เกิดกระแสการประท้วง Tesla (จริงๆ ต้องบอกว่าประท้วง Elon Musk) หน้าโชว์รูมทั่วสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มผู้ประท้วงใช้แท็ก #TeslaTakeover ก่อตัวมาสักพักแล้วในโซเชียล BlueSky (คนที่หนี Elon ไปจาก Twitter/X) ถึงแม้มีจำนวนยังไม่เยอะมาก แต่เกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วอเมริกา
กระแสการประท้วงเกิดจากแนวทางของ Elon Musk ที่เข้าไปนั่งเป็นหัวหน้า Department of Government Efficiency (DOGE) ในรัฐบาล Donald Trump และตัดงบประมาณ ยุบโครงการหลายอย่างที่สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มประท้วง จึงออกมาโชว์ป้ายต่อต้าน เช่น “Don’t buy swasticars” หรือ "Dogs Against Doge" เป็นต้น
OpenAI ออกแถลงการณ์โดย Bret Taylor ประธานบอร์ดกล่าวว่า OpenAI ไม่ได้มีไว้ขายกิจการ ที่ประชุมบอร์ดจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ปฏิเสธคำเสนอซื้อกิจการส่วนธุรกิจ Non-Profit ของ Elon Musk
ก่อนหน้านี้ Elon Musk และกลุ่มทุนพันธมิตรได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ OpenAI ส่วน Non-Profit ที่มูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยให้เหตุผลต่อมาว่าพร้อมถอนการเสนอซื้อนี้หากบอร์ด OpenAI ยืนยันว่าจะไม่แปลงโครงสร้างบริษัท ที่รองรับส่วน For-Profit มากขึ้น ซึ่งไม่ตรงกับพันธกิจในตอนก่อตั้ง OpenAI
แพลตฟอร์ม X ได้ตกลงที่จะจ่ายเงินประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อยุติคดีความที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยื่นฟ้อง Twitter หลังจากบัญชีของเขาถูกระงับในเดือนมกราคม 2021 เนื่องจากมีความเสี่ยงในการยุยงให้เกิดความรุนแรงเพิ่ม
ด้านทรัมป์อ้างว่า การระงับบัญชีของเขาเป็นการละเมิดสิทธิการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ แม้ว่าคดีนี้จะถูกยกฟ้องในปี 2022 แต่ทีมกฎหมายของทรัมป์ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ
ทั้งนี้ X ตกลงยุติคดีหลังจาก Meta จ่ายเงิน 25 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อยุติคดีความที่คล้ายกัน โดยเงินส่วนใหญ่จะถูกนำไปสร้างห้องสมุดประธานาธิบดีของทรัมป์
ซีอีโอ OpenAI สงสาร Elon Musk
หลัง Musk เสนอซื้อ OpenAI ซีอีโอ Sam Altman ปฏิเสธพร้อมเสนอซื้อ X กลับบ้างเหมือนกัน
จากนั้น Altman ก็บอกว่า ที่มัสก์ทำอย่างนี้ ก็เพราะพยายามจะทำให้ OpenAI พัฒนาช้าลง และบอกกับพนักงานในองค์กรว่า Musk กำลังทำให้ภายในองค์กรวุ่นวายขึ้น เพราะ OpenAI กำลังนำหน้าเขาอยู่
แถม Altman ยังให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ภายใต้การประชุม Paris AI Action Summit เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาด้วยว่า เขาคิดว่า Elon Musk แค่พยายามจะทำให้เราพัฒนาได้ช้าลง
