NVIDIA ประกาศข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ ว่าจะหยุดการออกไดรเวอร์แบบ 32 บิตบนทุกระบบปฏิบัติการแล้ว จากนี้ไปจะมีเฉพาะไดรเวอร์แบบ 64 บิตเท่านั้น

ไดรเวอร์เวอร์ชัน Release 390 จะเป็นไดรเวอร์เวอร์ชันสุดท้ายที่มีแบบ 32 บิท ทั้งบน Windows 7/8/10, Linux, FreeBSD แต่บริษัทจะยังออกอัพเดตแพตช์คามปลอดภัยให้จนถึงเดือนมกราคม 2019

เหตุผลของ NVIDIA ก็ชัดเจนว่ามีผู้ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิทเป็นสัดส่วนน้อยลงมาก การเลิกซัพพอร์ตไดรเวอร์ 32 บิตจะช่วยลดภาระงานลง แต่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไม่มากเหมือนในอดีต

เมื่อประมาณต้นเดือนที่เพิ่งผ่านมา อินเทลได้ออกอัพเดตไดรเวอร์กราฟิกเวอร์ชัน 15.60 โดยได้เพิ่มการรองรับ Windows Mixed Reality และ HDR10 ให้กับจีพียู Intel HD Graphics 620 ซึ่งมาพร้อมกับซีพียู Core i5 รุ่นที่ 7 รวมถึงจีพียูรุ่นที่สูงกว่านั้นด้วย

การติดตั้งไดรเวอร์ดังกล่าวแน่นอนว่าจะทำให้เครื่องที่ผ่านสเปกสามารถใช้งานแว่น Mixed Reality ที่เริ่มทยอยวางขายแล้วได้ ส่วนการรองรับการแสดงผลภาพมาตรฐาน HDR10 นั้นจะช่วยให้สามารถเล่นเนื้อหาที่มีภาพแบบ HDR (High Dynamic Range) บนจอที่รองรับไม่ว่าจะเป็นเกม วิดีโอ ไปจนถึงบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix และ Youtube ที่ให้บริการวิดีโอแบบ HDR มาซักพักแล้ว

Google ทำแอพพลิเคชั่นใหม่ Pixel Ambient Services เข้าไปใน Play Store สามารถสั่งการการทำงานของสมาร์ทโฟน Google Pixel 2 ได้ สั่งเปิดโหมด DND หรือ Do Not Disturb ระหว่างขับรถได้ด้วย

แต่ยังมีข้อสงสัยว่าฟีเจอร์นี้จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ใช้ขับรถ หรือเป็นผู้โดยสาร หรือฟีเจอร์นี้จะทำงานต่อเมื่อเปิด Bluetooth เชื่อมต่อกับรถยนต์เท่านั้น หรือใช้ระบบเซนเซอร์ ซึ่งต้องรอการทดสอบโดยผู้ใช้ต่อไป

ปีที่แล้ว AMD ประกาศรีแบรนด์ไดรเวอร์ Catalyst ครั้งใหญ่ เปลี่ยนชื่อเป็น Radeon Software โดยระบุว่าจะออกรุ่นใหญ่ปีละครั้ง และเปลี่ยนชื่อรุ่นไปเรื่อยๆ ตามชื่อสี (ปี 2015 คือแดงเลือดนก Crimson)

เวลาเวียนมาครบ 1 ปี AMD เปิดตัวไดรเวอร์ Radeon Software เวอร์ชันใหม่ตามสัญญา แต่ที่ยังไม่เปลี่ยนคือชื่อสี เพราะไดรเวอร์รุ่นที่สองใช้ชื่อว่า Crimson ReLive Edition

AMD บอกว่าหลักการของ Radeon Software มี 3 ข้อคือฟีเจอร์ ประสิทธิภาพ เสถียรภาพ ส่วนฟีเจอร์ใหญ่ของรุ่นนี้คือ Radeon ReLive ตามชื่อรุ่น เน้นการบันทึกภาพและวิดีโอระหว่างเล่นเกมเพื่อแชร์ต่อในภายหลัง

ไมโครซอฟท์ปล่อยอัพเดตไดรเวอร์ Intel HD graphics รุ่น 20.19.15.4463 ให้ Surface Pro 4 กับ Surface Book

