ตอกย้ำตลาดขาลงแทบเล็ตเมื่อ Dell ออกมาบอกว่า จะไม่ทำแท็บเล็ตแอนดรอยด์ซีรี่ส์ Venue แล้ว โดยตอนนี้จะโฟกัสที่ผลิตภัณฑ์ 2-in-1 เท่านั้น

โฆษกบริษัท Dell บอกว่า ตลาดแท็บเล็ตตอนนี้มันเกินคำว่าอิ่มตัวไปแล้ว เราจึงตัดสินใจไม่ทำต่อ โดยเราจะโฟกัสที่ผลิตภัณฑ์ 2-in-1 ซึ่งสามารถเรียกความสนใจจากลูกค้าที่ต้องการฟังก์ชั่นแบบ PC ในแท็บเล็ต

Kirk Schell รองประธานฝ่ายโซลูชั่นของ Dell ยังเขียนบล็อกลงในเว็บไซต์ว่า เหตุใดแท็บเล็ตจะไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป เขาบอกว่า 2-in-1 มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่า ให้ประสบการณ์แบบ laptop-first ในขณะเดียวกันก็มีความสะดวกสบายแบบแท็บเล็ตด้วย

ที่มา - The Verge

วันนี้ Samsung ประกาศเปิดตัว Notebook 7 spin โน้ตบุ๊กตัวใหม่ของบริษัทที่เน้นเล่นสื่อบันเทิงโดยเฉพาะ โดยมาในรูปแบบของ 2-in-1 (convertible) และยังคงคุณสมบัติที่ให้ผู้ใช้อัพเกรดแรมได้ด้วยตัวเอง

มาในสองขนาดคือ 13.3 นิ้ว และ 15.6 นิ้ว หน้าจอ Full HD ทั้งหมดทุกขนาด ใช้หน่วยประมวลผลกลางเป็น Intel Core i5 หรือ i7 พร้อมกับขนาด 1 TB และรุ่นสูงสุดมาพร้อม SSD ขนาด 128 GB ส่วนแรมมีทั้ง 8/12/16 GB แบบ DDR4 หน่วยประมวลกราฟิกแตกต่างกันไปตามรุ่น (สเปกเต็มท้ายข่าว)

ราคาเริ่มต้นที่ 799.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 28,000 บาท) สำหรับรุ่น 13.3 นิ้ว และ 999.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 35,000 บาท) วางจำหน่ายสัปดาห์นี้ (26 มิถุนายน) ในสหรัฐอเมริกาครับ

ที่มา - Samsung ผ่านระบบ Business Wire

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Jide Tech บริษัทที่ทำ Remix OS ก่อตั้งโดยอดีตพนักงานของ Google จากประเทศจีน แถลงเปิดตัว Remix Pro แท็บเล็ตตัวใหม่แทน Ultratablet ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่แล้ว และประกาศความร่วมมือกับ Acer ออกโน้ตบุ๊กที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Remix OS มาตั้งแต่ต้น

ทิศทางของตลาดแท็บเล็ตมียอดขายตกลงอย่างชัดเจน และตัวเลขพยากรณ์ล่าสุดของ IDC ก็ระบุว่ายอดขายในปี 2016 จะลดลงจากยอดในปี 2015 อีก 9.6% แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาโตขึ้น จนกว่าจะถึงปี 2018 ที่ IDC คาดว่าจะกลับมาเติบโตอีกเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีทางกลับมาโตเท่าช่วงก่อนปี 2015 ได้อีกแล้ว

IDC บอกว่าสภาพตลาดแท็บเล็ตจะคล้ายกับตลาดพีซีช่วงก่อนหน้านี้ แต่ผู้ผลิตแท็บเล็ตก็เริ่มปรับตัวจากการขายแท็บเล็ตแบบดั้งเดิม (slate tablet) มาเป็นการขายแท็บเล็ตลูกผสมโน้ตบุ๊ก (detachable tablet) แทน แม้แต่แอปเปิลก็ยังลงมาเล่นตลาดนี้ และปีนี้เราเริ่มเห็นสินค้ากลุ่มนี้ออกสู่ตลาดกันมากขึ้น ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยถูกลง ตอนนี้แท็บเล็ตแบบ detachable มีส่วนแบ่ง 16% ของตลาดแท็บเล็ตทั้งหมด แต่สัดส่วนจะเพิ่มเป็น 31% ในปี 2020

