิงก์พร้อมๆ กัน

ทางบริษัทเปิดหน้าเว็บคำถามที่พบบ่อยชี้แจงว่าว่าข้อมูลของผู้ใช้บนเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้สูญหายไปไหน และไม่มีข้อบ่งชี้ว่าข้อมูลของผู้ใช้ได้รับผลกระทบ รวมถึงข้อมูลการชำระเงินและข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาบริการออนไลน์ของ Garmin ทั้งหมดดับลงกระทบผู้ใช้บริการจำนวนมาก ทั้งผู้ใช้บริการเป็นการส่วนตัวและการใช้งานระดับมืออาชีพอย่างระบบการบิน ทาง Bleeping Computer รายงานรายละเอียดเพิ่มเติมของการโจมตีครั้งนี้ โดยยืนยันว่าเป็นมัลแวร์ WastedLocker ที่พัฒนาโดยกลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียที่ชื่อ Evil Corp

Garmin รายงานว่าหลายระบบของบริษัทไม่ทำงาน กระทบตั้งแต่เว็บไซต์ที่ตอนนี้จะ redirect ไปยังหน้าแสดงข้อความประกาศ, ตัวแอปพลิเคชั่นและบริการซิงก์ทั้งหมด, บริการแชตทั้งทางโทรศัพท์ อีเมล และแชต, ไปจนถึงสายการผลิตบางส่วนที่โรงงานในไต้หวันได้รับคำสั่งให้ทำงานในโหมด "ซ่อมบำรุง" ไปอีกสองวัน

ทางบริษัทไม่ได้ระบุสาเหตุของการปิดระบบทั้งหมดเช่นนี้ แต่ ZDNet อ้างอิงพนักงานบริษัทไม่ระบุชื่อ ระบุว่าเป็นมัลแวร์เข้ารหัสเรียกค่าไถ่ พร้อมกับชี้ว่าเป็นมัลแวร์ในกลุ่ม WastedLocker แต่ช่องทางสื่อสารทางการของบริษัทยังไม่ยืนยันประเด็นนี้

ผลกระทบจากบริการที่ดับไปทั้งหมดทำให้บริการออนไลน์ใช้งานไม่ได้ รวมถึงสินค้าระดับมืออาชีพอย่าง flyGarmin ที่นักบินใช้วางแผนการบิน

Garmin เปิดตัวสมาร์ทวอชรุ่นใหม่ Fenix 6 ซึ่งเป็นรุ่นอัพเกรดจาก Fenix 5 โดยในซีรีส์นี้มีสามรุ่นคือ Fenix 6 เป็นรุ่นปกติ, Fenix 6S และ Fenix 6X โดย Garmin เพิ่มตัวเลือกดีไซน์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้าเลือกหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยมีไฮไลต์คือรุ่นท็อปสุดเป็นรุ่นชาร์จแบตเตอรี่ด้วยแผงโซลาร์ และขยายหน้าจอรุ่นปกติเป็น 1.3 นิ้ว

สำหรับนาฬิกา Fenix 6 จะบางและเหมาะกับข้อมือมากกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยรุ่นปกติ Fenix 6 มีหน้าปัด 47 มิลลิเมตร และ Fenix 6X หน้าปัด 51 มิลลิเมตร ซึ่ง Garmin มีตัวเลือกหน้าจอกระจกแซฟไฟร์ที่กันรอยขีดข่วนให้ และมีตัวเลือกหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 1.4 นิ้วในรุ่น 6X ด้วย

Garmin ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ให้แพลตฟอร์ม Garmin Connect สามารถบันทึกรอบประจำเดือน (menstrual cycle) ได้ด้วย เพื่อให้ผู้หญิงสามารถตรวจสอบแพทเทิร์นของร่างกายตัวเองได้จากนาฬิกาสมาร์ทวอทช์หรือสายรัดข้อมือได้เลย

ระบบของ Garmin สามารถบันทึกอาการที่พบบ่อยๆ ในช่วงที่ประจำเดือนมา อย่างปวดหัว ปวดหลัง ผมร่วง ฯลฯ รวมถึงเพิ่มโน้ตส่วนตัวในแต่ละวันได้ด้วย