ทนายความของ Elon Musk ยื่นเอกสารต่อศาลในประเด็นคำเสนอซื้อกิจการ OpenAI ส่วน Non-Profit มูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยระบุความประสงค์ว่าพร้อมถอนการเสนอซื้อกิจการ หากบอร์ดของ OpenAI สามารถรักษาสถานะบริษัทเป็นองค์การกุศลไม่แสวงหากำไรไว้ได้ และจะไม่แปลงสภาพบริษัทเป็นบริษัทแสวงหากำไร (For-Profit)
เอกสารนี้ยืนยันว่า Musk จริงจังมุ่งมั่นที่จะซื้อกิจการ OpenAI ส่วน Non-Profit และพร้อมให้ผลตอบแทนกับผู้ลงทุนที่เหมาะสมจากการแลกสินทรัพย์ของส่วนนี้ออกไป ซึ่งคือมูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์
ประเด็น Elon Musk ประกาศเสนอซื้อกิจการ OpenAI ซึ่งจริงจังไหมยังไม่รู้ แต่ก็สร้างแรงกระเพื่อมได้พอสมควร ล่าสุดมีข้อมูลจากภายใน OpenAI ว่าซีอีโอ Sam Altman ได้เปิดเผยรายละเอียดและความเห็นกับพนักงานบริษัท
Altman บอกว่าถึงตอนนี้บริษัทยังไม่ได้รับข้อเสนออย่างเป็นทางการจาก Elon Musk และกลุ่มทุน ส่วนการจะถูกซื้อกิจการได้หรือไม่นั้นเขาบอกว่า โครงสร้างของ OpenAI ถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้ใครสามารถครอบงำธุรกิจได้ Elon เองก็มีบริษัทปัญญาประดิษฐ์คู่แข่ง ที่มีแนวทางไม่ตรงกับภารกิจของ OpenAI สิ่งที่เขาทำเพื่อให้เราวุ่นวายขึ้น เพราะตอนนี้เรานำหน้าเขาอยู่
การประกาศเสนอซื้อ OpenAI ของ Elon Musk และกลุ่มเพื่อนนักลงทุนที่มูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์ ถึงแม้ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI จะปฏิเสธทันที จนดูเหมือนเป็นเกมป่วนครั้งใหม่ของ Musk มากกว่าจะตั้งใจซื้อจริง แต่เพราะคำเสนอซื้อนี้มีการออกเอกสารเป็นทางการ เรื่องนี้จึงเป็นการกระทำที่หวังผลบางอย่างแน่นอน และทำให้ Sam Altman ลำบากขึ้นด้วย
Altman ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่าคำเสนอซื้อนี้ Musk หวังทำให้ OpenAI เดินช้าลงเพราะเขาก็มีบริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาแข่งกับ OpenAI เรื่องเหล่านี้เป็นเทคนิคทางกฎหมายที่ทำเพื่อให้สิ่งต่าง ๆ ยุ่งยากขึ้น
ดราม่า Elon Musk ปะทะ Sam Altman ประจำวัน รอบนี้มาแบบยิ่งใหญ่เพราะ Elon Musk และพันธมิตร เข้าเสนอซื้อกิจการอย่างไม่เป็นมิตร (hostile takeover) ต่อ OpenAI ในราคาสูงถึง 9.76 หมื่นล้านดอลลาร์ (3.3 ล้านล้านบาท) โดย Elon ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าเขาต้องการให้ OpenAI กลับมาเป็นโอเพนซอร์สอีกครั้ง ซึ่งเขาแสดงให้โลกเห็นแล้วกับ Grok ของ xAI
แน่นอนว่า Sam Altman ย่อมปฏิเสธ และตอบโต้ผ่าน X/Twitter ว่า "no thank you but we will buy twitter for $9.74 billion if you want" และฝั่ง Elon เข้ามาด่ากลับว่า "swindler" (พวกขี้โกง)
Elon Musk อัปเดตตำแหน่งหน้าไบโอบน X ของเขาเป็น White House Tech Support หรือผู้สนับสนุนด้านเทคโนโลยีของทำเนียบขาว เพื่อย้ำถึงบทบาทของเขาในรัฐสภามากขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของ DOGE และความสัมพันธ์ใกล้ชิดของ Musk กับ Donald Trump ที่เพิ่มมากขึ้น