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Samsung อินเดีย แถลงเปิดตัว Galaxy Tab Iris แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดที่รวมเอาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านม่านตา (Iris) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแท็บเล็ต และรองรับระบบชำระเงินของรัฐบาลอินเดีย Aadhaar ด้วย

แท็บเล็ตดังกล่าวนี้ได้รับการรับรองว่าผ่านมาตรฐานทั้ง STQC, UIDAI (ระบบยืนยันตัวตนของรัฐบาลอินเดีย) และของ Aadhaar โดยพัฒนาขึ้นจากแผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัทที่ตั้งอยู่ในอินเดีย Samsung ระบุว่าการเพิ่มคุณสมบัติยืนยันตัวตนผ่านการสแกนม่านตา จะทำให้ประชาชนชาวอินเดียเข้าใช้บริการที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และจะเปิด SDK ให้นักพัฒนาสามารถใช้คุณสมบัติดังกล่าวได้ด้วย (ตัวสแกนม่านตาอยู่ด้านหลังของเครื่อง คู่กับกล้อง)

เว็บไซต์ Neowin ได้รับคำยืนยันจาก HTC ว่าเลิกผลิตแท็บเล็ต Nexus 9 ล็อตใหม่แล้ว แต่ยังวางขายสินค้าอยู่เท่าที่มีในสต๊อก

อุปกรณ์สาย Nexus ที่เปิดตัวในปี 2014 มีทั้งหมด 3 ตัวคือ Nexus 6 ที่ประกาศเลิกขายตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว, Nexus Player ที่เลิกขายเมื่อวานนี้ และตัวสุดท้ายคือ Nexus 9 ที่ใกล้ถึงเวลาของมันแล้วเช่นกัน

ตอนนี้เท่ากับว่ากูเกิลมีอุปกรณ์ Nexus ที่ยังขายอยู่เพียง 2 ตัวคือ Nexus 5X (รีวิว) และ Nexus 6P (รีวิว) ครับ

หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานข่าวลือว่า Lab126 หน่วยงานผลิตและวิจัยด้านฮาร์ดแวร์ของ Amazon กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาอุปกรณ์ชิ้นใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับแท็บเล็ต ซึ่งผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์ผ่าน Amazon Alexa ผู้ช่วยส่วนตัวของ Amazon ที่เปิดตัวมาพร้อมกับ Amazon Echo เมื่อปลายปี 2014

รายงานข่าวระบุว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้จะเป็นหน้าจอที่ให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ในยามที่มือไม่ว่าง และสามารถแสดงข้อมูลที่ต้องการขึ้นมาได้จากหน้าจอโดยตรง ทั้งนี้ยังไม่มีการระบุว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้จะปล่อยสู่ตลาดเมื่อใดครับ

เว็บไซต์ Liliputing รายงานว่า Nvidia กำลังทำแท็บเล็ตตัวใหม่ที่อาจเป็นรุ่นต่อของแท็บเล็ต SHIELD จากข้อมูลที่บริษัทส่งให้กับ FCC เพื่อขออนุมัติในการทำตลาด โดยมีรหัสรุ่นว่า P2290W

ข้อมูลสเปกจากเอกสารที่ Nvidia ส่งให้กับทาง FCC นั้นมีน้อยมาก นอกจากระบุว่าแท็บเล็ตตัวนี้จะรองรับ Wi-Fi ที่ความถี่ 2.4 และ 5 GHz, ใช้ micro USB, รองรับ Bluetooth และ Bluetooth LE, มีขนาดที่ 8.6 x 4.8 x 0.3 นิ้ว และหนัก 12.3 ออนซ์ (ประมาณ 300 กรัม)

ยังไม่มีข้อมูลว่าแท็บเล็ตตัวนี้จะเปิดตัวเมื่อใดและใช้ชื่อในการทำตลาดว่าอะไร ทั้งนี้ในอดีต Nvidia มีแท็บเล็ตในตระกูล SHIELD ออกมาตั้งแต่ปี 2014

บริษัทวิจัยข้อมูล 1010data ออกมาเปิดเผยเบื้องต้นถึงรายงานการวิจัยของตนเองที่ระบุว่า แท็บเล็ตแบบ 2-in-1 ลูกผสม (เรียกว่า "laplet") เช่น Surface กำลังได้รับความนิยมและถือเป็นกลุ่มแท็บเล็ตที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

