ไปรษณีย์สหรัฐฯ ร่วมกับบริษัท Clover Technology Group รับขนขยะอิเล็กทรอนิกส์เช่น หมึกพรินเตอร์, พีดีเอ, ตลอดจนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กอื่นๆ ไปยังโรงงานของบริษัท Clover ฟรี เพื่อทำการแยกชิ้นส่วนและรีไซเคิลต่อไป
นโยบายกำจัดขยะของทางบริษัท Clover นั้นเป็นแบบ "zero landfill" คือบริษัทจะทำทุกวิถีทางให้เหลือขยะที่ต้องการพื้นที่ฝังกลบให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่การแยกชิ้นส่วนเพื่อกลับไปทำอะไหล่อุปกรณ์ต่อไป จนถึงการแยกชนิดวัสดุเพื่อรีไซเคิล ด้วยนโยบายเช่นนี้ที่ทำให้ Clover ได้รับเลือกให้ทำงานร่วมกับทางไปรษณีย์สหรัฐฯ เพื่อช่วยลดขยะให้ประชาชนต่อไป
กระแสการใช้พลังงานชีวภาพกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในบ้านเราและประเทศในกลุ่มเอเซียแปซิฟิกและยุโรป กำลังสร้างความวิตกต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจจะไม่คุ้มค่า จนทางองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ต้องออกมาเตือนว่าแม้การใช้พลังงานชีวภาพจะให้ผลดีในแง่ของความมั่นคงทางพลังงาน แต่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้นมากเกินกว่าที่เราคาดกัน
การแถลงการครั้งนี้มาจากนาย Regan Suzuki ในงามประชุมวิชาการที่ได้รับการสนับสนุนจากทางสหประชาชาติและรัฐบาลไทย ระบุว่าผลกระทบหลักๆ ของการใช้พลังงานชีวภาพคือ การขาดแคลนอาหาร, การขาดแคลนน้ำที่จะถูกผันไปใช้ในการเกษตร, และพื้นที่ป่าที่จะถูกทำลายเพื่อนำมาเป็นพื้นที่เพาะปลูก
เมื่อวานที่ผ่านมาประชาชนชาวแบกแดดในประเทศอิรักก็ต้องพบความประหลาดใจ เมื่อทั่วกรุงแบกแดดมีหิมะตกลงมา แม้จะเป็นปริมาณเพียงเล็กน้อย แต่นี่ก็เป็นหิมะครั้งแรกในรอบร้อยปีของกรุงแบกแดด หิมะเริ่มตกครั้งแรกก่อนพระอาทิตย์ตกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจน 9 โมงเช้าจึงได้หยุดลง หิมะครั้งนี้ดึงอุณภูมิทั่วกรุงแบกแดดลงเหลือศูนย์องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่านั้น
Dawood Shakir ผู้อำนวยการกรมอุตุนิยมวิทยาของอิรักให้ความเห็นว่า ปรากฏการณ์นี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่นำกระแสลมอุณภูมิต่ำ มาพบกับกระแสลมที่อุ่นและชื้นกว่าจนเป็นหิมะตกลงมา
ที่มา - PhysOrg
ทีมนักชีววิทยา จากมหาวิทยาลัย Darmounth ได้ทำการแยกสำรวจ พื้นที่จำนวน 3 แห่ง ของทะเลสาบ Baiyangdian ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือของจีน โดยพื้นที่สำรวจทั้ง 3 ห่างจากแหล่งที่เป็นมลภาวะ เช่น โรงงานถ่านหิน, พื้นที่เกษตรกรรม, โรงงานอุตสาหกรรม
ผลจากการสำรวจ พบว่าพื้นที่ทั้ง 3 มีปลาที่มีการปนเปื้อนของสารปรอทและสารหนู ในอัตราที่สูงกว่ามาตรฐาน ซึ่งน่าเป็นห่วงประชากรในบริเวณพื้นที่ทะเลสาบ Baiyangdian เพราะทะเลสาบแห่งนี้ เป็นแหล่งอาหารและน้ำดื่มที่สำคัญในบริเวณนี้