หน้าที่หลักของหน่วยงาน DOGE และ Musk คือปรับปรุงเทคโนโลยีของรัฐบาลกลางให้ทันสมัย และประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ เช่น ซอฟต์แวร์ โครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย และระบบไอทีทั่วทั้งภาครัฐ
Elon Musk ให้สัมภาษณ์กับ WELT Economic Summit เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งวิดีโอบันทึกการสัมภาษณ์เพิ่งเผยแพร่ แต่มีเนื้อหาตอนหนึ่งที่ Musk บอกชัดเองว่า เขาไม่ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ TikTok
ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนมกราคมมีรายงานข่าวว่า Musk สนใจซื้อ TikTok แต่เขาไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นอะไร ต่อมาประธานาธิบดี Donald Trump ก็บอกว่าไม่ขัดข้องหาก Musk จะซื้อกิจการ ส่วนการสัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากสองเหตุการณ์นี้จึงอาจบอกได้ว่า Musk ไม่ได้สนใจซื้อกิจการ TikTok จริง
การประกาศโครงการ Stargate ที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ AI มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดี Donald Trump โดยมี OpenAI, SoftBank และ Oracle เป็นผู้ลงทุนกลุ่มแรก อาจสร้างคำถามหากติดตามข่าวการเมืองสหรัฐ ว่าทำไมไม่มี Elon Musk อยู่ในสมการนี้ด้วย เพราะเขาทั้งเป็นผู้บริจาคเงินรายใหญ่ให้พรรครีพับลิกัน 250 ล้านดอลลาร์ และเป็นหัวหน้าฝ่าย DOGE ที่เข้ามาปฏิรูประบบราชการสหรัฐ
New York Times มีรายงานที่มาของโครงการ Stargate และการเจรจากับ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI กับ Trump ที่ทำให้เขาตอบตกลงสนับสนุนโครงการนี้
อีลอน มัสก์ บอกให้พนักงานหน่วยงาน DOGE ทำงานวันละ 17 ชั่วโมง เจ็ดวันต่อสัปดาห์ หรือทำงาน 24 ชั่วโมงเป็นเวลาห้าวัน พูดง่าย ๆ คือต้องทำงานสัปดาห์ละ 120 ชั่วโมง เพื่อทำให้ DOGE มีความก้าวหน้า และประสบความสำเร็จมากกว่าหน่วยงานราชการแบบเดิม ที่ทำงานน้อยกว่าสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมงเท่านั้น
ขณะที่บางคนสนับสนุนแนวทางของมัสก์ แต่หลายคนก็ตกใจกับแนวคิดการทำงานที่มากขนาดนี้ เพราะมองว่า การทำงานอย่างหนักแทบไม่มีเวลาพักผ่อน อาจส่งผลเสียกับสุขภาพ บางคนยังมองด้วยว่า ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานขนาดนี้ ไม่ได้การันตีความสำเร็จที่มากขึ้น
เรื่องมีอยู่ว่านักดาราศาสตร์แห่งศูนย์ดาวเคราะห์น้อยแห่ง Harvard-Smithsonian Center รายงานการพบดาวเคราะห์น้อยดวงใหม่เมื่อต้นเดือน ขึ้นทะเบียน 2018 CN41 แต่ในรายงานก็ไม่แน่ใจว่าเป็นดาวเคราะห์น้อยจริงหรือไม่ ซึ่งผลคือข้อมูลนี้ถูกลบออกไม่กี่วันต่อมา
สาเหตุเพราะดาวเคราะห์น้อยที่ว่า ถูกพิสูจน์แล้วว่าก็คือรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Roadster ที่ถูกส่งขึ้นไปกับจรวด Falcon ตั้งแต่กุมภาพันธ์ปี 2018 ทางหน่วยงานก็ชี้แจงว่าเมื่อข้อมูลยืนยันแล้วก็ต้องลบข้อมูลดาวเคราะห์น้อยนี้ออกไป