บริษัทระบุว่า แม้ Apple iPad จะยังครองส่วนแบ่งได้ที่ 32.5% ของตลาดรวมทั้งหมด แต่แท็บเล็ตกลุ่มลูกผสมเหล่านี้กำลังกินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ Surface Book ของ Microsoft สามารถทำส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นได้ถึง 9% ทำให้ Microsoft มีส่วนแบ่งในตลาดเป็นอันดับสองที่ 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสแล้ว ขณะที่ Apple กลับมียอดส่งมอบ iPad คงที่ไม่เปลี่ยนแปลงนัก

รายงานวิจัยฉบับเต็มจะเผยสู่สาธารณะในสัปดาห์หน้าครับ

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Samsung ประเทศเยอรมนี ประกาศเปิดตัว Galaxy Tab A 10.1 (2016) อย่างเป็นทางการ โดยปรับสเปกให้ทันสมัยขึ้น รวมถึงเปลี่ยนขนาดหน้าจอให้ใหญ่กว่าเดิม

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นที่แล้วอย่างชัดเจนคือขนาดหน้าจอ โดยปรับมาอยู่ที่ 10.1 นิ้ว ที่ความละเอียด 1,920 x 1,200 พิกเซล (อัตราส่วนหน้าจอปรับเป็น 16:10 แทนที่จะเป็น 4:3 แบบรุ่นที่แล้ว), แรมเป็น 2 GB, ใช้หน่วยประมวลผลไม่ระบุผู้ผลิตที่ความถี่ 1.6 GHz แบบ 8 แกนประมวลผล หน่วยความจำภายใน 16 GB และรองรับ microSD สูงสุด 200 GB (สเปกเต็มอ่านได้จากท้ายข่าว) ส่วนที่หายไปแน่นอนในรุ่นนี้คือ S Pen

วันนี้ Xiaomi เปิดตัว Mi Max อุปกรณ์ phablet จอใหญ่ โดยมีสเปคดังนี้

• หน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว พร้อมบอดี้โลหะ
• ชิปเซ็ต Snapdragon 650 และ 652
• แรม 3GB และ 4GB ความจุ 32GB, 64GB และ 128GB
• แบตเตอรี่ความจุ 4,850 mAh
• พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และเซ็นเซอร์อินฟาร์เรด
• กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซลพร้อม PDAF กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ไวด์กว้าง 85 องศา
• รองรับ 2 ซิมพร้อมโหมด dual-standby
• ตัวเครื่องบาง 7.5 มิลลิเมตร

Mi Max มีให้เลือกสามสีคือขาว ดำ (Dark Grey) และทอง โดยรุ่นความจุ 32GB (แรม 3GB และ Snapdragon 650) ราคาอยู่ที่ 1,499 หยวน, ความจุ 64GB (แรม 3GB และ Snapdragon 652) ราคาอยู่ที่ 1,699 หยวน และรุ่นความจุ 128GB (แรม 4GB และ Snapdragon 652) ราคา 1,999 หยวน

ที่มา - MIUI, @xiaomi

โฆษกอินเทลเผยว่า บริษัทได้ยกเลิกการพัฒนาชิป Atom รหัส Sofia กับ Broxton โดยจะโยกทรัพยากรไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่าและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท

จากการยกเลิกดังกล่าวทำให้ยังไม่มีชิปมาแทนชิปรุ่นเดิมในแผนชิปสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต (เข้าใจว่าไม่รวมอุปกรณ์ 2-in-1 เพราะข่าวระบุว่า tablet-only) ทั้งนี้บริษัทได้เริ่มส่งมอบชิปรหัส Sofia แล้ว ส่วน Broxton ถูกเลื่อนส่งมอบไปจากแผนเดิมในปีนี้

บริษัทยังยกเลิก Atom X5 ซึ่งถูกใช้ในอุปกรณ์หลากรุ่น โดยชิปดังกล่าวอยู่ในแผนถูกเปลี่ยนผ่านเป็นชิปรหัส Apollo Lake ทั้งนี้ โฆษกยืนยันว่าบริษัทจะให้การสนับสนุนชิปดังกล่าวต่อไป และผู้ผลิตหลายรายหันไปใช้ Core M สำหรับอุปกรณ์ไฮบริดและแท็บเล็ตที่เน้นประสิทธิภาพแบบพีซีแล้ว

