Anker ผู้ผลิตแบตเตอรี่สำรองและสายชาร์จเปิดตัว PowerPort Atom PD 1 ที่ชาร์จ USB-PD ขนาด 1.5 นิ้ว ให้กำลังไฟขนาด 30W สามารถชาร์จได้ทั้งโน้ตบุ๊กและมือถือ

Atom PD1 จ่ายไฟได้ที่แรงดันไฟฟ้า 5V กระแส 3A, 9V กระแส 3A, 15V กระแส 2A, 20V กระแส 1.5A ใช้งานได้กับอุปกรณ์ของ Apple ที่รองรับ USB-PD อาทิ iPad Pro และ MacBook Air 13

ระบบชาร์จเร็ว เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตให้เพียงพอต่อการใช้งานได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่ง Huawei แม้จะมีระบบ SuperCharge อยู่แล้ว แต่แผนการพัฒนาขั้นต่อไปเราอาจได้พบกับเทคโนโลยีชาร์จแบตที่เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

จากรายงานของเว็บไซต์ Wccftech เปิดเผยว่า Huawei กำลังพัฒนา SuperCharge ใหม่ เป็นชาร์จเจอร์ ที่มีขนาดของแรงดันไฟฟ้า 10 โวลท์ / ปริมาณกระแสไฟฟ้า 4 แอมป์ ให้กำลังไฟได้ถึง 40 วัตต์ ซึ่งสูงกว่าชาร์จเจอร์ของ Huawei P20 ที่มีกำลังไฟ 22 วัตต์ แต่ยังเป็นรอง Super VOOC ระบบชาร์จเร็วจาก OPPO ที่ให้กำลังไฟสูงถึง 50 วัตต์

ก่อนหน้านี้ผู้ใช้รถ Tesla ทุกคนได้รับสิทธิ์ชาร์จไฟฟรีจากสถานี Supercharger ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกประเทศที่ Tesla เข้าไปทำตลาด ต่อมาได้ยกเลิกโครงการชาร์จฟรีกับผู้ที่ซื้อรถตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2017 โดยให้เครดิตชาร์จไฟฟรีปีละ 400 กิโลวัตต์ชั่วโมงแทน (คิดเป็นระยะทางที่วิ่งได้จากไฟฟรีประมาณ 1,600 กิโลเมตร) หากชาร์จเกินกว่านั้นต้องเสียค่าไฟเล็กน้อย ซึ่งต่างกันไปในแต่ละเมือง แต่หากเราซื้อรถ Tesla Model S และ X ผ่านโค้ดของเพื่อนก็ยังได้รับสิทธิ์ชาร์จไฟฟรีตลอดชีพอยู่

ล่าสุด Tesla ได้ปรับราคาค่าชาร์จไฟจากสถานี Supercharger ในสหรัฐอเมริกาขึ้นอีก 20-40% เช่นในรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มจาก 20 เป็น 26 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือในนิวยอร์คเพิ่มจาก 19 เป็น 24 เซ็นต์ แต่ในรัฐโอเรกอนเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 12 เป็น 24 เซ็นต์

Tesla ยังคงขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของตนเรื่อยๆ ล่าสุดเปิดตัวโครงการ Workplace Charging เพื่อแจกเครื่องชาร์จรถยนต์ให้บริษัทและสำนักงานต่างๆ ฟรี สำหรับพนักงานที่ใช้รถยนต์ Tesla

Tesla ระบุว่าการชาร์จที่ดีและง่ายที่สุดคือการชาร์จที่บ้าน เสียบปลั๊กทิ้งไว้ทั้งคืนก็เพียงพอสำหรับผู้ใช้รถส่วนใหญ่แล้ว แต่สำหรับลูกค้าบางรายที่อาศัยอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ก็สามารถมาชาร์จที่ทำงานได้ ผ่านโครงการ Workplace Charging โดยบริษัทที่สนใจก็ติดต่อเข้ามาให้ Tesla พิจารณา และจะจัดส่งเครื่องชาร์จแบบติดผนังไปให้พร้อมติดตั้งให้ด้วย แลกกับการที่บริษัทนั้นๆ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าไฟเอง