คู่แข่งอย่าง Fitbit มีฟีเจอร์นี้ตั้งแต่ปลายปี 2018 จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ Garmin จะเร่งพัฒนาฟีเจอร์ให้ตามทันกันด้วย

Garmin ผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะและอุปกรณ์จับการออกกำลังกาย ประกาศเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ MARQ เน้นความหรูหราทุกมิติ ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 ดอลลาร์ หรือเฉียด 5 หมื่นบาทไทยต่อเรือน

นาฬิกากลุ่มนี้บริษัทเน้นจับตลาดนักบิน นักกีฬา และกัปตันเรือโดยสาร มีคุณสมบัติในการคำนวณความเร็วของยานพาหนะที่กำลังโดยสารอยู่ ไปจนถึงการตรวจกับการออกกำลังกายและการจัดการกับการแจ้งเตือนของสมาร์ทโฟน เซ็นเซอร์ด้านสุขภาพ ตัวตรวจการเต้นของหัวใจ และอื่นๆ

Garmin เปิดตัวสมาร์ทวอชรุ่นใหม่ Instinct ออกแบบมาเน้นความถึกทนสำหรับการใส่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ฟีเจอร์ของ Garmin Instinct มีเข็มทิศสามแกน, ระบบระบุตำแหน่งสามอย่างคือ GPS, GLONASS และ Galileo, ระบบวัดความสูงแบบใช้ความดันบรรยากาศ (barometric altimeter), เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจและระบบมอนิเตอร์สุขภาพต่าง ๆ เช่น การนอนหลับ, กิจกรรม, ปริมาณการเผาผลาญแคลอรี่ เป็นต้น รวมถึงมีแอพออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบในตัว

Garmin เปิดตัวสายรัดข้อมือติดตามกิจกรรมหรือ activity tracker รุ่นใหม่ vívosmart 4 โดยในรุ่นนี้ Garmin ใส่เซนเซอร์ pulse ox2 oximeter สำหรับวัดค่าออกซิเจนในเลือดมาด้วย

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ vívosmart 4 คือระบบตรวจวัดการนอนหลับแบบใหม่ โดยสามารถตรวจวัดสถานะการนอนได้สามสถานะคือ light, deep และ REM รวมถึงการเคลื่อนไหวตลอดทั้งคืน และจะสรุปข้อมูลต่าง ๆ ให้ในแอพ Garmin Connect

ฟีเจอร์ถัดไปคือ Boddy Battery เป็นระบบตรวจวัดระดับพลังงานในร่างกาย โดยข้อมูลนี้สามารถนำมาใช้เพื่อการกำหนดเวลาออกกำลังกาย, เวลาพักผ่อน และเวลานอนได้ รวมถึงจะมีสรุปด้วยว่ากิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำไปไม่กี่วันก่อนมีผลอย่างไรบ้าง

Garmin เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ใหม่ 3 รุ่น ในตระกูล Fenix 5 Plus ซึ่งแยกออกเป็นสามรุ่นย่อยตามสเปคและขนาดหน้าปัด ได้แก่ Fenix 5S Plus, Fenix 5 Plus และ Fenix 5X Plus

จุดขายของ Fenix 5 Plus ที่ต่อยอดจาก Fenix 5 เดิม คือแผนที่ built-in ในตัว, ระบบจ่ายเงิน Garmin Pay และมีพื้นที่หน่วยความจำในตัวสำหรับเก็บเพลงได้สูงสุด 500 เพลง และสำหรับรุ่น Fenix 5X Plus ได้เพิ่มตัววัดแบบ Pulse Oximeter ที่เหมาะสำหรับนักปีนเขา ส่วนรุ่น Fenix 5S Plus มีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 1.2 นิ้ว เพิ่มขึ้นเกือบ 20% จากรุ่น 5S เดิม

สินค้าจะเริ่มจำหน่ายภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งก็เหลืออีกไม่กี่วัน ราคาขายแต่ละรุ่นยังไม่ประกาศ แต่ Garmin บอกเป็นช่วงราคาว่าอยู่ที่ 699.99 ดอลลาร์ ถึง 1,149.99 ดอลลาร์