Amazon Fire แท็บเล็ตราคาถูก 50 ดอลลาร์ เปิดขายมาได้ราว 8 เดือน ล่าสุด Amazon บอกว่าขายได้เป็นหลักล้านเครื่องแล้ว (ตามสไตล์ Amazon จะไม่บอกตัวเลข บอกแค่ "millions") ถือเป็นแท็บเล็ตที่ขายดีที่สุดของ Amazon นับตั้งแต่ทำแท็บเล็ตตระกูล Kindle Fire ออกมา

Amazon ยังเปิดขาย Fire สีใหม่อีก 3 สีคือม่วง น้ำเงิน ส้ม และออกรุ่นพิเศษสำหรับเด็ก Fire Kids Edition สีเขียวเพิ่มมา รวมถึงออกรุ่น Kids Edition ความจุ 16GB เพิ่มมาให้เลือกด้วย

เท่าที่ดูจากหน้าเว็บ Amazon ตอนนี้ ยังลดราคาพิเศษเหลือ 39.99 ดอลลาร์ด้วยครับ

ที่งาน Next@Acer ณ นครนิวยอร์ก เมื่อวานนี้ Acer ได้เปิดตัว Switch Alpha 12 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตแบบ 2-in-1 ที่ออกแบบมาเหมือนกับ Surface หรือ HP Spectre X2 แทบจะทุกประการ

จุดเด่นของ Switch Alpha 12 นอกจากหน้าจอจะรองรับปากกา (Acer เรียกว่า Active Pen) แล้ว ยังใส่ความละเอียดมาถึง 2,160x1440 พิกเซล และมีอุปกรณ์เป็น dock ให้เชื่อมต่อความสามารถอื่นๆ ใช้ซีพียูเป็น Intel Core ตระกูล i และใช้แนวทางในการระบายความร้อนด้วยการใช้ของเหลว ทำให้ไม่มีพัดลมมาในตัว มีน้ำหนักเพียง 900 กรัมเท่านั้น

ราคาเริ่มต้นที่ 599 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 21,000 บาท) วางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคมนี้

ที่มา - Acer

หลังจากที่ Canonical จับมือกับ Bq ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากยุโรป เปิดตัว Aquaris M10 แท็บเล็ตตัวแรกของ Ubuntu ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดทางบริษัทได้เปิดจองอย่างเป็นทางการแล้ว โดยกำหนดจะส่งมอบสินค้าในครึ่งหลังของเดือนนี้ (เมษายน)

วางจำหน่ายเป็นสองรุ่น รุ่นหน้าจอแบบ HD (1280x800 พิกเซล) สีขาว ราคาอยู่ที่ 259.90 ยูโร (ประมาณ 10,000 บาท) และรุ่นหน้าจอแบบ Full HD (1920x1200 พิกเซล) สีดำ ราคาอยู่ที่ 299.90 (ประมาณ 12,000 บาท) ยังไม่รวมค่าส่ง โดยระบุว่าจะเริ่มจัดส่งให้ตั้งแต่ครึ่งหลังของเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป

ใครสนใจก็สั่งซื้อได้ครับ

ไม่ใช่แท็บเล็ตจริงๆ แต่ถือเป็นของเล่นที่น่าสนใจไม่น้อยครับ เมื่อ Xiaomi จับมือกับผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของโลก Hasbro (เจ้าของ Transformer นั่นล่ะ) ออกแท็บเล็ตที่หน้าตาเหมือนกับ Mi Pad 2 แต่สามารถแปลงร่างเป็นหุ่น Soundwave จากซีรีส์ Transformers ได้ (ตัวจริงในการ์ตูน แปลงร่างมาจากวิทยุคาสเซ็ต ส่วนในหนังเป็นตัวเครื่องบิน/ดาวเทียม)

แท็บเล็ตตัวนี้เป็นโครงการระดมทุนแบบ crowdfunding ในประเทศจีน ราคาขายตัวละ 169 หยวน (ประมาณ 950 บาท) ตอนนี้ระดมทุนครบจำนวนเรียบร้อย ของจะส่งในเดือนพฤษภาคมนี้

เว็บไซต์ในเครือ Red Dot เผย Acer Aspire Alpha 12 S อุปกรณ์ไฮบริดแนว Surface Pro ที่ยังไม่ได้รับการเปิดตัว

Aspire Alpha 12 S มากับคีย์บอร์ดทรง Surface Pro 3/4 (ซึ่งอาจรวมถึงปลอกคล้องปากกาที่ด้านข้างคีย์บอร์ด) และขาตั้งแบบเฟรมรูปตัว U ส่วนกรอบแท็บเล็ตทำด้วยวัสดุอะลูมิเนียม แท็บเล็ตไม่มีพัดลมระบายความร้อนแต่มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบ Cardiac