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป ACEA ออกรายงานสถิติยอดขายรถยนต์ในทวีปยุโรปปี 2024 ภาพรวมขายได้ 10.6 ล้านคัน เติบโต 0.8% จากปี 2023 โดยยอดขายในบางประเทศหดตัว เช่น ฝรั่งเศส -3.2%, เยอรมนี -1% ในขณะที่สเปนเติบโต 7.1%
ถ้าดูสัดส่วนยอดขายตามประเภทของรถยนต์ รถน้ำมันเบนซินยังครองส่วนแบ่งสูงสุด 33%, ตามด้วยรถยนต์ไฮบริด (HEV) 30.9% และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) 13.6% ประเด็นที่น่าสนใจคือยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าล้วน BEV เริ่มลดลงในหลายประเทศ เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส กลายเป็นตลาดรถยนต์ไฮบริด (ทั้ง HEV และ PHEV) เติบโตมากขึ้นแทน
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องบอกว่าธนาคารหลายแห่ง เริ่มหารือกับนักลงทุนเพื่อขายหนี้ ที่มาจากการปล่อยกู้ให้ Elon Musk ซื้อกิจการ Twitter เพื่อหวังลดภาระทางการเงินของธนาคาร
Elon Musk ซื้อกิจการ Twitter เมื่อปี 2022 และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น X ด้วยมูลค่าถึง 44,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งใช้เงินจากหลายส่วน โดยมีส่วนที่เขากู้จากธนาคารหลายแห่งรวมกัน 13,000 ล้านดอลลาร์ ด้วยสถานการณ์ที่ X ยังไม่เติบโตมากพอตามแผน จึงทำให้สถาบันการเงินเหล่านี้ต้องการลดต้นทุนออกไปให้นักลงทุนอื่นที่ต้องการแทน รวมถึงลดความเสี่ยงที่ Elon Musk อาจไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ย-เงินต้นได้
ประธานาธิบดี Donald Trump ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ในประเด็นที่ Elon Musk ออกมาวิจารณ์โครงการ Stargate ที่จะสร้าง AI Infrastucture ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการที่เขาโจมตี Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทร่วมลงทุนก่อตั้งโครงการนี้
Trump บอกว่าเขาได้คุยกับทั้ง Musk และทุกคนแล้ว เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร ทุกคนในโครงการ Stargate คือคนที่ฉลาดมาก เรื่องของ Musk ก็แค่เขาเกลียดคนหนึ่งในโครงการนี้เท่านั้น ตัวเขาเอง (Trump) ก็มีคนเกลียดมากมายเหมือนกัน
หลังเปิดศึกบน X ไปเมื่อวานนี้ Musk ยังคงโพสต์โจมตี Altman ในหลายประเด็นทั้งแนวคิดการเมือง, OpenAI ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น และอีกหลายเรื่อง
ชุมชน Subreddit เริ่มออกกฎแบนการโพสต์ลิงก์จาก x.com ในชุมชน เพื่อตอบโต้ Elon Musk ที่ทำท่านาซี ในงานรับตำแหน่งของประธานาธิบดี Donald Trump
จุดเริ่มต้นมาจากห้อง r/newjersey ที่ได้รับการโหวตท่วมท้น 6.6 หมื่นโหวตขณะที่เขียนข่าวนี้ จากนั้นลามไปยังห้องอื่นๆ เช่น r/military, r/comics, r/spiderman, r/pcgaming เป็นต้น รวมถึงยังมีอีกหลายชุมชนที่กำลังถกเถียงกันว่าจะแบนตามหรือไม่
แนวทางของ Reddit ให้แต่ละชุมชนออกกฎเกณฑ์จัดการตัวเอง นอกจากประเด็นเรื่องรสนิยมของ Elon แล้ว บางชุมชนยังยกประเด็นเรื่อง X ไม่ยอมให้พรีวิวลิงก์หากไม่ได้ล็อกอิน เป็นเหตุผลในการห้ามโพสต์ลิงก์จาก X ด้วย
