Intel กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ขนาดความสูง 45 เซนติเมตร ที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ โดยจะขายเป็นชุดชิ้นส่วนต่างๆ อย่างมอเตอร์ แบตเตอรี่ แผงวงจร ฯลฯ และให้ผู้ซื้อไปพิมพ์ขึ้นรูปเองจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ และประกอบเข้ากับโครงร่างเอง โดย Intel ตั้งชื่อให้ว่า Jimmy และจะพัฒนาให้สามารถรับคำสั่งในการช่วยเหลือคนได้เล็กๆ น้อยๆ อย่างเปิดปิดไฟ หยิบหนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่โต้ตอบกับคนด้วยเช่นกัน

วงการพิมพ์สามมิติเรียกได้ว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงปีที่ผ่านมา มีผู้คนหลากหลายกลุ่มใช้งานเครื่องพิมพ์สามมิติในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่บริษัทหน้าใหม่ไปจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ ล่าสุดแม้แต่ทำเนียบขาวก็ออกตัวมาสนับสนุนกระแสนี้แล้วด้วยการเปิดตัวงาน White House Maker Faire เพื่อสนับสนุนกลุ่มคนที่ใช้งานเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ

งาน White House Maker Faire นี้เป็นครั้งแรกที่บารัค โอบามาเป็นเจ้าภาพงาน ภายในงานมีผู้ผลิตที่ใช้การพิมพ์สามมิติมาเข้าร่วมมากกว่า 100 ราย จาก 25 มลรัฐ โดยมีผลงานหลากหลายนำมาแสดงในงาน เช่นยีราฟอิเล็กทรอนิกส์ขนาด 17 ฟุต หรือโชว์พิมพ์แพนเค้กหน้าโอบามา เป็นต้น

กูเกิลยังคงพยายามดึงดูดผู้หญิงมาทำงานไอทีให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศบริจาคเงินให้กับองค์กรที่สามารถให้ความกล้าแก่สาวๆ ได้หันมาสนใจในศาสตร์แห่งคอมพิวเตอร์ตั้งแต่วัยเยาว์เป็นเงินกว่า 50 ล้านเหรียญ

พร้อมกับการประกาศดังกล่าว กูเกิลได้เปิดตัวโครงการ Made with Code ที่เปิดให้เด็กสาวตัวน้อยๆ ได้มาทดลองโค้ดอะไรง่ายๆ แล้วได้ผลออกมาจริงๆ ตั้งแต่การมิกซ์เสียง ทำอวาตาร์ ทำภาพเคลื่อนไหว แต่งภาพ หรือแม้แต่การทำกำไลข้อมือจากเครื่องพิมพ์สามมิติ แล้วได้ของไปจริงๆ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ทำผ่าน Blockly เครื่องมือเขียนโปรแกรมบนเว็บแบบลาก-วางของกูเกิล และจัดการพิมพ์โดย Shapeways

เมื่อต้นปีก่อน วงการพิมพ์สามมิติก้าวไปสู่ขนาดที่เล็กลงในรูปแบบของปากกา จากการเปิดตัว 3Doodler ปากกาสำหรับงานพิมพ์สามมิติที่ใช้วิธีการฉีดเส้นพลาสติก (FDM) แบบเดียวกับเครื่องพิมพ์สามมิติในท้องตลาด และระดมทุนไปมากกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยกัน และตอนนี้ก็มีผู้ผลิตอีกเจ้าอย่าง CreoPop เปิดตัวปากกาสำหรับงานสามมิติตัวแรกที่ใช้วิธีพิมพ์ด้วยการยิงเลเซอร์ให้น้ำเรซินแข็งตัว (SLA) เป็นเจ้าแรกของโลกแล้ว

ให้หลังจากความสำเร็จของ Formlabs จากการระดมทุนเครื่องพิมพ์สามมิติแบบ SLA (พิมพ์น้ำเรซิน) ในชื่อ Form 1 ไปราวสองปี ตอนนี้ Formlabs ประกาศเครื่องพิมพ์สามมิติรุ่นใหม่ในชื่อ Form 1+ ซึ่งแพคฟีเจอร์ใหม่เข้ามาพอสมควร

