Alibaba บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีนได้เปิดตัว TBO หรือ Tmall Box Office บริการออนไลน์วิดีโอสตรีมมิงในอีก 2 เดือน ท่ามกลางการแข่งขันบริการวิดีโอสตรีมมิงที่ค่อนข้างสูงในจีน

Alibaba ตั้งเป้าจะให้บริการ TBO ของตัวเองเป็นเหมือน HBO และ Netflix ของสหรัฐ โดยจะมีทั้งแบบเหมาจ่ายรายเดือน และจ่ายดูทีละเรื่อง ซึ่ง TBO มีคอนเทนท์ถูกลิขสิทธิ์จากทั้งของจีนเองและของต่างชาติและมีแผนทำซีรีย์ของตัวเอง (in-house programs) เช่นเดียวกับ House of Cards ของ Netflix

อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าทาง Netflix จะมีแผนเข้ามาลงทุนในจีนอยู่เช่นเดียวกัน

ที่มา - Reuters

เว็บไซต์ The Wall Street Journal ลงบทความเกี่ยวกับทิศทางการทำธุรกิจของบริษัท Alibaba ซึ่งเขียนโดย คุณ Jack Ma CEO ของบริษัท Alibaba เองนั้น เขาเขียนเกี่ยวกับการเปิดโอกาสทางการค้าออนไลน์ของอเมริกาให้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศจีน ซึ่งเขาต้องการที่จะร่วมทำธุรกิจกับต่างประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นว่า ผู้บริโภคชาวจีนชนชั้นกลางนั้นมีความต้องการที่จะซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอเมริกาและประเทศทางฝั่งยุโรป

Alibaba เพิ่งถูกฟ้องฐานเป็นผู้มีส่วนช่วยกระจายสินค้าปลอมจำนวนมาก ตอนนี้บริษัทก็แสดงท่าทีเอาจริงกับการจัดการสินค้าปลอมที่วางขายบนเว็บด้วยการร่วมมือกับผู้ผลิต แนบโค้ด QR ไปกับสินค้าทุกชิ้น

บาร์โค้ดที่ใช้ไม่ใช่บาร์โค้ดทั่วไป แต่เป็นบาร์โค้ดที่มีภาพอยู่ด้านหลัง พัฒนาโดยบริษัทอิสราเอลที่ชื่อว่า Visualead ที่ Alibaba เข้าไปลงทุนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

Alibaba บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี (นับถึงวันที่ 31 มีนาคม) ทำรายได้เพิ่มขึ้นอีก 45% YoY ไปอยู่ที่ 2,811 ล้านเหรียญ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายโฆษณา

ในส่วนของกำไร ไตรมาสนี้ตกลงมา 49% อยู่ที่ 463 ล้านเหรียญ แต่ Alibaba ระบุว่าเมื่อคิดกำไรแบบปรับปรุง โดยตัดสินค้าบางรายการออกไป กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นราว 16% ด้วยกัน

นอกจากประกาศผลประกอบการแล้ว Alibaba ยังประกาศแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่เป็น Daniel Zhang ที่เคยรับตำแหน่งซีโอโอมาก่อน โดย Jonathan Lu ซีอีโอคนเก่าจะดำรงตำแหน่งในบอร์ดเป็นรองประธาน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เป็นต้นไป

มีรายงานว่า Alibaba ได้ร่วมลงทุนใน Snapchat รอบล่าสุดเป็นจำนวนเงินถึง 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้มูลค่ากิจการของ Snapchat คำนวณจากเงินลงทุนนี้สูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์แล้ว สูงกว่าที่ Facebook เคยเสนอซื้อที่ 3 พันล้านดอลลาร์

ยังไม่มีข้อมูลออกมาว่า Alibaba จะต่อยอดหรือสนใจอะไรใน Snapchat แต่เป็นไปได้ว่า Alibaba ต้องการขยายการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพให้มากขึ้น อย่างปีก่อนก็ลงทุนใน Tango หรือล่าสุดคือบริการรถแท็กซี่ Lyft