อินเทลปล่อยไดรเวอร์รุ่นนี้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และไมโครซอฟท์เพิ่งรับรองไดรเวอร์นี้สำหรับอุปกรณ์ Surface ดังกล่าว

อินเทลเผยว่า ไดรเวอร์นี้แก้บั๊กจำนวนมากที่พบจากการประมวลผลเกมและแอป รวมถึงบั๊กที่มีเป็นมาอย่างยาวนานและถูกรายงานบนเว็บ Support Community ของบริษัท อย่างปัญหา scaling บน Windows 10

Windows Central ตั้งข้อสังเกตว่า เนื่องด้วยไดรเวอร์นี้รองรับซีพียู Intel Core เจนเนอเรชั่นที่สี่ ห้า และหก จึงมีโอกาสที่อุปกรณ์ Surface รุ่นเก่าจะได้รับอัพเดตไดรเวอร์นี้ในอนาคต

ข่าวสำคัญสำหรับคนใช้จีพียูค่าย AMD บน Ubuntu เพราะ Ubuntu 16.04LTS (Xenial Xerus) จะถอดการสนับสนุนไดรเวอร์ fglrx แล้ว

fglrx หรือ Catalyst เป็นไดรเวอร์แบบปิดซอร์สของ AMD บนลินุกซ์มายาวนาน โดยใช้ควบคู่กับไดรเวอร์ radeon แบบเปิดซอร์สที่พัฒนาโดยชุมชน ข้อดีของ fglrx คือรองรับฟีเจอร์ด้านการประมวลผลสามมิติดีกว่า radeon แต่ก็มีข้อเสียเรื่องบั๊กที่อาจเยอะสักหน่อย

ปี 2014 AMD ประกาศออกไดรเวอร์ตัวใหม่ชื่อ amdgpu ที่ใช้แทน fglrx โดยไดรเวอร์ตัวใหม่เปิดซอร์สและใช้สถาปัตยกรรมแบบใหม่ ส่วน fglrx ก็ไม่ได้พัฒนาต่อแล้ว และยังไม่ซัพพอร์ต X Server 1.8 รุ่นใหม่ล่าสุดที่ Ubuntu 16.04 ใช้งานด้วย

GeForce Driver ไดรเวอร์กราฟิกการ์ดของ Nvidia รุ่น 364.47 มีเกมเมอร์หลายรายแจ้งปัญหาในกระทู้ และ Reddit ว่าพบปัญหาภาพค้าง แตก บางรายถึงขั้นบูตไม่ได้และการ์ดพังกันไป ไดรเวอร์รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกจาก Nvidia ที่รองรับ API ใหม่ที่ชื่อ Vulkan ครับ

ล่าสุด Nvidia ยังไม่พบรายงานเรื่องการ์ดพัง และชี้ว่าหากไดรเวอร์มีปัญหา อาการที่แย่สุดที่เป็นได้คือไม่ขึ้นภาพหรือภาพผิดปกติเท่านั้น ไม่ถึงขั้นทำให้การ์ดพังแน่ๆ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว AMD เปิดตัวซอฟต์แวร์ไดรเวอร์รุ่นใหม่อย่าง Radeon Software Crimson Edition และก็พบปัญหาว่าตัวไดรเวอร์ไปล็อกการทำงานของรอบพัดลมผิดปกติ ผู้ใช้บางรายเจอรอบพัดลม 100% บางรายถูกล็อกให้พัดลมทำงานเพียง 30% จนเกิดปัญหาการ์ดโอเวอร์ฮีทและพังไป ล่าสุด AMD ทราบ ทวีตบอก และปล่อย Hotfix ออกมาแล้ว เป็นรุ่น 15.11.1 ครับ ใครใช้อยู่รีบไปอัพเดตกันที่เว็บไซต์ AMD ได้เลย

ขณะเดียวกันก็แก้บั๊กในเกม Just Cause 3, Fallout 4, Star Wars: Battlefront, และ Call of Duty Black Ops III ด้วยครับ

