Tags:
Node Thumbnail

Windows Mixed Reality เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ Windows 10 Fall Creators Update แม้ว่าฟีเจอร์นี้ยังไม่น่าจะมีใครได้ลองใช้งานจริง เพราะแว่นเพิ่งเริ่มวางขายในต่างประเทศ แต่ท่าทีของไมโครซอฟท์ก็ชัดเจนว่าต้องการดันเรื่องนี้แบบสุดตัว

คำถามที่น่าสนใจคือตกลงแล้วคำว่า "Mixed Reality" คืออะไรกันแน่ มันต่างจาก AR/VR ในปัจจุบันอย่างไร โชคดีว่าในเอกสารสำหรับนักพัฒนาของไมโครซอฟท์มีอธิบายเรื่องนี้ไว้ค่อนข้างละเอียด ควรค่าแก่การนำมาถ่ายทอดบอกต่อกัน

No Description

อย่างแรกสุด ไมโครซอฟท์อ้างนิยามตามตำราวิชา human computer interaction (HCI) ว่า Mixed Reality คือการซ้อนทับกันของ 3 สิ่งคือ มนุษย์ คอมพิวเตอร์ และสภาพแวดล้อม ตามแผนภาพ ประเด็นสำคัญคือต้องมีครบทั้ง 3 ปัจจัยถึงจะเป็น mixed reality

No Description

แต่การซ้อนทับกันระหว่างโลกจริง (physical reality) กับโลกเสมือน (digital reality) ก็มี "ระดับ" (spectrum) ที่แตกต่างกันไป

ตามแนวคิดของไมโครซอฟท์จึงนิยามว่า Mixed Reality เป็นร่มใหญ่ที่ครอบคลุมทุกสิ่ง ส่วน Augmented Reality (AR) คือส่วนที่อยู่ใกล้กับโลกจริง และ Virtual Reality (VR) คือส่วนที่อยู่ใกล้ชิดกับโลกเสมือน

No Description

ขยับนิยามให้เจาะจงเข้ามาอีกขั้น พอเราสนใจตัว "อุปกรณ์" (device) ของ Mixed Reality ก็สามารถแยกได้เป็น 2 ส่วน

  • Holographic Devices หรืออธิบายง่ายๆ คืออุปกรณ์ AR ที่ซ้อนวัตถุดิจิทัลไปบนโลกจริง ตัวอย่างคือแว่น HoloLens
  • Immersive Devices คืออุปกรณ์ VR ที่สร้างโลกเสมือนทั้งหมดขึ้นมา โดยซ่อนความเป็นจริงของโลกจริงไว้ไม่ให้เห็น แว่นไม่โปร่งใสแบบ HoloLens

No Description

แว่น Mixed Reality ที่ไมโครซอฟท์และพาร์ทเนอร์อย่าง Acer, Dell, HP, Lenovo วางขายอยู่ในตอนนี้ จึงถือเป็นอุปกรณ์แบบ Immersive Devices ทั้งหมด (VR) และตอบโจทย์คนละอย่างกับแว่น HoloLens (AR)

ไมโครซอฟท์ยังเปรียบเทียบการใช้งานแว่น AR/VR ของตัวเอง กับการใช้สมาร์ทโฟนทำฟีเจอร์ AR/VR ว่าแว่นของไมโครซอฟท์ให้ประสบการณ์ที่ครอบคลุมมากกว่า แม้จะยังไม่สมบูรณ์ 100% ตามวิสัยทัศน์ Mixed Reality ก็ตาม

No Description

ส่วนในแง่แอพพลิเคชันของ Mixed Reality แต่ละแบบ ก็มีคุณลักษณะแตกต่างกันไป เช่น Pokemon Go ถือเป็น AR หรือการดูวิดีโอ 360 องศาในแว่น มีความเป็น VR มากกว่า ซึ่งฟีเจอร์บางอย่างก็เหมาะกับการใช้งานบน HoloLens มากกว่า

No Description

กล่าวโดยสรุปคือ Mixed Reality ของไมโครซอฟท์ก็เพิ่งเริ่มต้น และยังทำไม่ได้ครบตามสเปกตรัมที่ไมโครซอฟท์วาดฝันไว้ แถมการใช้งานของแว่น HoloLens กับแว่นของพาร์ทเนอร์ที่ราคาแตกต่างกันมาก ก็ยังตอบโจทย์คนละอย่างกัน (AR vs VR) ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง กว่าไมโครซอฟท์จะไปได้ถึงแผนการที่ฝันเอาไว้

Get latest news from Blognone

Comments

By: luna777
AndroidWindows
on 30 October 2017 - 23:26 #1015991

นึกว่ากล้อง 2 ตัวหน้าแว่น เป็นกล้อง 3d คล้ายๆที่ใช้ถ่ายหนัง 3d

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 31 October 2017 - 00:08 #1015995 Reply to:1015991
hisoft's picture

จริงๆ ผมก็เชียร์ให้ทำแบบนั้น (เอาภาพจากกล้องมาใส่ในจอด้วย) แต่น่าจะติดปัญหาหลายอย่างครับ

  • ระยะห่างกล้องสองตัว มันไม่เท่าระยะลูกตา
  • มุมกล้องไม่กว้างพอ
  • ความละเอียดไม่พอ

มันก็คงเหมาะจะเป็นแค่ตัวจับตำแหน่งคนและคอนโทรเลอร์แล้วล่ะครับ

By: Hadakung
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 31 October 2017 - 00:11 #1015996 Reply to:1015991

ตามคอนเซปมันจะตรวจจับมือเราได้โดยไม่ต้องใช้ จอยแบบ VR ค่ายอื่นด้วย แต่ยังไม่เห็นของจริงสักทีเลยไม่รู้มันทำไรได้บ้าง

By: HMage
AndroidWindows
on 31 October 2017 - 10:16 #1016056

อ่านคร่าวๆ แล้วเข้าใจว่าเป็นการพยายามกำหนดขอบเขตและชื่อเรียกของการใช้งาน AR + VR ให้ต่อเนื่องเป็นแผ่นเดียวกัน

แต่สุดท้ายผมเข้าใจว่า Mixed Reality ตามจินตาการของ Ms คือการใช้ technology แบบเดียวกับในเรื่อง Accel World คือผู้ใช้มองโลก reality กับ virtual อยู่ในระดับเดียวกัน สามารถมุดเข้ามุดออกแต่ละโลกได้เสมอ และสามารถใช้ข้อมูลในแต่ละโลกข้ามไปมาได้หมด

By: luna777
AndroidWindows
on 31 October 2017 - 14:29 #1016166 Reply to:1016056

แบบ Accel World ไม่ใช่ส่งข้อมูลเป็นคลื่นสมองเข้าสมองโดยตรงแบบ sword art online เหรอคะ ดูไปแค่ 2 ตอน ปัจจุบันพัฒนา vr แบบใช้ตาดูใช้หูฟังยังพัฒนาไปได้เรื่อยๆ vr แบบส่งข้อมูลเข้าคลื่นสมอง พวกเราๆทั่นๆคงอายุไขไม่ถึงอยู่ได้ลองเล่นหรอก

By: EngineerRiddick
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 31 October 2017 - 11:49 #1016096
EngineerRiddick's picture

ผมยังรอเขียนsoftware support อยู่นะฮะ ( Kirito face =,=)