ที่มา: Reuters

อเมซอนทดสอบเปิดหน้าร้านในเว็บ Tmall ที่เน้นขายสินค้าในจีน หลังจากพยายามบุกตลาดจีนด้วยตัวเองมานานถึงสี่ปีแล้ว แต่กลับกินส่วนแบ่งตลาดได้เพียง 1.3% ขณะที่ Tmall กินตลาดไปถึง 57.6%

ตอนนี้หน้าร้านของอเมซอนขายสินค้าไม่มากนัก ส่วนมากเป็น LEGO, เสื้อผ้า, และขนมจากต่างประเทศ ความได้เปรียบสำคัญคือชื่อเสียงที่ช่วยให้คนซื้อมั่นใจได้ว่าจะไม่เจอสินค้าปลอมที่เป็นปัญหาสำคัญของเว็บขายสินค้าจีน

Alibaba ประกาศวันนี้ว่าบริษัทได้เข้าร่วมถือหุ้นใน Meizu Technology ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ Meizu ของประเทศจีน ด้วยมูลค่าการลงทุน 590 ล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นการถือหุ้นจำนวนเท่าใด บอกเพียงเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยใน Meizu

Alibaba ระบุว่าการลงทุนนี้เป็นการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อนำระบบนิเวศของ Alibaba ไปใส่ในสมาร์ทโฟนของ Meizu

ที่มา: Business Wire

ไม่ใช่บริษัทฝั่งสหรัฐฯ เท่านั้นที่แข่งขันกันเรื่องความไวในการส่งสินค้า เพราะยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Alibaba ก็สนใจเรื่องนี้เช่นกัน และมาในทิศทางเดียวกันด้วยการทดสอบส่งสินค้าด้วยโดรนที่การันตีส่งถึงในหนึ่งชั่วโมงแล้ว

แน่นอนว่าบริการทดสอบย่อมมากับข้อจำกัด โดยการส่งด้วยโดรนนั้นสามารถส่งได้เฉพาะชาขิงเท่านั้นในขณะนี้ น้ำหนักรวมต้องไม่เกิน 340 กรัม โดยมีร้านค้าเข้ามาร่วมในการทดสอบครั้งนี้มากกว่า 450 ราย

Alibaba บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน ประกาศแผนเตรียมตั้งองค์กรไม่แสวงกำไรใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Alibaba Hong Kong Young Entrepreneurs Foundation เพื่อช่วยเหลือเหล่าวัยรุ่นที่ต้องการเริ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ด้วยเงินทุนก้อนแรกกว่า 130 ล้านเหรียญ

การสนับสนุนของ Alibaba นอกจากจะลงทุนให้แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิค และช่วยฝึกฝนการขายให้กับชาวฮ่องกงที่ต้องการขายสินค้าให้กับจีนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย ทั้งนี้ยังมีโครงการจะให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาฮ่องกงเป็นจำนวนกว่า 200 รายในปีนี้

บุกตลาดโลกไม่ไหว แต่ดูท่าจะไปได้สวยกับประเทศจีน เมื่อไม่นานมานี้ OUYA เพิ่งร่วมมือกับ Xiaomi บุกตลาดจีน ล่าสุดมีรายงานว่า Alibaba อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนเตรียมลงทุนกับ OUYA เป็นจำนวนกว่า 10 ล้านเหรียญ

การลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นก็เพื่อนำซอฟต์แวร์ของ OUYA ให้มารันบนอุปกรณ์ของ Alibaba ที่มีแผนจะออกกล่อง set-top เร็วๆ นี้ คาดกันว่า Alibaba น่าจะต้องการแพลตฟอร์มของ OUYA ที่มีเกมมากถึง 1,000 เกมแล้ว

ยาฮูรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2014 มีรายได้รวม 1,253 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 166 ล้านดอลลาร์ ลดลง 52%

ถึงแม้ตัวเลขจะลดลงทั้งรายได้และกำไร แต่ซีอีโอ Marissa Mayer ก็ยืนยันว่าทิศทางของบริษัทที่วางไว้ยังดำเนินไปได้ดี โดยรายได้จากโฆษณาบนมือถือมีการเติบโต 23% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้