ผมว่าประเทศจีน ให้ความสำคัญระหว่างสิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรม พอๆ กันเลยนะ
ที่มา - Physorg
สาเหตุที่ทำให้ อัล กอร์ และ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิกากาศ หรือ ไอพีซีซี ได้รับรางวัลโนเบลในสาขาสันติภาพในปีนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการที่ออกมาชี้ใช้ชาวโลกเห็นถึงความสำคัญของภาวะที่โลกร้อนในปัจจุบัน ซึ่งปัจจัยที่ อัล กอร์ สามารถสรุปได้ว่าโลกของเราร้อนขึ้น ก็เนื่องมาจากการเก็บข้อมูลและแบบจำลองสภาพภูมิกาอาศที่สามารถทำนายการเกิดภาวะโลกร้อนได้
แต่งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย (Virginia University) ร่วมมือกับ UHA ได้ทำการเปรียบเทียบความถูกต้องของแบบจำลองสภาพภูมิอากาศ จำนวน 22 แบบจำลอง และรวมถึงแบบจำลองที่ อัล กอร์ ใช้ในการทำนายสภาวะโลกร้อนด้วย พบว่าในแบบจำลองทั้งหลายเหล่านั้น ยังมีความน่าเคลือบแคลงในด้านความถูกต้องแม่นยำในการทำนายอยู่พอสมควร
องค์กรอนุรักษ์พลังงานระหว่างประเทศ (Conservation International) ได้นำเสนอวิธีใหม่ล่าสุด สำหรับการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรงในปัจจุบัน ด้วยเครื่องมือออนไลน์ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
วิธีการที่ทางองค์กรอนุรักษ์ระหว่างประเทศนำมาใช้ ก็คือการลดการผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ของแต่ละคน โดยเปิดให้บริการเครื่องมือคำนวนปริมาณการก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ของแต่ละคน โดยเครื่องมือดังกล่าว สามารถคำนวนได้อย่างครอบคลุมถึงพฤติกรรมหรือกิจกรรมต่างๆ ที่เราได้ทำลงไป ไม่ว่าจะเป็น การกิน, การเดินทาง, การใช้น้ำมัน, การท่องเที่ยว ซึงจะคำนวนออกมาเป็นจำนวนตัน ที่เราได้ผลิดออกมาในแต่ละปี และยังคำนวนถึงเงินที่เราควรจะบริจาคเพื่อช่วยอนุรักษ์โลกของเราอีกด้วย
ถ้าพูดถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เราก็ต้องคิดถึงความร้อนสูงมากที่ปล่อยออกมา เพราะฉะนั้นทำไมเราถึงไม่เอาความร้อนนี้มาทำน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคซะล่ะ?
นี่คือไอเดียใหม่ของ S.S. Verma และภาควิชาฟิสิกส์ของสถาบัน Sont Longowal ในประเทศอินเดีย พวกเขาคิดว่าถ้าหากสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่น้ำทะเลบริเวณที่ใกล้กับเมืองที่มีประชากรหนาแน่นแล้วนอกจากจะมีไฟฟ้าใช้ยังจะได้น้ำสะอาดใช้อีกด้วย
การตื่นตัวของปรากฏการณ์โลกร้อนทำให้เริ่มมีรายงานการวิจัยถึงการปล่อยสารเรือนกระจก โดยเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์กันอยู่เรื่อยๆ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อรายงานฉบับล่าสุดของ MIT ออกมาระบุว่า สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสารเรือนกระจกที่มากที่สุดในโลกนั้น กลับมีแนวโน้มที่จะปล่อยสารเรือนกระจกเหล่านี้ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราเร่ง โดยรายงานฉบับนี้เป็นการศึกษาจากข้อมูลในช่วงปี 1950 มาจนถึงปี 2000 และใช้การประมาณการในปี 2000 ไปจนถึงปี 2050