Form 1+ ยังคงใช้ทรงเดิม ขนาดเท่าเดิมแต่เพิ่มเติมประสิทธิภาพภายในมากขึ้น ตั้งแต่เลเซอร์ที่ประสิทธิภาพสูงขึ้นสี่เท่า พิมพ์ได้เร็วกว่ารุ่นเดิม 50% และระบบควบคุมการสะท้อนเลเซอร์ละเอียดขึ้น ทำให้ได้งานคุณภาพสูงขึ้น รวมถึงแท็งก์เก็บเรซินแบบใหม่ กันแสงเข้าแล้ว เก็บน้ำเรซินได้นานขึ้น

สำหรับราคาของ Form 1+ เปิดมาเท่ารุ่นแรกที่ 3,299 เหรียญ พร้อมกับเลิกขาย Form 1 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับลูกค้าเก่าที่มี Form 1 อยู่แล้ว สามารถอัพเกรดเป็น Form 1+ ด้วยราคา 749 เหรียญ

แม้ว่าเครื่องพิมพ์สามมิติจะได้รับความสนใจมากในปัจจุบัน แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้ไม่มากนักเนื่องมาจากกำแพงของราคาที่แม้จะถูกลงแล้ว แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ อยู่ดี

ในตอนนี้มีบริษัทหน้าใหม่อีกรายชื่อว่า New Matter ที่ออกมาทำเครื่องพิมพ์สามมิติของตัวเอง โดยมุ่งหวังสร้างเครื่องพิมพ์สามมิติที่ออกแบบได้สวยงามในราคาเบาๆ ชื่อว่า Mod-T

Mod-T เป็นเครื่องพิมพ์สามมิติประเภท FDM (แบบฉีดเส้นพลาสติก) ขนาดเล็กที่ตั้งราคาเอาไว้เพียง 249 เหรียญ (ประมาณ 8,000 บาท) ใช้การออกแบบแนวมินิมอล ด้วยวัสดุหลักอย่างฐานพลาสติก ส่วนพิมพ์สามมิติเป็นอะลูมิเนียม และมีกระจกใสล้อมกรอบอีกชั้น

ที่ประเทศเยอรมนีมีโครงการ Smoothfood ซึ่งเป็นโครงการประยุกต์ใช้การพิมพ์ 3 มิติ มาพิมพ์อาหารที่เหมาะแก่ผู้ป่วยที่ไม่สามารถกลืนอาหารได้เอง และคนสูงอายุที่เคี้ยวและกลืนอาหารลำบาก

เทคนิคการผลิตอาศัยส่วนผสมที่เป็นวัตถุดิบเช่นเดียวกับอาหารทั่วไปมาบดละเอียด ก่อนผสมด้วยสารพิเศษบางอย่าง แล้วใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติฉีดวัตถุดิบตั้งต้นออกมาเป็นชิ้นอาหาร โดยข้อมูลสารพิเศษที่ถูกผสมลงไปในเนื้ออาหารนั้นได้ถูกเก็บเป็นความลับของ Biozoon ผู้พัฒนางานพิมพ์ที่ว่านี้ โดยระบุได้แต่เพียงว่ามิได้ใช้การผสมเจลาตินหรือวุ้นเพื่อให้เกิดการแข็งตัวของอาหารแต่อย่างใด

ช่วงหลังมานี้เราได้เห็นการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติกับวัตถุดิบที่เป็นของกินมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งช็อกโกแลต น้ำตาล ฯลฯ และแล้วก็มาถึงคิวของการพิมพ์ผลไม้ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติจนได้

ผลงานการพิมพ์สามมิติกับผลไม้นี้เป็นของบริษัทสัญชาติอังกฤษ Dovetailed ซึ่งได้คิดค้นเครื่องพิมพ์ชื่อว่า 3D Fruit Printer ขึ้นมา โดยใช้เทคนิคการทำอาหารที่เรียกว่า molecular gastronomy ด้วยการหยดน้ำผลไม้ผสมกับกรดแอลจีนิคไปยังอ่างน้ำเย็นที่มีแคลเซียมคลอไรด์อยู่เพื่อให้น้ำผลไม้จับตัวกันและสร้างผิวรอบนอกของน้ำผลไม้ดังกล่าว ให้ได้ความรู้สึกเหมือนกัดผลไม้จริงๆ