ความน่าหงุดหงิดใจของผู้นิยมค่ายแดงอาจได้รับการเยียวยาในเร็ววันแล้ว หลังจาก AMD ออกมาประกาศเปิดตัวซอฟต์แวร์ตัวใหม่อย่าง Radeon Software ที่จะมาแทนชุดโปรแกรมจัดการการ์ดจอ และไดรเวอร์ตัวปัจจุบันอย่าง Catalyst Control Center

Radeon Software จะเป็นการปรับปรุง Catalyst แบบยกเครื่องทั้ง UI และ UX โดยจะมีเมนูหลัก 5 ด้านตั้งแต่ เกม วิดีโอ ปรับหน้าจอ ใช้งานหลายจอ (Eyefinity) และตั้งค่าระบบ โดยสัญญาว่าจะยกฟีเจอร์เดิมของ Catalyst มาทั้งหมดพร้อมกับเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาด้วย

NVIDIA ได้อัพเดตไดร์ฟเวอร์ GeForce Experience ให้กับผู้ใช้ เพิ่มฟีเจอร์ GameStream co-op สามารถสตรีมเกมขึ้นพีซีเครื่องอื่น (เดิมสตรีมได้เฉพาะ Shield Tablet) ให้เพื่อนสามารถเข้ามาดูเกมที่เรากำลังเล่นได้ รวมไปถึงระบบ mirror ที่เครื่องเกสท์ (guest) สามารถเข้าควบคุมเกมของเครื่องโฮสท์ (host) ได้

GameStream co-op จะคล้ายๆ กับฟีเจอร์ Sony's Share Play บนเพลย์สเตชัน 4 โดยอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาบน GameStream co-op คือการเล่นแบบ co-op ระหว่างเครื่องเกสท์และโฮสท์

การสตรีมผ่าน GameStream co-op ในเบื้องต้นรองรับที่ความละเอียด 720p 60fps ที่ความเร็วอัพโหลดขั้นต่ำ 6Mbps เท่านั้น รวมไปถึงสามารถสตรีมผ่าน Google Chrome ด้วยเช่นกัน (ต้องติดตั้ง plug-in)

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา AMD ได้ปล่อยไดรเวอร์การ์ดจอ Catalyst 15.7 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ที่รองรับ Windows 10 อย่างเป็นทางการ จากที่ก่อนหน้านี้ทาง AMD แนะนำให้ผู้ทดลองใช้ Windows 10 Preview ติดตั้งไดรเวอร์ผ่านการโหลดจากทาง Windows Update เท่านั้น (อ้างอิงจากเว็บไซต์ AMD)

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา AMD ได้ปล่อยไดรเวอร์ตัวใหม่ของการ์ดกราฟิกของตน ในชื่อของ Catalyst Omega โดย AMD ระบุว่าเวอร์ชันนี้เป็นการอัพเดตที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ทางบริษัทเคยทำมา

Catalyst Omega คือนโยบายการออกไดรเวอร์ตัวใหม่ของ AMD โดยจะเป็นการอัพเดตครั้งใหญ่ประจำปี ทั้งนี้ AMD ก็จะยังปล่อย Catalyst เวอร์ชันอัพเดตย่อย ๆ ตามความจำเป็นเหมือนเดิมต่อไป

Catalyst Omega ของปีนี้มากับฟีเจอร์ใหม่กว่า 20 ตัว, การแก้ไขปัญหากว่า 400 ประเด็น และการปรับปรุงประสิทธิภาพในเกมต่าง ๆ ข้างล่างคือรายการหัวข้อที่น่าสนใจของการอัพเดตครั้งนี้ครับ

Larry Hryb หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม Major Nelson โพสต์ลงฟอรัมของ NeoGAF ว่า ไมโครซอฟท์กำลังจะออกไดรเวอร์ตัวจอยเกม Xbox One สำหรับแพลตฟอร์ม Windows อีกไม่นานนับจากนี้ หลังจากเมื่อปีที่แล้วทางไมโครซอฟท์เองเคยสัญญาว่าจะออกไดรเวอร์จอยเกม Xbox One มาให้