เกิดการตอบโต้บน X หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศโครงการ Stargate เพื่อสร้าง AI Infrastructure ขนาดใหญ่สำหรับสหรัฐอเมริกา โดยมีบริษัทที่ร่วมลงทุนเบื้องต้นคือ Oracle, SoftBank, OpenAI และบริษัทการลงทุน MGX วงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะลงทุนทันทีเบื้องต้น 1 แสนล้านดอลลาร์
คู่กรณีไม่ใช่ใครอื่นไกลคือ Elon Musk กับ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI นั่นเอง เขาตอบโพสต์ของ OpenAI เกี่ยวกับโครงการ Stargate นี้ว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้มีเงินขนาดนั้น และให้ข้อมูลเพิ่มว่าแม้แต่ SoftBank เอง ก็มีเงินสดไม่ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเขามีข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้
ประธานาธิบดี Donald Trump ตอบคำถามนักข่าวในช่วงแถลงโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ โดยนักข่าวถามความเห็นของ Trump หาก Elon Musk จะซื้อกิจการ TikTok
Trump ตอบว่าถ้า Musk ต้องการซื้อ เขาก็ให้ซื้อ และเขาอยากให้ Larry Ellison ซีอีโอ Oracle ร่วมซื้อด้วยเช่นกัน (Ellison อยู่ในการแถลงข่าวนี้ด้วย)
หนึ่งในคำสั่งบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump ที่เข้ามารับตำแหน่งสมัยที่สองเป็นวันแรก คือการตั้งหน่วย Department of Government Efficiency หรือ DOGE เข้ามาปรับปรุงประสิทธิภาพของภาครัฐ ตามที่เคยประกาศไว้
DOGE จะมีสถานะเป็นหน่วยงาน (agency) ของรัฐบาล แต่มีสถานะเป็นองค์กรชั่วคราว (temporary organization) มีระยะเวลาการทำงาน 18 เดือน สิ้นสุดภารกิจในวันที่ 4 กรกฎาคม 2026 (วันชาติสหรัฐในปีหน้า)
DOGE จะรับโอนหน่วยบริการดิจิทัลภาครัฐ United States Digital Service ที่มีอยู่แล้ว มาเปลี่ยนชื่อเป็น United States DOGE Service (ตัวย่อเหมือนเดิม USDS แบบนี้ก็ได้เหรอ!) ส่วนโครงสร้างภายในของ DOGE จะเป็นทีมย่อยๆ ทีมละ 4 คน ได้แก่ หัวหน้าทีม วิศวรกร ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคล และอัยการ
Donald Trump ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่สองอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ซึ่งในพิธีที่จัดขึ้นในอาคารรัฐสภาสหรัฐ มีซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เข้าร่วมกันพร้อมหน้า
รายชื่อที่มีรายงานได้แก่ Elon Musk ซีอีโอ Tesla และ SpaceX, Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta และภรรยา Priscilla Chan, Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon และคู่หมั้น Lauren Sánchez, Tim Cook ซีอีโอ Apple, Sundar Pichai ซีอีโอ Alphabet และ Google โดยทั้งหมดนั่งอยู่ในตำแหน่งหลังโพเดียมที่ Trump ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ นอกจากนี้ Shou Zi Chew ซีอีโอ TikTok และ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้ง Google ก็เข้าร่วมในพิธีด้วย