ยักษ์อีคอมเมิร์ซจีน Alibaba เคยพยายามทำตลาดแอพแชทมาครั้งหนึ่งแล้วกับ Laiwang แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก ล่าสุดบริษัทพยายามบุกตลาดนี้อีกครั้งด้วยแอพแชทตัวใหม่ DingTalk ที่เปลี่ยนมาเจาะตลาดองค์กรแทน

กลุ่มเป้าหมายของ DingTalk คือธุรกิจ SME ที่เป็นลูกค้าของ Alibaba อยู่แล้วจำนวน 8.5 ล้านราย โดย DingTalk รองรับการแชทแบบกลุ่มและสนทนาด้วยเสียง-วิดีโอ ปัจจุบันมีบนสองแพลตฟอร์มคือ Windows และ iOS แต่จากภาพจะเห็นว่าเป้าหมายของ DingTalk คือเป็นแอพแชทแบบข้ามแพลตฟอร์ม

Alibaba ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของประเทศจีนเข้ามารุกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วยการนำสองแพลตฟอร์มสำหรับอีคอมเมิร์ซมาเปิดให้บริการในประเทศไทยได้แก่ Thai One Mall ในเครือ Tmall และ Alipay เครื่องมือจ่ายเงินออนไลน์ยอดนิยมของประเทศจีน

วันนี้ทาง Blognone ได้จดหมายเชิญงานเปิดตัวเว็บ "ไทย วัน มอลล์" เตรียมเปิดตัวในไทย ระบุว่าเป็นเว็บอีคอมเมิร์ชที่อยู่บนแพลตฟอร์มของ Alibaba

ยังไม่มีข้อมูลว่า ไทย วัน มอลล์ จะเกี่ยวข้องอย่างไรกับ Alibaba แต่ผู้บริหารที่ร่วมในงานเปิดตัวก็มีทั้งผู้บริหารจาก Tmall, Alipay, ผู้บริหารจากที่ปรึกษาธุรกิจการเงินและการธนาคาร, รวมถึงท่านอุปทูตฝ่ายพาณิชย์ของสถานทูตจีนประจําประเทศไทย จากรายชื่อคงพอบอกได้ว่า ไทย วัน มอลล์ จะเกี่ยวข้องกับ Alibaba อย่างใกล้ชิด

สงครามอีคอมเมิร์ชไทยตอนนี้ดูจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ที่มา - จดหมายเชิญงานเปิดตัว

Tim Cook เพิ่งออกมาชื่นชมบริการใหม่ของตัวเองอย่าง Apple Pay ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหนือคู่แข่งทั้งหมดแม้ว่าจะเพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน จนแม้แต่ Alibaba อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนยังให้ความสนใจใน Apple Pay ด้วย

Jack Ma ผู้ร่วมก่อตั้ง Alibaba ได้แสดงความสนใจในการเป็นคู่ค้าด้านการจ่ายเงินกับแอปเปิลด้วยการผูกระบบของตัวเองอย่าง Alipay ให้สามารถใช้งานผ่าน Apple Pay ในงานสัมมนาของ The Wall Street Journal อันเป็นเวทีเดียวกันกับที่ Tim Cook ไปร่วมงานด้วย โดยภายหลัง Cook ก็ตอบสนองความสนใจของ Ma เช่นกัน และจะมีพูดคุยส่วนตัวในภายหลัง

ตามที่มีรายงานมาก่อนหน้าว่า Meizu MX4 จะแยกเป็นสองรุ่นย่อย โดยรุ่นปกติจะใช้ชื่อว่า Meizu MX4 ซึ่งเปิดตัวมาแล้วในราคาไม่แพงนัก ตอนนี้มีข่าวของรุ่นท็อปจริงๆ อย่าง Meizu MX4 Pro ออกมาแล้วครับ

MX4 Pro ใช้การออกแบบโค้งมน ขอบจอบางแบบเดียวกับ MX4 แทบทุกประการ แต่เหนือกว่าทั้งสเปค และขนาดหน้าจอ โดยคาดกันว่าจะใช้หน้าจอขนาด 5.5" ความละเอียดระดับ QHD (หรือ 2K) ซีพียู Exynos แปดคอร์ กล้องหลัง 20 เมกะพิกเซล กล้องหน้า 13 เมกะพิกเซล รวมถึงราคาที่ไม่ทิ้งรุ่นเล็กนักประมาณ 293 เหรียญเท่านั้น (ราว 9,500 บาท)

การขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กของยักษ์อีคอมเมิร์ซจีน Alibaba ถูกจับตาอย่างมากเพราะเป็น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีนี้ และเป็นการขายหุ้น IPO ของบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเมื่อคืนนี้ตามเวลาบ้านเรา (19 ก.ย. ตามเวลาสหรัฐ) ก็ได้ฤกษ์เริ่มขายหุ้นเป็นวันแรก

Alibaba ตั้งราคาขายหุ้นที่ 68 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้บริษัทสามารถระดมทุนได้มากถึง 21.8 พันล้านดอลลาร์ (ราว 7 แสนล้านบาทในวันเดียว) และราคาหุ้นวันแรกพุ่งไปสูงถึง 93.89 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อคิดมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) อยู่ที่ 228.5 พันล้านดอลลาร์ (7.3 ล้านล้านบาท) แซงหน้ามูลค่าบริษัทของ Facebook ที่ 201.6 พันล้านไปเรียบร้อย และตามหลังเพียงแค่กูเกิล แอปเปิล ไมโครซอฟท์เท่านั้น

เป็นข่าวมาสักพักแต่ตอนนี้เป็นทางการแล้ว เมื่อยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน Alibaba ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือยื่นไฟลิ่งแล้ว โดยจะทำการซื้อขายในตลาดหุ้นประเทศอเมริกา แต่ยังไม่สรุปว่าจะซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หรือ NASDAQ

บริษัทประกาศว่าต้องการระดมทุนราว 1,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นหุ้นราว 12% ของหุ้นทั้งหมด แต่เนื่องจาก Alibaba เป็นที่จับตามองจากนักลงทุนอย่างมาก นักวิเคราะห์จึงมองว่า Alibaba จะสามารถขายหุ้นในราคาที่สูงขึ้นได้มากกว่านี้ ซึ่งอาจมากถึง 15,000-20,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว และทำให้บริษัทมีมูลค่ากิจการราว 168,000 ล้านดอลลาร์

Tango ประกาศวันนี้ว่าบริษัทได้เพิ่มทุน Series D เป็นเงิน 280 ล้านดอลลาร์ โดยผู้ร่วมทุนที่น่าสนใจคือ Alibaba ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีนที่เตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นอเมริกา โดย Alibaba ร่วมลงทุนถึง 215 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นหุ้นประมาณ 20-25% และทำให้ Tango มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นลงทุนถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์

ข่าวนี้ช่วยให้เราเห็นภาพว่าแอพแชทบนมือถือกลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของบริษัทยักษ์ใหญ่ ตั้งแต่ WhatsApp ที่ Facebook ซื้อกิจการ จนถึง Viber ที่ขายให้ Rakuten

ถึงแม้ตลาดแอพแชทบนมือถือจะแข่งกันอย่างดุเดือด แต่ก็ดูจะยังมีที่ว่างในตลาดให้ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาสอดแทรกได้ โดยเมืองจีนที่ทุกคนคิดว่า WeChat ครองตลาดไปเรียบร้อยแล้ว กลับยังให้การตอบสนองที่ดีต่อ Laiwang แอพแชทตัวใหม่จากบริษัทอีคอมเมิร์ซ Alibaba

Laiwang เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเน้นจุดขายเรื่องฟีเจอร์ที่แตกต่าง เช่น การส่งข้อความเสียงที่ลบอัตโนมัติหลังผู้ฟังเปิดข้อความแล้ว (แนวเดียวกับ Snapchat, ดูคลิปประกอบ) หรือการสร้างกลุ่มแชทขนาดใหญ่ได้ถึง 500 คน

Tmall.com เว็บอีคอมเมิร์ซในเครือเว็บ Alibaba ประกาศยอดขายในเทศกาลลดราคาประจำปีวันที่ 11 เดือน 11 ว่าสามารถทำยอดขายได้เกินพันล้านหยวน หรือประมาณห้าพันล้านบาทภายในเวลาเพียง 6 นาที ทำลายสถิติปีที่แล้วที่ใช้เวลา 31 นาที