Garmin ได้เปิดตัว Forerunner 645 Music ซึ่งเป็นนาฬิกาสำหรับการใช้วิ่งและออกกำลังกาย ภายในตัวนาฬิกามี GPS และ GLONASS เอาไว้ติดตามการวิ่งและรองรับการใส่เพลงถึง 500 เพลง เพื่อใช้เล่นผ่านหูฟัง Bluetooth

นาฬิการุ่นใหม่ของ Garmin จะมาพร้อมเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา, GPS และ GLONASS สามารถติดตามผู้ใช้ขณะออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องใช้การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ, เครื่องมือวัดประสิทธิภาพการวิ่ง, Garmin Pay ระบบจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส ให้ผู้ใช้ไม่ต้องพกบัตรเครดิตหรือเงินสดขณะออกกำลังกาย, รองรับการเชื่อมต่อกับ Connect IQ ของ Garmin เพื่อการปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกา, วิดเจ็ต, แอพ ฯลฯ

Garmin เปิดตัว vívofit 4 สายรัดข้อมือที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำหรับติดตามกิจกรรมหรือ activity tracker โดยออกแบบมาสำหรับการใช้งานแบบตลอดเวลา และ หน้าจอสีแบบเปิดใช้งานตลอด (always-on) แบตเตอรี่อยู่ได้ประมาณ 1 ปีขึ้นไป

vívofit 4 รองรับการติดตามก้าวเดินตั้งแต่แกะกล่อง หรือสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ฟังก์ชันอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่างเช่นติดตามการนอนหลับ, วิเคราะห์จำนวนก้าวต่อนาที และฟีเจอร์ตัวจับกิจกรรมอัตโนมัติ Move IQ สำหรับการติดตามกิจกรรมอย่างเช่นการเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ

Garmin ได้เปิดตัว vivosmart 3 ซึ่งเป็นสายรัดข้อมือในตระกูล vivosmart โดยเพิ่มฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และบันทึกข้อมูลการออกกำลังกาย

vivosmart 3 จะยังคงใช้วัสดุยางที่ยืดหยุ่นได้เหมือนกับ vivosmart รุ่นก่อน ๆ โดยรุ่นใหม่นี้จะมีเซนเซอร์วัดหลายอย่าง เช่น การก้าวเดิน, การวัดอัตราการเต้นหัวใจ, การเผาผลาญแคลอรี่, การเดินขึ้นบันได, การออกกำลังกาย, การนอน และอื่น ๆ และสามารถกันน้ำได้ 50 เมตร จึงสามารถใส่อาบน้ำหรือว่ายน้ำได้ (แต่ไม่สามารถติดตามการว่ายน้ำได้) โดย Garmin ยืนยันว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ 5 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

มีเรื่องราวน่าสนใจของวงการวิ่งมาราธอนรายหนึ่งในสหรัฐฯ มีเหตุของนักวิ่งหญิงการศึกษาสูงรายหนึ่ง ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์และนักเขียนให้เว็บไซต์ใหญ่หลายแห่ง เธอวิ่งเข้าเส้นได้รับรางวัลที่สองในรายการนั้น ปรากฏว่ามีคนจับผิดว่าเธอวิ่งไม่ครบระยะจากภาพถ่ายที่ซูมไปยังนาฬิกาข้อมือ Garmin Forerunner 235 ของเธอ ซึ่งจับระยะแค่ 11.65 ไมล์กับระยะเวลา 1 ชั่วโมง 22 นาที หายไปราวหนึ่งไมล์ และเมื่อแบกราฟ Strava ดู พบว่าช่วงระยะท้ายๆ เธอวิ่งเร็วกว่าเดิมทั้งที่ปกตินักวิ่งส่วนใหญ่จะลดความเร็วกัน

เมื่อการแฉเปิดเผย เธอผู้ขึ้นรับรางวัลถ่ายภาพก็รีบกลับลำขอโทษ และอ้างว่าที่เธอวิ่งลัดเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย พร้อมสารภาพว่ามีปั่นจักรยานระหว่างทางด้วย เหตุนี้ถูกจับผิดโดยบล็อกเกอร์รายหนึ่งที่เขียนเรื่องสอบสวนการวิ่งมาราธอนนี้มาตั้งแต่ปี 2015