ไอบีเอ็มประกาศเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งช่วยให้นำเศษซิลิคอนเวเฟอร์มาใช้ประโยชน์ต่อได้
การผลิตชิปทั่วไปนั้นจะพิมพ์ลายวงจรลงบนแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์เหล่านี้แล้วนำไปตัด ปัญหาคือมีเศษซิลิคอนต้องทิ้งเป็นจำนวนมาก (ในข่าวให้ข้อมูลว่าเอามารวมกันตกประมาณ 3 ล้านแผ่นเวเฟอร์ต่อปี) และบริษัทผู้ผลิตชิปก็ไม่นิยมนำไปรีไซเคิลเพราะว่าบนเศษซิลิคอนยังมีลายวงจรอยู่ ซึ่งบริษัทถือเป็นความลับทางการค้า
แล็ปท็อป XO ของโครงการ OLPC ได้ผ่านเกณฑ์ของมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม 3 อัน ซึ่งส่งผลให้ XO สามารถโฆษณาได้ว่าเป็น "แล็ปท็อปที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลก" ตามคำกล่าวของ AMD ซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์
วันนี้ (15 ตุลาคม 2550) นี่คือวันที่เรียกว่า Blog Action Day ครับ เป็นวันที่ Bloggers ทั่วโลกจะร่วมมือกันเขียน Blog เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น,เราคิดว่า มันจะเหมาะมากที่ผู้ที่ทำ AdSense ผู้ซึ่งมุ่งมั่นโฟกัสไปที่เว็บไซต์ของเขาที่จะเพิ่มความตระหนัก และ นึกถึงสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพสะ พื้นที่ป่า และ สัตว์ป่า
Mongabay.com, ซึ่งดูแลโดย Rhett Butler เริ่มต้นแล้วนั้น เขาตั้งเป้าไปที่ต้องการให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ป่าไม้ในเขตร้อนชื้น, หัวข้อที่ Rhett ใกล้ชิดที่สุด เพราะมาจากการที่เขาได้เดินทางไปยัง ป่า Borneo ซึ่งเริ่มถูกทำลายลง เมื่อไม่กี่ปีมานี้นั่นเอง
นักวิจัยชาวเยอรมัน Gerhard Ertl ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีไป จากผลงานวิจัยเรื่อง ปฏิกิริยาของสารเคมีต่อพื้นผิวของแข็ง ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อมว่า มลพิษทำลายชั้นโอโซนอย่างไร
โดยงานของนักวิจัยท่านนี้จะเป็นการนำให้คนมาสนใจการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งทำให้ไม่ก่อเกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม
ที่มา - CNN.com, Nytimes.com
Google Maps คิดโปรเจ็คสร้างสรรค์ชวนคุณและชาวโลกร่วมกันทำความสะอาดโลก ในวันที่ 13-14 ตุลาคม 2007 ในชื่อโครงการว่า International Cleanup Weekend ทุกคนสามารถร่วมกันเก็บขยะในทุกๆที่พร้อมกันทั่วโลก
เพียงคุณรวมกลุ่มกัน 6-10 คนและเลือกฟื้นที่ที่คุณต้องการจะทำความสะอาดเช่นชายหาด,สวนสาธารณะ ฯลฯ หลังจากนั้นคุณกำหนดจุดลงบน Google Maps เพื่อทำการตกลงกับเพื่อนภายในกลุ่มว่าจะนัดเจอกันที่ไหน