หนึ่งในปัญหาใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้าคือระยะเวลาที่ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด ผู้ผลิตทุกเจ้าจึงต้องหาทางลดระยะเวลาตรงนี้ลงให้ได้

ล่าสุดมีโปรเจ็คใหม่นำโดย BMW ร่วมมือกับ Porsche เพื่อพัฒนาสถานีชาร์จด่วน กำลังไฟสูงถึง 450 kW โดยระบุว่าเป็นกำลังไฟที่เหมาะสมในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาวิ่งทางไกลได้ใน 15 นาที โดยใช้ไฟ 900 โวลต์ 500 แอมป์ ทำให้ได้กำลังไฟ 450 kW

เป็นที่น่าสนใจว่าผู้ให้งบประมาณสนับสนุนโปรเจ็คนี้มากถึง 7.8 ล้านยูโร (ราว 300 ล้านบาท) คือกรมการขนส่งและสาธารณูปโภคดิจิทัลของเยอรมนี ที่ถูกดูแลโดยองค์กรเทคโนโลยีไฮโดรเจนและเซลล์เชื้อเพลิงแห่งชาติอีกที

ปัญหาหัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามี "มาตรฐาน" หลายแบบก็เป็นอีกประเด็นที่สร้างความลำบากในการใช้งานไม่น้อย เพราะผู้ผลิตแต่ละรายต่างก็ออกหัวชาร์จของตนเอง (รวมถึง Tesla เช่นกัน) และจนป่านนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีหัวชาร์จมาตรฐานเดียวทั่วโลก

Tesla จึงต้องแก้ปัญหาที่ปลายเหตุไปก่อน โดยการเปิดตัวรถยนต์ Tesla Model S และ X แบบที่มีพอร์ตชาร์จไฟคู่ รองรับสองมาตรฐานซึ่งเริ่มที่ประเทศจีนก่อน ซึ่งรองรับทั้งหัวชาร์จของ Tesla เอง และหัวชาร์จที่รัฐบาลจีนเป็นผู้พัฒนาในชื่อ "GB"

ก่อนหน้านี้พอร์ตชาร์จไฟของรถยนต์ Tesla ถูกวางไว้ตรงมุมของไฟท้ายด้านซ้ายของรถ (หากดูเผินๆ จะมองไม่เห็น) แต่หลังปรับดีไซน์มาเป็นแบบพอร์ตชาร์จคู่จึงต้องย้ายมาไว้บริเวณด้านข้างตัวถัง เหมือนฝาถังน้ำมันรถยนต์ทั่วไป

แน่นอนว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนยังไม่เชื่อมั่นในรถยนต์ไฟฟ้าคือจำนวนสถานีชาร์จ ที่หากมีไม่พอต่อความต้องการ อาจทำให้ไม่สามารถเดินทางไกล หรือใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ซึ่ง Tesla ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเจ้าแรกๆ ที่แก้ปัญหานี้ด้วยการใช้สถานีชาร์จด่วน หรือ Supercharger ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 30 นาทีก็เดินทางต่อได้อีกราว 270 กิโลเมตร

Tesla โพสต์บนบล็อกของบริษัทว่าเมื่อขายรถได้มากขึ้น ความสำคัญของเครือข่ายสถานีชาร์จก็มากขึ้นตาม ซึ่งบริษัทถือว่าการชาร์จที่สะดวก, มีจำนวนมากพอ และเชื่อถือได้นั้นเป็นภารกิจสำคัญอย่างมาก โดยเมื่อต้นปี 2017 มีสถานี Supercharger ทั่วโลกอยู่ 5,000 จุด ซึ่ง Tesla ตั้งเป้าขยายให้มากกว่า 10,000 จุด และเพิ่มสถานีชาร์จธรรมดาตามห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, ร้านอาหาร ฯลฯ ให้มากกว่า 15,000 จุดภายในสิ้นปีนี้ รวมแล้วจะมีสถานีชาร์จมากกว่า 25,000 จุด เพื่อรองรับรถยนต์ Tesla ทั่วโลกที่ขณะนี้มีมากกว่า 200,000 คันแล้ว