เหตุเกิดคืนวันพุธที่บาร์แห่งหนึ่งในเมืองแคนซัส สหรัฐฯ มีชายคนหนึ่งก่อเหตุยิงคนตาย ผู้ตายคือ Srinivas Kuchibhotla ชาวอินเดีย เป็นวิศวกรที่บริษัท Garmin ผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า คนยิงตะโกนไปที่เหยื่อว่า "ออกไปจากประเทศของฉัน"

ในเหตุการณ์ Kuchibhotla ไปกับเพื่อนร่วมงานอีกสองคน คือ Alok Madasani และ Ian Grillot ก็บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ด้วย

ผู้ต้องสงสัยคดีนี้คือ Adam Purinton ถูกจับกุมในข้อหาฆ่าโดยไตรตรองไว้ก่อน FBI แถลงว่ากำลังอยู่ระหว่างสืบสวนร่วมมือกับตำรวจในท้องที่ ด้าน Garmin แถลงว่าแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว และได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้สูญเสีย

Garmin มีสำนักงานอยู่ในพื้นที่ Olathe City ตั้งแต่ปี 2015 มีการจ้างพนักงานเข้ามามากมาย และคาดว่ามีชาวต่างชาติมาก นักบวชในพื้นที่ Adam Hamilton บอกกับนักข่าวว่า กระแสความกลัวชาวต่างชาติเริ่มมีมากขึ้นนับตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งมา

Garmin ถือโอกาสงาน CES 2017 ประกาศเปิดตัวนาฬิกาข้อมือสำหรับคนรักสุขภาพรุ่นใหม่ในชื่อรุ่น Fenix 5 อัพเกรดจาก Fenix 3 ที่ทำตลาดอยู่พักใหญ่ แยกเป็นสามรุ่นย่อยตามสเปคและขนาดหน้าปัดคือ Fenix 5S (สำหรับผู้หญิงข้อมือเล็ก), Fenix 5 (รุ่นปกติ) และ Fenix 5X (รุ่นใหญ่สุด มีระบบแผนที่เก็บและนำเส้นทาง) ตัวกระจกมีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและกระจกแซฟไฟร์ ราคาเริ่มต้นที่ 599.99 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 21,500 บาท)

ความแตกต่างที่ดีกว่ารุ่นเดิม คือ จอภาพแสดงสีได้มากขึ้นเป็น 64 สี (จาก 16) จอละเอียดขึ้นเป็น 240x240px (จากเดิม 218x218) รองรับภาษาอาหรับ ฮีบรู และอีโมจิ รุ่นกระจกแซฟไฟร์รองรับไวไฟ และมี gyroscope มาให้ในทุกรุ่น แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 2 สัปดาห์ (ถ้าเปิด GPS จะใช้ได้สั้นกว่านี้) ส่วนฟังก์ชั่นแผนที่ใน Fenix 5X ทำได้ทั้งการดูแผนที่ นำทางจากไฟล์ที่ใส่เข้าไป ตลอดจนแสดง POI ของสถานที่สำคัญโดยรอบด้วย

เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็มีแต่คนออกกำลังกาย บ้างก็วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ โยคะฟลาย ฯลฯ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แค่คนรุ่นผมเริ่มใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น

โลกเทคโนโลยีก็ขานรับรูปแบบชีวิตนี้เช่นเดียวกัน วัดจากจำนวนอุปกรณ์ประเภท wearable tech ที่มีให้เลือกใช้มากมาย และ fenix 3 HR จาก Garmin นี้ก็เป็นนาฬิกาข้อมือที่ทำอะไรได้หลายอย่าง ทั้งวัดค่าสุขภาพจากกิจกรรมกีฬานานาชนิด นับก้าวเดิน การเผาผลาญพลังงาน จับเส้นทางการเคลื่อนที่ด้วย GPS/GLONASS และการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้โดยตรงจากข้อมือ ซึ่งเป็นจุดขายของ fenix 3 HR เรือนนี้ โอกาสนี้ผมในนาม Blognone มีโอกาสได้ลองใช้ ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ครับ