และขอบเขตของบริเวณที่จะทำความสะอาดกัน สุดท้ายเมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วคุณสามารถนำภาพหรือวีดีโอสำหรับงานในวันนั้นส่งต่อถึงเพื่อนๆ ผ่านทาง Google Maps ได้
เรื่องง่ายๆ ที่เรารู้กันดีอยู่แล้วแต่ทำกันได้ไม่ค่อยจะสำเร็จนัก กลุ่ม Climate Savers Computing Initiative ซึ่งประกอบด้วยบริษัทไอทีชั้นนำในอุตสาหกรรม (เช่น กูเกิล อินเทล ไมโครซอฟท์ ฯลฯ)จำนวนมาก ได้ออกมาผลักดันแคมเปญการลดมลพิษและประหยัดพลังงานจากคอมพิวเตอร์
CSCI ใช้ตัวเลขนักศึกษาของสหรัฐเป็นฐานคำนวณ แบบย่อๆ ก็คือถ้านักศึกษาสหรัฐทั้งหมด 18 ล้านคนปิดคอมพิวเตอร์ หรือเข้าโหมด Sleep/Hibernate เมื่อไม่ใช้งาน จะประหยัดพลังงานได้ปีละ 2,300 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี คิดเป็นเงิน 206 ล้านเหรียญ หรือเงินไทยประมาณ 7 พันล้านบาท
จากการสำรวจล่าสุดของ Alloy Media and Market พบว่าเด็กใหม่ที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาในปีนี้มีอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ มากกว่ารุ่นที่เรียนจบมหาวิทยาลัยในปีนี้มาก
จากการสำรวจ อุปกรณ์ไฮเทคต่อไปนี้ถือว่าเป็นสิ่ง "ธรรมดามาก" เช่น โทรศัพท์มือถือ, กล้องถ่ายรูปดิจิตอล, แล็ปท็อปและไอพอต (หรือเครื่องเล่น MP3 อื่น ๆ)
สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมที่เห็นได้ชัดคือกว่า 93% มีโทรศัพท์มือถือใช้ในขณะที่รุ่นที่สี่ปีที่แล้วมีเพียง 78% นอกจากนี้แล้วนักเรียนส่วนใหญ่ประมาณ 64% มีกล้องถ่ายรูปเป็นของตัวเอง มากกว่าสี่ปีที่แล้วเป็นเท่าตัว
กรมการข่นส่งของอังกฤษ ได้ประกาศอันดับรถรุ่นใหม่ที่ผู้ซื้อควรซื้อ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่านทางหน้าเว็บไซด์ http://www.dft.gov.uk/ActOnCO2 โดยการจัดอันดับนี้ใช้หลังเกณฑ์การแนะนำของนิตยสาร What Car?
ในเว็บผู้ที่สนใจจะสามารถสืบค้นรถรุ่นต่างๆได้จาก ยี่ห้อรถ เครื่องยนต์และชนิดน้ำมัน ผลที่สืบค้นออกมาจะแสดงรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยที่สุดเป็นอันดับแรก
รถที่อยู่นี้การสืบค้นทุกรุ่นจะต้องผ่านการวัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเจ้าหน้าที่ และจะสามารถวางจำหน่ายได้เมื่อผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดตามกฎหมาย
โดยอันดับคร่าว ๆ มีดังนี้
นาย Olive Heffernan นักข่าวจาก Climate Feedback ได้รายงานว่าถ้ากูเกิลและ New York Times ทำการเปลี่ยน Background ของหน้าเว็บจากสีขาวให้เป็นสีดำจะสามารถช่วยให้โลกประหยัดพลังงานมากขึ้น
ถ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงสีขาวทั้งหมดเหมือนกับหน้า Word เปล่า ๆ หรือหน้าเว็บกูเกิลละก็จอภาพจะใช้ 74 วัตต์ในการแสดงผล ในขณะเดียวกันถ้าหน้าจอแสดงสีดำแล้วละก็จะใช้ไฟฟ้าเพียงแค่ 59 วัตต์เท่านั้น