MediaTek เปิดตัวระบบชาร์จเร็วเวอร์ชันใหม่ล่าสุดชื่อ Pump Express 3.0 โฆษณาว่าเป็นระบบชาร์จไฟมือถือที่เร็วที่สุดในตอนนี้ สามารถชาร์จจาก 0% เป็น 70% ได้ภายใน 20 นาที เร็วกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า และเร็วกว่าระบบชาร์จปกติ 5 เท่า

MediaTek คุยว่าการชาร์จไฟผ่าน Pump Express 3.0 เพียง 5 นาที สามารถใช้คุยสนทนาได้นาน 4 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังเป็นระบบชาร์จเร็วที่รองรับการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่โดยตรงผ่านพอร์ต USB Type-C เป็นเจ้าแรกในท้องตลาด อีกทั้งมีระบบความปลอดภัยกว่า 20 ฟีเจอร์ช่วยป้องกันปัญหาความร้อนหรือ overheat ด้วย

เทคโนโลยี Pump Express 3.0 มาจากบริษัท Richtek ที่ MediaTek เพิ่งซื้อกิจการมา โดยจะเริ่มใช้กับชิป MediaTek Helio P20 ซึ่งจะมีอุปกรณ์ออกวางขายช่วงปลายปี 2016 นี้

Watt Lab ห้องวิจัยในสังกัด Huawei โชว์เทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่รุ่นใหม่ล่าสุด มีอัตราการชาร์จไฟเร็วกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป 10 เท่า เสียบไฟเพียงไม่กี่นาทีก็ชาร์จได้ 50% แล้ว

ในเดโมของ Huawei โชว์การชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 600 mAh ได้ 68% โดยใช้เวลาแค่ 2 นาที และโชว์การชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh (หนาแน่น 620 Wh/L) ได้ 48% ในเวลา 5 นาที (ดูวิดีโอประกอบ)

เบื้องหลังของเทคโนโลยีชาร์จเร็ว (Huawei เรียก super quick-charge) อยู่ที่การจัดเรียงอะตอมของแกรไฟต์ในขั้วแอโนด (anode) ของแบตเตอรี่ ช่วยเร่งการถ่ายทอดพลังงานได้เร็วกว่าเดิม

เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบกับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ และยังไม่บอกว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์จริงเมื่อไรครับ

มีผู้ใช้ทดสอบแล้วว่า iPhone 6 และ 6 Plus สองสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของแอปเปิล รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ที่เร็วขึ้น หากชาร์จด้วยอแดปเตอร์ของ iPad (แบบ 2.1 แอมป์)

แต่เดิม ไม่ว่าผู้ใช้ iPhone จะชาร์จด้วยอแดปเตอร์ของ iPhone (1 แอมป์) หรือของ iPad ก็จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เท่ากันที่ประมาณ 5 วัตต์ แต่ทว่าสอง iPhone รุ่นใหม่นี้ได้ปลดล็อกขีดจำกัดนี้ออกไป ทำให้ทั้ง iPhone 6 และ 6 Plus สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 12 วัตต์ทัดเทียมกับ iPad และส่งผลให้ลดเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ได้นั่นเอง

ทางการของกรุง Seoul ประเทศเกาหลีใต้ ได้ประกาศโครงการสร้างจุดชาร์จไฟให้แก่โทรศัพท์และอุปกรณ์พกพาอื่นให้ใช้งานได้สาธารณะ โดยความสำคัญของโครงการดังกล่าว เป็นการดึงเอาพลังงานจลน์ของกระแสน้ำไหลมาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อชาร์จไฟให้แก่อุปกรณ์