ต้องติดตามต่อไปว่าในที่สุดแล้วไมโครซอฟท์จะออกไดรเวอร์นี้เมื่อไรกันแน่ครับ

ปัญหาไดรเวอร์ชิปกราฟิกในลินุกซ์เป็นปัญหาเรื้อรังกันมานาน จากเดิมที่นักพัฒนาลินุกซ์ต้องพยายามทำวิศวกรรมย้อนกลับ เพื่อแกะกระบวนการทำงานของชิปกราฟิกกันเองเพื่อเขียนไดร์เวอร์ หรือใช้งานไดร์เวอร์แบบปิดจากผู้ผลิตที่บางครั้งมีปัญหาไม่ซัพพอร์ตกับเคอร์เนลที่ออกใหม่ ตอนนี้ NVIDIA ก็หันมาร่วมมือกับโครงการไดร์เวอร์โอเพนซอร์สแล้ว โดยส่งแพตซ์ชุดใหญ่เข้าสู่โครงการ Nouveau ที่แต่เดิมต้องแกะการทำงานของชิป NVIDIA กันเอง

ไดร์เวอร์ใหม่มีเป้าหมายหลักเพื่อรองรับ Tegra K1 เพราะแต่เดิม Nouveau จะรองรับการ์ดที่ทำงานบนบัส PCI เท่านั้น ขณะที่ Tegra K1 จะทำงานบนบัสของแพลตฟอร์มตัวเอง แพตซ์ชุดนี้ปรับการทำงานของ Nouveau ให้รองรับชิปกราฟิกที่ไม่อยู่บนบัส PCI ด้วย

ขออนุญาตเขียนข่าวนี้รวมกับข่าวช่องโหว่ในตอนแรกด้วยเลยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา Dave Airlie วิศวกรซอฟต์แวร์ที่ทำงานอยู่กับ Red Hat ฝ่ายกราฟิก ได้แจ้งช่องโหว่ของไดรเวอร์ NVIDIA บนลินุกซ์ โดยในรายละเอียดบอกว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ค้นพบช่องโหว่นี้ แต่เขาได้รับช่องโหว่นี้จากบุคคลนิรนามรายนึงซึ่งอ้างว่าได้ส่งช่องโหว่นี้กับให้ทาง NVIDIA แล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ เลย บุคคลนิรนามที่ค้นพบช่องโหว่แสดงความต้องการให้ช่องโหว่นี้ได้รับการแพตซ์โดยเร็ว เขาจึงจำเป็นต้องประกาศช่องโหว่นี้ออกสู่สาธารณะ (mailling list)

สงครามน้ำลายระหว่างโลกโอเพนซอร์สกับกับผู้ผลิตชิปกราฟิกนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่ดูจะไม่มีวันจบ เช่น NVIDIA ที่ถูกไลนัสด่ากลางงานสัมมนา แม้ AMD จะเป็นมิตรด้วยการส่งโปรแกรมเมอร์มาช่วยโครงการโอเพนซอร์สบ้างและเปิดเอกสารบางส่วนแต่ก็ยังล้าหลังไดร์เวอร์ปิดซอร์สอยู่มาก แต่รายที่เป็นมิตรกับลินุกซ์ที่สุดคืออินเทลนั้นวันนี้ก็เดินหน้ามาอีกขั้นด้วยการเปิดเอกสาร API ของซีพียูทั้งหมด ทั้งส่วนของ CPU และ GPU ความหนากว่า 2,400 หน้าอธิบายกระบวนการทำงานภายในอย่างละเอียด

เมื่อวานหลังจากมีข่าว NVIDIA ถูกไลนัสด่ากลางห้องประชุมมหาวิทยาลัย วันนี้ทาง NVIDIA ก็ออกจดหมายข่าวตอบโต้แล้ว โดยระบุว่าปัญหาของเทคโนโลยี Optimus ที่เป็นคำถามจากนักศึกษาว่าทำไมลินุกซ์จึงได้รับซัพพอร์ตเทคโนโลยีนี้ช้ากว่าแพลตฟอร์มอื่น และต้องอาศัยการซัพพอร์ตจากชุมชนผ่านทางโครงการ Bumblebee นั้นทาง NVIDIA ได้ช่วยแก้ตัวติดตั้งไดร์เวอร์และไฟล์ Readme ให้สามารถทำงานร่วมกับ Bumblebee ได้ดีขึ้น