เมื่อไม่นานมานี้ Autodesk เพิ่งประกาศทำเครื่องพิมพ์ 3 มิติของตัวเองในชื่อโครงการ Spark แต่ล่าสุดซีอีโอ Carl Bass ก็ออกมาให้ความเห็นว่าโลกเราตื่นเต้นกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติมากจนเกินไป (overhyped)

Bass ไปพูดที่งานสัมมนา Solid 2014 โดยบอกว่าเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นมีประโยชน์มาก แต่มันไม่ใช่สินค้าสำหรับคนทั่วไป เราไม่สามารถซื้อเครื่องพิมพ์ 3 มิติมาไว้ที่บ้านแล้ว "พิมพ์" อุปกรณ์ต่างๆ ใช้เองได้ กลุ่มคนที่ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติคืออุตสาหกรรมการผลิตต่างหาก เพราะมันช่วยให้การออกแบบรูปทรงที่ซับซ้อน (shape complexity) มีราคาเป็นศูนย์ เนื่องจากกระบวนการออกแบบอยู่ในคอมพิวเตอร์ทั้งหมดก่อนสั่งพิมพ์

ในบทความตอนแรกที่ปูพื้นฐานจำเป็นเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์สามมิติเอาไว้แล้ว ในตอนนี้เราจะมาพาไปรู้จักกับการพิมพ์สามมิติในเชิงปฏิบัติว่าจะต้องเตรียมการอย่างไรบ้าง มีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และต้องใช้อะไรในการพิมพ์บ้าง ผ่านวิธีการพิมพ์ยอดนิยมที่สุดอย่าง fused deposition modeling (FDM)

ในการเตรียมตัวก่อนเริ่มพิมพ์สามมิติ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม มีองค์ประกอบที่ต้องเตรียมให้เรียบร้อยก่อนเริ่มทำคล้ายๆ คือต้องมีตัวเครื่องพิมพ์สามมิติ มีวัตถุดิบสำหรับพิมพ์ มีโปรแกรมสำหรับควบคุมเครื่องพิมพ์ (Slicer) และมีแบบพิมพ์สามมิติ ซึ่งสกุลไฟล์ที่ใช้กันแพร่หลายคือ .STL

จะหาแบบพิมพ์สามมิติได้จากไหน

Autodesk เจ้าพ่อแห่งวงการซอฟต์แวร์ทำโมเดล 3 มิติ ประกาศรุกเข้าตลาดเครื่องพิมพ์ 3 มิติโดยจะทำ 2 เรื่องคือ

• แพลตฟอร์มเปิด (open platform) สำหรับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ใช้ชื่อว่า Spark ที่จะช่วยให้กระบวนการพิมพ์โมเดล 3 มิติทำได้ง่ายขึ้นและควบคุมได้มากกว่าเดิม แพลตฟอร์มนี้จะเปิดให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์นำไปใช้งานได้ฟรี
• เครื่องพิมพ์ 3 มิติต้นแบบ (a reference implementation) สำหรับ Spark เพื่อแสดงศักยภาพของแพลตฟอร์ม โดยจะเปิดเผยดีไซน์ของเครื่องพิมพ์ตัวนี้เพื่อกระตุ้นให้คนนำไปพัฒนาต่อ

ตอนนี้ยังมีแค่ภาพของเครื่องพิมพ์ต้นแบบ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทาง Autodesk บอกว่าจะเปิดเผยเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้

ตำรวจในประเทศญี่ปุ่น พบว่ามีการโพสต์ภาพปืนที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติในการผลิตและนำเสนออย่างโจ่งแจ้งบนโลกสังคมออนไลน์

ผู้กระทำความผิดนาย โยชิโมโต อิมูระ ( 27 ปี) ได้พิมพ์ปืน 3มิติ ออกมาจำนวน 10กระบอก และพิสูจน์ได้ว่าปืนเหล่านั้นมีคุณสมบัติในการฆ่าหรือทำร้ายผู้คนได้ นอกจากนี้ตำรวจยังคนพบไฟล์แม่แบบในการพิมพ์ปืน 3 มิติในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่เชื่อว่าดาวน์โหลดมากจากอินเตอร์เน็ต