โครงการนี้จะเริ่มต้นด้วยการทำจุดชาร์จไฟให้ใช้งานก่อน 5 จุด บริเวณริมคลอง Cheonggyecheon (เป็นคลองขุดใน Seoul) โดยจะมีการติดตั้งใบกังหันในคลองเพื่อรับพลังงานจากกระแสน้ำไหลมาหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทั้งนี้คาดว่าในการใช้งานจริง จุดจ่ายไฟจะสามารถชาร์จไฟให้อุปกรณ์จนเต็มได้ภายในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง โดยหากผลตอบรับของโครงการนี้ออกมาดี จะมีการขยายผลเพิ่มจุดชาร์จไฟในสถานที่อื่นๆ ด้วย

มหาวิทยาลัย Queen Mary University of London (QMUL) ร่วมกับไมโครซอฟท์ในการพัฒนาอุปกรณ์ต้นแบบนาโนเจนเนอเรเตอร์ (nanogenerator) สำหรับชาร์จไฟมือถือด้วยเสียงที่อยู่โดยรอบตัวได้

Trinity คือโครงการพัฒนากังหันปั่นไฟแบบพกพา ที่ผู้ใช้สามารถนำมันไปต่อพ่วงเพื่อชาร์จไฟให้แก่แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่ไหนก็ได้ที่มีลม (หรือต่อให้ไม่มีลมภายนอก ผู้ใช้ก็ยังนั่งเป่าลมเองเพื่อชาร์จไฟได้) โดยโครงการนี้กำลังเปิดรับเงินทุนสนับสนุนผ่านทางเว็บ Kickstarter

มีรายงานว่า Apple ได้คิดเตรียมระบบชาร์จไฟให้แก่แบตเตอรี่ของนาฬิกาอัจฉริยะที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนาไว้หลากหลายวิธีด้วยกันเพื่อหลีกหนีจากข้อจำกัดเดิมๆ ที่ต้องเสียบสายชาร์จไฟให้แก่อุปกรณ์ทุกครั้งที่แบตเตอรี่อ่อน

New York Times รายงานว่า Apple ได้คิดค้นพัฒนาระบบการชาร์จไฟให้แก่แบตเตอรี่ของนาฬิกาอัจฉริยะ โดยมีความเป็นไปได้หลายแนวทางด้วยกัน อย่างแรกคือการชาร์จไฟแบบไร้สายโดยอาศัยการเหนี่ยวนำทางแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ถูกใส่มาในสมาร์ทโฟนหลายต่อหลายรุ่นด้วยกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ในงาน CES 2014 นั้นนอกจากจะมีสินค้าที่เปิดตัวเพื่อวางจำหน่ายจริงแล้ว ยังมีสินค้าที่เปิดตัวเพื่อประกาศระดมทุน อย่างเช่นตัวที่จะพูดถึงต่อไปนี้ นั่นคือสายชาร์จ JUMP จาก Native Union นั่นเอง

สายชาร์จ JUMP นั้นไม่ได้เป็นแค่สายชาร์จธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่ในตัว JUMP นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 800 mAh ที่สามารถชาร์จ iPhone ได้ประมาณ 30% ของความจุของเครื่องทั้งหมด ความเจ๋งของมันอยู่ที่เทคโนโลยี AutoCharge ซึ่งหลักการของมันคือ เมื่อโทรศัพท์ของเราชาร์จจนเต็มแล้ว ไฟฟ้าบางส่วนจะย้ายจากเข้าเครื่องโทรศัพท์มาชาร์จตัวแบตเตอรี่

ดูเหมือนว่าการเป็นหนึ่งในผู้ผลักดันการชาร์จไร้สายคงยังไม่พอสำหรับโนเกีย เมื่อพวกเขาได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการนำพลังงงานไฟฟ้าที่มีอยู่ตามธรรมชาติอย่าง "ฟ้าผ่า" มาใช้ชาร์จโทรศัพท์ โดยโนเกียได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Southampton ทดลองดึงพลังงานไฟฟ้าจากฟ้าผ่า (จำลอง) ที่มีค่าโวลต์สูงหลักแสนมาใช้ชาร์จ Lumia 925 ได้สำเร็จ