กลุ่มสถาบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัยในเยอรมนีและออสเตรีย ประกาศบอยคอตไม่เข้าร่วมใช้งาน X/Twitter และ Tesla หลัง Elon Musk ชาวแอฟริกาใต้ผู้ถือสัญชาติอเมริกัน พยายามยุ่งกับการเมืองของเยอรมนีและหลายประเทศในยุโรป โดยชักชวนให้เลือกพรรคฝ่ายขวาจัด AfD ที่มีอุดมการณ์การเมืองแบบเดียวกับเขา
หน่วยงานหลายแห่งในเยอรมนี ทั้งภาครัฐและเอกชน ทยอยกันลบบัญชี X โดยให้เหตุผลว่าอัลกอริทึมของ X ช่วงหลัง นำเสนอเนื้อหาที่ขัดกับค่านิยมที่องค์กรยึดถือ เรื่องความเปิดกว้าง ความหลากหลาย ความโปร่งใส ประชาธิปไตย
SEC หรือ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ฟ้อง Elon Musk อีกแล้ว คราวนี้เป็นประเด็นการไม่เปิดเผยข้อมูลในการทยอยซื้อหุ้น Twitter ซึ่งต่อมาเขาได้ซื้อกิจการทั้งหมด แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น X
ในเอกสารคำฟ้องร้อง SEC บอกว่า Elon Musk เริ่มซื้อหุ้น Twitter มาตั้งแต่ต้นปี 2022 และในช่วงเดือนมีนาคม 2022 เขาถือหุ้น Twitter แล้วมากกว่า 5% ซึ่งตามกฎนั้น Musk ต้องเปิดเผยข้อมูลการถือหุ้นที่ผ่านระดับ 5% ต่อสาธารณะ แต่เขาไม่ได้รายงาน แล้วมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 4 เมษายน หรือ 11 วันหลังจากกำหนดที่ต้องส่งรายงาน ประเด็นนี้ SEC มองว่าทำให้ Musk สามารถเก็บหุ้น Twitter ได้เพิ่มเติมในราคาที่ต่ำกว่าที่ควรเป็น 150 ล้านดอลลาร์
กฎหมายแบนแอป TikTok ในอเมริกาจะมีผลวันที่ 19 มกราคมนี้ ซึ่งวิธีการที่จะทำให้ TikTok ยังสามารถใช้งานได้ต่อไปที่นั่นคือ ByteDance ต้องขายธุรกิจ TikTok ส่วนในอเมริกาออกมา ให้ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทจีน จึงทำให้มีรายงานข่าวเป็นระยะว่ากลุ่มทุนในสหรัฐติดต่อแสดงความสนใจ
รายงานล่าสุดของ Bloomberg อ้างแหล่งข่าวบอกว่าทางการจีนได้เข้ามาช่วยพิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้ โดยหนึ่งในนั้นคือขาย TikTok ให้กับ Elon Musk บนเงื่อนไขการทำธุรกิจที่ยังไม่ได้สรุปรายละเอียด อย่างไรก็ตามทั้ง Musk และตัวแทนของทางการจีนปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวนี้
Elon Musk และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI คนอื่นๆ มองว่าข้อมูลในโลกจริง (real-world data) สำหรับการฝึกอบรมโมเดล AI เหลือให้ใช้ไม่มากแล้ว เพราะความรู้ของมนุษย์ที่สะสมมา ถูกนำมาใช้ในการฝึกอบรม AI หมดแล้ว
เหมือนกับที่ Ilya Sutskever อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI ที่เคยบอกว่าอุตสาหกรรม AI เข้าถึงจุดที่พีกของข้อมูล (peak data) แล้ว ซึ่งคาดว่าข้อมูลการฝึกอบรมที่มีน้อยลง จะทำให้ต้องเปลี่ยนวิธีการฝึกอบรมโมเดลในปัจจุบัน
แนวทางแก้ไขที่ Musk เสนอคือการใช้ข้อมูลสังเคราะห์ (synthetic data) หรือข้อมูลที่สร้างโดยโมเดล AI เอง บริษัทต่างๆ เช่น Microsoft, Meta, OpenAI และ Anthropic ได้นำแนวทางนี้ไปใช้แล้ว