ผู้กระทำความผิดกล่าวไว้ว่า “ ผมพิมพ์ปืนเหล่านี้ออกมาเพื่อใช้ในบ้าน และผมไม่คิดว่าจะผิดกฎหมาย” นอกจากนี้ใน Twitter ส่วนตัวของนายโยชิโมโต อิมูระ ยังมีการแสดงความคิดเห็นถึงความเหมาะสมในการผลิตและครอบครองปืน ตัวอย่างหนึ่งในความคิดเห็นนั้นคือ "การไม่ให้ครอบครองปืนเป็นสิ่งที่กระทบสิทธิมนุษยชน"

ในงาน TechCrunch Disrupt ได้มีการแนะนำสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่ชื่อ Mink ซึ่งมันคือเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถผลิตเครื่องสำอางหลากสีสันไว้ใช้งานได้เองภายในบ้าน

ในการใช้งาน Mink ผู้ใช้สามารถเลือกผสมสีเครื่องสำอางได้เอง ไม่ว่าจะเป็นสีจากรูปในอินเทอร์เน็ต หรือสีจากภาพถ่ายวัตถุจริงที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน โดยเครื่องพิมพ์จะผสมสัดส่วนแม่สีให้ได้ส่วนผสมที่มีเฉดสีตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ทั้งนี้ Mink สามารถผลิตเครื่องสำอางได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นลิปสติกทาปาก, อายแชโดว์ หรือแป้งบลัช

ท่ามกลางนวัตกรรมใหม่ๆ จำนวนมากที่เกิดดับในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ยังมีหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ จากความสามารถในการดัดแปลงไปใช้กับอุตสาหกรรมได้อย่างกว้างขวาง และเริ่มเข้าไปสู่บ้านของคนทั่วไปมากขึ้น ด้วยราคาของเทคโนโลยีที่กำลังลดลงอยู่ทุกขณะ แน่นอนว่าเทคโนโลยีที่พูดถึงนี้คงหนีไม่พ้นการพิมพ์สามมิติ (3D Printing) หรือพูดให้ถูกกว่าคือการผลิตแบบดิจิทัลที่ลดรูปจากเครื่อง CNC ที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรมนั่นเอง

ผลงานล่าสุดของ Disney Research ในตอนนี้คือการทดลองสร้างตุ๊กตาหมีจากวัสดุสิ่งทอโดยใช้เทคนิคการพิมพ์ 3 มิติ

ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าการพิมพ์ แต่การทดลองวิจัยในครั้งนี้ไม่ได้ใช้การพ่นเนื้อวัสดุเพื่อขึ้นรูป หากแต่เป็นการถักทอเส้นด้ายต่อกันทีละน้อยทีละชั้น จนได้เป็นวัตถุมีรูปทรงตามต้องการ (ตัวอย่างเช่นตุ๊กตาหมี) ซึ่งชิ้นงานที่ได้ก็จะมีรูปทรงตามแบบที่วาดไว้ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หากแต่สิ่งที่ต่างออกไปจากผลงานการพิมพ์ 3 มิติทั่วไป คือแทนที่จะได้ชิ้นงานซึ่งมีความแข็งเกร็ง ก็จะได้ชิ้นงานที่มีความยืดหยุ่นและมีผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่มนั่นเอง

สำนักข่าว Xinhua รายงานว่าบริษัท WinSun ในประเทศจีนทำการสร้างบ้านด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ จำนวน 10 หลัง แล้วเสร็จภายในเวลา 24 ชั่วโมง

WinSun ใช้เครื่องพิมพ์ขนาดกว้าง 6.6 เมตร ยาว 10 เมตร ทำการพิมพ์โดยพ่นปูนซีเมนต์ผสมกับเศษวัสดุก่อสร้างเพื่อขึ้นรูปผนังคอนกรีต ซึ่งเมื่อรวมกับวัสดุก่อสร้างอื่นแล้ว ต้นทุนในการสร้างบ้านหนึ่งหลังด้วยการพิมพ์นี้ตกหลังละ 5,000 ดอลลาร์ ซึ่งบ้านที่ได้จากการลงมือสร้างของ WinSun ในครั้งนี้ แม้ว่าจะเรียบง่ายมีเพียง 1 ห้องต่อหลัง และห้องดังกล่าวมีเพียงผนัง 2 ด้านเท่านั้น แต่ WinSun ก็มั่นใจว่าพวกเขาสามารถสร้างบ้านแบบใดก็ได้ขอเพียงมีแบบสำหรับการพิมพ์เท่านั้น