ต้องมาตามกันว่าในงานแถลงข่าว 21 เม.ย. จะเผยโฉม Aspire Alpha 12 S หรือไม่ครับ

ที่มา: Red Dot 21 ผ่าน Notebook Italia ผ่าน MSPoweruser

หลังจากเมื่อวันที่ 21 มีนาคม Apple ประกาศเปิดตัว iPad Pro 9.7 นิ้ว และ iPhone SE วันนี้ก็เป็นวันแรกที่เริ่มวางขายอย่างเป็นทางการ ผมจึงถือโอกาสไปลองจับผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวแบบคร่าวๆ และถ่ายทอดออกมาเป็นลองจับสั้นๆ ให้ผู้อ่านครับ

บริษัทวิจัย IDC ออกมาพยากรณ์ว่า "แท็บเล็ตแบบมีคีย์บอร์ด" (detachable) จะเติบโตมากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า จากปี 2015 มีสัดส่วน 5% ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก (Western Europe) ทั้งหมด จะเพิ่มเป็น 20% ในปี 2020 โดยอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะรัน Windows 10

IDC มองว่าพีซีแบบดั้งเดิมจะมียอดขายหดตัวลงเรื่อยๆ ส่วนอุปกรณ์แบบ detachable จะเติบโตเฉลี่ย 30% ทุกปี ปัจจัยหนุนที่สำคัญคือบริษัทหลายรายร่วมบุกเข้าตลาดนี้กันมากขึ้น และผู้บริโภคจะต้องการอุปกรณ์ที่มีคีย์บอร์ดมากขึ้น กลุ่มผู้ใช้ระดับโปรยังจะเลือกอุปกรณ์กลุ่มนี้มาแทนโน้ตบุ๊กด้วย

IDC ประเมินว่า Windows 10 จะไม่ช่วยผลักดันให้คนเปลี่ยนพีซีเร็วขึ้น แต่จะช่วยเร่งให้คนหันมาใช้อุปกรณ์พกพาแบบใหม่ๆ กันมากขึ้นแทน

ถัดจากการเปิดตัว iPad Pro 9.7 นิ้ว แอปเปิลก็ประกาศลดราคา iPad ดั้งเดิมสองตัว คือ iPad mini 2 เหลือ 9,900 บาท (269 ดอลลาร์) ขณะที่ iPad Air 2 ลดราคาจาก 16,900 บาท (499 ดอลลาร์) เหลือ 14,400 บาท (399 ดอลลาร์)

ขณะที่ประกาศลดราคาชื่อ iPad ที่แสดงบนเวทีกลับแสดงเพียง iPad mini เท่านั้น แต่หลังจบประกาศก็ยังมีทั้ง iPad mini 2 และ mini 4 ขายคู่กันเหมือนเดิม ที่ประหลาดคือราคาในไทย iPad mini 4 จะอยู่ที่ 13,400 บาท ทั้งที่ราคาในสหรัฐฯ เท่ากับ iPad Air 2

iPad mini 2 เปิดตัวตั้งแต่ปี 2013 การปรับลดราคาเช่นนี้เราคงเห็นมันวางขายไปอีกระยะครับ

แอปเปิลเปิดตัว iPad Pro ขนาด 9.7 นิ้วตามข่าวลือ ความสามารถเหมือนกับ iPad Pro รุ่นจอ 12 นิ้วทุกประการ ซีพียูเป็น Apple A9X, กล้องหลัง iSight 12MP, กล้องหน้า 5MP

อุปกรณ์เสริมของ iPad Pro ยังใช้ปากกา Apple Pencil ตัวเดิม ส่วนคีย์บอร์ด Smart Keyboard ออกรุ่นใหม่ที่ขนาดพอดีกับหน้าจอ 9.7 นิ้วด้วย

iPad Pro 9.7 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 599 ดอลลาร์ (32GB, ถูกกว่ารุ่นจอใหญ่ 200 ดอลลาร์) และเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลออกอุปกรณ์ความจุ 256GB มาด้วย ราคา 899 ดอลลาร์

เราทราบกันดีว่าตลาดฮาร์ดแวร์ทั้งพีซี และแท็บเล็ตยอดตกลงอย่างต่อเนื่องในรอบ 1-2 ปีมานี้ แต่สินค้ากลุ่มที่เติบโตสวนกระแสตลาดคือ "เกมมิ่ง" ซึ่งที่ผ่านมา เราเห็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊กหลากหลายแบรนด์ออกวางขายอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดตลาดเกมมิ่งก็ลามจากโน้ตบุ๊กมาเป็น "เกมมิ่งแท็บเล็ต" บ้างแล้ว