เทศกาลเดียวกันทำยอดขายได้ถึง 5 พันล้านหยวนภายใน 38 นาที โดยทั้งหมดจ่ายผ่านระบบ Alipay สำหรับสินค้าขายดีที่สุดคือโทรศัพท์มือถือ Xiaomi มียอดขายเกินกว่า 100 ล้านหยวนไปแล้ว

ตลาดอีคอมเมิร์ชกำลังเป็นตลาดที่ร้อนแรงอย่างมาก ทางรัฐบาลเองก็ประกาศชัดเจนที่จะให้อุตสาหกรรมนี้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยหวังว่าจะมีมูลค่ารวม 18 ล้านล้านหยวนภายในปี 2015

Alibaba ยักษ์อีคอมเมิร์ซจีนเป็นบริษัทไอทีรายล่าสุดที่กระโดดร่วมศึกสมาร์ททีวี โดยบริษัทประกาศว่าจะพัฒนาระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับสมาร์ททีวีและกล่องเซ็ตท็อปเป็นการเฉพาะ เพื่อเปิดตลาดให้ผู้บริโภคชาวจีนเข้าถึงคอนเทนต์ดิจิทัลจากทีวีได้ง่ายขึ้น

ระบบปฏิบัติการตัวนี้เป็นคนละอย่างกับ Aliyun OS หรือชื่อใหม่คือ AMOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการมือถือที่ Alibaba พยายามเข็นมาสู้กับ Android (แต่ก็ยังทำไม่ขึ้นเท่าไร)

ข่าวนี้เป็นบริษัทออนไลน์จีนซื้อหุ้นกันเองครับ ยักษ์คอมเมิร์ซ Alibaba ประกาศเข้าถือหุ้น 18% ใน Sina Weibo (หรือที่เรียกกันว่า Twitter จีน) คิดเป็นเงินมูลค่า 586 ล้านดอลลาร์

เป้าหมายของ Alibaba คือการผลักดันให้ Sina Weibo มาช่วยสนับสนุนกิจการอีคอมเมิร์ซของตัวเองมากขึ้น และใช้ฐานที่เข้มแข็งของ Sina Weibo บนมือถือเพื่อเตรียมพร้อม Alibaba สู่โลกยุคอุปกรณ์พกพาอีกด้วย

ปัจจุบัน Sina Weibo มีผู้ใช้ต่อวัน 46 ล้านคน ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับผู้ใช้ที่ลงทะเบียนหลัก 500 ล้านคน และ Sina Weibo ก็ยังมีปัญหาเรื่องโมเดลธุรกิจที่ยังไม่ชัดเจนเหมือนกับ Twitter ด้วย

ผู้อ่าน Blognone น่าจะจำชื่อ Aliyun OS ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพาของยักษ์อีคอมเมิร์ซจีน Alibaba กันได้ (ที่เคยมีเรื่องกับกูเกิลกรณี Acer)

ผลปรากฏว่า Aliyun OS เจาะตลาดจีนไม่สำเร็จ โดยตลาดจีนยังเป็นของ Android มากถึง 90% และ iOS อีก 4.2% ทำให้ Alibaba ต้องออกมาปรับยุทธศาสตร์ของ Aliyun OS เสียใหม่

อย่างแรกเลยคือเปลี่ยนชื่อ Aliyun OS เป็น Alibaba Mobile Operating System (AMOS) โดยบริษัทจะลงทุน 1 พันล้านหยวนเพื่อผลักดันการสร้างแอพบน AMOS ด้วย

ไมโครซอฟท์ได้เปิดหน้าร้านของตนเองบนเว็บไซต์ขายของที่ใหญ่ที่สุดในจีนคือ Tmall ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่บริหารโดยบริษัท Alibaba โดยจะขายผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์กว่า 50 อย่าง ได้แก่ Surface, Office, โทรศัพท์ Windows Phone และอุปกรณ์ PC ต่างๆ ของไมโครซอฟท์