เหล่าสถาปนิกใน Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้เริ่มงานก่อสร้างบ้านจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ขนาดเท่าจริง โดยอาศัยเครื่องพิมพ์ 3 มิติขนาดใหญ่

โครงการนี้เป็นของ Dus ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิก โดยมีงานประกาศเริ่มโครงการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาและคาดว่าจะใช้เวลาราว 3 ปีจึงจะแล้วเสร็จ แนวคิดคือการสร้างบ้านริมคลอง Amsterdam ทั้งนี้เป้าหมายสำคัญของโครงการนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อพิสูจน์แนวคิดความเป็นไปได้ของงานออกแบบ และส่วนหนึ่งก็เพื่อจัดแสดงในเชิงงานศิลปะ โดย Dus เองได้เปิดพื้นที่ก่อสร้างให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในระหว่างการทำงานได้ด้วย

Hewlett-Packard เตรียมเข้าสู่ธุรกิจการพิมพ์สามมิติในเดือนมิถุนายนนี้ หลัง Meg Whitman ซีอีโอของบริษัทออกมาประกาศว่านักวิจัยภายในบริษัทได้แก้ปัญหาใหญ่สองประการเกี่ยวกับการพิมพ์สามมิติ กล่าวคือระยะเวลาในการพิมพ์ที่ "นานอย่างกับเวลานั่งดูน้ำแข็งละลาย" และปัญหาเรื่องของสารตั้งต้นที่ทำให้ความทนทานไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น

ผู้บริหารของ HP คาดการณ์ว่าตลาดการพิมพ์สามมิติทั่วโลกจะเติบโตจากราว 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2012 สู่ราว 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2021

ที่มา - Reuters

ยุคของเครื่องพิมพ์สามมิติยังพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ หลังจากเริ่มมีผู้ผลิตหลายรายวางจำหน่ายเครื่องพิมพ์สามมิติราคาถูกลง ก็มีผู้ผลิตอีกกลุ่มที่ขยายขนาดของเครื่องพิมพ์สามมิติให้สามารถผลิตสิ่งของที่ขนาดใหญ่ขึ้นไปอีกระดับแล้ว

เครื่องพิมพ์สามมิติขนาดใหญ่นี้คือ BigRep One ที่มาพร้อมกับขนาด 1.15 x 1.0 x 1.19 เมตร (1.3 ลูกบาศ์กเมตร) ด้วยขนาดระดับนี้ สามารถใช้ผลิตอุปกรณ์ตัวต้นแบบเท่าขนาดจริง หรือแม้แต่ชิ้นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ก็ยังได้

ตัว BigRep One นอกจากจะใช้ได้กับทั้งไนลอน และพลาสติกมาตรฐานสำหรับงานผลิตบนเครื่องพิมพ์สามมิติ ยังใช้ได้กับ Laywood โพลิเมอร์ผสมกับใยไม้ที่ออกมาเป็นวัสดุคล้ายกับไม้จริงๆ ได้ รวมถึงยังมีฟีเจอร์ทำลายหินทรายด้วยการผสมวัสดุอีกด้วย

มือถือ Jolla วางขายไปแล้ว แต่กระแสตอบรับยังดูเงียบๆ เพราะเปิดตัวเฉพาะในฟินแลนด์ (ล่าสุดขยายให้ครอบคลุมยุโรปด้วย) ซึ่งทางบริษัทเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามสร้าง ecosystem ของตัวเองให้กว้างขึ้น

จุดเด่นของ Jolla คือฝาหลังที่เรียกว่า The Other Half หรือ TOH (ข่าวเก่า) ซึ่งเชื่อมต่อกับตัวเครื่องด้วย NFC และถือเป็นลูกเล่นทางฮาร์ดแวร์ที่จะเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของซอฟต์แวร์ในเครื่องไปเรื่อยๆ (เบื้องต้นยังทำได้แค่เปลี่ยนธีมตามฝาหลัง)

เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ รุดหน้าไปอีกขั้น เมื่อ Stratasys ถือโอกาสเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3 มิติหลากสีจากหลายวัสดุเป็นครั้งแรกของโลก ต้อนรับงาน SolidWorks World 2014