ตลาดแท็บเล็ตสำหรับเกมเมอร์ เริ่มบุกเบิกโดย NVIDIA Shield แต่ช่วงหลัง ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นเริ่มเข้ามาลุยบ้างเช่นกัน ค่าย Acer ที่มีโน้ตบุ๊กและพีซีแบรนด์ Predator ก็ขอร่วมวงกับเขาด้วย Acer Predator 8 เกมมิ่งแท็บเล็ตตัวแรกของบริษัท

ใกล้ถึงงานแถลงข่าว 21 มีนาคม ของแอปเปิลเข้ามาเรื่อยๆ ข่าวลือเรื่อง iPad Pro จอเล็ก 9.7" ก็ออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

ข่าวล่าสุดมาจากเว็บไซต์ 9to5mac เจ้าเดิม โดยบอกราคาของ iPad Pro รุ่นจอ 9.7" ว่าจะเริ่มที่ 599 ดอลลาร์ สำหรับรุ่น 32GB/Wi-Fi ส่วนรุ่นท็อปสุดมีความจุ 128GB/LTE แต่ยังไม่มีราคาหลุดออกมา

ตอนนี้แอปเปิลขาย iPad Air 2 หน้าจอ 9.7" ความจุ 16GB ที่ 499 ดอลลาร์ และขาย iPad Pro หน้าจอ 12.9" ความจุ 32GB/Wi-Fi ที่ 799 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม 9to5mac บอกว่า iPad Pro จอเล็กจะไม่ได้มาแทน iPad Air 2 แต่จะวางขายคู่กันไป ในฐานะผลิตภัณฑ์ที่จับตลาดผู้ใช้คนละกลุ่ม

IDC ออกมาประเมินยอดขายแท็บเล็ตโลกปี 2016 ว่าจะขายได้ 195 ล้านเครื่อง ลดลง 5.9% จากปี 2015

อย่างไรก็ตาม ตลาดใหม่ที่กำลังเติบโตคือตลาดแท็บเล็ตแบบไฮบริด (detachable tablet) ที่จะเติบโตจาก 16.6 ล้านเครื่องในปี 2015 เป็น 63.8 ล้านเครื่องในปี 2020 ตัวอย่างสัญญาณที่เด่นชัดคือเราเริ่มเห็นผู้ผลิตหน้าใหม่ๆ อย่าง Alcatel และ Huawei เริ่มบุกเข้ามาในตลาดนี้แล้ว

IDC มองว่าระบบปฏิบัติการเจ้าตลาดนี้คือ Windows 10 ซึ่งตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาด 53.3% ตามด้วย iOS 28.5% และ Android 18.2% เหตุผลสำคัญคือ Windows เป็นระบบปฏิบัติการเดียวที่ครบเครื่องทั้งด้านจอสัมผัสและอินพุตแบบของเดิม ในขณะที่แอปเปิลไม่รองรับจอสัมผัสบน OS X และฝั่งกูเกิลยังแยก Android กับ Chrome OS จากกันอยู่

Lava ผู้ผลิตโทรศัพท์สัญชาติอินเดีย ที่เราน่าจะคุ้นชื่อจากการที่จับมือกับ AIS ทำโปรโมชั่นโทรศัพท์พร้อมแพ็กเกจการใช้งาน เปิดตัว Twinpad แท็บเล็ตแบบ 2-in-1 ที่สามารถใช้งานแบบแท็บเล็ตเดี่ยวๆ ก็ได้ หรือจะต่อกับคีย์บอร์ดเพื่อการทำงานก็สามารถทำได้เช่นกัน

สเปคของ Lava Twinpad

- หน่วยประมวลผล: Intel Atom Z3735F ควอดคอร์ ความเร็วสูงสุด 1.83 GHz
- หน้าจอ: 10.1 นิ้ว ความละเอียด HD จอแบบ IPS
- แรม: 2 GB DDR3
- กล้องหลัง: 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า: 2 ล้านพิกเซล
- พื้นที่เก็บข้อมูล: 32 GB รองรับ Micro SD
- แบตเตอรี่: 7400 mAh
- น้ำหนัก: 570 กรัม
- รองรับ 3G และสไตลัส