Neil Palmer นักวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัย Southhampton ในประเทศอังกฤษซึ่งได้รับเชิญให้ร่วมโครงการได้พูดถึงการทดลองนี้ว่า

ในขณะที่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนพัฒนาหน่วยประมวลผลไปมากและยังทวีความใหญ่ของหน้าจอขึ้นเรื่อยๆ การพัฒนาแบตเตอรี่กลับดูเหมือนจะไม่ทันต่อความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของสมาร์ทโฟน ขณะที่เรากำลังรอสิ่งที่พอช่วยได้อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ (สิทธิบัตรของแอปเปิล, ข่าวลือจากทางโนเกีย) งานวิจัยจากโนเกียก็เสนอนวัตกรรมอีกอย่างที่ดูน่าตื่นเต้นพอดู

Qualcomm เผยว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จำนวนหลายรุ่นที่ใช้ชิปของ Qualcomm อยู่ล้วนได้รับการปรับปรุงให้ใช้เวลาน้อยลงในการชาร์จไฟให้แก่แบตเตอรี่ ทั้งนี้เป็นผลมาจากวงจรพิเศษ Quick Charge 1.0

ไมโครซอฟท์ประเทศจีน ได้จดสิทธิบัตรเครื่องชาร์จไฟแบบไร้สายโดยใช้หลักการเหนี่ยวนำ (หลักการเดียวกับเครื่องชาร์จไร้สายของเดลล์และปาล์ม) และอีกด้านหนึ่งของเครื่องจะมีหน้าจอที่สามารถแสดงผลข้อมูลต่างๆ อาทิ พยากรณ์อากาศ พาดหัวข่าว และผลกีฬาได้ นอกจากนั้นยังฝัง accelerometer และ load detector ที่พื้นผิวของเครื่องชาร์จ ไว้คอยตรวจจับว่าด้านไหนของเครื่องไม่ได้ใช้งานอยู่ เพื่อที่จะได้ปิดการทำงานฝั่งดังกล่าวและลดการใช้ไฟฟ้าลงได้

International Telecommunication Union (ITU) หรือสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศได้ประกาศรับรอง Universal Charging Solution (UCS) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ตัวชาร์จไฟโทรศัพท์มือถือที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ต้นฉบับเขียน "energy efficient charger") เข้ากันได้ทุกยี่ห้อทุกรุ่น และยังช่วยลดขยะที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนตัวชาร์จเมื่อเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือด้วย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Wireless Power Consortium (WPC) ได้ประกาศว่าโนเกียได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้ว ซึ่งมีการคาดหมายกันว่าโนเกียต้องการจะใช้มาตรฐานการชาร์จแบบไร้สาย "Qi" ที่สมาคมนี้ทำอยู่มาเร่งการพัฒนาของโนเกียเอง ส่วนสมาคมเองก็ได้ผู้สนับสนุนรายใหญ่มาสนับสนุนมาตรฐานแบบเปิดนี้มากขึ้น

หวังว่าจะได้เห็นที่ชาร์จแบบไร้สายที่ใช้ร่วมกันทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อื่นๆ ในเร็ววันนะ

ที่มา: Electronista

ถึงแม้ว่าบริษัทปาล์มจะออกเครื่องชาร์จไฟไร้สายให้กับ Palm Pre ในชื่อ Touchstone แล้ว (ดูรูปได้ในข่าวเก่า โดยคุณ mk) แต่ก็ยังไม่มีมาตรฐานที่แน่ชัดเกี่ยวกับการชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charging) แต่อย่างไร จนกระทั่ง Wireless Power Consortium (WPC) ได้ออกมาบอกว่าในขณะนี้มาตรฐานการชาร์จแบบไร้สายใกล้เสร็จสิ้นแล้ว หากมาตรฐานดังกล่าวเสร็จสิ้นก็จะช่วยให้ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถทดสอบความเข้ากันได้ระหว่างอุปกรณ์ได้โดยมีแบบแผนที่ชัดเจน