นอกจากนี้เขาได้อ้างอิงถึงงานที่ Mark Ontkush ได้เขียนไว้เกี่ยวกับการทดสอบโดยการให้จอภาพแสดงสีต่าง ๆ ในแต่ละวันแล้วก็วัดจำนวนพลังงานที่ใช้ไปพบว่าถ้ากูเกิลทำการเปลี่ยน Background ของเว็บเป็นสีดำแล้วละก็ทั้งโลกจะสามารถประหยัดพลังงานได้กว่า 750 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
ข่าวจาก Ludington Daily News รายงานว่านักวิศวะเกษตรชาวแดนิชได้ประสบความสำเร็จในการหาทางออกในการกำจัดวัชพืชโดยไม่ใช้สารเคมี
ล่าสุดหุ่นยนต์ Hortibot ขนาดกว้าง 3 ฟุตสูง 3 ฟุตหนักเพียง 450-650 ปอนด์ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้น มีความสามารถในการระบุตำแหน่งของวัชพืชกว่า 25 ชนิดได้ด้วยตัวเองโดยใช้คอมพิวเตอร์และ GPS เข้าช่วย
สำหรับวิธีในการกำจัดวัชพืชนั้นเจ้า Hortibot ก็สามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การฐอนหญ้าแบบธรรมดาด้วยวิธีดึงหรือจะสเปรย์หรือแม้แต่จะใช้ไฟเผาหรือใช้เลเซอร์ยิงใส่ ด้วยความสามารถอันมากมายเหล่านี้สามารถลดการใช้สารเคมีในการกำจัดพืชได้มากถึง 75% เลยทีเดียว
ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่หุ่นยนต์ตัวนี้ขณะนี้มีราคาอยู่ที่ $71,000
อินเทลประกาศว่าในการกระบวนการผลิตซีพียูยุคถัดไปที่ขนาด 45 นาโนเมตร ทางบริษัทจะเลิกใช้ตะกั่วในการเชื่อมต่อวงจร โดยจะใช้โลหะผสมของดีบุก+เงิน+ทองแดงแทน
ก่อนหน้านี้อินเทลมีแผนการลดใช้ตะกั่วมานานแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้เป็นการเลิกใช้ตะกั่วอย่างสิ้นเชิงในซีพียู ปัจจุบันบริษัทหลายแห่งประกาศแผนงานด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เช่น ลดสารอันตราย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น
เรื่องสารอันตรายก็ขอให้ย้อนกลับไปดูข่าวเก่า น่าจะเห็นภาพว่าคนงานรีไซเคิลขยะ ต้องเผชิญกับสารพิษตรงๆ แค่ไหน
ที่มา - Ars Technica
ทุกปีจะมีขยะคอมพิวเตอร์ประมาณ 20-50 ล้านตัน โดยแหล่งรีไซเคิลที่สำคัญของโลกอยู่ที่จีน, อินเดีย และไนจีเรียด้วยเหตุผลด้านค่าแรง แต่ใครจะไปรู้ว่าธุรกิจรีไซเคิลเหล่านี้จะมีมูลค่าสูงถึง 11 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2009
นอกจากจะประกอบด้วยพลาสติกหรือสายไฟ ขยะคอมพิวเตอร์ยังมีโลหะมีค่าจำนวนมาก ทองที่ได้จากขยะ 1 ตันมีจำนวนมากกว่าสายแร่ทอง 17 ตัน ส่วนทองแดงนั้นเป็น 40 เท่า นักข่าวของ Foreign Policy ได้ไปสำรวจเมือง Guiyu ของจีนซึ่งเป็นแหล่งรีไซเคิลสำคัญ มีการจ้างแรงงานมากกว่า 1 แสนคนในการแยกชิ้นส่วนขยะไฮเทคเหล่านี้ด้วยมือ ข่าวต้นฉบับเน้นภาพเป็นหลัก เข้าไปดูบรรยากาศการแยกขยะของเมืองจีนกันได้
ยักษ์ใหญ่วงการไอทีหลายบริษัท ซึ่งได้แก่ Microsoft, Dell, AMD, HP, IBM, Intel, VMWare (รายชื่อ) ได้รวมตัวกันในชื่อ The Green Grid ซึ่งมีเป้าหมายจะลดการบริโภคพลังงานของบรรดาเซิร์ฟเวอร์ใน data center ลง