Adobe เพิ่มชุดเครื่องมือใหม่ให้แก่ Photoshop รองรับการออกแบบเพื่องานพิมพ์ 3 มิติ

เดิมทีนั้น Photoshop มีฟีเจอร์สำหรับงานโมเดล 3 มิติอยู่ก่อนแล้ว แต่เพื่อต่อยอดกับระบบการพิมพ์ 3 มิติ จึงมีการเพิ่มความสามารถใหม่ให้ผู้ใช้สามารถตกแต่งโมเดลและสั่งพิมพ์ชิ้นงานด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติได้โดยสะดวกยิ่งขึ้น

หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่นั้น คือการเพิ่มชิ้นส่วนโครงสร้างเสริมความแข็งแรงให้แก่โมเดลโดยอัตโนมัติ เนื่องจากในบางครั้งโมเดล 3 มิติที่สร้างขึ้นในคอมพิวเตอร์อาจมีจุดอ่อนที่เปราะบางและแตกหักได้ง่ายในระหว่างการพิมพ์เป็นชิ้นงานจริง ซึ่ง Photoshop จะเพิ่มชิ้นส่วนเพื่อเสริมความแข็งแรงให้แก่ชิ้นงานเพื่อป้องกันปัญหานี้

ถ้ายังจำกันได้ โมโตโรล่าประกาศโครงการ Ara โทรศัพท์ปรับสเปคเองได้ด้วยการถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนของฮาร์ดแวร์ วันนี้มีความคืบหน้าของโครงการนี้ครับ

Motorola ประกาศเซ็นสัญญาความร่วมมือกับบริษัทเครื่องพิมพ์สามมิติ 3D Systems ในการพัฒนาโครงการ Ara ร่วมกัน โดย Motorola จะเข้าถึงแพลตฟอร์มการพิมพ์แบบและความเชี่ยวชาญเรื่องวัสดุของ 3D Systems เพื่อใช้ในโครงการ Ara ต่อไป ตอนนี้ Motorola เปิดเว็บไซต์สำหรับโครงการนี้แล้วในชื่อ MAKEwithMOTO

ฟีเจอร์สำคัญอย่างหนึ่งของ Windows 8.1 คือรองรับ 3D printer (คำอธิบายแบบละเอียด) อย่างไรก็ตาม เครื่องพิมพ์ 3 มิติยังถือว่าเป็นของใหม่ทั้งในแง่ความแพร่หลายของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

ในแง่ของฮาร์ดแวร์คงต้องค่อยๆ ให้ราคาของเครื่องพิมพ์ 3 มิติลดลงมาตามกาลเวลา ส่วนฝั่งซอฟต์แวร์ ไมโครซอฟท์ก็กระตุ้นตลาดด้วยการออกแอพ 3D Builder ให้ผู้ใช้ Windows 8.1 ลองปั้นโมเดล 3 มิติกันแบบง่ายๆ ก่อนจะนำไปผลิตเป็นวัตถุจริงในอนาคตต่อไป

กระแสเครื่องพิมพ์สามมิตินั้นเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในปีนี้ และเริ่มมีบริษัทรายใหญ่เอาไปใช้จริงกันบ้างแล้ว แม้จะยังมีแต่บริษัทไอทีก็ตาม ล่าสุดเชนร้านอาหารแฟรนไชส์รายใหญ่อย่างแมคโดนัลด์อาจนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้บ้างแล้ว

แนวทางที่แมคโดนัลด์จะหยิบเครื่องพิมพ์สามมิติไปใช้คือนำไปผลิตของเล่นชิ้นเล็กๆ ที่แถมไปกับชุด Happy Meals โดยแนวคิดนี้มาจาก Mark Fabes ผู้จัดการฝ่ายไอทีของแมคโดนัลด์สาขาสหราชอาณาจักร

ถ้าหากแผนนี้มีการใช้จริง นั่นหมายความว่าจะแก้ปัญหาของหมดที่เกิดขึ้นกับตัวละครดังๆ ได้ แต่คงยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เนื่องจากถ้ายักษ์อย่างแมคโดนัลด์จะเข้าไปทำธุรกิจกับอะไรที่เป็นไอที คงต้องหาคู่ค้ารายใหญ่มากมาร่วมด้วย