ผลการศึกษาที่สปอนเซอร์โดย AMD พบว่าปี 2005 ปริมาณการใช้ไฟของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดในสหรัฐคิดเป็น 0.6% ของการใช้ไฟทั้งประเทศ และถ้านับรวมระบบทำความเย็นของเซิร์ฟเวอร์ด้วยแล้ว ตัวเลขนี้จะขึ้นมาเป็น 1.2% ซึ่งเท่ากับทีวีทั้งประเทศรวมกัน
ตัวเลขเปอร์เซนต์นี้คิดเป็นพลังงาน 5 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี (1 ใน 4 ของพลังงานจากโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล) คิดเป็นเงินก็ 2.7 พันล้านดอลลาร์ ถ้านับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา อัตราการบริโภคพลังงานเพิ่มขึ้นปีละ 14% ซึ่งนับ 5 ปีก็โตขึ้นเป็น 2 เท่าพอดี
HP ได้ประกาศว่าทำการออกแบบตลับหมึกใหม่เพื่อช่วยลดภาวะเรือนกระจก โดยระบุแพคเกจใหม่ลดมลภาวะได้เท่ากับเอารถจำนวน 3,600 คันออกจากถนนใน 1 ปีเลยทีเดียว
แพคเกจใหม่นี้จะปรับให้ขนาดเล็กลง เบาลง ลดปริมาณคาร์บอนที่ใช้ และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ครับ ซึ่งการที่ขนาดเล็กลงยังทำให้ประหยัดค่าขนส่ง และขนส่งได้ทีละเยอะๆ ลดจำนวนการขนส่งได้อีกด้วย
แต่ในข่าวไม่ได้บอกนะครับ ว่าตลับหมึกแบบใหม่นี่จำนวนหมึกเพิ่มขึ้นหรือลดลด และยังไม่ได้บอกเรื่องราคาด้วยว่าจะเป็นอย่างไร
ที่มา - Image-resource
นอกจากวิสตาจะทำให้ผู้ใช้กระเป๋าฉีกไปตาม ๆ กัน เนื่องจากต้องปรับปรุงเครื่องเพื่อใช้ลูกเล่นใหม่ ๆ ของวิสตาแล้ว Green Party ซึ่งเป็นพรรคการเมืองหนึ่งในอังกฤษ ก็ออกมากล่าวหาวิสตาว่า เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้สภาวะแวดล้อมแย่ลง เนื่องจากผลพวงของการปรับปรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ จะทำให้เกิดขยะอิเล็คทรอนิคส์เกิดขึ้นมามากมาย เช่น จอภาพที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือว่า การ์ดแสดงผลที่มีหน่วยความจำน้อยเกินไป พรรคการเมืองดังกล่าวถึงกับให้ความเห็นว่า ในอนาคตนักโบราณคดีอาจจะขุดค้นเจอ "Vista Upgrade Layer" ในพื้นที่ทิ้งขยะซึ่งเป็นชั้นของขยะอิเล็คทรอนิคส์ที่เกิดจากการเปลี่ยนไปใช้วิสตา
หน่วยงานด้านการอนุรักษ์พลังงาน (Environmental Protection Agency - EPA) ของสหรัฐเตรียมเข้าไปศึกษาการใช้พลังงานใน data center หลังกฎหมายด้านนี้ผ่านรัฐสภาสหรัฐไปเรียบร้อย
ตัวกฎหมายระบุว่า EPA ต้องเข้าไปวิเคราะห์แนวโน้มการใช้พลังงานในห้องเซิร์ฟเวอร์ ทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยจะอยู่ใต้โครงการ Energy Star (ที่เราเห็นใน BIOS ตอนเปิดเครื่อง) และมีเป้าหมายให้ "การประหยัดพลังงาน" เป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อเซิร์ฟเวอร์ นอกเหนือไปจาก "ประสิทธิภาพ" และ "ความคุ้มค่า"
ในงาน IDF ของอินเทลที่ผ่านมา คนของ Google ให้ความเห็นว่าพลังงานที่ผ่านพาวเวอร์ซัพพลาย 30-45% นั้นสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ซึ่งถ้าคำนวณจากขนาดของ data center ของ Google ก็เป็นจำนวนไม่น้อยเลย